ตอนที่ 3 สถานการณ์บีบคั้น
หลังจากคืนนั้น แดนดินก็ยังพักอยู่ที่ห้องชุดของเหนือนทีกับมีฟ้าต่ออีกสองวันสองคืน เพราะไม่อยากเจอหน้าพลาสติกเคลือบฟอร์มาลิน ของแพรวาแม่เลี้ยง จนกระทั่งดนัยผู้เป็นบิดากลับมาจากต่างประเทศนั่นแหละ เด็กหนุ่มจึงได้ยอมกลับบ้าน
อีกหนึ่งวันต่อมาก็เป็นวันเปิดเทอมภาคเรียนที่สอง นักศึกษาชั้นปีที่หนึ่งคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี ภาควิชาการตลาดอย่างแดนดินแยกตัวจากกลุ่มเพื่อนหลังจบคลาสเรียนช่วงบ่าย เด็กหนุ่มเดินหงอย ๆ อยู่หน้าคณะ พลางก็ยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาต่อสายหาเหนือนที
เฝ้าโทรมาตั้งแต่บ่ายแก่ ๆ แต่เหนือนทีก็ไม่รับสาย หนักเข้าก็ปิดเครื่อง ไม่ต้องสงสัยเลยว่าฝีมือใคร เป็นมีฟ้าอย่างแน่นอน
Chiiwawa@Chiiwawa
ฉลองเปิดเทอมครับ
#จี่หอย
ระหว่างนั่งรอรถเมล์อยู่หน้ามหาวิทยาลัย แดนดินไถทวิตเตอร์เล่นจนไปเจอทวิตของชวกรเพื่อนสนิทของเหนือนที จึงรู้ว่าแก๊งสี่คนนั้นอยู่ที่ร้านเหล้าปั่น หลังมอ
ด้วยสถานการณ์บีบบังคับให้ต้องเร่งพาตัวเองเข้าไปอยู่ใต้ปีกของวรภัทร แดนดินจึงคิดแผนที่จะจับเหนือนทีให้ได้ ด้วยการตามไปป่วนที่ร้านเหล้าปั่น
“คืนนี้พี่เหนือช่วยไปส่งดินที่บ้านได้ไหมครับ ดินมีเรื่องจะปรึกษาพี่เหนือ เป็นการส่วนตัว” เด็กหนุ่มพยายามทำน้ำเสียงเป็นกังวล “เรื่องวันนั้นน่ะครับ” ย้ำอีกทีพร้อมกับแววตาขอความเห็นใจ
แต่ในนาทีที่แผนการกำลังจะเป็นไปอย่างที่เขาวางไว้ ดนัยก็ปรากฏตัวขึ้น
“คุณพ่อมาทำอะไรที่นี่ครับ?”
“มีคนโทรไปบอกพ่อว่าดินเมาเหล้าอยู่ที่ร้านนี้ พ่อก็เลยรีบมารับ เป็นอะไรหรือเปล่า ลูกไม่เคยดื่มเหล้านี่ เป็นเพราะเรื่องนั้นใช่ไหม?” ดนัยลูบต้นแขนลูกชายอย่างห่วงใย
“ปะ เปล่านี่ครับ ดินไม่ได้เป็นอะไร แล้วก็ไม่ได้เมาด้วย ดินไม่ได้ดื่มเลย”
“อ้าว”
ทั้งดนัยและแดนดินพากันทำหน้าฉงน
“จริงครับคุณอา น้องดินไม่ได้ดื่มเลย ผมยืนยันได้ครับ” เหนือนทียืนยันกับดนัยอีกคน “คงมีคนเข้าใจผิดน่ะครับ คงเห็นพวกผมดื่มกัน ก็เลยเข้าใจว่าน้องดื่มด้วย”
“อย่างนั้นรึ” ดนัยพยักหน้า เข้าใจตามที่เหนือนทีอธิบาย “ถ้าอย่างนั้น ก็กลับบ้านกับพ่อนะ ขอบใจเหนือมากนะที่ช่วยดูแลน้อง”
“ยินดีครับคุณอา”
ระหว่างถูกบิดาประคองพามาขึ้นรถ แดนดินเหลือบมองไปด้านหลัง ทันได้เห็นสายตาสะใจเจือขบขันของมีฟ้า ก็เดาได้ว่าต้องเป็นฝีมือมีฟ้าอย่างแน่นอนที่ให้คนโทรไปบอกบิดา
“เป็นอะไรหรือเปล่า สองวันมานี้พ่อว่าดินดูแปลก ๆ ยังคิดเรื่องบ้านอยู่ใช่ไหม?”
ดนัยเอ่ยกับลูกชายด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล เพราะตนเป็นต้นเหตุให้ครอบครัวกำลังจะเสียสมบัติชิ้นสุดท้ายที่พาขวัญทิ้งไว้ให้ลูกชายไป เพราะความไม่เอาไหนของเขาเอง
“คุณพ่อไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ดินจะไม่ยอมเสียบ้านของแม่ไปเด็ดขาด” แดนดินพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ความเคียดแค้นก่อตัวขึ้นเมื่อนึกถึงใบหน้าของคนที่เป็นต้นเหตุอย่างแท้จริง
แพรวายังคงใช้ชีวิตหรูหรา ในขณะที่บิดากำลังจะล้มละลาย บ้านกำลังจะถูกยึด ไม่เคยสำนึกอะไรเลย ได้ข่าวว่ากำลังพยายามจะจับผู้ชายคนใหม่ เจ้าของผับใหญ่แถวทองหล่อ ขอให้ได้เสี่ยกระเป๋าหนัก กักขฬะอย่างไอ้เสี่ยโจ เขาจะทำบุญกรวดน้ำคว่ำขัน อุทิศส่วนกุศลไปให้ทั้งสองคน!
“พ่อขอโทษนะลูก”
ดนัยยื่นมือมาลูบศีรษะลูกชาย ก่อนจะหันไปเพ่งมองถนนเบื้องหน้า
แดนดินเหลือบมองบิดาอย่างสงสาร ดนัย นวภูมินทร์ อดีตนักธุรกิจหนุ่มใหญ่ไฟแรงที่เคยมีคนนับหน้าถือตา คู่ค้า ลูกน้อง เพื่อนพ้อง และคนรับใช้ บัดนี้ไม่มีแม้แต่คนขับรถให้ หนุ่มใหญ่วัยสี่สิบแปดปีที่สายตาไม่ค่อยดีนัก ต้องขับรถไปไหนมาไหนด้วยตัวเอง
“ดินขับให้ไหมครับคุณพ่อ”
ดนัยหันมาส่งยิ้มให้ลูกชาย “ขับรถเป็นตั้งแต่เมื่อไรฮึเราน่ะ เมื่อก่อนพ่อจะซื้อรถสปอร์ตให้ก็ไม่เอา” รอยยิ้มมุมปากหุบลงเมื่อนึกถึงฐานะในตอนนี้ อย่าว่าแต่รถสปอร์ตเลย แค่รถกระป๋องดนัยก็ไม่มีปัญญาซื้อให้ลูกชาย
“ดินไม่อยากได้หรอกครับรถสปอร์ตน่ะ นั่งได้แค่ไม่กี่คน สู้รถเมล์ก็ไม่ได้ มีเพื่อนเยอะแยะเลยครับ”
เด็กหนุ่มหัวเราะร่วน ก่อนจะชวนบิดาคุยเรื่องอื่น เปิดเทอมวันแรกมีเรื่องเล่ามากมาย แดนดินพูดเป็นต่อยหอยตั้งแต่หลังมหาวิทยาลัยจนถึงบ้าน ดนัยฟังเพลินจนลืมเรื่องทุกข์ใจ
หลังแยกจากบิดาแดนดินก็เดินวนเป็นหนูติดจั่นอยู่ในห้องนอน ในสมองกำลังคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างกับเหนือนทีและมีฟ้า เด็กหนุ่มหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาพิมพ์ข้อความหาใครบางคน ถามถึงฤทธิ์ของยาที่เขาซื้อมาเพื่อใส่ลงไปในนมหมีคาราเมลที่คะยั้นคะยอให้เหนือนทีกิน
มึงไม่ต้องเป็นห่วงน่า มันไม่ถึงขั้นทำให้เสียตัวหรอก แค่รู้สึกร้อน ๆ วูบวาบเท่านั้นแหละ ถ้าเอากันเพราะกินไปแค่คนละครึ่งเม็ดแบบนั้น ก็เพราะมันอยากเอากันเอง อย่ามาโทษยากู
แดนดินวางโทรศัพท์มือถือลงอย่างโล่งใจ นึกดีใจที่ตัวเองไม่ได้ใส่ยาลงไปสองเม็ดอย่างที่เพื่อนแนะนำตอนแรก เพราะใจไม่กล้าพอที่จะทำร้ายเหนือนทีขนาดนั้น ตั้งใจว่าถ้าหากเหนือนทีมีใจ แค่กระตุ้นให้รู้สึกนิดหน่อยก็พอ
แต่มีฟ้าก็ดันมาแย่งกินนมหมีไปครึ่งแก้ว แถมยังให้คนโทรบอกให้ดนัยไปรับเขากลับมา ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเป็นฝีมือมีฟ้าแน่ ๆ
“ดินขอพี่ฟ้าดี ๆ แล้วนะครับ ในเมื่อพี่ฟ้าไม่ให้ ดินก็จะใช้วิธีของดิน”
แดนดินพยายามข่มตาให้หลับแต่ก็ไม่เป็นผล เพราะความสับสนตีกันอยู่ข้างใน
ยอมรับเถอะแดนดินว่านายไม่มีทางแย่งพี่เหนือมาจากพี่ฟ้าได้
สงครามยังไม่จบอย่าเพิ่งนับศพทหาร เราไม่ยอมเสียพี่เหนือให้ใครเด็ดขาด พี่ฟ้านิสัยไม่ดีเอาแต่ใจ วันหนึ่งพี่เหนือก็ต้องเบื่อ เราต้องทำตัวน่ารักน่าสงสาร พี่เหนือต้องรักเรา
แต่นายใช้วิธีสกปรก
ไม่ เราไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายพี่เหนือกับพี่ฟ้า พวกเขาไม่เป็นอะไรหรอกน่า
พอสมองส่วนหนึ่งเริ่มยอมรับว่าไม่มีทางเป็นคนสำคัญของเหนือนทีได้มากกว่ามีฟ้า ในใจเด็กหนุ่มก็นึกกลัว กลัวสิ่งที่ตัวเองทำไว้กับเสี่ยโจ เสี่ยบ้านั่นต้องไม่เอาเขาไว้แน่
เมื่อนอนไม่หลับแดนดินก็ลงมาเดินวนอยู่ในสวนหลังบ้านอย่างใช้ความคิด เด็กหนุ่มวัยสิบเก้ากำลังคิดหาทางปกป้องตัวเองจากเรื่องเลวร้ายที่เขาไม่ได้ตั้งใจจะก่อ
“กลับมาบ้านได้แล้วเหรอ? รู้ไหมว่าทำฉันเดือดร้อนขนาดไหน”
แพรวาแว้ดขึ้นมาจากทางด้านหลัง เธอเห็นแดนดินเดินเล่นอยู่ในสวนตอนที่เธอเพิ่งกลับมาจากข้างนอก หญิงสาวจึงปรี่เข้ามาเอาเรื่องลูกเลี้ยงที่ไปทำร้ายเสี่ยโจ และทำให้เธอสูญเงินสามแสน
“คุณเคยเดือดเนื้อร้อนใจเรื่องอะไรกับเขาด้วยเหรอครับ ผมคิดว่าคุณมัวแต่สนุกกับการผลาญสมบัติของครอบครัวผมเสียอีก”
“อย่ามาตีสำนวนกับฉันนะ เธอให้ฉันช่วยหาเงินฉันก็ช่วยหาให้ ฆ่าตัวตายชัด ๆ ที่คิดจะมีเรื่องกับเสี่ยโจ”
“เขาทำร้ายผมก่อน เขาต่อยผม เขาตบหน้าผม”
“ก็เพราะเธอไม่ทำตามที่ตกลงกันไว้ไง เกิดกระแดะเปลี่ยนใจขึ้นมาซะอย่างนั้น ทำฉันเดือดร้อนไปด้วย ไม่รู้ละ พรุ่งนี้เธอต้องไปขอโทษเสี่ยโจ”
“ไม่ ผมไม่ไป”
“ก็เอาสิ ถ้าเธอไม่ไปกับฉัน ฉันจะบอกคุณดนัยว่าเธอทำอะไรไว้ พ่อของเธอจะเสียใจแค่ไหนกันนะ ที่รู้ว่าลูกชายเป็นเด็กขายตัว!”
“ผมไม่ได้ขายตัว”
แดนดินน้ำตาคลอด้วยความอัดอั้นตันใจ
แพรวาเบะปาก ทำเสียง หึ ในลำคอ “เอาไปคิดดูนะ ว่าจะไปขอโทษเสี่ยโจ หรือจะให้ฉันบอกเรื่องนี้กับพ่อของเธอ” แล้วเธอก็เดินเข้าบ้านไป ทิ้งให้แดนดินจมอยู่กับความอัดอั้น เคียดแค้น ชิงชัง
ความคิดหนุ่มน้อยจมดิ่งสู่ด้านมืด ดิ้นรน กระเสือกกระสนเพื่อหาทางรอด หากทางออกของเขาจะต้องทำร้ายใคร มันก็อาจไม่ใช่ความผิดของเขาทั้งหมด เพราะทุกอย่างกำลังบีบบังคับให้เขาทำ!