บท
ตั้งค่า

3. รู้สึกผิด

“พี่รู้ว่าคุณคีรินเขารักและดีกับพี่มาก…พี่ถึงไม่กล้าที่จะบอกความจริงกับเขาไง และพี่ก็ให้เขารู้เรื่องที่พี่ท้องกับภามเขาไม่ได้…เพราะฉะนั้นธิชาช่วยเก็บเรื่องนี้เป็นความลับได้ไหม ถือว่าช่วยพี่นะธิชา.. ” แพรไหมพูดบอกไปแล้วก็ทำหน้าเศร้าๆออกมา เพราะถ้าเธอบอกความจริงกับเขาไป เขาต้องรับไม่ได้แน่ๆ และคนที่จะเดือดร้อนก็คือภัคพลคนรักของเธอ ซึ่งเธอยอมให้มันเป็นแบบนั้นไม่ได้

“ธิชาว่าพี่ไหมบอกความจริงแล้วหย่ากับคุณคีรินเขาเถอะค่ะ แล้วพี่ก็ไปอยู่กับพี่ภามผู้ชายที่พี่รักซะ ธิชาว่าแบบนั้นน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้วนะคะ…” ชลธิชาพูดบอกไปเพราะเธอไม่อยากจะช่วยพี่สาวโกหกในเรื่องที่มันผิดศีลธรรมอย่างนี้ ขนาดเธอไม่ใช่คีรินเธอยังรู้สึกเสียใจกับการกระทำของพี่สาวเลย

“แต่พี่ไม่อยากจะหย่ากับคุณคีริน…และพี่ก็ต้องการให้เด็กในท้องเป็นลูกของเขา…อย่างน้อยก็จนกว่าภามเขาจะมีสถานะที่มั่นคงกว่านี้ แล้วพี่จะหาโอกาสบอกความจริงกับคุณคีรินเขา…” แพรไหมพูดบอกไปด้วยเสียงจริงจัง เพราะตอนนี้สถานะของภัคพลยังไม่มั่นคงมากพอที่จะรับมือกับคีรินได้ เธอถึงพยายามที่จะช่วยให้ภัคพลเรื่องการประมูล

“พี่ไหมโคตรใจร้ายกับเขาเลยรู้ตัวไหมคะ…” ชลธิชาพูดออกไปด้วยเสียงผิดหวังที่พี่สาวของเธอทำอย่างนี้

“พี่จะใจร้ายยังไงมันก็เรื่องภายในครอบครัวของพี่…ธิชาก็ไม่ควรจะเข้ามายุ่ง…เพราะฉะนั้นลืมเรื่องนี้ไปซะ พี่ไม่เคยมีชู้และลูกในท้องของพี่คือลูกของคุณคีริน…แต่ถ้าธิชาอยากจะทำลายชีวิตพี่สาวตัวเองก็เอาเลย ไปบอกคุณคีรินเขาตอนนี้เลยก็ได้…พี่จะได้หย่ากับเขาแล้วถูกทุกคนตราหน้าว่ามีชู้ ทีนี้ก็คงอายไปยันพ่อแม่ของเรานู้นแหละ…” แพรไหมพูดบอกไปแล้วมองน้องสาวอย่างจดจ้อง เพราะเธอไม่มีวิธีอื่นที่จะทำให้น้องสาวของเธอนั้นเงียบเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกแล้ว และเธอเชื่อว่าน้องสาวของเธอก็ต้องยอม

“ธิชาจะไม่พูดเรื่องนี้กับคุณคีรินหรือว่าใคร แต่พี่ไหมต้องเลิกติดต่อกับพี่ภามแล้วก็เลิกส่งข้อมูลการประมูลอะไรนั่นให้พี่ภามได้ไหมคะ…ธิชาอยากให้พี่เลิกทำเรื่องไม่ดีพวกนี้ซะ เพราะถ้าคุณคีรินเขาจับได้ขึ้นมา ต่อให้ธิชาไม่พูด เขาก็คงรู้ความจริงอยู่ดี…” ชลธิชาพูดออกไปอย่างต่อรองกับพี่สาวของเธออย่างอดไม่ได้

“อืม…พี่จะพยายาม…” แพรไหมพูดไปแล้วพยักหน้าเข้าใจ แต่เธอขอแค่อีกสองสามงานเธอก็จะพอแล้ว เพราะตอนนี้ภัคพลยังต้องการอีกหลายงาน บริษัทของเขาถึงจะฟื้นตัวได้อย่างมั่นคง แล้วจากนั้นเธอก็จะกลับมาเป็นภรรยาที่ดีของคีริน

“ไม่ใช่ต้องพยายามค่ะ แต่พี่ต้องทำให้ได้ เพราะตอนนี้ธิชาเลือกที่จะไม่พูดอะไรแล้ว ต่อไปถ้าเกิดเรื่องอะไรมันก็ขึ้นอยู่กับพี่ไหมแล้วล่ะค่ะว่าจะอยากให้ชีวิตตัวเองเป็นยังไง…” ชลธิชาพูดออกไปเพราะเธอเลือกที่จะเงียบแล้ว เธอก็หวังว่าพี่สาวของเธอจะเลิกทำเรื่องไม่ดีพวกนั้นซะ

“อืม…” แพรไหมพยักหน้าตอบไปอย่างเข้าใจที่น้องสาวพูด เพราะถ้าเรื่องนี้แดงขึ้นมาชีวิตของเธอพังแน่ๆ และเธอจะยอมให้มันเป็นแบบนั้นไม่ได้

จากนั้นไม่นานชลธิชาก็ไปส่งพี่สาวของเธอกลับบ้านของคีริน แล้วเธอก็ขับรถออกมาทันทีเพราะมันก็เย็นแล้วเธอกลัวว่าจะเจอคีรินเขา เนื่องจากเรื่องที่พี่สาวของเธอทำมันทำให้เธอนั้นไม่กล้าที่จะมองหน้าของเขาเลย และเธอก็เลือกที่จะไปนั่งดื่มที่รูฟท็อปของโรงแรมสุดหรูอย่างต้องการระบายความอัดอั้นที่ต้องช่วยพี่สาวของเธอปิดบังเรื่องที่ไม่ดีเอาไว้อย่างเลี่ยงไม่ได้

สองชั่วโมงผ่านไป…

คีรินก็เดินเข้ามาในรูฟท็อปของโรงแรมที่เขานัดทานดินเนอร์กับลูกค้านั้นสายตาของเขาก็ไปสะดุดกับสาวที่นั่งหันหลังอยู่ที่เคาน์เตอร์บาร์อย่างคุ้นๆ…ว่าเธอเหมือนใครสักคนที่เขารู้จัก

“คุณคีรินคะ ทางนี้ค่ะ…” ธนิตาสาวไฮโซคนสวยร้องเรียกคีรินหนุ่มนักธุรกิจชื่อดังที่เธอกำลังจะทำงานร่วมกับเขาด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะยกมือให้เขาได้เห็นว่าเธอนั่งอยู่ที่ไหน

คีรินก็หันหน้าไปมองตามเสียงเรียกแล้วเขาก็ยิ้มตอบไปทันที ก่อนจะละความสนใจจากผู้หญิงคนนั้นแล้วเขาก็เดินเข้าไปหาลูกค้าของเขาทันที

“สวัสดีครับคุณอุ้ม…ยินดีที่ได้เจอกันอีกครั้งนะครับ…” คีรินพูดทักทายไปแล้วก็เข้าไปจับมือหญิงสาวเป็นการทักทายอย่างมีมารยาท

“ดีใจที่ได้เจอคุณเหมือนกันค่ะ…ไม่คิดเลยว่าฉันไม่ได้กลับไทยแค่ปีกว่าๆคุณก็แต่งงานไปซะแล้ว…ได้ข่าวว่าตอนนี้ภรรยาของคุณกำลังท้องใช่ไหมคะ ยินดีด้วยนะคะคุณคีริน…” ธนิตาพูดทักทายเขาไปด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะแซวเขาที่ตอนนี้ไม่โสดแล้ว มันก็ทำให้เธอนั้นใจแป้วไปเลยเพราะแอบชื่นชมในความหล่อและความสามารถของเขามานานแล้ว

“อ่อครับ…ขอบคุณมากครับ…แล้วนี่คือ…” คีรินพูดไปก็ยิ้มให้เธอไป ก่อนจะหันไปทางผู้ชายอีกคนที่ยืนอยู่ข้างๆธนิตาอย่างอยากรู้ว่าจะใช่คนที่เขาจะมาคุยธุรกิจด้วยหรือไม่

“อ่อ นี่คุณสเตฟานค่ะ…เขาเป็นซัพพายเออร์ที่ต้องการจะซื้อวัสดุก่อสร้างจากบริษัทของคุณค่ะ..คุณสเตฟานคะ นี่คุณคีรินค่ะ…เขาเป็นประธานบริษัทที่คุณอยากจะติดต่อซื้อวัสดุก่อสร้างค่ะ…” ธนิตาพูดแนะนำทั้งสองไปด้วยรอยยิ้ม

“โอ้..ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ ไม่คิดเลยว่าประธานบริษัทจะมาพบผมด้วยตัวเองเลย เป็นเกียรติของผมมากๆเลยครับ…” สเตฟานพูดภาษาอังกฤษไปอย่างยินดีที่ได้เจอนักธุรกิจหนุ่ม

“เป็นเกียรติของผมเช่นกันครับ งานใหญ่แบบนี้แน่นอนว่าผมต้องมาด้วยตัวเองอยู่แล้วล่ะครับ…เชิญนั่งก่อนดีกว่าครับ เราจะได้พูดคุยเรื่องธุรกิจกันแบบสบายๆ…” คีรินพูดไปแบบเป็นกันเองแล้วเขาก็นั่งลงตรงข้ามกับสเตฟานและธนิตาที่เป็นพาร์เนอร์ทางธุรกิจร่วมกัน

จากนั้นทั้งสามก็สั่งอาหารมาทานแล้วก็พูดคุยเรื่องธุรกิจที่สเตฟานนั้นอยากจะมาซื้อวัสดุก่อสร้างจากบริษัทของเขาไปยังตะวันออกกลาง แต่ในขณะที่เขานั่งคุยอยู่สายตาของเขาก็หันไปเห็นว่าผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงนั้นหันหน้ามาพอดี ก็เห็นว่าเป็นชลธิชาน้องเมียของเขา ไม่น่าล่ะเขาถึงได้คุ้นๆ คีรินมองไปแล้วก็หันกลับมาพูดคุยธุรกิจของเขาต่อเพราะเธอก็คงจะออกมาดื่มตามประสาของเธอนั่นแหละ ไว้คุยงานเสร็จแล้วเขาก็ค่อยเข้าไปทักทานเธอก็แล้วกัน…

ด้านชลธิชาที่นั่งดื่มมาตั้งแต่เย็นก็เริ่มรู้ตัวว่าเธอนั้นเริ่มจะมึนๆแล้ว เธอก็คิดว่าเธอนั้นควรที่จะกลับบ้านได้แล้ว เพราะวันนี้เธอมาคนเดียวเธอไม่มีเพื่อนๆหามส่งบ้านแบบที่ผ่านมา ดังนั้นเธอก็ต้องดูแลตัวเองในตอนที่ยังมึนๆแบบนี้

“อ่าวคุณธิชา…ทำไมวันนี้มานั่งดื่มคนเดียวล่ะครับ…เพื่อนๆไปไหนซะล่ะครับ…พวกเขาไม่มาด้วยเหรอ” สินธุหนุ่มไฮโซที่แอบชอบชลธิชาอยู่เดินเข้ามาทักทายเธอด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเข้าไปนั่งเก้าอี้ข้างๆเธอ

“ถ้ามาคุณสินธุก็เห็นแล้วน่ะสิคะ…” ชลธิชาพูดบอกไปแล้วก็มองหน้าเขาอย่างไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่ เพราะเธอไม่ชอบสายตาเจ้าเล่ห์ของเขาที่มองเธอเลย มันไม่น่าไว้ใจเลยสักนิด

“งั้นให้ผมดื่มเป็นเพื่อนละกันนะครับ…น้อง เอาไวน์มาแก้วนึง… คุณมาดื่มคนเดียวแบบนี้ผมว่าคุณอาจจะมีเรื่องไม่สบายใจ ระบายให้ผมฟังได้นะครับ…” สินธุพูดกับเธอแล้วหันไปสั่งไวน์กับพนักงานก่อนจะหันกลับมาพูดกับเธอด้วยรอยยิ้มมุมปาก

“ฉันไม่ชอบเล่าเรื่องส่วนตัวให้คนที่อื่นฟัง ขอตัวนะคะ…” ชลธิชาพูดตอบกลับไปแบบไม่สนใจ ก่อนจะหยิบกระเป๋าของเธอแล้วก็ลุกขึ้นทันที เพราะเธอไม่อยากจะมาเสียเวลากับคนอย่างนี้

“เดี๋ยวสิครับจะรีบไปไหนล่ะ..อยู่คุยกันสักหน่อยสิครับ…อย่าทำเหมือนคนที่ไร้เยื้อใยกันแบบนี้สิครับ…” สินธุจับมือของเธอไว้แล้วก็มองเธออย่างจดจ้อง เพราะเขาพูดแค่นี้เธอก็จะไปแล้ว แบบนี้ไม่ไว้หน้าเขาเลย

“แล้วฉันเคยมือเยื้อใยอะไรให้คุณไม่ทราบคะ กรุณาปล่อยมือแล้วก็หลีกทางให้ฉันด้วยค่ะ” ชลธิชาพูดตอบไปแล้วมองชายตรงหน้าอย่างไม่พอใจที่เขามาทำท่าทางหยาบกร้านแบบนี้ใส่เธอ

ด้านคีรินพอเห็นว่ามีผู้ชายเข้าไปทำท่าทางลวนลามน้องเมียของเขาเขาก็มองอย่างเป็นห่วงทันที เพราะเขาไม่รู้ว่านั่นจะใช่ผู้ชายของชลธิชาหรือเปล่า แต่ดูแล้วเหมือนกับว่าเธอจะไม่ค่อยอยากจะคุยกับผ็ชายคนนั้นเท่าไหร่

“คุณคีรินรู้จักพวกเขาเหรอคะ” ธนิตาเอ่ยถามออกไป เพราะเธอมองตามสายตาของเขาแล้วเห็นว่าเขามองไปทางชายหญิงที่นั่งอยู่ที่บาร์

“ครับ นั่นน้องสาวของภรรยาผมเองครับ…แต่ผู้ชายผมไม่รู้จัก…น่าจะเป็นคนที่น้องภรรยาของผมเขาคุยอยู่มั้งครับ” คีรินพูดออกไปแบบเดาๆ

“ฉันว่าไม่น่าจะใช่นะคะ ดูเหมือนว่าน้องสาวของภรรยาคุณจะไม่ค่อยอยากจะคุยกับเขาเลยนะคะ ดูสิคะ เขาเหมือนไม่ยอมให้น้องภรรยาของคุณไปเลยค่ะ” ธนิตาพูดออกไปตามสถานการณ์ที่เธอเห็น

“งั้นเดี๋ยวผมขอตัวสักครู่นะครับ..เดี๋ยวผมกลับมา…” คีรินได้ยินแบบนั้นก็พูดบอกไปแล้วลุกขึ้นเดินตรงไปหาชลธิชาและผู้ชายคนนั้นทันที สเตฟานก็ทำหน้ามองตามไปแบบงงๆเพราะเขาพูดภาษาไทยแล้วก็ลุกออกไปเลย ทำให้ธนิตานั้นต้องหันมาอธิบายให้สเตฟานเข้าใจแทนคีริน

“ผมก็อยากให้คุณนั่งดื่มกับผมนิดหน่อยเท่านั้น บางทีวันนี้เราสองคนอาจจะไปสนุกด้วยกันก็ได้นะ…” สินธุพูดออกไปแล้วเขาก็มองเธอด้วยสายตาหื่นๆอย่างโลมเลียเลย

“ฝันไปเถอะค่ะ คนอย่างฉันไม่มีวันชายตามองผู้ชายแบบคุณหรอก ปล่อยมือฉันนะคุณ…อย่ามาทำตัวเสียมารยาทกับฉันคุณสินธุ…” ชลธิชาพูดเสียงแข็งกร้าวออกไปก็พยายามดึงมือของเธอออกอย่างไม่ชอบใจ

“พรึบ…ผู้ชายแบบผมมันเป็นยังไงหึ…” สินธุพูดออกไปก็ดึงตัวเธอเข้ามาโอบกอดด้วยสีหน้ายิ้มร้ายๆ เพราะเธอนั้นพูดจาปากเก่งดีเหลือเกิน สงสัยว่าวันนี้เขาจะได้ลากเธอไปสั่งสอนสอนสักหน่อยแล้ว ดูสิว่าโดนเขาจัดแล้วยังจะปากเก่งอีกไหม…

“ก็เป็นผู้ชายหน้าตัวเมียที่ผู้หญิงเขาไม่อยากจะยุ่งด้วยไง…พรึบ…ถ้าอยากให้ผู้หญิงสนใจก็ควรจะทำตัวเป็นสุภาพบุรุษ ไม่ใช่มาลวนลามเขาแบบนี้…” คีรินเดินเข้ามาแล้วเอ่ยพูดด้วยเสียงเข้ม ก่อนจะจับมือของผู้ชายคนนี้ที่โอบเอวชลธิชาอยู่ออกไป แล้วเขาก็ดึงชลธิชามายืนข้างหลังเขา

“พี่คีริน…” ชลธิชาเรียกชื่อของคีรินอย่างอึ้งๆ เพราะตอนนี้เขาเหมือนพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยเธอเลย แต่ให้ตายเถอะ ทำไมเธอต้องมาเจอเขาในสถานการณ์แบบนี้ด้วยนะ

“แล้วคุณมายุ่งอะไรด้วย หรือว่าคุณเป็นหนึ่งในผู้ชายของคุณธิชาเขา…หึ ก็คงจะใช่สินะไม่งั้นคงไม่แส่เข้ามายุ่งแบบนี้…” สินธุพูดออกไปเพราะเขาไม่รู้จักผู้ชายคนนี้ แต่เขามาทำท่าทางไม่พอใจแบบนี้ก็คงจะเป็นหนึ่งในผู้ชายของชลธิชาแน่ๆ

“ผมจะเป็นอะไรกับธิชามันก็ไม่ใช่เรื่องที่คุณจะมาสอดรู้สอดเห็น ถ้าไม่อยากมีเรื่องก็ไปซะ อย่าทำให้ผมหมดความอดทน” คีรินพูดไปแล้วเขาก็มองผู้ชายตรงหน้าแบบดุๆอย่างพร้อมที่จะมีเรื่องด้วย

“ผมไม่ได้กลัวคุณหรอกนะ แค่ยอมให้เพราะที่นี่คนเยอะต่างหาก…” สินธุพูดออกไปแล้วเขาก็มองชายตรงหน้าสลับกับชลธิชาอย่างจดจ้องก่อนจะเดินออกไป

“ขอบคุณนะคะพี่คีริน…” ชลธิชาเอ่ยพูดออกไปเบาๆเมื่อสินธุเดินออกไปแล้ว เธอก็รีบขอบคุณคีรินทันที

“อืม…แล้วนี่ธิชาปล่อยให้มันลวนลามทำไมหึ…” คีรินหันมาหาเธอที่อยู่ข้างหลังเขาแล้วเขาก็เอ่ยพูดออกไปอย่างเป็นห่วงเธอ

“ธิชาไม่ได้ปล่อยให้เขาลวนลามธิชานะคะ ธิชาพยายามจะหนีแล้วแต่เขาก็ทำอย่างที่พี่คีรินเห็น ถ้าพี่คีรินไม่เข้ามาธิชาก็คงจะจัดการเขาไปแล้วล่ะค่ะ” ธิชาพูดบอกไปเพราะเธอก็สามารถจัดการสินธุได้เหมือนกัน

“เหรอ…แค่นั่นยังโดนมันกอดเลย จะเอาอะไรไปจัดการมันหึ ตัวเราก็เล็กแค่นี้น่ะ..แล้วนี่มานั่งดื่มอะไรคนเดียวหึ…ทำไมไม่มากับเพื่อน” คีรินพูดไปก็เอามือขยี้ผมของเธออย่างเอ็นดู ก่อนจะเอ่ยถามเธอไป

“ธิชาอยากมานั่งคิดอะไรคนเดียวเงียบๆน่ะค่ะ นี่ธิชาก็จะกลับแล้วถ้าคุณสินธุเขาไม่เข้ามาก่อกวนซะก่อน งั้นธิชากลับเลยก็แล้วกันนะคะ…” ชลธิชาบอกไปด้วยสีหน้าเศร้าลง เพราะที่เธอมาดื่มคนเดียวก็เพราะว่าเธออึดอัดใจที่ต้องมาช่วยพี่สาวของเธอปกปิดเขาเรื่องภัคพลและเรื่องเด็กในท้องนี่แหละ พอนึกขึ้นได้เธอก็รีบขอตัวทันที

“พี่ไม่ไว้ใจกลัวว่าไอ้หมอนั่นมันจะไปดักรอเราข้างนอก เดี๋ยวพี่กลับไปลาลูกค้าแปปนึงแล้วพี่จะไปส่งธิชากลับเอง…” คีรินพูดบอกไปด้วยเสียงอ่อนโยน

“เขาไม่น่าจะมาดักรออะไรธิชาแล้วมั้งคะพี่คีริน ธิชากลับเองดีกว่าค่ะ พี่คีรินทำงานของพี่ไปเถอะค่ะไม่ต้องห่วงธิชานะคะ” ชลธิชาพูดบอกไปแล้วเธอก็ยิ้มให้เขาอย่างเกรงใจ

“ไม่ได้…อย่าดื้อสิเราน่ะ พี่บอกว่าจะไปส่งก็คือไปส่ง เราเป็นน้องสาวของไหมก็เหมือนกับเป็นน้องสาวของพี่ เพราะฉะนั้นห้ามปฎิเสธ…ป่ะ ตามมา” คีรินพูดไปก็เดินนำชลธิชากลับไปที่โต๊ะอาหารของเขาทันที

ชลธิชาก็มองตามหลังของเขาไปแล้วถอนหายใจออกมา เพราะเธอสงสารที่คนดีๆอย่างเขาต้องมาถูกพี่สาวของเธอนอกใจนอกกายแบบนี้ ชลธิชาคิดไปก็เดินตามเขาไป

“เรียบร้อยดีใช่ไหมคะคุณคีริน…” ธนิตาเอ่ยถามเขาไปเมื่อเขาเดินมากับน้องภรรยาที่เขาพูดถึง แล้วเธอก็มองหญิงสาวคนนี้อย่างจดจ้องเลย เพราะเธอนั้นดูสวยมากๆ ไม่น่าล่ะถึงได้ถูกผู้ชายคนนั้นตอแยน่ะ ก็เพราะเธอสวยแบบนี้นี่เอง

“เรียบร้อยดีครับ แต่วันนี้ผมคงต้องขอตัวก่อน…ส่วนเรื่องที่เราคุยกันไว้ก็ตามนั้นเลยครับ ผมจะให้ทนายร่างสัญญาแล้วนัดวันเซ็นสัญญากับทางคุณสเตฟานนะครับ” คีรินพูดบอกไปเพราะเขาธุรกิจของเขาและสเตฟานนั้นคุยกันจบไปแล้ว เขาจึงคิดว่าให้จบการพูดคุยลงตอนนี้เลยดีกว่า

“อ่อครับ ได้ครับ…” สเตฟานตอบไปแล้วยิ้มให้คีรินไป เพราะเขาเข้าใจว่าคีรินคงจะเป็นห่วงน้องสาวของภรรยา เขาจึงไม่ได้ว่าอะไรเพราะเรื่องธุรกิจก็คุยกันจบไปแล้วด้วย

ชลธิชาก็พยักหน้ายิ้มทักทายทั้งสองไป แล้วจากนั้นเธอก็เดินออกมาจากรูฟท็อปพร้อมกับคีรินอย่างเลี่ยงไม่ได้

“พี่ไม่ได้เอารถมาพอดี งั้นเดี๋ยวพี่ขับรถไปส่งธิชาแล้วพี่นั่งแท็กซี่กลับก็แล้วกัน…รถเราจอดที่ไหน เอากุญแจมา” คีรินเอ่ยถามออกไปแล้วเขาก็ถอดเสื้อสูทออกมา แล้วก็เอาไปคลุมที่ไหล่ของชลธิชาทันที เพราะเธอใส่เดรสสายเดี่ยวแบบนั้นเขาก็กลัวว่าเธอจะหนาว

ชลธิชาก็หันไปมองแบบงงที่คีรินนั้นเอาเสื้อสูทของเขามาคลุมให้เธอ เธอก็มองเขาอย่างเขินๆเลยเพราะเขาเป็นสุภาะบุรุษมาก ดีขนาดนี้พี่สาวเธอทำไมไม่รักเขานะ หน้ามืดตามัวไปรักคนอย่างภัคพลได้ยังไงกัน ถ้าเธอโชคดีมีสามีดีขนาดนี้ เธอจะไม่นอกใจเลยจริงๆ

“จอดที่หน้าโรงแรมค่ะ เราเดินไปด้วยกันก็ได้ค่ะ ใกล้ๆนี่เอง…” ชลธิชาพูดบอกไปก็รีบเดินนำเขาไปทันที เพราะเธอเห็นหน้าเขาแล้วเธอก็ทำตัวไม่ถูกยังไงไม่รู้

จากนั้นคีรินก็เดินตามชลธิชาไปที่รถอย่างเงียบๆ เพราะเขาเป็นพี่เขยของเธอเขาก็ต้องช่วยดูแลเธอในสถานการณ์แบบนี้อยู่แล้ว ถึงเธอจะเก่งมากแค่ไหนแต่เธอก็ยังเป็นผู้หญิง เธอยังต้องได้รับการดูแลปกป้องจากผู้ชายอยู่ดี…

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel