บทที่ 21 ท่านช่างร้ายเหลือเกิน
จื่อชิงร้องขอชีวิตใบหน้าเดี๋ยวแดงเดี๋ยวเขียวคล้ายกำลังโดนคนบีบลำคออย่างแรง
"เป็นเพราะเจ้าทำอาหารไม่ได้เรื่องทำให้นางไม่ยอมกินเช่นนั้นจงตายเสียเถิด"
จอมมารแค่นเสียงต่ำเยียบเย็นออกมาอย่างไม่สนใจสิ่งใดเอ่ยจบก็ทำท่าจะเวี่ยงร่างของจื่อชิงลงพื้น
"ท่านจอมมาร หยุดก่อน ข้ากินแล้ว ข้ากินแล้วปล่อยนาง ปล่อยนางเสีย"
ฮวาเย่ห์หยวนมองจื่อชิงด้วยความตกใจคาดไม่ถึงว่าเขาจะใช้วิธีนี้ สกปรกยิ่งนัก แค่เรื่องกินต้องเอาชีวิตผู้คนมาต่อรอง เขาไม่ทำร้ายนางเพราะนางยังมีประโยชน์แต่กลับจื่อชิงเขาคงเห็นเป็นเพียงหญิงรับใช้นางหนึ่งซึ่งไร้ความหมายนัก
เขาถลึงตามองนางภายใต้หน้ากากนั้น ฮวาเย่ห์หยวนอยากเห็นนักว่าเขากำลังทำหน้าเช่นไรเหตุใดถึงได้อำมหิตเกินมารเช่นนี้
เขาจ้องนางราวกับจะกินเลือดกินเนื้อฮวาเย่ห์หยวนรีบยัดเนื้อสัตว์ในชามเข้าปากจนเต็มแล้วเคี้ยวตุ้ยๆ พยายามที่จะฝืนชิ้นเนื้อลงคอให้ได้ จอมมารเอียงคอแล้วเอ่ยขึ้น
"กลืนแล้วอ้าปากให้ข้าดู"
ฮวาเย่ห์หยวนรีบกลืนจนสำลักนางยกน้ำขึ้นดื่มแล้วไอไม่หยุดพยายามอ้าปากให้เขาดูว่าไม่มีสิ่งใดหลงเหลือ
ดูเหมือนจอมมารจะพึงใจเขาจึงปล่อยร่างของจื่อชิงลงแต่โดยดี
"กินเนื้อในชามให้หมดเลือดของเจ้าจืดชืดสิ้นดีเช่นนี้เจ้าจะได้ดูแลดอกไม้ของข้าให้งดงามได้"
ท่าทางข่มขู่วางอำนาจของเขาทำให้นางได้แต่ระงับโทสะไว้ในใจ เอาชีวิตผู้อื่นมาข่มขู่นางเช่นนี้คิดว่าตนเองดูดีเสียล่ะช่างเป็นจอมมารที่เอาแต่ใจเหลือเกิน
ฮวาเย่ห์หยวนนึกถึงเรื่องเมื่อวานทันที ในระหว่างที่เขากำลังช่วยนางรดน้ำดอกไม้สวรรค์จู่ๆ ก็ยกแขนของนางขึ้นดูดเลือดไปคำหนึ่งแล้วทำท่าทางเหมือนกินของเสียเข้าไป
ฮวาเย่ห์หยวนไม่ได้ยินว่าเขาพึมพำสิ่งใดแต่รู้ว่าเขาไม่พอใจในรสชาติของเลือดนางเป็นอย่างมาก
จอมมารคงเป็นมารประเภทนั้นที่ดื่มเลือดเซียนเป็นอาหารและไม่ชอบแสงดวงตะวันเพราะในเวลากลางวันนางไม่เคยเห็นเขาปรากฏกายแม้แต่ครั้งเดียว
ครั้นถามจื่อชิงก็ได้ความว่าในช่วงกลางวันจอมมารจะกักตนบำเพ็ญตบะไม่เคยออกมาพบผู้คนมานานมากแล้ว
ฮวาเย่ห์หยวนกินเนื้อไปสายตาก็มองจื่อชิงด้วยความเป็นห่วง ดูเหมือนสีหน้าของจื่อชิงจะเป็นปกติแล้วฮวาเย่ห์หยวนจึงได้วางใจ จึงได้ตั้งใจท่องบทสวดส่งวิญญาณสัตว์น้อยใหญ่ที่นางกินเข้าไปในใจ น้ำตาคลอหน่วยขึ้นมาเมื่อต้องทำผิดกฎเซียนข้อใหญ่เพราะโดนบังคับฝืนใจ นางกลายเป็นนางทาสทำสิ่งใดล้วนเป็นจอมมารที่ขีดเส้นให้ก้าวเดิน
เมื่อกินอาหารเสร็จเขาก็พานางมายังสุสาน จอมมารกรีดเลือดของนางผสมกับน้ำและช่วยนางรดดอกไม้ด้วยความตั้งใจ
ฮวาเย่ห์หยวนลอบมองจอมมารผู้นิ่งสงบตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะผ่อนคลายกว่ายามปกติ ครั้นเห็นคนตัวโตในอาภรณ์สีดำสนิทภายใต้หน้ากากเงินกำลังรดน้ำพรวนดินต้นไม้จิตใจของนางก็ดูจะอ่อนยวบลง
“หากบรรดาศิษย์มารและคนที่หวาดกลัวท่านเห็นภาพนี้อาจได้ตกตะลึง “
นางพึมพำพลางจ้องมองเขา แม้จะไม่รู้ว่าคนที่นอนหลับอยู่ภายใต้สุสานนี้คือผู้ใดฮวาเย่ห์หยวนก็ถือว่าคนผู้นี้มีพระคุณต่อนางนักที่ช่วยให้มีเหตุผลและโอกาสในการใกล้ชิดจอมมาร
ในขณะที่นางกำลังมองเขาอย่างเพลิดเพลินจู่ๆ ก็มีสัตว์ประหลาดคล้ายหนอนยักษ์เต็มไปด้วยขุนปุกปุยหล่นลงมาตรงหน้า
ฮวาเย่ห์หยวนตกใจหวาดกลัวในรูปร่างที่แปลกประหลาดของมันจนเผลอหวีดร้องทิ้งถังน้ำแล้ววิ่งหนีไม่คิดชีวิต
จอมมารพลันปรากฏกายอยู่เบื้องหน้าอย่างรวดเร็ว ฮวาเย่ห์หยวนจึงชนเขาเข้าอย่างจังนางหกล้มก้นกระแทกลงบนพื้นอย่างแรง นางเจ็บที่แก้มก้นจนต้องร้องโอดโอยออกมา ดูเหมือนว่าจะมีแววตาขบขันของคนผู้หนึ่งปรากฏขึ้นพร้อมรอยยิ้มเหยียดหยัน
ฮวาเย่ห์หยวนกำหมัดแน่นเมื่อรู้ตัวว่าเจ้าหนอนประหลาดนั่นเป็นผู้ใดที่กลั่นแกล้ง เขาให้นางกินเนื้อสัตว์เช่นนั้นแล้วเหตุใดจึงกลั่นแกล้งนางอีกเล่า คนเลว คนบ้า
ด้วยโทสะที่ลุกโพรงทำให้ฮวาเย่ห์หยวนลืมตนพุ่งร่างของตนเองเข้าหาเขาหวังสั่งสอนจอมมารผู้นี้ให้รู้สำนึก การต่อสู้ระหว่างเซียนน้อยกับจอมมารผู้ยิ่งใหญ่จึงเริ่มขึ้น
"ท่านรังแกข้ามากไปแล้ว"
นางพุ่งหมัดใส่เขาหนึ่งครั้ง เขาหลบหลีกหนึ่งครั้ง นางเตะเขาหนึ่งครั้งเขาก็หลบหนึ่งครั้ง คราวนี้ฮวาเย่ห์หยวนรัวหมัดใส่เขาอย่างเร็วแต่ดูจะเชื่องช้าราวเด็กกำลังหัดคลาน
จอมมารเอียงคอแล้วส่ายศีรษะเอ่ยออกมาคำหนึ่ง
"อ่อนหัด"
"อย่ามาดูถูกข้า"