บทย่อ
สำหรับเธอ... เขาสูงส่งอยู่บนฟ้า ยากนักที่จะเอื้อมมือขึ้นไปแตะต้อง ทำได้แค่แอบมอง แอบรักก็สุขใจแล้ว แต่แล้วโชคชะตาก็เล่นตลก เมื่อเธอพบว่าเขาประสบอุบัติเหตุอาการสาหัสอยู่บนท้องถนน ด้วยความห่วงใย และอยากดูแลเขา ทำให้เธอก่อเรื่องน่าละอายขึ้น นั่นก็คือบอกกับทุกคนว่าตัวเองคือ... ภรรยาของเขา...!!!
ตอนที่ 1
เขาอยู่บนนั้น...
ชั้นสามของห้างหรูใจกลางเมืองหลวง ห้างใหญ่ติดอันดับเอเชีย กำลังเดินอยู่ในกลุ่มของผู้บริหารของห้าง แม้จะมีผู้คนรอบกายหลายต่อหลายคน แต่เขาก็โดดเด่นและดึงดูดสายตาของทุกคนได้เสมอ โดยเฉพาะหล่อน
แม็กซิมัส บราวน์ หนุ่มหล่อชาวอังกฤษ ผู้เป็นเจ้าของนัยน์ตาสีฟ้าคราม จมูกโด่งงองุ้ม ริมฝีปากสีแดงระเรื่อบางเฉียบ เครื่องหน้าของเขาสมบูรณ์แบบราวกับเทพเจ้าปั้นแต่ง
หล่อนยังจำความรู้สึกตอนเห็นเขาครั้งแรกได้เป็นอย่างดี หัวใจเต้นระส่ำจนแทบจะทะลุออกมานอกทรวงอก กลีบปากเผยอค้าง สองขาก็ไร้เรี่ยวแรงจนน่าตื่นตกใจ เขาทำให้หล่อนหมดการควบคุมตัวเองลงอย่างสิ้นเชิง ไอร้อนจากเรือนกายของเขาพุ่งตรงเข้าสู่ใจกลางร่างของหล่อนราวกับระเบิดปรมาณู มีอำนาจทำลายล้างจนหัวใจของหล่อนแตกละเอียด
หล่อนเฝ้ามองเขา เฝ้ามองผู้ชายที่เป็นดั่งเทพบุตรอยู่ทุกวันเมื่อมีโอกาสอยู่เงียบๆ และก็มั่นใจว่าแม็กซิมัสจะไม่มีวันได้ล่วงรู้ว่า พนักงานทำความสะอาดแสนต่ำต้อยเช่นหล่อนกำลังแอบรักเขาอยู่
“เดือน... ยัยเดือน!”
คนที่กำลังเฝ้ามองผู้ชายเกินเอื้อมอยู่สะดุ้งตกใจ เมื่อหันไปมองตามเสียงเรียก แล้วพบว่าเป็นหัวหน้าแผนกยืนมองลอดแว่นหนามาที่หล่อน
“เอ่อ... คุณสมศรีมีอะไรให้เดือนรับใช้เหรอคะ”
หล่อนรีบก้าวยาวๆ เข้าไปหยุดตรงหน้าของสมศรี ผู้ที่มีความเข้มงวดอยู่ในสายเลือดเต็มร้อย ด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความหวาดหวั่น
หล่อนพยายามทำตัวเป็นพนักงานที่ดีที่สุดของที่นี่ เพื่อที่จะได้ทำงานอยู่ในห้างหรูแห่งนี้นานๆ แต่มันไม่ใช่เพราะเงินอย่างเดียวหรอกที่ทำให้หล่อนทำแบบนี้ แต่เพราะเขา... เพราะแม็กซิมัส ทำให้หล่อนอยากอยู่ที่นี่ อยากอยู่ใกล้เขานั่นเอง
“ใจลอยไปถึงไหนกันยะ”
“ปละ เปล่าค่ะคุณสมศรี”
หญิงวัยกลางคนที่ยังโสดและสดอยู่บนคานมองลอดแว่นมาตำหนิอย่างไม่พอใจ
“อย่าให้ฉันเห็นเธอยืนใจลอยอีกนะ เข้าใจไหม”
“ค่ะ คุณสมศรี”
หล่อนรีบละล่ำละลักตอบรับคำสั่ง
“ขึ้นไปบนชั้นสามนู้น แขกทำแก้วน้ำตกบนพื้น”
“ชั้น... สามเหรอคะ”
เป็นอีกครั้งที่หล่อนละล่ำละลักถาม ดวงตากลมโตเบิกกว้าง และเงยหน้ามองขึ้นไปบนชั้นสามด้วยหัวใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความวิตกกังวล
หล่อนแอบรักแม็กซิมัสก็จริง แต่หล่อนไม่กล้าพอที่จะไปอยู่ใกล้ๆ เขา แม้จะไปในฐานะพนักงานทำความสะอาดที่ขึ้นไปเช็ดถูพื้นก็ตาม
“ใช่ ตรงที่คุณแม็กอยู่นั่นแหละ”
ดวงหน้างามรูปหัวใจของเพียงเดือนซีดเผือด
“เดือน... ปวดท้องพอดีเลยค่ะคุณสมศรี...”
หล่อนรีบเอามือกุมหน้าท้อง และแสดงสีหน้าบิดเบี้ยว
“นี่เธอแกล้งหรือเปล่าเนี่ย”
“เปล่าค่ะคุณสมศรี เดือน... โอ๊ยยย ปวดท้องค่ะ ข้าศึกบุกจะทะลุกำแพงด่านเจดีสามองค์แล้วค่ะ”
หล่อนเอามือจับบั้นท้ายของตนเองเอาไว้ หน้าตาบิดเบี้ยวด้วยความเป็นทุกข์หนักหนา
“เดือนขอตัวสักครู่นะคะคุณสมศรี...”
“รีบๆ ไปเลย เดี๋ยวมาเรี่ยราดแถวนี้จะยุ่ง ไปสิ”
สมศรียกมือขึ้นปิดจมูกของตัวเอง ก่อนจะส่ายหน้าไปมา จากนั้นจึงตัดสินใจเดินไปเรียกพนักงานทำความสะอาดคนอื่นแทน
เพียงเดือนเป่าลมออกจากปากแรงๆ อย่างโล่งอก เมื่อเดินมาหยุดที่หน้าห้องน้ำ
“นึกว่าจะไม่รอดซะแล้ว”
หล่อนพึมพำ กำลังจะเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อให้เนียนสำหรับแผนการของตนเอง แต่แล้วก็ต้องเซถลาแทบล้ม เมื่อร่างสาวเดินไปชนเข้ากับอะไรบางอย่างที่แข็งราวกับก้อนหิน และใหญ่โตมาก
“อุ๊ยยย...”
หล่อนตกใจที่เกือบจะล้ม แต่ก็ต้องตกใจมากถึงมากที่สุด เมื่อเห็นกว่าก้อนหินที่จินตนาการเอาไว้ ได้กลายร่างเป็นผู้ชายตัวโตมากๆ
“ขะ... ขอโทษค่ะ...”
เป็นแม็กซิมัสไปได้ยังไง เขามาอยู่ที่หน้าห้องน้ำของพนักงานได้ยังไงกัน
หล่อนเผยอปากค้างเติ่ง ดวงตาแทบจะถลนออกมาจากเบ้าตา
กลิ่นไออันตรายจากเนื้อตัวกำยำของเขาทำให้หล่อนต้องรีบก้าวเท้าถอยหนี และก้มหน้าหลบสายตาคมกริบสีฟ้าครามนั้นด้วยความหวาดหวั่น
“ทำท่ารีบร้อนเหมือนกับหนีอะไรมาสักอย่าง”
น้ำเสียงกระด้างจากริมฝีปากหยักสวยของแม็กซิมัส ทำให้หล่อนเผลอเงยหน้าขึ้นสบประสานสายตากับเขาโดยบังเอิญ และก็เหมือนถูกสูบวิญญาณในทันที
จิตวิญญาณของหล่อนล่องลอยไปในอวกาศ รอบตัวมีแต่ละอองน้ำเย็นชุ่มฉ่ำ สมองหยุดทำงานลงอย่างสิ้นเชิง และนั่นก็ทำให้หล่อนจ้องหน้าเขาราวกับหญิงเสียสติ
ดวงตาของแม็กซิมัสสวยเหลือเกิน ปากบางเฉียบสีแดงสดก็สวยยิ่งกว่าริมฝีปากของอิสตรีเสียอีก และเขาก็ตัวสูงกว่าหล่อนมากมายเหลือเกิน
“หล่อ... เหลือเกิน...”
หล่อนเผลอพึมพำออกไป และก็คงจะพูดมากกว่านี้ หากไม่ได้ยินเสียงเข้มถามกลับมา
“เธอพึมพำอะไรของเธอ”
“เอ่อ...!”
เพียงเดือนได้สติ รีบปฏิเสธพัลวัน และก้มหน้าหลบสายตาคมกล้าอีกครั้ง
“ปละ... เปล่าค่ะท่านประธาน”
“แต่ฉันได้ยิน”
“เอ่อ... ไม่มีอะไรจริงๆ ค่ะท่านประธาน ดิฉัน... ขอตัวเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ ปวดท้องหนักค่ะ”
แล้วหล่อนก็ไม่คิดจะรอให้เขาได้ซักถามสิ่งใดอีก รีบพุ่งตัวเข้าไปลี้ภัยในห้องน้ำหญิงทันที หล่อนเดินมาหยุดยืนหอบที่หน้ากระจกเงาที่ติดอยู่เหนืออ่างล้างหน้า
“ท่านประธานมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไงกัน”
หล่อนพึมพำด้วยความสงสัย ก่อนจะตกใจค้างอีกครั้ง เมื่อเห็นร่างสูงใหญ่ของแม็กซิมัสทะลุกระจกเงาเข้ามาในดวงตา หล่อนรีบหันขวับไปมอง
“ท่าน... ท่านประธานเข้ามา... ทำไมคะ นี่ห้องน้ำหญิงนะคะ”
“ฉันก็แค่สงสัย ว่าเธอพูดอะไร”
“เอ่อ... ไม่มีอะไรจริงๆ ค่ะ ดิฉัน... ขอตัวเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ ปวดท้องหนักค่ะ ท้องต้องเสียแน่ๆ เลย”
คราวนี้หล่อนพุ่งตัวเข้าไปในห้องน้ำที่กั้นเอาไว้เป็นห้องๆ พร้อมกับปิดประตูลงกลอนอย่างแน่นหนา หน้าอกอวบกระเพื่อมเพราะหอบหายใจระรัว
หล่อนยกมือขึ้นกุมหน้าตนเอง และเบิกตาค้าง เพราะไม่คิดว่าแม็กซิมัสจะทำหน้ามึน เดินเข้ามาหาหล่อนในห้องน้ำหญิงแบบนี้
“หวังว่าท่านประธานคงจะออกไปแล้วนะคะ”
เพียงเดือนใช้เวลานั่งอยู่บนชักโครกนานเกือบสิบนาที ก่อนจะค่อยๆ เปิดประตูห้องน้ำ และโผล่หน้าออกไปก่อน มองไปรอบๆ เมื่อไม่พบแม็กซิมัส หล่อนจึงเป่าปากอย่างโล่งอก และรีบเดินออกจากห้องน้ำ แต่แล้วก็ต้องชะงักอีกเป็นรอบที่สอง เมื่อแม็กซิมัสยังคงยืนกอดอกอยู่หน้าห้องน้ำ
และหล่อนก็ไม่มีทางพบหน้าเขาได้อีกแล้ว!
“เอ่อ...”
หล่อนกำลังจะหมุนตัวเข้าห้องน้ำไปอีกรอบ แต่แขนเรียวถูกอุ้งมือใหญ่สีแทนของแม็กซิมัสคว้าเอาไว้ ไฟร้อนจัดลามเลียไปทั้งร่าง ฝ่ามือใหญ่ส่งกระแสความร้อนเข้าไปในกระแสเลือด จนหล่อนสั่นเทาไปทั้งตัว
“ตอบมา ว่าเธอพูดอะไร”
“คือ... คือว่า...”
หล่อนอึกอัก และหายใจไม่ทัน ยิ่งมองเขาใกล้ๆ หล่อนก็ยิ่งไร้สติ
“ตอบฉันมา เมื่อกี้เธอพูดว่าอะไรหรือ”
เขาไม่ได้ถามเปล่าๆ แต่โน้มหน้าหล่อๆ เข้ามาใกล้มาก จนหล่อนเริ่มสติแตก
“พูด... พูดว่า... เอ่อ... เอ่อ...”
หล่อนกำลังจะหายใจไม่ทัน รู้สึกเหมือนกับว่าพื้นใต้ฝ่าเท้ากับเคลื่อนไหวแรงขึ้นเรื่อยๆ จนทรงตัวเอาไว้ไม่ได้
“ตอบมาสิ ฉันรอฟังอยู่”
“ดิฉัน... เอ่อ... พูดว่า...”
น้ำเสียงของหล่อนตะกุกตะกักจนน่าเวทนา และเมื่อเขาก้มหน้าลงมาใกล้จนได้กลิ่นของลมหายใจซึ่งกันและกัน หล่อนก็ตัดช่องน้อยแต่พอตัว เป็นลมไปในทันที
“เธอ...”
แม็กซิมัสประคองร่างอรชรที่ค่อนข้างหนักของพนักงานทำความสะอาดสาวเอาไว้ในอ้อมแขน ดวงหน้านวลขาวสะอาดดูเย้ายวนตาแปลกประหลาด
ชายหนุ่มหันซ้ายแลขวาเพื่อจะเรียกให้คนอื่นมาพาผู้หญิงคนนี้ไปที่ห้องพยาบาลประจำของห้าง แต่มองไม่เห็นใครเลย จึงจำเป็นต้องเป็นคนอุ้มหล่อนไปส่งที่ห้องพยาบาลด้วยตนเอง