เล่ห์รักโบตั๋น

145.0K · จบแล้ว
หานซิวหรูอวี่
53
บท
3.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

หลินลู่ซิงสตรีผู้งดงามราวกับดอกโบตั๋นถูกกำหนดให้ต้องแต่งงานกับเซี่ยเฟยหรงบุรุษรูปงามที่เย็นชาราวกับน้ำแข็งแทนพี่สาวของนางที่หนีไปกับชายคนรัก นางไม่อาจเลี่ยงชะตานี้ได้ เขาเลือกที่จะแต่งงานกับนางด้วยเงื่อนไขที่ว่า “ข้ามีคนรักอยู่แล้ว” แม้จะต้องลำบากใจแต่นางกลับไม่มีทางเลือก การแต่งงานที่ไร้รักแต่อย่างน้อยก็เห็นแก่บิดามารดาเพื่อรักษาชีวิตความปลอดภัยของครอบครัว และไม่อาจขัดราชโองการได้ อีกอย่างข้อเสนอของเขาก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร ในเมื่อไม่อาจฝืนก็จำเป็นต้องก้าวต่อไปแม้ว่าอนาคตจะต้องเจ็บปวดก็ตาม

นิยายจีนโบราณรักหวานๆจีนโบราณโรแมนติก18+คนในใจแฮปปี้เอนดิ้งคู่หมั้นหญิง

บทที่ 1

เมืองหลวง วสันตฤดูมาเยือน พืชพันธุ์ต่างพากันออกผลิดอกออกผลให้ชื่นตา แต่ทว่าความร้อนระอุภายในสกุลหลิวกลับทวีขึ้น

“ข้าไม่แต่ง ไม่ยินยอมที่จะแต่งให้สกุลเซี่ย”

“เจ้าต้องแต่ง ยินยอมหรือไม่เจ้าก็ต้องแต่ง”

เสียงคนเถียงกันดังออกมา จวนสกุลหลินวันนี้ แม้ภายนอกจะดูเย็นสบายหลังฝนชุ่มฉ่ำมาทั้งคืน แต่บรรยากาศภายในจวนดูร้อนกว่าปกติเป็นพิเศษ ต้นเหตุของเสียงดังมาจากนายท่านหลิน ‘หลินถิงอวี่’ ทะเลาะกับคุณหนูเล็ก ‘หลินลู่ซิง’ ยังคงดำเนินต่อไป

“ทำไมข้าต้องแต่ง ในเมื่อท่านพี่ก็หนีไปแล้ว ท่านพ่อก็ไปยกเลิกการแต่งงานเสียเถอะ”

“ไม่ได้ พี่เจ้าไม่รักดี หนีตามบัณฑิตตกอับไป ทิ้งให้ข้าต้องมาแก้ปัญหา โชคยังดีที่คุณชายสามขอร้องฮ่องเต้ให้พระราชทานสมรสกับเจ้า ไม่เช่นนั้น ชื่อเสียงสกุลหลินคงป่นปี้ไปแล้ว”

“ท่านพ่อไม่รักข้า ทำไมต้องบังคับให้ข้าแต่งงานด้วย”

“หากเจ้าไม่ทำ ข้าก็คงไม่อาจสู้หน้าบรรพบุรุษในปรโลกได้หรอก”

“ซิงเอ๋อร์ ถือว่าเห็นแก่พ่อและพี่ชายของเจ้า ทำเพื่อสกุลหลินสักครั้งเถอะนะ”

หลินลู่ซิงแม้จะโกรธและไม่ยินยอมเพียงใด นางก็มิอาจขัดท่านพ่อไปได้ หากนางปฏิเสธ เกรงว่าด้วยอิทธิพลของเซี่ยเจียงจวินแม่ทัพผู้สร้างความดีความชอบให้แก่แผ่นดิน หากทำให้เขาขุ่นเคืองขึ้นมา ท่านพ่อของนางก็จะเดือดร้อนไปด้วย แต่นั่นยังไม่เท่ากับการขัดราชโองการ ต้องโดนโทษประหารหลายชั่วโคตร อาจจะถูกลบชื่อสกุลหลินออกจากหน้าประวัติศาสตร์ไปเลยก็ได้

ข่าวลือหนาหูเกี่ยวกับคุณชายสามสกุลเซี่ย อายุน้อยแต่ก็ได้เป็นถึงหัวหน้าองครักษ์อวี่หลิน เซี่ยเฟยหรงมักจะมีชื่อเสียงในทางที่ไม่ดีเท่าไรนัก ลือกันว่าเขาเย็นชา เลือดเย็น และไม่เห็นแก่หน้าใคร และที่สำคัญนิยมชมชอบบุรุษ สาวงามมากหน้าหลายตาตั้งแต่องค์หญิงน้อยใหญ่จนถึงลูกคหบดีก็ไม่อาจทำให้เขาสนใจแม้แต่จะชายตามอง

เดิมทีสกุลเซี่ยส่งคนมาสู่ขอพี่หญิงให้คุณชายสามตามที่ปู่ทั้งสองฝั่งได้หมั้นหมายกันไว้เมื่อนานมากแล้ว หากแต่เมื่อผู้เป็นปู่ของทั้งสองฝั่งสิ้นชีวิตลงก็ขาดการผู้ที่จะเชื่อมสัมพันธ์ และขาดการไปมาหาสู่กันอย่างครั้งเก่าก่อน และเมื่อฝ่ายหนึ่งมาทวงคำสัญญา ท่านพ่อก็ตอบตกลงทันทีโดยไม่ถามความสมัครใจของพี่หญิง พี่หญิงเองก็คงจะได้ยินข่าวลือเรื่องนี้มามาก จึงตัดสินใจหนีตามบัณฑิตอู๋ไปสุดหล้าฟ้าเขียว

ข้าเข้าใจท่านนะพี่หญิง

ใครอยากจะยอมทิ้งความสุขชั่วชีวิตเพื่อคนที่ไม่อาจจะรักกันได้ลง มิสู้หลีกลี้หนีหายไปอยู่กับคนที่รักไม่ดีเสียกว่าหรอกหรือ แต่เหตุใดพี่หญิงต้องปล่อยให้ข้าเป็นผู้รับชะตากรรมนั้นด้วยเล่า

ที่หลินลู่ซิงไม่เข้าใจคือคุณชายสามเซี่ยเฟยหรง เขาคิดการณ์อันใดถึงได้ขอพระราชทานสมรสกับนาง ในเมื่อนางกับเขาไม่เคยได้พบเจอกันเลยสักครั้งเดียว

เอาเถิด...ในเมื่อมันเป็นชะตาที่ถูกกำหนดไว้แล้วก็คงจะหลีกเลี่ยงอะไรไม่ได้ แต่นางจะไม่มีทางยอมรับชะตากรรมถูกกระทำเพียงอย่างเดียวหรอกนะ

“เสี่ยวหลัน นำรถม้าออก ข้าจะไปหาพี่ใหญ่” หลินลู่ซิงสั่ง ลู่หลันสาวใช้คนสนิทของนาง

สกุลหลินเป็นช่างฝีมือในราชสำนักมาหลายชั่วอายุคนและรับใช้ราชสำนักจนได้ปูนบำเหน็จรางวัลมากมาย แต่ก็ขึ้นชื่อในเรื่องความซื่อสัตย์และถ่อมตน ท่านพ่อของนางนั้นเป็นคนอ่อนโยนและไม่เด็ดขาด อีกทั้งฝีมือนั้นยังไม่เทียบเท่าคนในตระกูลหลินครั้งเก่าก่อน จึงทำให้มีเพียงตำแหน่งเล็ก ๆ เท่านั้น โชคดีที่ท่านแม่ให้กำเนิดลูกชาย พี่ชายของนาง “หลินคุน” จึงได้เรียนรู้วิชาความรู้จากท่านปู่ตั้งแต่เด็ก และสามารถที่จะสืบสานฝีมือช่างของตระกูลต่อไป ส่วนแม่ของนาง “ซ่งซื่อ” นามเดิม “ซ่งเจียอี” มาจากสกุลซ่ง เป็นสกุลคหบดี ทางบ้านของหลินลู่ซิงจึงจัดได้ว่ามีฐานะค่อนข้างดี

รถม้าเคลื่อนออกจากลานถนนกว้างใหญ่ของสกุลหลินไปสู่ย่านการค้าของเมืองหลวง ผู้คนแออัดจอแจเต็มท้องถนนผ่านไปมาที่ หอธารใส สำนักช่างของหลินคุน

ด้านหน้ามีหญิงสาวนางหนึ่งทำท่าทางลับ ๆ ล่อ ๆ อยู่หน้าประตู

“หลีกทางให้คุณหนูหลินด้วย”

หญิงผู้นั้นมีสีหน้าตกใจเล็กน้อยและหันมาคำนับทักทายนาง

“ไม่ทราบว่า ท่านคือ แม่นางหลิน หลินลู่ซิง ใช่หรือไม่” หญิงผู้นั้นเอ่ยถาม สีหน้าเศร้าสร้อยพลันมีรอยยิ้มอาบเมื่อได้เห็นหน้าหลินลู่ซิง

“ใช่แล้ว ข้าคือหลินลู่ซิง...ไม่ทราบว่าแม่นางน้อย ท่านคือ...”

“ผู้น้อยมีนามว่า “จางจื่อรั่ว” เป็นคนสกุลจาง บุตรสาวของท่านหมอจางเฉิง”

“ที่แท้ก็ลูกสาวท่านหมอจาง ท่านมีธุระอันใดถึงได้มาทำลับ ๆ ล่อ ๆ อยู่ตรงนี้”

“ผู้น้อยขออภัย เพียงแต่ ได้ยินชื่อเสียงของคุณหนูหลินมานานแล้ว และที่มาวันนี้มีเพราะเรื่องจะขอร้องท่าน”

“ขอร้องข้า?

“งั้นเชิญด้านในก่อน เข้าไปคุยด้านในจะสะดวกกว่า”

“เสี่ยวหลัน เจ้าไปเตรียมของว่างให้ข้าในสวน ข้าจะไปคุยกับแม่นางจางที่นั่น”

“เจ้าค่ะ คุณหนู”

สาวใช้นำของว่างและน้ำชามาจัดวางไว้ที่สวน

“คุณหนูจาง ท่านทานน้ำชากับขนมนี่ก่อน ข้าเป็นคนทำเอง”

“ขอบคุณคุณหนูสาม ท่านช่างมีน้ำใจยิ่งนัก”

“ไม่ทราบว่าท่านจะให้ข้าช่วยเรื่องอันใด”

“เรื่องนั้น คือว่า..”

จางจื่อรั่วหยิบกล่องเล็กในห่อผ้าออกมา

“ปิ่นหยกชิ้นนี้ เป็นของที่ท่านแม่ทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้า ทว่า ท่านพ่อตั้งใจจะยกให้ข้าตอนออกเรือน แต่ว่าข้าสับเพร่าทำมันตกจนเสียหาย ข้าต้องการซ่อมมัน”

“ซ่อมมัน ทำไมท่านไม่บอกพี่ชายข้าล่ะ เขาย่อมซ่อมมันได้อยู่แล้ว”

“ข้า...”

“ข้าปฏิเสธนางเอง” เสียงเข้มมาจากทางด้านหลัง ชายหนุ่มท่าทางสุขุมและมีใบหน้าดั่งรูปวาด ข่าวลือว่าคุณหนูหลินใบหน้างดงามแล้ว แต่ทว่าคุณชายหลินเองก็งดงามไม่แพ้กัน

“คุณชายหลิน...”

“แม่นางจาง..เหตุใดท่านยังดึงดัน...” คิ้วทั้งสองข้างขมวดเป็นปม และสีหน้าคล้ายจะดุเจ้าของปิ่น

“ข้า...หากซ่อมมันไม่ได้ ข้าก็อาจจะไม่ได้แต่งงานกับท่านผู้นั้น” จางจื่อรั่วพูดเสร็จก็คุกเข่าลงที่พื้น

หลินลู่ซิงรีบประคองนางให้ลุกขึ้น “ท่านลุกขึ้นก่อน มีอะไรค่อยพูดค่อยจากัน”

นางสังเกตุเห็นอาการของพี่ชายที่ค่อนข้างไม่พอใจเนื่องจากโดนบีบให้ทำเพราะรู้สึกสงสาร

“แม่นางจาง วันนี้ท่านกลับไปก่อนเถอะ อีกสองวันข้าค่อยให้คำตอบท่าน

“แต่ว่า..” จางจื่อรั่วยังมีสีหน้ากังวลใจ แต่ก็ไม่อาจฝืนคำพูดของหลินลู่ซิงได้ “ถ้าเช่นนั้น ข้าขอฝากมันไว้กับท่านก่อน” นางส่งกล่องบรรจุปิ่นให้หลินลู่ซิง คำนับลาก่อนจากไป

“ท่านพี่ เหตุใดท่านจึงไม่ยอมช่วยนาง” หลินลู่ซิงถามด้วยความสงสัย

“เจ้าลองดูหยกนี่ดี ๆ สิ” หลินคุนนั่งลงจิบน้ำชาและหยิบขนมเข้าปาก

หลินลู่ซิงเปิดกล่องและค่อย ๆ หยิบปิ่นหยกออกมา ค่อย ๆ พิจารณาดู แล้วก็มีสีหน้าตกใจ

“นี่มัน..เหตุใดนางจึงมีของล้ำค่าเช่นนี้”

“ข้าเองก็ตกใจในตอนแรกที่เห็นมัน แค่หยกน้ำแข็งก็มีมูลค่ามากพอตัวอยู่แล้ว แต่นี่ยังมุกราตรีประดับอยู่ด้วย หากคนที่ไม่รู้มองด้วยตาเปล่าก็คงจะคิดว่าเป็นหยกธรรมดา หากแต่ผู้ที่รู้ก็คงสงสัยเช่นเดียวกับข้า”

“สตรีนางนี้ดูแล้วไม่ธรรมดา ย่อมต้องมีเบื้องลึกเบื้องหลังอย่างแน่นอน ซิงเอ๋อร์เจ้าให้คนไปสืบดูหน่อยว่านางกับหมอจางมีเบื้องลึกเบื้องหลังอย่างไรกันแน่ แล้วแม่นางจางหมั้นหมายกับผู้ใด”

“เจ้าค่ะ ท่านพี่แล้วปิ่นหยก...”

“ปิ่นหยกนี่ ต่อให้ข้าอยากซ่อมก็คงซ่อมไม่ไหว หยกที่แตกไปแล้วยากที่จะเชื่อมต่อ หาหยกน้ำแข็งอันใหม่ก็คงจะเกินราคาที่จะจ่ายไหว หากจะซ่อมก็คงต้องใช้วัสดุอื่นเสริมเข้าไป แต่ก็ทำให้รูปลักษณ์ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป”

หลินคุนส่ายหน้าด้วยความหนักใจ เขาเองประเมินแล้วว่ามันไม่คุ้มค่าที่จะเสี่ยง เพราะเบื้องหลังที่ไม่ชัดเจนของมัน ยิ่งทำให้เขาไม่อยากแตะต้องด้วย

เขาหันมามองน้องสาวด้วยความสงสัย “มาหาข้าวันนี้ มีเรื่องอันใด หรือว่าทะเลาะกับท่านพ่อมาอีก”

หญิงสาวหน้ามุ่ย วันนี้นางอยู่ในชุดงดงาม แต่สีหน้าของนางในตอนนี้ดูช่างขัดกับชุดเสียจริง

“ท่านพ่อจะบังคับให้ข้าแต่งงานกับตระกูลเซี่ย ท่านพี่ต้องช่วยข้านะ” นางเกาะแขนพี่ชายและทำสีหน้าอ้อนวอน ครานี้หญิงสาวที่ดูเป็นผู้ใหญ่มีความคิดต่อหน้าผู้อื่นกลับกลายเป็นเด็กสาวที่งอแงต่อหน้าผู้เป็นพี่

“ข้าก็อยากจะช่วยเจ้านะ แต่ว่าข้าจะเอาอะไรไปสู้กับเขา ขัดราชโองการโทษประหารเชียวนะ อีกอย่างเจ้าก็ถึงวัยที่ต้องออกเรือนแล้ว เหตุใดจึงไม่ยินดีเล่า”

“ท่านพี่ก็ถึงวัยที่ต้องมีครอบครัวแล้ว เหตุใดยังไม่มีแม่นางผู้ใดได้ใจท่านพี่ไปเล่า”

“เจ้า..นี่เจ้ากำลังยอกย้อนพี่อยู่”

“ข้าเปล่า ข้าเพียงแต่พูดความจริง”

หลินคุนมองน้องสาวแล้วก็ได้แต่ส่ายหน้า “ข้าคงช่วยอะไรเจ้าไม่ได้หรอก แต่ถ้าทำได้สักอย่าง ก็คงเป็นทำเครื่องประดับเป็นของขวัญให้เจ้าในวันแต่งงาน”

“ท่านพี่!! ก็ข้าบอกแล้วว่าไม่อยากแต่ง”

“น้องรองก็หนีไปแล้ว ที่จริง มันก็ไม่ใช่ความผิดของเจ้าหรอก แต่ว่าสกุลเซี่ยเองก็ต้องการที่จะแต่งงานกับเจ้า เจ้าไม่ลองพบหน้าเขาดูสักครั้งหนึ่งก่อนเล่า ถ้าหากหาข้อบกพร่องของเขาได้ เจ้าอาจจะไม่ต้องแต่งงานกับเขา”

“จริงด้วย ทำไมข้าคิดไม่ถึงเรื่องนี้นะ ข้าควรพบเขาสักครั้งหนึ่งก่อน ขอบคุณท่านพี่มาก ข้าขอตัว” พูดจบนางก็รีบลุกออกไป หลินคุนมองตามน้องสาวด้วยความงุนงง อะไรของนาง นึกจะมาก็มา จะไปก็ไป

ที่จวนสกุลหลิน หลินถิงอวี่กำลังอารมณ์เสียค้างจากการทะเลาะกับลูกสาวตั้งแต่เช้าจนบ่าวไพร่เข้าหน้าไม่ติด แต่ก็ต้องตกใจเมื่อได้ยินเสียงบุตรสาวตัวดีตะโกนเรียก

“ท่านพ่อ ท่านพ่อ ท่านอยู่ไหนเจ้าคะ”

“ข้าอยู่นี่ เจ้ามีอะไร เอะอะโวยวายเสียงดัง”

“ข้ามีเรื่องจะคุยกับท่าน ข้าอยากเจอคุณชายเซี่ยสักครั้งหนึ่ง”

หลินถิงอวี่ที่จิบชาอยู่ถึงกับสำลักพรวด “อยากเจอคุณชายเซี่ย?..นี่เจ้าเป็นเสียสติไปแล้วหรือ เมื่อเช้าเจ้ายังเกลียดขี้หน้าเขาอยู่เลย”

“เกลียดที่ไหน ท่านพ่อก็พูดเกินไป ข้าแค่ยังไม่รู้จักเขาเท่านั้นเอง ท่านพ่อช่วยนัดเขาให้ข้าสักหน่อยได้หรือไม่ ข้าอยากพบกันก่อนที่จะแต่ง จะได้เตรียมตัวเตรียมใจ”

“ย่อมได้ พ่อบ้านหลิว ท่านช่วยส่งหนังสือเชิญคุณชายสามตระกูลเซี่ยมาดื่มชากับข้าที่บ้านที”

“ขอรับนายท่าน” พ่อบ้านสกุลหลินรับคำสั่งเสร็จก็ออกไปทันที

“พอใจเจ้าหรือยัง เจ้าตัวดี ข้าเชิญเขามา เจ้าก็อย่าทำเสียเรื่องล่ะ”

“แน่นอนท่านพ่อ ข้าย่อมไม่ทำให้ท่านผิดหวัง”

รอยยิ้มที่หายไปเริ่มปรากฏบนใบหน้าของหลินลู่ซิงอีกครั้ง นางเตรียมแผนการที่จะจับผิดเขาไว้ในหัวตั้งแต่นั่งรถม้ากลับมาที่จวนเรียบร้อยแล้ว ที่เหลือก็แค่รอเวลาเพียงเท่านั้น