เล่ห์ลวงบ่วงซาตาน

63.0K · ยังไม่จบ
B.J.
33
บท
4.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

ตั้งแต่เกิดมา ดาวเหนือไม่เคยรับรู้ได้ถึงความรักของบิดาบังเกิดเกล้าเลย นอกจากมารดาและผู้เป็นยาย ชีวิตของเธอมีความสุขแค่ช่วงที่ผู้เป็นปู่ยังมีชีวิตอยู่ ก่อนจะพบเจอกับความเลวร้ายของสองแม่ลูกที่ใส่ร้ายแม่ของเธอจนตรอมใจตาย แต่มีคนเคยบอกเธอว่า ในโลกนี้ไม่มีอะไรเป็นของเราเลยสักอย่าง แม้แต่ความทุกข์และความสุข เธอเชื่อว่ามันคือเรื่องจริง เมื่อได้พบกับเขา ติณห์ ผู้ชายหน้านิ่งแสนเย็นชาที่เต็มไปด้วยความปรารถนาดีต่อเธอ และเขาก็ยังเป็นคู่ชีวิตที่คอยประคับประคองให้เธอได้เดินทางไปจนถึงเป้าหมายแห่งความสำเร็จ

นิยายรักโรแมนติก

1

เล่ห์ลวงบ่วงซาตาน

บทที่ 1

เด็กสาวในบ้านเศรษฐี

“ช่วยด้วย ช่วยด้วย ช่วยฉันด้วย” น้ำเสียงอ่อนแรงที่ดังมาจากหลุมด้านหน้า ทำให้ดาวเหนือชะงัก เด็กน้อยรีบวิ่งไปดู ปรากฏว่ามีคนตกลงไป ร่างกายของอีกฝ่ายอ่อนแรง แถมยังบาดเจ็บเพราะในหลุมมีไม้ไผ่แหลมๆ วางเอาไว้รอบๆ เสียบไปโดนขากับแขนของกำนันยศ

ดาวเหนือเห็นว่าเป็นกำนันยศก็ไม่อยากช่วย แม้ยายกับมารดาจะเคยสอนว่าเวลาเห็นคนอื่นเดือดร้อนก็ต้องช่วย แต่กำนันผู้นี้ใจร้ายใจดำกับเธอกับแม่ยิ่งนัก

เธอโตมาในบ้านหลังใหญ่ของเศรษฐีมีอันจะกินแห่งบ้านนา กำนันยศคือเศรษฐีต่างจังหวัดที่มีเรือกสวนไร่นาเป็นจำนวนมาก มีลูกชายชื่อยอดชาย นั่นคือคนที่มารดาบอกว่าเป็นบิดาของเธอ

แต่คนในครอบครัวนั้นรังเกียจเดียดฉันหาว่าแม่ของเธอจนและเป็นเมียน้อย คำว่าเมียน้อยมันดูด้อยค่าในสายตาของเด็กน้อย แม้จะไม่ค่อยรู้ความหมายของมันมากนัก แต่ดาวเหนือกลับไม่ชอบเอาเสียเลย

มารดาเล่าว่าในวันที่เจ็บท้องคลอด ท่านมองเห็นดาวเหนือเปล่งประกายอยู่บนท้องฟ้า จึงได้ตั้งชื่อเธอว่าเด็กหญิงดาวเหนือ

มารดาของดาวเหนือคือหญิงสาวชาวบ้านที่สวยจับจิตจับใจ ยอดชายตามจีบมารดาจนได้เสียกัน ในขณะที่ตัวเองมีคนรักอยู่แล้ว เพียงไม่นาน พิมพ์จันทร์ คนรักของยอดชายก็เดินทางมาจากกรุงเทพฯ ทั้งสองแต่งงานกัน ในขณะที่อนงค์นางโดนหลอกให้ไปทำธุระให้ยอดชายอีกหมู่บ้านหนึ่ง กลับมาเขาสองคนก็แต่งงานกันแล้ว

อนงค์นางตั้งครรภ์ลูกของยอดชาย ในขณะที่พิมพ์จันทร์ก็ตั้งท้องเช่นกัน แต่พิมพ์จันทร์ตั้งท้องก่อนเพราะท้องก่อนแต่ง ทำให้ธนิดาลูกของพิมพ์จันทร์มีอายุเท่ากับดาวเหนือ แต่แก่เดือนกว่า

ทั้งสองเป็นสายเลือดเดียวกัน เพราะมีบิดาคนเดียวกัน ยกเว้นแค่มารดาคนละคนกัน แต่ชีวิตความเป็นอยู่ช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว

ธนิดาได้รับความรักจากคนเป็นปู่ พ่อและแม่อย่างดี ในขณะที่ดาวเหนือเป็นแค่เด็กในบ้านที่ทำงานงกๆ อยู่ก้นครัวตั้งแต่เล็กๆ

ดาวเหนือจำความได้ก็ไม่มีสิทธิ์อะไรในบ้านหลังนั้น แม้จะเป็นลูกหลานของตระกูล ในขณะที่มารดาของเธอก็โดนกดขี่ข่มเหงสารพัด เพราะพิมพ์จันทร์เกลียดมารดาของดาวเหนือเป็นอันมาก มีโอกาสเมื่อใดก็จะกดขี่จิกด่าเยี่ยงทาส

“ช่วยด้วยจ้ะ ช่วยด้วย กำนันยศตกลงไปในหลุมจ้ะ” ไม่มีเสียงตอบรับจากชาวบ้านแถวนั้น คิดว่าท่านไม่ได้ยิน เด็กน้อยจึงรีบไปหาเถาวัลย์เส้นใหญ่แถวนั้นโดยการใช้มีดปลายแหลมที่สำหรับตัดผักกูดมาตัดเชือก แล้วหย่อนลงไป เธอไม่มีแม่ ไม่มียายแล้ว เพราะทุกคนได้จากเธอไปหมดแล้ว ทำให้เด็กน้อยต้องอาศัยอยู่ในบ้านหลังนั้นด้วยความรู้สึกเหมือนเป็นส่วนเกิน แต่ยายกับแม่สอนว่าคนกำลังจะตายเราต้องช่วย อย่างน้อยคนที่เธอเรียกว่ากำนันยศ ก็คือปู่แท้ๆ ของเธอนั่นเอง

“จับเถาวัลย์อันนี้เอาไว้นะ” ดาวเหนือเอ่ยบอกกำนันยศ กำนันยศก็จับเอาไว้ คาดไม่ถึงว่าเด็กน้อยซึ่งเป็นหลานในไส้แต่ท่านรังเกียจสุดใจ จะเข้ามาช่วยเหลือท่านเอาไว้แบบนี้

กำนันยศนึกย้อนไปถึงเรื่องราวในอดีต ท่านรังเกียจอนงค์นางเพราะเป็นแค่หญิงสาวชาวบ้านจนๆ ไม่คิดว่าลูกชายจะไปยุ่งด้วย แต่เมื่ออีกฝ่ายท้องเลยต้องรับมาอยู่ด้วย เพราะไม่อยากให้ชาวบ้านครหา ดีหน่อยว่ายอดชายไม่ใฝ่ต่ำไปมากกว่าที่เป็นอยู่ โดยการรับอนงค์นางมาเป็นเมียจริงๆ ทั้ง ๆ ที่มีคนรักอย่างพิมพ์จันทร์ที่เหมาะสมคู่ควรอยู่แล้ว

ในช่วงเวลาความเป็นความตาย กำนันยศรู้สึกว่าชีวิตมีค่ายิ่งนัก และรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณเด็กน้อยเป็นที่สุด แถมยังรู้สึกละอายใจเป็นอันมาก กำนันยศคิดว่าหากดาวเหนือไม่ผ่านมาเห็นและช่วยตน ตนก็คงนอนเสียเลือดขาดใจตายอยู่ในบ่อ มีคนมาเจออีกทีคงเป็นศพ

ท่านรับรู้ทุกอย่างว่าลูกสะใภ้ทำอะไรกับดาวเหนือบ้าง แต่ท่านก็เฉย พิมพ์จันทร์จิกใช้ให้ดาวเหนือไปเก็บผักเก็บหญ้าริมรั้วมาต้มกินกับข้าวก้นหม้อที่คนอื่นกินเหลือแล้ว ไม่ให้กินของดีๆ เหมือนคนอื่น นี่คือเหตุผลว่าทำไมดาวเหนือ เด็กน้อยวัยสิบขวบถึงได้มาเดินอยู่ตรงชายป่าเช่นนี้

กำนันยศรู้สึกหดหู่ใจยิ่งนัก เด็กน้อยที่ต้องหาผักหญ้าประทังชีวิต ทั้ง ๆ ที่ต้องอยู่ในบ้านที่มีอันจะกินอย่างเขา

เขาเดินมาดูพื้นที่ตรงสวนใกล้คลองที่มีชาวบ้านอยากขาย ไม่ได้พาลูกน้องหรือใครมาเพราะว่าอยู่ในละแวกนี้เป็นถิ่นของเขา เติบโตมาตั้งแต่เล็กๆ จึงเดินเตร็ดเตร่มาเพียงคนเดียว จึงไม่อยากพาลูกน้องมาให้เอิกเกริก แต่เผอิญเจองูเห่าเข้า มันแผ่แม่เบี้ยทำท่าจะฉก เขาเลยถอยหลังไปอย่างตกใจ ไม่ทันระวังก็ตกลงไปในหลุมที่ชาวบ้านขุดเอาไว้ดักสัตว์ ซึ่งด้านในบ่อมีไม้ไผ่แหลมๆ เสียบเอาไว้ด้วย

“เกาะเอาไว้นะคะ” ดาวเหนือเป็นเด็กหัวดีและฉลาด เด็กน้อยจึงผูกเถาวัลย์เอาไว้กับต้นไม้เพื่อหาที่ยึด เนื่องจากแรงน้อยนิดของเธอไม่สามารถจะดึงร่างกำนันขึ้นมาจากหลุมได้

“กำนันปีนขึ้นมาสิจ๊ะ” ดาวเหนือเอ่ยบอกกำนัน เธอไม่เคยกล้าเรียกอีกฝ่ายว่าปู่เลยสักครั้ง เพราะเจียมเนื้อเจียมตัวดีกว่าเป็นแค่มารหัวขนที่ไม่มีใครต้องการ

กำนันยศซึ่งไม่อยากตาย รีบกัดฟันปีนขึ้นจากหลุมอย่างทะลักทุเล แผลตามลำตัวสร้างความเจ็บปวดเป็นอันมาก พอปีนขึ้นมาได้สำเร็จ กำนันยศก็สลบไปในทันที

“กำนัน กำนัน ฟื้นสิ” เด็กน้อยเขย่าร่างของผู้เป็นปู่แรงๆ แต่อีกฝ่ายก็ไม่มีท่าทีว่าจะฟื้น

ดาวเหนือรีบวิ่งไปที่บ้านโดยเร็ว เพื่อแจ้งข่าวให้ทุกคนได้รู้ว่ากำนันยศเกิดอะไรขึ้นบ้าง จะได้รีบพาไปส่งโรงพยาบาลโดยด่วน เจอเข้ากับธนิดา กำลังเล่นอยู่หน้าบ้านพอดี

“กำนันยศได้รับบาดเจ็บ ฉันช่วยขึ้นมาแล้ว อยู่ตรงปากหลุม เธอรีบไปบอกพ่อแม่เธอให้พาคนไปช่วยเร็ว”

สีหน้าแตกตื่นของดาวเหนือไม่ได้ทำให้ธนิดาที่กำลังเล่นอยู่คนเดียวเกิดความตกใจเลยสักนิด

“นังลูกเมียน้อย แกจะมาโกหกหลอกฉันให้ไปกับแกแล้วก็ทำร้ายฉันใช่ไหม” ธนิดาไม่เชื่อ แถมยังยืดอกใส่ทำท่าเหมือนว่ารู้ทัน

“ฉันชื่อดาวเหนือไม่ใช่นังลูกเมียน้อย”

“แกมันลูกเมียน้อย”

“แม่ไม่ใช่เมียน้อย แม่มาก่อน”

“แม่แกมันเมียน้อย”

“กำนันยศกำลังแย่”

“ฉันไม่เชื่อ”

“ไม่เชื่อก็ตามใจ” ดาวเหนือจะวิ่งเข้าไปในบ้านเพื่อบอกพ่อแม่ของธนิดา แต่ถูกธนิดาขัดขาจนล้ม

“โอ๊ย! นี่เธอแกล้งฉันอย่างนั้นเหรอ” ธนิดาไม่ชอบที่ดาวเหนือมีชื่อเล่นว่าดาว หมายถึงสิ่งสวยงามที่อยู่สูงประดับอยู่บนท้องฟ้า ในขณะที่เธอมีชื่อเล่นว่าดา

“สมน้ำหน้า แกคิดจะวิ่งเข้าไปขโมยของในบ้านฉันใช่ไหมล่ะ โน้น... แกไปอยู่กระท่อมหลังบ้านโน้น น้ำหน้าอย่างแกไม่มีสิทธิ์ที่จะได้อยู่ในบ้านหลังนี้ เพราะแกมันเป็นแค่ลูกเมียน้อย”