4
EP4 - เล่ห์รัก กลร้าย เจ้านายมาเฟีย (มาเฟีย)
หลังจากที่เริ่มทานอาหารมื้อเย็น มาเฟียที่เป็นพี่ชายคนโต ด้วยความที่วุฒิภาวะเขามีมากกว่าน้องและเป็นคนนิ่งๆ ถึงไม่เลือกจะเปิดก่อนในคำถามที่พ่อของเขานัดทานมื้อเย็นในวันนี้ แต่กลับเป็นมาเวล ที่เอ่ยถามผู้เป็นพ่อตรงๆ มาเวลหมอหนุ่มฝีปากกล้า และตรงไปตรงมา เอ่ยขึ้น
“ พ่อครับ แม่บอกว่าวันนี้พ่อมีเรื่องจะคุยกับพวกผม มีอะไรหรือเปล่าครับพ่อ”
“ มึงนี่ก็อยากรู้จนไม่รอให้กินข้าวเสร็จก่อนหรือไง” กะตัญเอ่ย
“ มันคาใจแล้วกินข้าวไม่อร่อยหรอกครับพ่อ” มาเวลเอ่ย
“ ที่วันนี้พ่อนัดคุย เพราะมีเรื่องที่อยากจะบอกกับทุกคน อย่างแรกเลย พอจะเริ่มวางมือจากงานทั้งหมดมากขึ้น แน่นอนว่ามาเฟียแกเป็นพี่คนโต ต้องรับบทบาทมากขึ้น”
“ ไม่มีปัญหาครับพ่อ” มาเฟียเอ่ย
“ อย่างที่ทุกคนเห็นมาตั้งแต่เด็ก ธุรกิจบ้านเราค่อนข้างจะใหญ่มาก แน่นอนว่ามาเฟียแกไม่สามารถคุมคนเดียวได้หมด มาเวล พอรู้ว่าแกรักในอาชีพหมอที่แกกำลังทำ แต่ธุรกิจบ้านเรา ก็ยังต้องพึ่งพาลูกๆทุกคนในบ้าน แกเข้าใจที่พ่อพูดไหม”
“ ผมเข้าใจ ครับพ่อ แต่สำหรับผม อาชีพหมอมือผมมีไว้ช่วยชีวิตคน แล้วผมจะใช้มือที่ช่วยชีวิตคน ฆ่าคนอื่นได้เหรอครับ“
” ทำอย่างกับไม่เคย“กะตัญเอ่ย
” โหพ่อ ผมอุตส่าห์พูดเป็นหลักการ ผมเข้าใจครับผมแค่พูดไปอย่างนั้นแหละ ไอ้พวกเวรตะไลนั่นมันสมควรตาย มือผมมีไว้ช่วยคนไข้ที่โรงพยาบาลกับคนดีครับพ่อ“ มาร์เวลเอ่ย
” งั้นมึงรักษาตัวเองไม่ได้นะ“
” โหพ่อหลอกด่าผมอีกแล้ว เมื่อกี้เพิ่งถูกน้องด่า“
เสียงหัวเราะของครอบครัวก็ดังขึ้นอีกครั้ง มาเฟียผู้เคร่งขรึม ก็อมยิ้มอยู่ไม่น้อย
“ มาเฟีย มึงเป็นพี่คนโตอายุไม่ใช่น้อยๆแล้ว มึงไม่คิดจะมีเมียไง”
“ ยังครับพ่อ แค่ทำงานกับดูแลน้องผมก็ไม่มีเวลาให้ตัวเองหรอกครับ” มาเฟียเอ่ย
“ เหมือนเฮียหลอกด่าหนูเลยค่ะพ่อ”
“ วันนี้ลูกเราหลอกด่ากันทั้งวันเลยนะแคล หนูว่ามั้ย”
หลังจากจบมื้อเย็นและเรื่องที่จะคุย แน่นอนว่าเป็นไปตามคาด กะตัญ กำลังวางแผนโยกย้ายเพื่อจะวางมือ ซึ่งลูกทุกคนเข้าใจเขาดี โดยเฉพาะมาเฟียลูกชายคนโตที่รับงานต่อจากผู้เป็นพ่อมายาวนานตั้งแต่ตอนเรียน
“ มารีน หนูจะออกไปไหน?”
“ หนูมีนัดค่ะเฮีย หนูขอคุณพ่อคุณแม่แล้วค่ะ”
“ จะไปไหนครับนี่มันสองทุ่มกว่าแล้วนะ”
“ วันนี้หนูจะนอนค้างบ้านเพื่อนค่ะเฮีย”
“ บ้านเพื่อน? เพื่อนคนไหนครับ เดี๋ยวเฮียไปส่ง”
“ ดานีนค่ะ”
คุยกันจบมาเฟียขับรถตรงมายังทางทางที่น้องสาวบอกเพื่อไปบ้านของเพื่อนเธอ ซึ่งจริงๆเพื่อนของมารีนทุกคนเค้าเจอผ่านๆมาแล้วแทบทุกคน แต่ก็ไม่เคยคุยกับใครมากนัก และมารีนไม่เคยพาเพื่อนมาที่บ้าน เธอกลัวว่าเพื่อนของเธอจะกลัวครอบครัวของเธอ ตั้งแต่สมัยมัธยมจึงมักนัดเพื่อนที่คอนโดอยู่บ่อยๆ
“ ถึงแล้วค่ะเฮีย”
หลังจากกดกริ่งหน้าบ้านอยู่สองสามครั้ง หญิงสาวตัวเล็กที่มาเฟียจำได้ลางๆ ว่าคือเพื่อนของน้องสาวเดินออกมา
“ สวัสดีค่ะพี่มาเฟีย” ดานีน ยกมือขึ้นสวัสดีมาเฟียผู้เป็นพี่ชายของหญิงสาว เขาพยักหน้ารับเล็กน้อยแต่ไม่ได้พูดอะไร
“ เฮียกลับเลยก็ได้ค่ะ”
“ แล้วพรุ่งนี้มีเรียนมั้ยครับ เดี๋ยวเฮียมารับ”
“ มีเรียนค่ะ นี่ไงคะหนูพกเสื้อผ้ามาด้วย” มารีนยกให้ผู้เป็นพี่ชายดู
“ เราขอเข้าห้องน้ำก่อนนะ นั่งอั้นมาตั้งแต่บนรถแล้ว” มาริีนรีบเดินเข้าไปในบ้านของดานีนเพื่อไปเข้าห้องน้ำ เหลือทิ้งไว้แต่เพื่อนสนิทและพี่ชายของเธอ
“ ที่บ้านมีใครอยู่หรือเปล่า” มาเฟียเอ่ยถาม
“ ไม่มีค่ะ คุณแม่ไปทำงานเข้าเวรคืนนี้ ดาอยู่กับมารีนสองคนค่ะ“
” ฉันขอเข้าไปในบ้านหน่อยได้ไหม“
” ได้ค่ะ“
ดานีน เดินนำหน้ามาเฟียเข้าไปในบ้าน ก่อนที่เขาจะนั่งลงที่ห้องรับแขก สายตามองไปรอบๆบ้าน โดยที่ไปสะดุดตาเข้ากับ ดานีน ที่กำลังเดินเข้าไปหยิบน้ำจากในตู้เย็น และพยายามเอื้อมหยิบแก้วที่อยู่สูงขึ้นไปบนชั้น
มาเฟียเดินเข้าไปด้านหลังก่อนหยิบแก้วใบนั้นที่ดานีนพยายามจะหยิบ แต่อกแกร่งกลับชนเข้ากับหลังของหญิงสาว ทำให้เธอสะดุ้งเล็กน้อย และรู้สึกแปลกๆ
” ระวังหน่อย สูงขนาดนี้แก้วมันจะหล่นใส่เอา“
มาเฟียยื่นแก้วที่เพิ่งหยิบให้ดานีน ที่หันกลับมาเผชิญหน้ากับอกแกร่งของเขาในระยะกระชั้นชิด
” ขอบคุณค่ะพี่มาเฟีย....“
กลิ่นน้ำหอมที่ทำเอาดานีน ใบหน้าเห่อร้อน เพราะนี่เป็นครั้งแรก ที่เขาเห็นพี่ชายของมารีนใกล้ๆแบบนี้