หมอจิ๋มกับหมอขี้ฟัน
“ แม่เหงี่ยมครับ ช่วยผมด้วย คุณย่าจะฆ่าผม ” คนเป็นย่าเท้าสะเอวแล้วส่ายศีรษะอย่างระอา
“ ก็ดูมันสิแม่เหงี่ยม ลื่นเป็นปลาไหลจับไม่ติด ฉันจะตายตาหลับได้ยังไงถ้าหลานชายคนเดียวยังเป็นพ่อกะล่อนทองล่าแต้มไปเรื่อยแบบนี้ มันจะสามสิบแล้วนะปีนี้ ใครจะดูแลมันหลังจากที่ฉันตายไปแล้ว ”
“ ก็แม่เหงี่ยมไงครับ ถ้าแม่เหงี่ยมตายก็มีพี่หง่าอีก เผลอ ๆ ผมอาจจะติดโรคตายก่อนพี่หง่าก็เป็นได้ ”
“ ไอ้หลานเวรตะไล ! ” คุณย่าว่าพลางดิ่งเข้าไปจะถวายผาง ชายหนุ่มกระโดดผลุงหนีแล้ววิ่งปรู๊ดขึ้นชั้นบนไปเรียบร้อย
“ ผมเหนื่อย ขอนอนก่อนนะค้าบบบ ” คุณย่าแหนมจึงได้แต่บ่นตามหลังอุบ
“ ดูมันสิแม่เหงี่ยม ปากก็ดี สันดานก็ลื่นยิ่งกว่าปลาไหล ฉันปวดหัวกับมันเหลือเกิน ”
“ โถ คุณท่านขา คุณหนูแกยังหนุ่มยังแน่นยังสนุกสนานกับชีวิตอยู่ อีกหน่อยเดี๋ยวก็คิดได้เองล่ะเจ้าค่ะ ”
“ แล้วเมื่อไรล่ะ จะรอให้ฉันหยอดน้ำข้าวหรือตายห่าไปก่อนหรือไง ฉันปล่อยมันไว้แบบนี้ไม่ได้หรอกแม่เหงี่ยม ”
“ แล้วคุณท่านจะทำยังไงล่ะคะ ”
คุณย่านิ่งไปอึดใจ ก่อนยกยิ้มที่มุมปาก
“ ฉันก็จะหาเมียให้มันน่ะสิ ขืนให้มันมั่วไปเรื่อย ๆ ประเดี๋ยวต้องโดนผู้หญิงเปิ๊ดสะก๊าดที่ไหนจับเข้าให้สักวัน ”
“ แล้วคุณหนูจะยอมเหรอคะคุณท่าน ”
“ ยอมไม่ยอม มันก็ต้องยอม ! ”
***
ความดำมืดแห่งรัตติกาลคืบคลานกลืนกินในคืนเดือนมืดยามใกล้จะเข้าสู่วันใหม่ ทว่าในเมืองอันศิวิไลซ์กลับไม่คณากับเข็มนาฬิกาเพราะมีแสงไฟหลากสีล่อหลอกยวนยั่วให้เหล่าผีเสื้อราตรีโผผินออกไปเริงระบำจนหมดเรี่ยวแรง
ณ มุมหนึ่งในผับชื่อดัง ปรากฏร่างของสองหนุ่มหล่อ ที่กำลังยกแก้วชนกันแก้วแล้วแก้วเล่า พลางใช้สายตาเป็นมันสอดส่ายราวกับราชสีห์หิวโหยหาเหยื่อ
“ คืนนี้แม่งไม่มีแจ่ม ๆ เลยว่ะ" หมอหนาม หนึ่งในสองบ่นขึ้น คิ้วเข้มที่พาดขวางอยู่บนดวงตาคมขมวดมุ่นนิด ๆ ใบหน้าคมสันที่มีไรเคราล้อมกรอบรกครึ้มเพราะไม่ได้โกนมาหนึ่งสัปดาห์ ผิวคร้ามเข้มเพราะชอบขี่รถจักรยานยนต์คันใหญ่กินลมกินแดดเป็นชีวิตจิตใจ เลยทำให้คุณหมอหนามดูหล่อเข้มแบดบอยเกินกว่าจะเชื่อว่าเป็นหมอจริง ๆ
ทำให้ ฤทธิ์เดช หรือ หมอฤทธิ์ คู่หูที่นั่งตรงกันข้ามหัวเราะขึ้น
“ ไม่มีแจ่ม ๆ หรือมึงไม่สอยเอง กูเห็นบักส้มโอบักแตงโมเดินผ่านส่งสายตาให้หลายรอบ ก็ไม่โดนใจมึงสักที แทนที่กูจะได้หิ้วไปออกกำลังกายยามดึกนานแล้ว เสือกต้องมานั่งเหี่ยวรอมึงอยู่เนี่ย ”
“ มึงชอบคนไหนก็หิ้วไปก่อนเลย ไอ้หมอขี้ฟัน ”
“ หมอฟันเฉย ๆ เว้ยไอ้ห่า ไม่ใช่ขี้ฟัน ไอ้หมอจิ๋ม ”
“ สูตินรีแพทย์ครับ เรียกให้มันสมเกียรติหน่อย ”
“ ก็มึงหมกมุ่นแต่กับจิ๋ม ”
“ งั้นมึงก็หมกมุ่นอยู่แต่เรื่องฟันเหมือนกันแหละ ”
เย้าหยอกกันตามประสาเพื่อนรักตั้งแต่สมัยมัธยมแล้วหัวเราะร่วน ที่มองหน้าก็รู้ใจถึงไส้ติ่ง ทั้งหมอหนามและหมอฤทธิ์ เป็นเด็กเรียนเก่งแต่แสบไส้จนหาตัวจับยาก ทั้งคู่มีวีรกรรมร้าย ๆ มาด้วยกันโดยเฉพาะเรื่องผู้หญิง เรียนด้วยกัน ห้องเดียวกัน กระทั่งจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยก็ยังเลือกเรียนแพทย์ที่เดียวกัน แต่หมอหนามเลือกสูตินรีแพทย์ หมอฤทธิ์นั้นเลือกทันตแพทย์ แม้จะเรียนจบต่างคนต่างทำงานคนละที่ หมอหนามเลือกที่จะอุทิศตนให้กับผู้ป่วยในถิ่นทุรกันดาร ส่วนหมอฤทธิ์นั้นประจำอยู่โรงพยาบาลเอกชนของพ่อตัวเองในกรุงเทพฯ แต่ทุกเดือนเขาจะหาเวลาไปบริการฟรีสำหรับผู้ยากไร้เช่นหมอหนามเสมอ
ทั้งคู่มีจิตใจโอบอ้อมอารี ทว่าก็มีข้อเสียอยู่ที่เรื่องผู้หญิง จนกระทั่งล่าสุดหมอหนามเกือบโดนยิงตายเพราะไปยุ่งกับเมียชาวบ้านที่ภาคเหนือจนกระทั่งต้องระเห็จกลับกรุงและมาสมัครเข้าทำงานที่โรงพยาบาลของเพื่อนรัก นั่นทำให้สองหมอจอมแสบได้โคจรมาอยู่ด้วยกันอีกครา
“ เฮ้ย กูว่ากูเจออาหารจานหลักของคืนนี้แล้วว่ะ ” หมอหนามว่า ทำให้หมอฤทธิ์หันขวับไปทางปลายสายตาเยิ้มเป็นมันของเพื่อนที่จ้องอยู่
ตรงนั้นเป็นหญิงสาวในชุดนักเรียนเสื้อแขนยาวและกระโปรงทรงเอสีกรมท่าเลยเข่าอย่างโรงเรียนเอกชนถักเปียสองข้าง