บทที่ 2
“พี่ลูกหว้า คุณเอกให้มาตามครับพี่”
ปานวิทย์เรียกมัญชุภาไว้ หลังจากที่หล่อนเดินเข้ามาในบริษัท พร้อมกับตรีทศและรินพร หญิงสาวเลิกคิ้วอย่างสงสัย ร้อยวันพันปี เอกพันธ์ผู้จัดการใหญ่ถึงจะเรียกหล่อนพบสักที นี่คงจะเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ ถึงเรียกไปพบด่วนอย่างนี้
“มีอะไรด่วนมากหรือเปล่า ป๋อง”
“เห็นว่าคุณเอกรับพนักงานใหม่เข้ามาน่ะครับพี่ลูกหว้า เป็นฝ่ายครีเอทีฟ รับมาเพิ่ม”
“งั้นพี่ขอเอาเอกสารไปเก็บก่อนนะ เดี๋ยวตามไป งานนี้คุณเอกรับเองเสียด้วยสิ สงสัยจะเป็นมือดี”
มัญชุภารีบเอาเอกสารที่หอบไว้ ไปเก็บไว้ลวกๆ ที่ห้อง ก่อนจะเดินแกมวิ่งไปที่ห้องผู้จัดการ หล่อนเคาะประตู ก่อนจะก้าวเข้าไปทันที ที่มีเสียงบอกอนุญาต
“ขออนุญาตค่ะ คุณเอก เห็นให้ป๋องไปตามหว้า มีงานอะไรให้หว้าทำหรือเปล่าคะ?”
มัญชุภายิ้มให้เจ้านาย เอกพันธ์เป็นชายวัยกลางคน ท่าทางใจดี ผมน้อยไปนิด หล่อนมองไปรอบๆ
ไม่เห็นใครนอกจากเอกพันธ์คนเดียว ไหนป๋องบอกว่าคุณเอกรับคน ไม่เห็นมีใครเลยนี่นา...มัญชุภาคิดในใจ
“นั่งก่อนสิ เอ่อ...พอดีผมมีเพื่อนร่วมงานใหม่ อยากจะแนะนำให้คุณลูกหว้าน่ะครับ ต้องขอโทษที่รับเอง พอดีเจ้านี่เป็นหลานชายของลูกพี่ลูกน้องผม ฝีมือก็เก่งพอตัวล่ะครับ เลยถือวิสาสะรับมาโดยไม่ได้ปรึกษาคุณลูกหว้าก่อน”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ คุณเอกเลือกมาเองอย่างนี้ หว้าเชื่อค่ะว่าต้องทำงานดีจริงๆ”
เอกพันธ์ยิ้มให้หญิงสาวหน้าหวานตรงหน้า มัญชุภาดูน่ารักเหมือนสาวแรกรุ่น หากมีความรับผิดชอบสูงและทำงานได้คล่องแคล่ว เขาเลือกหล่อนเป็นหัวหน้าแผนกไม่ผิดคนหรอก
“แต่ไม่เห็นคนที่คุณเอกพูดถึงเลยค่ะ ยังไม่มาเหรอคะ”
“มาแล้วแต่เจ้าไม้สักมันขอเข้าห้องน้ำก่อน นั่นไงออกมาแล้ว”
ชื่อ ‘ไม้สัก’ ที่เอกพันธ์พูดทำเอามัญชุภาตาโต หัวใจกระตุกวาบ ก่อนจะหน้าซีดลงทันที
ไม้สัก... ใครกันจะมีชื่อเล่น ฟังแล้วแปลกสะดุดหูแบบนี้อีก ชื่อที่ไม่ค่อยเหมือนใคร หวังว่าคงไม่ใช่ ...
“ขอโทษนะครับ อาเอก”
เสียงทุ้มๆ นุ่มหูที่ดังขึ้น ทำให้มัญชุภาตัวแข็ง หล่อนนั่งหันหลังให้กับห้องน้ำส่วนตัวของเอกพันธ์ ตอนนี้เจ้านายของหล่อนไม่ได้สังเกตถึงความเปลี่ยนแปลงของมัญชุภา เอกพันธ์ผายมือตรงเก้าอี้ข้างๆ มัญชุภา พร้อมกับแนะนำ ชายหนุ่มร่างสูง ผมตัดสั้น คิ้วเข้ม นัยน์ตาคมแฝงแววขี้เล่น จมูกโด่งเป็นสัน และริมฝีปากบางสวย เขายิ้มกว้างให้กับเอกพันธ์ เป็นรอยยิ้มทำให้หน้าตาคมคายดูน่ามองขึ้นอีกหลายเท่าตัว ให้กับมัญชุภาที่นั่งนิ่งอยู่ทันที
“คุณลูกหว้า นี่ไม้สัก หรือ สักทองจะมาเป็นครีเอทีพคนใหม่ของเรา รู้จักกันไว้สิ”
“ลูกหว้า!”
ชายหนุ่มอุทานอย่างตกใจ เมื่อหันมามองหญิงสาวที่นั่งข้างๆ เต็มตา มัญชุภามองเขาด้วยสายตาเย็นชา ก่อนจะพยักหน้าให้แล้วรีบมองเมินไปทันที หล่อนฝืนยิ้มให้กับเอกพันธ์
“ยินดีที่ได้ผู้ร่วมงานใหม่ค่ะ เอ่อ... แต่หว้าต้องขอตัวก่อนนะคะคุณเอก พอดีหว้าต้องรีบสรุปงานน่ะค่ะ”
“ยังไงก็พาเจ้าไม้สักไปแนะนำที่แผนกด้วยเลยสิ คุณลูกหว้า ไม้สัก นี่เป็นหัวหน้าแผนกที่เราจะทำงานด้วยนะ ไปกับเขาก็แล้วกัน”
ดวงตาคมของเขา มองคนข้างๆ ไล่เรียงไปตั้งแต่ทรงผม ตัดสั้น ผมนุ่มๆ สีดำขลับ ซึ่งเขาเคยชอบ ที่ตอนนั้นหล่อนปล่อยมันยาวเลยไหล่ แต่ตอนนี้หล่อนตัดมันไปเสียแล้ว คิ้วโก่งสวย นัยน์ตาโตหวานสีน้ำตาลเข้มมีแววเย็นชา เข้ามาแทนที่แววตาเป็นประกายไปด้วยความสุข เวลามองเขา
ตอนนี้มัญชุภาไม่มองเขาแม้แต่หางตาด้วยซ้ำ จมูกรั้นๆ ที่สักทองชอบบีบมันเล่น ปากอิ่มสีเรื่อ หล่อนยังตัวเล็กเหมือนเดิม สูงแค่บ่าเขา นั่งหน้าเชิดไม่มองหน้าเขาเลย ดูทะมัดทะแมงในเสื้อเชิ้ตพอดีตัวลายทาง กับกางเกงสีดำ รองเท้าคัทชูสีดำ
แม้จะไม่มองหน้าเขา แต่มัญชุภาก็รู้สึกว่าถูกสายตาคมกริบของเขา มองกวาดไปทั่วทั้งตัว หล่อนเม้มปาก ก่อนจะลุกขึ้นแล้วกล่าวกับเจ้านายด้วยเสียงเครือๆ เพราะเจ้าตัวเกือบจะควบคุมตัวเองไม่ได้อีกแล้ว !
“ค่ะ หว้าจะพาเขาไปรู้จักกับน้องๆ ในแผนก เดี๋ยวคุณก็ตามดิฉันไปที่แผนกด้วยก็แล้วกันนะคะ คุณสักทอง”
“เจ้าไม้สักน่าจะอายุประมาณคุณนะลูกหว้า เออ ...ว่าแต่เราจบที่ไหนนะไม้สัก อาจำไม่ได้เลย”
“มช. ครับ”
“จบที่เดียวกับคุณเลยนี่นา ลูกหว้าบังเอิญจริงๆ”
เอกพันธ์หัวเราะอย่างชอบใจ ขณะที่มัญชุภายิ้มแหยๆ ให้ หล่อนยังไม่ยอมเหลือบมองหน้าสักทองเลยสักนิด
“ค่ะ บังเอิญมากๆ บังเอิญจนหว้าไม่อยากจะเชื่อ” ประโยคหลังหล่อนพึมพำกับตัวเอง เหมือนจะประชดใครบางคน
“งั้นคงรู้จักกันง่ายขึ้น ใช้มันได้ตามสบายเลยนะคุณลูกหว้า เจ้าไม้สักอยากมาหาประสบการณ์ทำงานที่กรุงเทพฯ ดู ทำงานที่ต่างจังหวัดมานาน ตั้งแต่เรียนจบ ยังไงผมก็ฝากด้วยก็แล้วกัน มันเป็นบ้านนอกเข้ากรุง เพิ่งจะมากรุงเทพได้ไม่ถึงเดือนเอง”
“อาเอกล่ะก็”
สักทองหัวเราะ ก่อนที่เอกพันธ์จะฝากฝังชายหนุ่มกับมัญชุภาอีกครั้ง
“ฝากด้วยนะคุณลูกหว้า”
“ค่ะ คุณเอก หว้าขอไปพาคุณสักทองไปแนะนำตัวกับพวกน้องๆ แล้วก็ขออนุญาตไปทำงานก่อนนะคะ”
“เชิญครับ”
มัญชุภายิ้มให้เจ้านาย ก่อนจะเดินลิ่วนำชายหนุ่มไปที่ประตู เอกพันธ์มองตามหลังสองหนุ่มสาวไป และพึมพำกับตัวเองเบาๆ อย่างแปลกใจกับท่าทีของลูกน้องคนเก่ง
“อืม...ทำไมดูคุณลูกหว้า ไม่ค่อยจะชอบหน้าเจ้าไม้สักมันสักเท่าไหร่เลยนะเนี่ย เอ...หรือจะไม่ชอบที่มันเป็นเด็กเส้น แต่เจ้าไม้สักมันก็มีฝีมือพอตัวแหละน้า น่าจะล้างอคติของคุณลูกหว้าได้ สถาบันเดียวกัน น่าจะสนิทกันง่ายขึ้นนะเนี่ย”
เอกพันธ์ไม่รู้เลยว่า ได้พาใครเข้ามาทำความลำบากใจครั้งใหญ่ ให้กับลูกน้องสาวไฟแรงของตัวเองเข้าแล้ว เป็นคนที่มัญชุภาสาปส่งตลอดชีวิตเสียด้วย...