บท
ตั้งค่า

6.ปกป้อง

ด้านน้ำเหนือและน้ำน่านก็เข้ามาในกรมทหารอากาศ โดยอยู่ในความดูแลรับผิดชอบของจ่าย้อยและหมวดกล้า เขาก็ได้รับการดูแลตามปกติเหมือนปีผ่านๆมา จนกระทั่งวันนี้พวกเขาโดนจับได้ว่าทำผิดวินัยโดยการแอบออกไปนอกกรมทหาร จึงถูกเรียกตัวให้มารับโทษตามกฎระเบียบ

“หมวดกล้า จ่าย้อย อย่าลงโทษพวกผมเลยครับ พวกผมไม่หนีอีกแล้วจริงๆ” น้ำน่านเอ่ยขอร้องผู้หมวดของกองร้อยของเขา เพราะขืนโดนทำโทษตอนนี้ พรุ่งนี้เขาคงไม่มีแรงไปฝึกทั้งวันแน่

“ใช่ๆครับ ขอสักครั้งเถอะนะครับ อย่าลงโทษเราเลย” คชาเพื่อนทหารเอ่ยขอร้องอีกคน เพราะพวกเขาไม่อยากโดนทำโทษกลางดึกแบบนี้

“ฉันบอกพวกแกแล้วว่าอย่าออกไป เป็นไงล่ะ โดนจับได้มันคุ้มไหมห้ะ ไอ้น้ำเหนือ ไอ้น้ำน่าน ไอ้คิง ไอ้เจมส์” จ่าย้อยที่ยืนมองนักเรียนทหารทั้งสี่คนเอ่ยพูดออกไปอย่างห่วงๆ เพราะเขารู้จักกับเด็กกลุ่มนี้มานานตั้งแต่พวกนี้มาเรียนโรงเรียนนี้แรกๆ ก็อยู่ในความดูแลของเขาและหมวดกล้ามาโดยตลอด

“สอนไปพวกนี้ก็ไม่จำหรอกจ่า อีกอย่างผู้พันฐากรก็เป็นคนเจอพวกนี้ เราไม่ทำโทษไม่ได้หรอก ไม่งั้นเราสองคนน่ะจะโดนซ่อมซะเอง”หาญกล้าเอ่ยพูดกับจ่าย้อยอย่างหนักใจ ก่อนจะมองนายทหารทั้งสี่คนด้วยสายตาอ่อนใจ

“รู้ตัวก็ดีนิหมวด แต่ผมเปลี่ยนใจแล้ว ผมจะลงโทษสามคนนี้เอง จะได้ไม่กล้าแหกกฎอีก อยากออกไปเที่ยวดีนักใช่ไหม ได้” ฐากรเอ่ยพูดด้วยเสียงโหด ก่อนจะยิ้มเหี้ยมใส่สามทหารหนุ่ม

“พลทหารรับคำสั่ง วิดพื้นร้อยครั้ง พุ่งหลังแปดจังหวะสองร้อยยก ปฏิบัติ” ฐากรสั่งออกไปก็ยิ้มเหี้ยม เพราะสำหรับเขากฎก็ต้องเป็นกฎ ถ้าใครคิดจะฝ่าฝืนก็ต้องโดน

“รับทราบ ปฏิบัติ” นักเรียนทหารทั้งสี่นายรับคำสั่งและเริ่มวิดพื้นกันอย่างพร้อมเพียง โดยมีผู้พันฐากรยืนคุมพวกเขาอยู่ ส่วนหมวดหาญกล้าก็แอบกระซิบบอกจ่าย้อยทันที

“จ่าย้อย รีบไปหาผู้พันเหมเร็ว ไม่งั้นไอ้สี่คนนี้ตายแน่ ไปเร็ว” หาญกล้าเอ่ยพูดบอกไปเบาๆ เพราะในกรมนี้ไม่มีใครกล้าหือกับผู้พันฐากรได้ดีเท่าผู้พันเหมราชอีกแล้ว แต่อย่างน้อยผู้พันเหมก็มีความเป็นผู้นำดีกว่าผู้พันฐากร ไม่ได้ลงโทษนักเรียนทหารด้วยความเอาแต่ใจแบบนี้

“ครับหมวด” จ่าย้อยพูดเบาๆ ก่อนจะรีบเดินย่องออกไปเอาจักรยาน แล้วปั่นไปหาผู้พันเหมราชที่บ้านพักของเขา ซึ้งอยู่ไม่ไกลจากตรงนี้

“ผู้พันครับ ช่วยนักเรียนทีครับ ” จ่าย้อยปั่นจักรยานมาหยุดที่รถของผู้พันเหมราชด้วยความเหนื่อยหอบ

“เกิดอะไรขึ้นจ่าพูดช้าๆสิ เกิดอะไรขึ้น” เหมราชที่นั่งอยู่บนรถยังไม่ทันได้ลงมาก็เอ่ยถามจ่าย้อยไปทันที เพราะเขาพึ่งถึงบ้านยังไม่ได้ลงรถเลยด้วยซ้ำ เพราะเมื่อกี้แวะซื้อของในค่ายซะก่อน

“ผู้พันกอล์ฟกำลังลงโทษนักเรียนทหารที่หนีเที่ยว ด้วยการให้วิดพื้นร้อยครั้ง แล้วก็ให้พุ่งหลังแปดจังหวะสองร้อยยกครับผู้พัน ไปช่วยพวกมันหน่อยเถอะครับ ไม่งั้นพรุ่งนี้พวกนั้นตายแน่ๆครับ” จ่าย้อยเอ่ยบอกไปแบบเหนื่อย

เหมราชได้ยินถึงกับหน้าแดง เพราะเด็กนักเรียนอาจผิดกฎก็จริงแต่การลงโทษหนักแบบนั้นถือว่าเป็นการทรมานเด็กมากกว่า

“ที่ไหนจ่า ผมจะไปเดี๋ยวนี้ ขึ้นรถมากับผมเร็ว” เหมราชเอ่ยพูดบอกไปก็รอให้จ่าย้อยขึ้นมาบนรถ ก่อนจะรีบขับรถออกไปตามที่จ่าย้อยบอก พอถึงก็เจอนักเรียนทหารกำลังพุ่งหลังกันอยู่ด้วยใบหน้าที่เหน็ดเหนื่อยและทรมาน

“เจ็ดสิบเก้า แปดสิบ แปดสิบ..เอ็ด” เสียงทหารทั้งสี่นายเอ่ยออกมาอย่างอ่อนล้า เพราะเขาทั้งวิดพื้นและมาพุ่งหลังต่อ มันเป็นอะไรที่เหนื่อยมากๆ

“หยุด ปฏิบัติ” เหมราชเอ่ยพูดด้วยเสียงเข้ม ก่อนจะมองนักเรียนทหารนอนลงไปทันทีที่เขาสั่ง เขาจึงหันไปมองหน้าของฐากรที่กำลังหันมามองเขาด้วยสายตาไม่พอใจ

“ผมกำลังทำโทษนักเรียนทหารที่แหกกฎหนีเที่ยว ผู้พันอย่ามายุ่งจะดีกว่า” ฐากรเอ่ยพูดออกไปด้วยแววตาและเสียงที่มองอย่างโกรธๆ

“ผู้พันต่างหากที่ควรหยุด การที่เด็กนักเรียนทหารหรือพลทหารทำผิด ต้องมีการสอบสวนไตร่ความก่อนที่จะลงโทษ และนี่ไม่ใช่การฝึกผู้พันไม่มีสิทธิมาลงโทษเด็กตามใจชอบแบบนี้ แต่ถ้าหากผู้พันมีปัญหากับผมก็ควรจะเช็คดาวบนบ่าของผู้พันด้วย อย่ามาลำเส้นกับผม เพราะผมสามารถสั่งลงโทษผู้พันแบบเด็กๆพวกนี้ได้เหมือนกัน” เหมราชพูดออกไปพร้อมกับแววตาจริงจัง จนผู้พันฐากรมองเขาแล้วกำหมัดแน่น

น้ำเหนือกับน้ำน่านและเพื่อนทหารอีกสองคนก็มองอย่างสงสัยว่าผู้พันคนนี้เป็นใครกัน ถึงได้กล้าพูดแบบนี้กับผู้พันกอล์ฟจอมเอาแต่ใจได้ ก่อนจะมองผู้พันคนใหม่ด้วยสายตาเปี่ยมล้นอย่างปราบปลื้ม

“ต่างกันแค่ยศเดียว นี่คุณมาเบ่งใส่ผมงั้นเหรอผู้พันเหมราช” ฐากรเอ่ยตอบกลับไปอย่างเดือดดาด เพราะไม่เคยมีใครมาว่าใส่เขาแบบนี้

“ผมก็ทำเหมือนที่คุณทำกับเด็กพวกนี้ไง ถ้าคิดว่าตัวเองเป็นผู้พัน แล้วสั่งคนนั้นคนนี้ลงโทษตามใจชอบแบบนี้ ก็อย่ามาเป็นทหารเลยดีกว่า เสียภาพลักษณ์ดีๆที่ทหารเขาสร้างไว้เปล่าๆ” เหมราชพูดออกไปอย่างไม่แคร์ เพราะเขาเองก็ไม่ได้ชอบให้เด็กนักเรียนทหารทำผิด แต่มันก็มีวิธีอื่นที่ดีกว่านี้ที่จะตักเตือนพวกเขา

“แล้วเราจะได้เห็นดีกัน ผู้พันเหมราช”ฐากรเอ่ยพูดไปก็มองอย่างแค้นใจ ก่อนจะเดินออกไปด้วยความโมโห

ส่วนเหมราชก็มองตามไปแล้วส่ายหัว นี่เขายังไม่ทันได้เริ่มงานในกรมใหม่ กลับมีปัญหากับผู้ร่วมงานซะแล้ว แล้วแบบนี้ต่อไปเขาคงได้วุ่นวายแน่ๆ

“เจ๋งมากเลยครับผู้พัน เล่นเอาผู้พันกอล์ฟหน้าหงายเงิบไปเลย สะใจจริงๆ” หาญกล้าเอ่ยพูดออกไปทันทีที่ฐากรเดินออกไปแล้ว

“พวกนายสี่คนน่ะมาขอบคุณผู้พันเหมเร็วเข้า วันนี้ถือว่าเป็นโชคของพวกนายนะที่ผู้พันเขาย้ายมาลงวันนี้ ไม่งั้นหลังหักกันแน่ๆ” จ่าย้อยเอ่ยพูดบอกไป เมื่อนายทหารทั้งสี่คนลุกขึ้นยืนเรียงกันเป็นแถวแล้ว

“ขอบคุณครับผู้พัน” ทั้งสี่คนเอ่ยพูดออกไปก็ทำมือวันทยหัตถ์ให้กับผู้พันคนใหม่ด้วยรอยยิ้มมุมปากอย่างดีใจ

“ไม่เป็นไร แต่คราวหน้าถ้าผมเห็นพวกคุณสี่คนทำผิดแบบนี้อีก ผมจะไม่ใจดีกับพวกคุณแบบนี้อีกแล้ว หวังว่าผมคงไม่ต้องใช้โหมดโหดกับพวกคุณทั้งสี่คนนะ ไปพักผ่อนกันได้แล้ว พรุ่งนี้ต้องออกไปวิ่งกันแต่เช้า” เหมราชพูดบอกไปด้วยการเตือนเด็กๆให้รับรู้ว่าเขาจะไม่ใจดีแบบนี้บ่อยๆ

“ครับ” ทหารทั้งสี่นายรับคำสั่งเสร็จก็รีบวิ่งกลับขึ้นไปที่หอพักของตนเองทันที ส่วนเหมราชและหาญกล้ากับจ่าย้อยก็ต้องแยกย้ายกันอีกครั้ง

“โห่แม่ง เมื่อกี้ผู้หันคนใหม่โคตรเจ๋งเลยว่ะ โคตรเท่เลย”เจมส์ จินาภัทรเอ่ยพูดออกไปอย่างปลื้มผู้พันคนใหม่อย่างออกนอกหน้า

“เออว่ะ เอาซะผู้พันกอล์ฟหน้านี่แดงเลย สงสัยจะโคตรโกรธอ่ะกูว่า” คชาเอ่ยบอกไปอีกคนก็ยิ้มขำๆออกไป

“ยังมีหน้ามายิ้มนะไอ้คิง เพราะมึงนั่นแหละ ชวนพวกกูออกไปจนเป็นเรื่อง ทีนี้กูไม่ไปกับมึงแล้วนะโว๊ย” น้ำเหนือเอ่ยพูดว่าใส่เพื่อนหนุ่มออกไป เพราะเข้ากรมมาวันแรกมันก็พาพวกเขาแหกกฎแล้ว แถมยังโดนจับได้อีก ขืนมีครั้งต่อไปได้โดนทัณฑ์บนแน่

“เอาน่า เรื่องมันจบแล้วก็แล้วไป นอนกันเถอะ กูโคตรเมื่อยตัวเลย ไม่ไหวแล้วด้วย” น้ำน่านเอ่ยบอกไปก็ขึ้นไปนอนบนเตียงทันที

“เฮ้อ ไอ้นี่มันจริงๆเลย แต่เอาจริงนะมึง กูชอบผู้พันคนใหม่ว่ะ เดี๋ยวรอกูออกกรมก่อนเถอะ กูจะให้พี่สาวกูมาจีบผู้พัน ฮ่าๆ” จินาภัทรเอ่ยพูดออกไปขณะกำลังจะขึ้นเตียง

“แล้วมึงคิดว่าผู้พันเขาจะเอาพี่สาวมึงเหรอไอ้เจมส์ ไม่มีทาง ถ้าเป็นพี่สาวกูล่ะว่าไปอย่าง ผู้พันต้องชอบแน่ๆ สวย เอ๊กซ์ ขนาดนั้น” คชาพูดถึงพี่สาวของของเขาอย่างชื่นชม เพราะเป็นถึงนางแบบใครเจอก็ต้องชอบทั้งนั้น

“พวกมึงเอาไปเถอะ กูไม่แย่งให้เจ้กูหรอก กูรักพี่สาวกู แล้วกูก็หวงมากด้วย” น้ำเหนือเอ่ยพูดบอกไปก็ขึ้นไปบนเตียง เขาชอบผู้พันคนใหม่ก็จริง แต่ไม่ถึงขนาดจะให้เจ้น้ำอิงคนสวยของเขามาจีบหรอก เพราะอย่างพี่สาวของเขาต้องมีผู้ชายมาตามจีบเท่านั้น

“เออใช่ กูก็หวง เชิญพวกมึงเอาพี่สาวมาแข่งกันจีบผู้พันเขาเลย พวกกูไม่แย่ง” น้ำน่านเอ่ยเสริมพี่ชายฝาแฝดไปอีกคน ก่อนจะยิ้มให้กันอย่างรู้กัน เพราะเอาจริงๆแล้วที่เจ้น้ำอิงไม่มีแฟนทุกวันนี้ก็เพราะมีพี่น้องอย่างพวกเขานั่นแหละที่หวงพี่สาวจนเกินเหตุ

“กูไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเจ้น้ำอิงเขาถึงไม่มีแฟน นี่ขนาดพวกมึงมาอยู่ในกรมยังจะหวงอีก เฮ้อ ดีนะที่พี่นาบุญเขาไปเรียนต่อ ไม่งั้นกูว่าโอกาสที่พี่สาวพวกมึงสองคนจะมีผัว เอ๊ย จะมีแฟนน่ะ ยาก” คชาเอ่ยพูดออกไปตามที่ได้รู้จักฝาแฝดทั้งสองมาตั้งแต่เรียนนายร้อยด้วยกัน และเขาก็เคยเจอพี่สาวและพี่ชายของสองคนนี้แล้ว ก็พอจะเห็นว่าบ้านนี้เขาหวงเจ้น้ำอิงกันทั้งบ้าน เพราะเป็นลูกสาวคนเดียวของบ้าน

“มึงเงียบเลยไอ้คิง พี่สาวกูจะมีแฟนหรือไม่มีแฟน มันไม่ใช่เรื่องของมึง” น้ำเหนือเอ่ยว่าเพื่อนหนุ่มไปก็นอนชี้หน้าอย่างกวนๆ

“เออใช่ หุบปากแล้วนอนไปเลยมึงอ่ะ” น้ำน่านเอ่ยพูดไปอีกคน ก่อนจะเอาผ้าห่มคลุมตัวแล้วนอนหลับไปอย่างไม่สนใจที่จะคุยกับพวกเพื่อนๆต่อแล้ว เพราะนี่ก็ดึกมากแล้ว โชคดีที่พวกเขาอยู่ห้องด้วยกันสี่คน จึงไม่มีคนอื่นได้รับรู้ว่าพวกเขาไปทำอะไรผิดมา

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel