บท
ตั้งค่า

ตอนที่5[กลีบบัว]

เล่ห์ร้ายของนายณภัทร

ตอนที่5

[กลีบบัว]

‘กลีบบัว’ตื่นแต่เช้า เธอรีบอาบน้ำแต่งตัว ด้วยชุดนักศึกษาเพื่อไปสัมภาษณ์งาน เมื่อเพื่อนสาวอย่างลัดดาได้ฝากเธอเข้าทำงาน ที่โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งไว้ให้

กลีบบัวอาศัยอยู่กับบิดาสองคน ตั้งแต่เธอลืมตาดูโลกได้เพียงขวบกว่า มารดาผู้ให้กำเนิดก็ทิ้งเธอกับพ่อไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ ด้วยโรคร้าย ‘มะเร็ง’คร่าชีวิตมารดาของเธอ ทำให้กลีบบัวเลือกเรียนพยาบาล อย่างน้อยบิดาไม่มีเงินมากพอที่จะส่งให้เธอเรียนหมอ แต่การเป็นพยาบาลก็ได้ช่วยเหลือผู้คนได้เหมือนกัน

หลังจากพ่อได้ทำงานอยู่ในบริษัทแห่งหนึ่ง ครั้นกลีบบัวเกิดมาแล้วมารดาทิ้งไป ทำให้พ่อของเธอต้องลาออกจากงานประจำเพื่อมาเลี้ยงดูบุตรสาวตัวน้อยด้วยตนเอง ‘ศราวุฒิ’แบ่งเงินเก็บมาลงทุนขายผลไม้ เพื่อสร้างรายได้ให้กับครอบครัวเรื่อยมา โดยมีบุตรสาวอย่างกลีบบัวที่อยู่เคียงข้าง และเป็นกำลังใจให้เขาได้ยืนหยัดเรื่อยมา

เราสองคนพ่อลูกอาศัยอยู่ในบ้านหลังเล็ก ที่บิดาได้ซื้อไว้ตั้งแต่สมัยทำงานบริษัท แต่เราพ่อลูกก็มีความสุขตามประสาจนกระทั่ง…

เมื่อปีที่ผ่านมาบิดาของเธอล้มป่วยอยู่บ่อย ๆ และกลีบบัวเองก็กำลังเรียนอยู่ปีสุดท้ายด้วย ทำให้ศราวุฒิตัดสินใจเอาบ้านหลังน้อยไปเข้าธนาคาร เพื่อนำเงินมาจุนเจือรายจ่าย ของครอบครัวในแต่ละเดือน

“พ่อขา…บัวไปสัมภาษณ์งานก่อนนะคะ” กลีบบัวเดินไปหาบิดาที่นอนอยู่บนเตียง พ่ออาการไม่ค่อยดีนักเธอจึงสั่งห้าม ไม่ให้บิดาออกไปขายผลไม้อีก

“เอ่อ…พ่อนอนตื่นสายเลย หนูบัวไม่ยอมปลุกพ่อบ้าง หนูจะไปสัมภาษณ์งานแล้วใช่ไหม พ่อขออวยพรให้หนูได้งานทำสมใจนะลูก”

“ขอบคุณนะคะพ่อ ถ้าบัวได้งาน บัวจะไม่ให้พ่อต้องออกไปขายผลไม้อีกแล้ว”

“แล้วแต่หนูเลย แต่ตอนนี้รีบไปได้แล้ว เดี๋ยวเจ้านายรอนาน”

“สวัสดีค่ะพ่อ บัวไปก่อนนะคะ พ่อลุกไปกินข้าวได้เลยบัวทำไว้ให้แล้ว” ว่าจบร่างบางก็ก้าวออกไป

กลีบบัวเดินออกมาไม่นานก็มาถึงทางใหญ่ ครั้นเห็นรถแท็กซี่แล่นมาจึงกวักมือเรียก

“ไปส่งโรงพยาบาล…ด้วยค่ะ”

กลีบบัวก้าวขึ้นรถแท็กซี่ ไม่นานแท็กซี่ก็พาเธอมาถึงที่หมาย ในเวลาใกล้จะถึงเวลานัด

“เฮ้อ! ไอ้บัวเอ้ย! เกือบไม่ทันละ รถติดชะมัด!” กลีบบัวได้แต่พึมพำ แล้วเดินจ้ำอ้าวเข้าไปในกล่องลิฟต์

ไม่นานกลีบบัวได้ขึ้นมาถึงชั้นสาม สายตากลมตวัดมองหาป้ายชื่อหน้าห้องของหมอที่นัดเธอเอาไว้

“อ่า…ห้องไหนนะ ทำไมมันเยอะแบบนี้อะ…” กลีบบัวได้แต่มองหาป้ายชื่อคุณหมอกริช ทำให้เธอไม่ทันระวังตัว จึงเดินชนเข้ากับร่างสูงใหญ่ของใครบางคนเข้า

ปึก!

“อ่า! ขอโทษ…ขอโทษค่ะ” กลีบบัวละล่ำละลัก ยกมือขึ้นไหว้ขอโทษร่างสูงตรงหน้า แต่สายตากลมโตของเธอกลับตวัดไปเห็นป้ายชื่อที่หน้าอกเสื้อของเขาพอดี

“คุณหมอ…คุณหมอกริชใช่ไหมคะ”

“แล้วนี่! เธอคือกลีบบัวใช่ไหม” เมื่อหมอกริชเห็นสาวน้อยตรงหน้า และการแต่งตัวของเธอ จึงทำให้เขาเดาได้อย่างไม่ยากนัก

“ค่ะ! ใช่ค่ะ หนูชื่อกลีบบัว ที่หมอนัดสัมภาษณ์” เธอรีบแนะนำตัวทันที

“งั้นเชิญ ที่ห้องนี้เลย” หมอกริชเหลือบมองร่างเล็กอรชรที่อยู่ในชุดนักศึกษา เด็กสาวตรงหน้าเขามองแว๊บแรก ก็เห็นถึง ความสวยน่ารักมากทีเดียวผิวพรรณขาวเนียนเหมือนลูกคุณหนู แต่ลลินก็เป็นคนบอกเขาเองว่าเธอร้อนเงิน กลีบบัวต้องการเงิน

เมื่อผลักประตูเข้ามาถึงด้านใน ที่เป็นห้องทำงานส่วนตัวของหมอกริช

“นั่งสิ…ชื่อกลีบบัวใช่ไหม ทำไมถึงอยากรับงานนี้” พอเธอนั่งลงหมอกริชก็ไม่รีรอ ที่จะยิงคำถามใส่เธอ

“เพราะหนูต้องการเงิน คุณหมอคงไม่ว่าอะไรนะคะ ที่หนูพูดตรงไปหน่อย” กลีบบัวแหงนหน้าขึ้นมองสบตาคู่คมของคุณหมอ อย่างรอคำตอบ

“ไม่นะ! ฉันก็ชอบคนพูดตรงไปตรงมาเหมือนกัน ไม่วกวนดีฟังง่ายเข้าใจง่ายด้วย” หมอกริชรู้สึกถูกชะตากับร่างเล็กตรงหน้าไม่น้อย เขาได้สำรวจเอกสารของเธอทุกบรรทัด แล้วจึงส่งยิ้มจาง ๆ ให้เธอ

“ตกลงคุณหมอรับหนูเข้าทำงานไหมคะ” กลีบบัวไม่รีรอรีบถามออกไป

“ใจร้อนจังสาวน้อย แต่พี่รู้สึกชอบคนแบบเราแล้วสิ”

“ยังไงเหรอคะ”

“ก็เธอน่าจะรับมือ กับคนไข้รายนี้ได้ดีนะสิ”

“นี่! ตกลงคุณหมอรับหนูแล้วใช่ไหมคะ”

“ตกลง เราจะเริ่มงานได้เมื่อไหร่ แต่งานนี้ไม่ได้ทำที่นี่นะ”

“แล้วทำที่ไหนล่ะคะ”

“พี่จะส่งเราให้ไปดูแลเพื่อนพี่เอง แต่เธอต้องไปค้างที่บ้านมันจะตกลงไหม”

“ไปค้างด้วยเหรอคะ”

“ใช่! ต้องค้าง ถ้าตกลงพี่จะจ่ายเงินก้อนแรกให้เลย”

“จ่ายก้อนแรกให้เลยเหรอคะ งั้นหนูขออนุญาตไปปรึกษาพ่อก่อนได้ไหม”

“ตกลง พี่ให้เวลาเรากลับไปคิดสามวัน ได้คำตอบแล้วโทรมาเบอร์นี้ได้เลย” ว่าจบหมอกริชก็ยื่นนามบัตรให้เธอ

กลีบบัวก้าวออกมาจากลิฟต์ ร่างบางคิดกลับไปกลับมา แต่เมื่อนึกถึงเงินก้อนโตที่กำลังลอยมาอยู่ตรงหน้า ถ้าเธอยังนิ่งดูดายไม่รีบคว้าเอาไว้คงจะเสียดายแย่

คฤหาสน์ กิตติกรสกุล

โครม!

เคร้ง! เคร้ง!

เสียงเก้าอี้ที่ถูกณภัทรเหวี่ยงออกไปจนติดข้างฝา ตามด้วยเสียงถ้วยชามใส่อาหารของเขา กระเด็นกระดอนไปคนละทิศละทาง ทำเอาพยาบาลสาวถึงกับหน้าซีดเผือด รีบวิ่งหนีออกไปนอกห้อง

“ออกไป! ออกไปให้พ้น” เสียงเข้มตวาดไล่หลังพยาบาลคนที่สาม ที่หมอกริชได้ส่งมาดูแลเพื่อนรักอย่างณภัทรที่บ้าน

“อะไรกัน ตาภัทรนี่! แกรู้ไหม ว่าแกไล่พยาบาลออกไปกี่คนแล้ว” เสียงบิดาที่ขึ้นมาได้ยินเสียงลูกชายอาละวาด ได้แต่ส่ายหัวกับความงี่เง่าเอาแต่ใจของบุตรชาย

“คุณพ่อไม่ได้มาเป็นแบบผม จะเข้าใจอะไร รู้ไหมผมเบื่อ…เบื่อจะแย่อยู่แล้ว และผู้หญิงพวกนั้นแต่ละคน ผมไม่อยากจะพูดไม่รู้ไอ้กริชรับผู้หญิงแบบนี้มาทำงานได้ยังไง”

“พ่อเข้าใจลูกนะ แต่ช่วยใจเย็นหน่อยได้ไหม นี่หมอกริชจะหาคนมาดูแลเราทันไหม พ่อห่วงลูกนะแต่พ่อก็ต้องออกไปดูงานช่วยน้องบ้าง”

“ผมอยู่คนเดียวได้ คุณพ่อไม่ต้องห่วงผมหรอก ผมพิการขาผมก็รีบปรับตัวและช่วยตัวเองให้ไวที่สุด จะไม่ยอมให้เป็นภาระของใครแน่นอนครับ” ปรับโทนเสียงเหมือนน้อยใจ จนบิดาได้แต่ถอนใจออกมาอย่างระอา

“แล้วนี่! ลูกได้กินอะไรไปบ้างรึยัง เดี๋ยวพ่อลงไปให้ป้าชื่นทำให้ใหม่นะ” เสียงบิดาเอ่ยขึ้นด้วยความเป็นห่วง เมื่อในห้องมีแต่เศษอาหารเกลื่อนพื้น

“ตามใจคุณพ่อ แต่ตอนนี้ผมอยากนอน” ว่าจบคนป่วยก็หลับตาลง ทำเอาคุณอัศวินได้แต่ส่ายหน้าเบา ๆ ด้วยความเอ็นดูบุตรชายคนโต เขาก็เข้าใจความรู้สึกของณภัทรดี คนที่เคยเดินไปไหนมาไหนเอง แล้วต้องมานั่ง ๆ นอน ๆ แบบนี้คงจะเบื่อไม่น้อย

คุณอัศวินก้าวลงไปชั้นล่าง แล้วให้ป้าชื่นทำอาหารโปรดขึ้นไปให้ณภัทรใหม่ และสั่งให้นิดยกอาหารขึ้นไปให้บุตรชาย พร้อมให้ทำความสะอาดเก็บกวาดเศษอาหารในห้องไปด้วย

“คุณภัทรลุกทานข้าวก่อนนะคะ” นิดผลักประตูเข้ามาแล้วเห็นเจ้าของห้องนอนอยู่ จึงเข้าไปเรียกเจ้านายหนุ่มของเธอ

“อื้อ…นิดเหรอ”

“ใช่ค่ะ คุณภัทรลุกนั่งเลย” นิดเข้าช่วยประคองนายหนุ่ม ให้นั่งพิงขอบเตียง และนั่งรอนายหนุ่มทานอาหาร

“นิดฉันอิ่มแล้ว ขอน้ำหน่อย” ณภัทรทานอาหารเสร็จ นิดจึงเก็บสำหรับลงไปชั้นล่างเลย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel