บท
ตั้งค่า

บทที่ 7 โรงน้ำชาป่ายเสวีย

ฮวาเย่ห์หยวนสงสัยใช้วิชาเบิกเนตรหวังจะมองทะลุฉากกั้น แต่นางกลับไม่เห็นสิ่งใดภายใน เป็นไปไม่ได้นางเห็นผู้คนหายเข้ามาทดสอบความสามารถในนี้ทั้งวัน อีกทั้งทุกคนล้วนได้พบเถ้าแก่โรงน้ำชา

นางมั่นใจว่ายังไม่มีผู้ใดเดินออกจากห้องนี้ไป แล้วเหตุใดจึงไร้เสียงและว่างเปล่าเช่นนี้ คนหายไปไหนกัน

ฮวาเย่ห์หยวนค่อยๆ ย่องเข้าไปด้านหลังฉากกั้น ฉับพลันความมืดก็ทำให้นางชนเข้ากับบางอย่าง

ความมืดดุจมนต์ชั้นสูงที่แม้นางจะใช้ตาทิพย์ก็ไม่สามารถมองเห็น ฮวาเย่ห์หยวนเสียหลักล้มลงเมื่อสะดุดเข้ากับบางสิ่ง นางรู้สึกวูบคล้ายกำลังตกลงจากที่สูงแล้วหล่นลงไปอย่างแรง ในที่สุดก้นของนางก็กระแทกเข้ากับบางสิ่งที่จะว่านุ่มก็ไม่ใช่แข็งก็ไม่เชิง

ฮวาเย่ห์หยวนลืมตาขึ้นเป็นเพราะเมื่อสักครู่ด้วยความตกใจทำให้นางหลับตาปี๋

แม้จะเป็นเซียนแล้วแต่นางก็เป็นเซียนใหม่อีกทั้งต้นกำเนิดเกิดจากสัตว์นางจึงยังควบคุมอารมณ์ความตื่นเต้นได้ไม่ดีนัก

ดังนั้นเมื่อเกิดเรื่องประหลาดเช่นนี้สติของนางจึงค่อนข้างจะเตลิดไปไกลสักหน่อย

เอาล่ะ ฮวาเย่ห์หยวนลุกขึ้นนั่งมองไปรอบ ๆ ก็ต้องขมวดคิ้วมุ่น เมื่อพบว่าที่นี่ไม่ได้มืดมิดตรงกันข้ามกลับสว่างไสวเต็มไปด้วยต้นไม้ต้นใหญ่สีเขียวขจีสลับกับดอกไม้สีชมพูสดที่กำลังผลิบานอยู่เต็มต้น

ภายในโรงน้ำชาแห่งนี้ไม่ธรรมดาเสียแล้ว

"เจ้าจะนั่งทับข้าไปอีกนางเท่าใด" เสียงนุ่มทุ้มดังขึ้นด้านล่าง

ฮวาเย่ห์หยวนสะดุ้งเมื่อก้มลงมองแล้วพบว่าสิ่งที่ตนเองกำลังนั่งทับอยู่เป็นบุรุษผู้หนึ่ง

นางจึงรีบลุกขึ้นอย่างว่องไวสองมือประสานค้อมตัวลงอย่างสวยงามกล่าวขอโทษเขาด้วยความนอบน้อมและรู้สึกผิด

"ขออภัยคุณชายข้าไม่ทันเห็น" นางทำเสียงต่ำ

เขาผู้นั้นลุกขึ้นปัดอาภรณ์ของตนเองแล้วยืดตัวด้วยความสง่างาม เขาเอียงคอเล็กน้อยมองคนด้านหน้าแล้วยกยิ้มมุมปาก

"เจ้าเข้ามาที่นี่ได้อย่างไร"

"ข้า"

ฮวาเย่ห์หยวนเงยหน้าขึ้น ครั้นมองเห็นใบหน้าบุรุษผู้นี้เต็มๆ ทำให้ต้องตกตะลึง

ลมพัดใบไม้ปลิวว่อนรอบเท้าของคนทั้งสองกลีบดอกไม้สีชมพูลอยละล่องลงมา

ภาพเบื้องหน้าคือบุรุษหนุ่มผู้งดงามใบหน้าหล่อเหลาปนอ่อนหวาน ผมสีเทาเงินเปล่งประกายปลิวพลิ้วไสวอยู่รอบใบหน้าคม

ดวงตาของเขาเป็นเทาเงินเฉกเช่นสีของเส้นผมน่าค้นหาสว่างสดใสเจือด้วยความอบอุ่นอ่อนโยนดุจแสงตะวันที่สามารถดึงดูดให้ผู้คนโผเข้าสู่อ้อมกอดของเขาราวกับต้องมนต์

ความสูงของนางอยู่ในระดับหน้าอกของเขาทำให้ฮวาเย่ห์หยวนต้องแหงนเงยใบหน้าขึ้นมอง

นางจ้องเขาอยู่เช่นนั้นโดยไม่อาจเอ่ยเอื้อนวาจาออกมาสักคำเพราะมัวแต่ตกตะลึง

ดูเหมือนเขาจะกลั้นยิ้มแล้วเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล

"เจ้าจะมองข้าไปอีกนานเท่าใด"

ฮวาเย่ห์หยวนรู้ว่าวันนี้ช่างโชคดีนักที่มีหมวกคลุมหน้า หาไม่แล้วคงได้ทำให้ตนเองขายหน้าเมื่อนางรู้ดีว่าใบหน้าของนางร้อนผ่าวและคงแดงขนาดไหน

นางเป็นเซียนได้ไม่กี่วันตบะเรื่องบุรุษเพศยังน้อยหากต้องตาผู้ใดนางยังแสดงออกตามสัญชาตญาณสัตว์เวทที่เปิดเผย

สิ่งเหล่านี้แม้จะบรรลุเป็นเซียนก็ยังคงติดตัวนางมาหาได้เปลี่ยนแปลง เพราะเป็นเช่นนี้นางถึงได้ถูกส่งมาทำหน้าที่ยั่วยวนอย่างไรเล่า

เขากระแอมเสียงดังเมื่อเห็นคนยังยืนนิ่ง

"ว่าอย่างไรข้าถามเจ้าได้ยินหรือไม่" ครานี้เขายกนิ้วมาดีดเสียงดังด้านหน้านาง

ฮวาเย่ห์หยวนถอยหลังไปหนึ่งก้าว นางกะพริบตาแล้วปรับอารมณ์ของตนเองให้คงที่ พยายามทำเสียงราบเรียบที่สุดก่อนเอ่ยว่า

"ข้าไม่รู้ขอรับเพียงแต่เข้ามาในห้องหนึ่งในโรงน้ำชาหวังจะแสดงฝีมือเพื่อสมัครงานจู่ๆ ก็รู้สึกเหมือนตกลงจากที่สูงและโผล่มาที่นี่"

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel