คนที่หวนกลับมา(2)
ขณะที่นาวินกำลังเพลิดเพลินอยู่กับหนังเรื่องโปรด เสียงหน้าประตูก็ดังขึ้น เขาสวมสลิปเปอร์ เดินลากเท้าด้วยท่าทางเกียจคร้านไปทางประตู หน้าจอฉายให้เห็นผู้ที่มาเยือน ทำให้ชายหนุ่มนิ่งชะงักไปชั่วขณะ
เขาค่อยๆเปิดประตูอย่างระมัดระวัง สายตาเรียบนิ่งมองไปยังคนรักเก่าที่ยืนอยู่ตรงหน้า
“มิลิน คุณมาที่นี่ทำไม”
เขารู้สึกงุนงงที่เห็นหญิงสาวอยู่ที่นี่ ปกติคอนโดนี้เป็นพื้นที่ส่วนตัวของเขากับวรดา น้อยคนที่จะรู้ว่าเขาอาศัยอยู่ที่นี่
“ขอลินเข้าไปข้างในได้ไหมคะ”
ชายหนุ่มลังเลแต่เมื่อเห็นสภาพหญิงสาวเขาก็ยอมเปิดประตูให้เธอเข้าไปด้านใน มิลินรูปร่างซูบผอม ดวงตาลึกโบ๋ ใบหน้าซีดเซียว ดูไร้เรี่ยวแรงคล้ายกับ คนป่วย
นาวินมองดูหญิงสาวที่เดินเยื้องย่างเข้ามาในห้อง เธอค่อยๆนั่งลงที่เก้าอี้ ทำท่าราวกับว่าเหนื่อยมากทั้งที่เดินเข้ามาในระยะไม่ถึงสองเมตร
“คุณมีธุระอะไรกับผม”
ชายหนุ่มเอ่ยถามไม่อ้อมค้อมระหว่างนั้นก็สังเกตท่าทางของแขกไปด้วย นาวินมองดูเวลายังเหลืออีกหลายชั่วโมงก่อนที่วรดาจะกลับมา เพราะฉะนั้นเขาจะต้องรีบคุยกับมิลินให้เรียบร้อยและให้หญิงสาวกลับไป เพราะไม่ต้องการให้คนรักมาเห็นว่าเขาอยู่ในห้องกับแฟนเก่าเพียงลำพัง
“ลินกลับมาอยู่เมืองไทยแล้ว คือตอนนี้ ลินเป็นมะเร็ง เป็นมะเร็งระยะสุดท้าย”
ท่าทีของชายหนุ่มเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ทันทีที่เขารู้ว่าหญิงสาวเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ม่านตาก็ขยายกว้างขึ้น จากที่ไม่สนใจ กลายเป็นว่าตอนนี้เขาไม่สามารถเมินเฉยใส่เธอได้
“ลินไม่รู้ว่าจะอยู่ได้อีกนานแค่ไหน ลินรู้ว่าสิ่งที่กำลังจะขอมันอาจจะทำให้วินลำบากใจ แต่ถือซะว่าช่วยสงเคราะห์คนที่ใกล้ตายแบบลินเถอะนะ”
“คุณอยากให้ผมช่วยอะไร”
ชายหนุ่มเอ่ยถามด้วยท่าทีที่อ่อนลง เขาขยับเข้าไปนั่งใกล้หญิงสาวมองสำรวจเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า มิลินเคยเป็นคนที่สวยมาก แต่สภาพเธอตอนนี้ดูเหมือนคนที่ป่วยใกล้ตายจริงๆ
“ลินอยากใช้เวลาที่เหลืออยู่กับวินได้ไหม ลินขอมากเกินไปหรือเปล่า”
ชายหนุ่มมีสีหน้าลำบากใจ ลำพังตัวเขาคงตัดสินใจไม่ได้ต้องปรึกษากับวรดาก่อน เขาไม่ได้อยากทำร้ายจิตใจคนป่วย จึงไม่ได้ปฏิเสธในทันที
“ทำไมคุณถึงอยากมาอยู่กับผม”
ชายหนุ่มเอ่ยถาม เขาไม่ได้เคลือบแคลงสงสัยอะไรในตัวหญิงสาวเพียงแค่อยากรู้เท่านั้น มิลินเเกล้งไอจนตัวโยน นาวินที่เห็นแบบนั้นก็รีบไปหาน้ำมาให้เธอดื่ม
“ลินแค่นึกถึงช่วงเวลาที่เราเคยอยู่ด้วยกัน ตอนนั้นลินมีความสุขมาก และอยากสัมผัสความสุขแบบนั้นอีกสักครั้งก่อนตาย”
หญิงสาวเอ่ยเสียงแผ่ว เอนกายพิงพนัก หลับตาลงและหอบหายใจเล็กน้อย นาวินเห็นท่าทางไม่ค่อยดีจึงอาสาจะพาเธอไปส่งที่โรงพยาบาล แต่หญิงสาวไม่ได้ต้องการแบบนั้น เธอรู้อยู่แล้วว่าอย่างไรชายหนุ่มก็ต้องทำแบบนี้จึงได้เตรียมข้ออ้างเอาไว้
“ลินไม่ไปโรงพยาบาลนะ ก่อนตายขอให้ได้อยู่ในที่ที่อยากอยู่ แต่ถ้าวินไม่โอเค ลินกลับก็ได้นะ”
“เดี๋ยวก่อนลิน”
เขาเป็นห่วงความรู้สึกของวรดา แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ไม่สามารถทำร้ายความหวังครั้งสุดท้ายของอดีตคนรักได้
มิลินกำลังป่วยหนัก เธอพร้อมที่จะจากไป ทุกเมื่อ เพราะฉะนั้นหากเขาอธิบายให้วรดาฟังอย่างไรเธอก็ต้องเข้าใจและเห็นใจ เขารู้จักนิสัย คนรักดี เธอเป็นคนโอบอ้อมอารีและชอบช่วยเหลือ คนอื่นอยู่เสมอ ที่สำคัญยังเป็นคนที่มีมนุษยธรรม ยามเห็นใครลำบากก็ยินดีที่จะหยิบยื่นความช่วยเหลือให้