บท
ตั้งค่า

1. สามีที่อ่อนโยน กับภรรยาที่น่ารัก

ร่างสูงใหญ่ของ “คีริน” หนุ่มนักธุรกิจชื่อดังในแวดวงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศ ก็ก้าวขาลงมาจากรถสูดหรูของเขาด้วยสีหน้ายิ้มอ่อนๆ และด้วยใบหน้าที่หล่อเหลาราวกับเทพบุตรของเขานั้นก็ทำให้นักข่าวสาวๆและเก้งกวางนั้นพากันมองและสะกิดกันอย่างชื่นชอบนักธุรกิจหนุ่มคนนี้เลย เพราะหุ่นและหน้าตาของเขาน่ะน่ากินมากๆ

“หืม….ผู้ชายอะไรน่ากินไปทั้งตัวเลยอ่ะ…” นักข่าวที่เป็นกระเทยคนหนึ่งพูดขึ้นมาแล้วมองนักธุรกิจหนุ่มคนนี้ด้วยสายตาที่หลงใหล

“จริงเจ้…ดูสิ ยิ้มทีหนูจะละลาย หนูอยากเป็นเมียเขาอ่ะ” นักข่าวสาวกระซิบพูดกับนักข่าวรุ่นพี่ที่มาทำข่าวด้วยกันอย่างอดไม่ได้

“ข้ามศพเมียเขาไปก่อนเถอะย่ะ ดูสิ เมียเขามางานด้วยนั่นแถมยังสวยกว่าแกอีกด้วย เขาคงจะสนใจแกหรอกย่ะ….เห้ยแก นี่เมียคุณคีรินเขาท้องแล้วเหรอ…แกรีบถ่ายรูปเอาไว้สิ…” นักข่าวพูดออกไป เมื่อภรรยาของคีรินที่แต่งงานกันไปเมื่อปลายปีที่แล้วนั้นมาด้วย และตอนนี้เธอก็ใส่ราตรีมาซะสวยเชียว แต่ที่เด่นสะดุดตาสุดๆเลยก็คือท้องของเธอที่มันนูนเด่นแบบชัดเขนเลยว่าเธอท้องแน่ๆ

“ก็น่าจะท้องนะเจ้ ใหญ่ซะขนาดนั้น…น้ำยาดีจริงๆ พึ่งจะแต่งงานไปเมื่อปีที่แล้วเอง ปีนี้เมียเขาท้องซะละ..สงสัยจะแซ่บกันน่าดูเลยนะเจ้ว่าไหม” นักข่าวสาวพูดไปก็ถ่ายรูปของนักธุรกิจหนุ่มคนนี้และภรรยาของเขา

“อืม…แซ่บไม่แซ่บเมียเขาก็ท้องแล้วนี่ไงล่ะ แกน่ะไม่ต้องเม้าท์เขาเยอะ รีบๆถ่ายรูปเขากับภรรยาเอาไว้ก่อนเถอะ เขาจะเดินเข้างานแล้วเนี่ย” นักข่าวอีกคนพูดบอกไปแล้วก็มองไปที่นักธุรกิจหนุ่มและภรยาของเขาอย่างชื่นชมเพราะทั้งสองดูรักใคร่กันจนน่าอิจฉาเลย

ด้านคีรินก็เอามือประคองเอวของแพรไหมภรรยาของเขาเอาไว้อย่างระมัดระวัง เพราะตอนนี้เธอท้องใกล้จะคลอดแล้ว ทำให้เขาต้องเฝ้าระวังเธอเอาไว้ จากนั้นเขาก็ยิ้มให้พวกนักข่าวที่กำลังถ่ายภาพของเขาและภรรยาอยู่ด้วยยิ้มหล่อๆ จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปในงานประมูลที่บริษัทของเขานั่นร่วมส่งเข้าประมูลด้วยทันที

“มาแล้วเหรอวะไอ้เพื่อนยาก…นี่เมียแกท้องแก่ขนาดนี้แล้วยังจะพามาอีกเหรอ ทำไมไม่ให้เขานอนพักผ่อนอยู่บ้านวะเนี่ย…สวัสดีครับคุณไหม…” เนวินเพื่อนสนิทของคีรินเอ่ยทักทายเพื่อนหนุ่มและแพรไหมไปอย่างสนิทสนม

“สวัสดีค่ะคุณเนวิน…อย่าว่าคุณคีรินเขาเลยค่ะ ไหมขอตามเขามาดูการประมูลครั้งนี้ด้วยน่ะค่ะ งานสำคัญของคุณคีรินทั้งที ไหมก็ต้องมาช่วยลุ้นด้วยสิคะ…” แพรไหมพูดบอกไปด้วยรอยยิ้ม จนคีรินนั้นยิ้มออกมาอย่างชอบใจที่ภรรยาของเขานั้นพูดจาหวานหูแบบนี้

“หืม….ช่างเป็นภรรยาที่น่ารักจริงๆเลยครับ ไม่น่าล่ะเพื่อนผมมันถึงได้รักคุณไหมแบบนี้ ผมล่ะอยากจะโชคดีมีภรรยาดีๆแบบนี้จังเลยครับ เสียดายที่ผมยังหาเจ้าสาวของผมไม่เจอนนี่สิ แย่เลย…” เนวินพูดไปเพราะในกลุ่มเพื่อนสนิทนั้นเหลือแค่เขาคนเดียวที่ยังโสด ส่วนคนอื่นๆก็ต่างแต่งงานมีลูกมีเมียไปแล้ว

“ก็แกมันกระล่อนปริ้นปล้อนแบบนี้ใครเขาจะเอาไปทำสามีวะ…เลิกเที่ยวเลิกเจ้าชู้เดี๋ยวแกก็หาได้เองแหละเมียน่ะ…แล้วนี่แกได้ข่าวเรื่องการประมูลอะไรมาบ้างวันนี้…” คีรินพูดจิกกัดเพื่อนหนุ่มไป ก่อนจะเอ่ยถามถึงข่าววงในเรื่องการประมูลจากเพื่อนหนุ่ม เพราะของเนวินนั้นเป็นนักการเมืองที่เป็นหนึ่งในกรรมการที่จะตัดสินใจเลือกบริษัทที่จะรับทำโครงการ

แพรไหมได้ยินคีรินเอ่ยถามเรื่องการประมูลก็รีบตั้งใจฟังเลยทันที เพราะที่เธอมาร่วมงานประมูลนี้ก็เพราะเธออยากจะรู้ว่าใครจะได้งานประมูลครั้งนี้ไป ส่วนเนวินก็ทำหน้าอึกอักเพราะไม่รู้ว่าเขาควรจะพูดต่อหน้าแพรไหมได้ไหม เพราะมันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างสำคัญเลย

“อ่อ ถ้าเป็นความลับงั้นไหมยืนรอตรงนู้นนะคะ คุณสองคนจะได้คุยกันได้สะดวก” แพรไหมเห็นเนวินมองเธอแล้วทำหน้าแบบนั้นก็รู้ว่าเขาไม่อยากจะพูดตอนที่เธออยู่ที่นี่ เธอจึงเอ่ยพูดไปแบบนั้น ทั้งที่เธอก็รู้ว่าคีรินไม่มีทางให้เธอห่างจากเขาแน่ๆ

“ไม่เป็นไรไหม มันไม่ใช่ความลับอะไรหรอก… คุณท้องอยู่นะเดินไปมาเดี๋ยวล้มไปจะทำยังไงล่ะ ผมบอกแล้วใช่ไหมว่าถ้าผมให้คุณมาด้วย คุณต้องอยู่กับผมตลอด ห้ามคาดสายตาจากผมน่ะ…คุณอยู่กับผมนี่แหละ…อ่ะ เนวิน ตอนนี้แกรีบบอกข่าววงในได้แล้ว…เดี๋ยวก็จะเริ่มการประมูลแล้วนะโว้ย” คีรินพูดบอกแพรไหมไปอย่างอ่อนโยน ก่อนจะบอกเพื่อนหนุ่มให้พูดได้เลย

“อ่อโอเค…หลังจากที่แกยื่นซองประมูลไปน่ะ เท่าที่ฉันรู้มาก็มีบริษัทแกกับบริษัทของนายชัชวาลคู่แข่งตัวยงของแกแค่สองบริษัทเท่านั้นที่เสนอราคาเป็นที่น่าพอใจน่ะ แต่อยู่ๆก็มีบริษัทน้องใหม่ของนายภัคพลหนุ่มนักเรียนนอกโผล่มากจากไหนไม่รู้มายื่นเสนอราคาพอๆกับแกแล้วก็นายชัชวาลเลย ตอนนี้ก็เลยมีแค่สามบริษัทที่จะถูกพิจารณาน่ะ…” เนวินพูดบอกเพื่อนหนุ่มไป เพราะพ่อของเขาแอบบอกมาแบบนั้น เขาก็แอบเอามาบอกเพื่อนหนุ่มอีกที

“ภัคพล…ลูกของคุณหญิงปลื้มกับคุณกำจรน่ะเหรอ สงสัยว่าหมอนี่จะกลับมารับช่วงต่อจากคุณกำจรแล้ว ฉันได้ข่าวว่าบริษัทของพวกเขากำลังแย่เพราะพวกพนักงานออกมาประท้วงกัน ฉันว่าไอ้หมอนี่ไม่น่าจะเป็นคู่แข่งของฉันในวันนี้ได้หรอก…” คีรินพูดออกไปแบบพอจะรู้จักอยู่บ้าง เพราะอยู่ในแวดวงธุรกิจด้วยกัน เขาก็ต้องรู้จักบรรดาคู่แข่งของเขาอยู่แล้ว ส่วนแพรไหมก็ยืนฟังไปแบบนิ่งๆ

“อย่าประมาทนะไอ้คีริน…อยู่ๆผลักดันบริษัทให้ขึ้นมาเป็นตัวเลือกเทียบเท่าบริษัทของแกกับนายชัชวาลได้ ฉันว่าไอ้หมอนี่มันก็ไม่ธรรมดาแล้วล่ะ..แกระวังไวหน่อยก็ดี…” เนวินเตือนเพื่อนหนุ่มออกไป

“อืม…จะกลัวอะไรกับคนไร้ประสบการณ์แบบนี้วะ…ฉันมั่นใจว่าวันนี้บริษัทของฉันได้งานประมูลครั้งนี้แน่ๆ…แต่ตอนนี้เราไปนั่งกันเถอะป่ะเมียฉันยืนนานไม่ได้ แค่นี้เขาก็เมื่อยจะแย่แล้วมั้ง…” คีรินพูดบอกไปแบบไม่แคร์ เพราะเขาไม่ได้กลัวใครหน้าไหนอยู่แล้ว เพราะเขาสู้สุดตัวแล้วจะแพ้จะชนะเขาก็ยอมรับผลการตัดสิน ขอแค่ไม่โกงหรือเล่นสกปรกก็พอ

“เออๆ ก็ไปสิวะ จะให้เมียแกบ่นออกมาก่อนหรือไงล่ะ…เห้ยๆ เดี๋ยวๆคีริน นั่นไงวะนายภัคพลที่ฉันพูดถึงน่ะ” เนวินพูดประชดเพื่อนหนุ่มไป เพราะมันนั่นแหละที่มาชวนเขายืนพูดอยู่ตรงนี้น่ะ ก่อนจะหันไปเห็นภัคพลเดินเข้ามา เขาก็รีบบอกเพื่อนหนุ่มให้หันไปมองทันที

คีรินก็หันไปมองด้วยสีหน้าเรียบนิ่งอย่างไม่ได้สนใจอะไร ต่างจากแพรไหมที่มองภัคพลด้วยสีหน้าที่ประหม่าจนมือของเธอนั้นเย็นเฉียบเลย

ด้านภัคพลพอเข้าเดินเข้ามาในงานเขาก็เห็นอดีตคนรักของเขานั้นยืนอยู่กับสามีของเธอ ที่เป็นคู่แข่งคนสำคัญของเขาในวันนี้ เขาก็มองเธอแล้วยิ้มเพราะวันนี้เธอนั้นสวยมากๆ แต่เขาก็ไม่สามารถเข้าไปทักทายอะไรเธออย่างออกหน้าออกตาได้ เขาจึงเดินไปอีกทางเพื่อไปนั่งที่โต๊ะของเขา

“ไหม ทำไมมือคุณเย็นจัง คุณหนาวเหรอ…” คีรินก็ไม่ได้สนใจชายหนุ่มที่เดินเข้ามา เขาก็จะพาภรรยาของเขาไปที่โต๊ะเช่นกัน ก่อนจะเอ่ยถามแพรไหมออกไป เพราะแต่มือเธอกลับเย็นจนเขานั้นตกใจเลย

“ค่ะ แอร์มันเย็นนิดหน่อยน่ะค่ะ…” แพรไหมตอบไปแล้วยิ้มแห้งๆให้สามีของเธอไป ทั้งที่เธอไม่ได้หนาวอะไรเลยเธอแค่กลัวว่าความจริงจะถูกเปิดเผยก็เท่านั้นเอง

“งั้นเอาสูทของผมคลุมไว้ก่อนก็แล้วกัน…พรึบ…อุ่นขึ้นมาบ้างไหม…” คีรินรีบถอดเสื้อสูทของเขาคลุมไหล่ของภรรยาทันที ก่อนจะเอ่ยถามเธอแล้วเขาก็เอามือลูบที่ผมของเธอเบาๆอย่างเอ็นดู

จนภัคพลที่แลสายตามองมาทางทั้งสองนั้นถึงกับขบกรามขึ้นเป็นสันนู้นเลยทีเดียว เพราะเขาต้องทนเห็นผู้หญิงที่เขารักเป็นเมียของคนอื่น ใครมันจะไม่เจ็บใจบ้างล่ะ

“ค่ะ ขอบคุณนะคะ…” แพรไหมพูดไปอย่างขอบคุณแล้วก็ยิ้มให้เขาไป เพราะเขานั้นเป็นผู้ชายที่อบอุ่นและดูแลใส่ใจเธอดีมากๆ แต่เธอก็ไม่สามารถรักเขาได้เพราะในหัวใจของเธอรักผู้ชายคนอื่นไปแล้ว

“หึๆ ตอนอยู่กับเมียนี่แกดูอบอุ่นละมุนละไมเชียวนะคีริน ฮ่าๆ มันไม่เข้ากับภาพจำของฉันที่เห็นแกเป็นเสือสิงห์กระทิงที่ดุเลยว่ะ ฮ่าๆ” เนวินพูดแซวออกไปอย่างอดไม่ได้

“แกไม่ต้องมาแซวฉันเลย อีกหน่อยแกมีเมียเดี๋ยวแกก็ต้องเป็นแบบฉันนี่แหละว่ะ ไป ไปนั่งที่โต๊ะกันได้แล้วป่ะ คุณเดินระวังๆนะไหม…” คีรินพูดบอกไปแล้วก็ประคองภรรยาของเขาไปนั่งที่โต๊ะของพวกเขาทันที แล้วเขาก็ดึงเก้าอี้มาให้แพรไหมนั่งแล้วเขาก็นั่งลงข้างๆเธอ โดยมีเพื่อนหนุ่มนั่นตามานั่งด้วย

จากนั้นงานการประมูลก็เริ่มขึ้นโดยพิธีกรก็เอ่ยถึงโครงการที่กำลังจะสร้างตามสคริปไป แล้วตัวแทนคณะกรรมการที่จัดทำโครงนี้ก็ขึ้นไปพูดถึงบริษัทที่ผ่านเข้ารอบนั่นทั้งสามบริษัท ก่อนจะประกาศผลออกมาว่าบริษัทของภัคพลนั้นได้รับการประมูลไป ด้วยงบที่น้อยกว่าบริษัทของคีรินไม่เท่าไหร่ ทำให้คีรินนั้นเจ็บใจมากที่เขานั้นชวดโครงการนี้ไป…

“ไม่เป็นไรนะคะคุณคีริน…โครงการนี้ไม่ได้ เดี๋ยวโครงการหน้าคุณก็ได้ค่ะ…คุณเก่งอยู่แล้ว…” แพรไหมพูดปลอบใจสามีของเธอไปด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน

“อืม…ผมแค่เจ็บใจนิดหน่อยน่ะ แต่ไม่เป็นไร ถือว่าผมช่วยให้น้องใหม่อย่างเขาได้โชว์ฝีมือก็แล้วกัน…” คีรินพูดบอกไป เพราะมันก็ต้องมีแพ้มีชนะกันบ้างเป็นเรื่องธรรมดา แต่เขาแค่เจ็บใจตรงที่ตัวเลขมันห่างกันไม่เท่าไหร่แค่นั้นเอง

“ใจดีจริงๆเลยนะแกน่ะ…ฉันรู้สึกว่าไอ้หมอนี่จะกลายเป็นคู่แข่งของแกอีกคนน่ะสิ…” เนวินพูดบอกไป เพราะอยู่ๆก็เป็นม้ามืดมาประมูลงานได้ไปแบบนี้ เขาว่ามันไม่ธรรมดาแล้วล่ะ

“ก็ไม่แน่…ต้องรอดูต่อไปว่ะ…กลับกันเถอะที่นี่ไม่มีอะไรน่าดูแล้ว…” คีรินพูดบอกไปแล้วเขาก็ชวนเพื่อนหนุ่มกลับ เพราะตอนนี้เขาไม่มีอารมณ์จะมานั่งยินดีกับใคร เพราะตอนนี้ภัคพละกำลังขึ้นเวทีไปพูดขอบคุณที่เขาได้รับโครงการนี้

แพรไหมที่กำลังดูภัคพลขึ้นไปจับมือกับพวกคณะกรรมการก็ยิ้มอ่อนๆออกมาอย่างยินดีกับเขาที่ได้รับทำโครงการนี้ เธอหวังว่ามันจะช่วยให้บริษัทของเขานั้นฟื้นตัวจากสถานการณ์ย่ำแย่ในตอนนี้ได้นะ

“แพร ป่ะ กลับกันเถอะ..” คีรินที่ลุกขึ้นแล้วเห็นภรรยาของเขามองไปทางเวทีแล้วเขาก็เอ่ยเรียกเธอทันที

“อ่อค่ะ…” แพรไหมพูดไปก็ลุกขึ้นแล้วก็จับมือของคีรินแล้วเธอก็แลมองไปทางเวทีแล้วสายตาก็ประสานกับภัคพลแล้วเขาก็ยิ้มให้เธอแล้วพยักหน้าใส่ เธอก็ยิ้มอ่อนๆให้เขาแล้วเธอก็ค่อยๆเดินออกไปจากงานพร้อมกับคีริน

“ไอ้นี่ บทจะกลับก็กลับง่ายๆซะงั้น เฮ้อ…” เนวินพูดออกไปแล้วเขาก็ตามเพื่อนหนุ่มออกไป เพราะวันนี้เขามางานนี้เพราะเพื่อนของเขาเลย แต่เขาไม่คิดว่าเพื่อนของเขาจะชวดงานนี้

หลายวันต่อมา…

รถสปอรตคันสีแดงก็ขับเข้ามาจอดที่ลานจอดหน้าร้านอาหารสุดหรู เพราะวันนี้เธอนัดกับเพื่อนๆทานข้าวเที่ยงด้วยกัน เธอก็ลงจากรถมาแล้วเดินเข้าไปในร้านอาหารแล้วยิ้มอย่างสดใส ทำให้หนุ่มที่นั่งอยู่ในร้านนั้นพากันมองเธอจนยิ้มอย่างเคลิบเคลิ้มเลยทีเดียว จนบางคนที่มากับแฟนถึงขั้นโดนแฟนตีให้ได้สติเลยก็มี

“สวยจนผู้ชายมองเหลียวหลังอีกแล้วนะยัยธิชา แกไม่คิดจะลดความสวยของแกลงบ้างเลยหรือไงยะ…” อังคนาเพื่อนสนิทของชลธิชาเอ่ยแซวเพื่อนสาวไป เพราะทันทีที่เพื่อนสาวเดินเข้าร้านมาออร่าความสวยสง่าก็แผ่มาเลยทันที

“จะลดได้ยังไงล่ะแก ฉันขายเครื่องสำอางนะยะเพราะฉะนั้นฉันก็ต้องดูสวยดูแซ่บตลอดสิ…นี่ฉันก็แต่งแบบอ่อนสุดๆแล้วนะแก ยังดูสวยอยู่อีกเหรอ..” ชลธิชาพูดออกไปแล้วก็ยิ้มให้เพื่อนสาวไป

“ยัง ยังหลงตัวเองไปอีก เฮ้อ ถ่อมตัวบ้างก็ได้ค่ะเพื่อน สวยจริงต้องมีแฟนนะคะ ไม่ใช่โสดระยะยาวแบบนี้ค่ะ…” ชวพรพูดแซวเพื่อนสาวไปแบบจิกกัดตามประสาของเธอ เพราะเธอเปลี่ยนแฟนมาไม่รู้กี่คนแต่เพื่อนของเธอทั้งสองคนของเธอยังโสดอยู่เลย

“คนสวยไม่จำเป็นต้องมีแฟนไหมล่ะแก อยู่แบบโสดๆให้ผู้ชายเสียดายเล่นดีจะตายไป…คนที่ตรงสเปคฉันก็ไม่ได้หามาง่ายๆด้วย” ชลธิชาพูดบอกไปก็นั่งลงตรงข้ามกับเพื่อนทั้งสองของเธอแล้วก็ยิ้มออกไปอย่างสดใส เพราะเธอไม่เจอใครที่ใช่เธอจะเอามาทำไมล่ะ

“ย่ะ…สเปคแกสูงลิ่วขนาดนั้นใครจะไปเข้าตาแกล่ะ…ชาตินี้แกจะมีโอกาสเจอหรือเปล่าก็ไม่รู้…เหมืนอกงมเข็มในมหาสมุทรอ่ะ…” ชวพรพูดไปแล้วมองบนใส่เพื่อนสาวทันที เพราะสเปคที่เพื่อนสาวต้องการน่ะมันดูเพียบพร้อมจนยากที่จะหาในผู้ชายสมัยนี้

“ใครบอกว่าธิชามันไม่เคยเจอผู้ชายในสเปคมันหึ ก็พี่เขยมันนี่ไง…หล่อ รวย หน้าที่การงานดี อบอุ่น เป็นสุภาพบุรุษสุดๆ..แถมยังรักเมียแบบโอเวอร์มาก….” อังคนาพูดบอกไปเพราะสเปคที่เพื่อนสาวชอบนั้นจะออกสไตล์คล้ายๆกับพี่เขยของชลธิชา

“อืม….ดังนั้นพี่สาวของฉันก็เลยโชคดีมากๆเลยที่ได้ผู้ชายอย่างพี่คีรินเขาไปเป็นสามีน่ะ และฉันก็จะต้องหาผู้ชายดีๆแบบนั้นให้ได้เหมือนกัน ตอนนี้ฉันยังไม่สามสิบเลย ยังเลือกเวลาเฟ้นหาอีกเยอะ..แล้วนี่พวกแกสั่งอาหารไปหรือยังเนี่ย..” ชลธิชาพูดบอกไปแล้วยักไหล่แบบไม่สนไม่แคร์ออกไป เพราะเธอยังไม่แก่ถึงขนาดต้องรีบหาแฟนสักหน่อย ก่อนจะเอ่ยถามเรื่องสั่งอาหารไป

“ฉันให้แกเรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวก็คงจะมาแล้วแหละ” ชวพรพูดบอกไป เพราะร้านเป็นร้านที่พวกเธอนั้นชอบมาทานเป็นประจำ ทำให้ทั้งสามรู้ดีว่าเพื่อนชอบทานไม่ชอบทานอะไร

“โอเค งั้นเดี๋ยวฉันไปเข้าห้องน้ำก่อนละกัน…พวกก็นั่งคุยกันไปก่อนละกัน เดี๋ยวฉันมา…” ชลธิชาพูดไปเธอก็ลุกเดินไปทางห้องน้ำที่อยู่โซนข้างร้านด้านหลังทันที ส่วนเพื่อนๆของเธอนั้นก็นั่งพูดคุยกันไปรอเพื่อนสาวกลับมา

ผ่านไปสักพัก ด้านแพรไหมที่นัดเจอกับภัคพลนั้นที่ร้านอาหารของพวกเขาที่ชอบมาทานตอนสมัยเรียนด้วยกัน เธอก็เดินเข้ามาในร้านแบบอุ้ยอ้ายเลยทีเดียวเพราะเธอนั้นท้องใกล้คลอดแล้ว พอภัคพลเห็นเธอเดินเข้ามาในร้านอาหาร เขาก็รีบไปประคองเธอมานั่งที่โต๊ะอาหารของเขาและเธอทันที

ส่วนชวพรและอังคนาก็ไม่ทันได้เห็นแพรไหมเดินเข้ามา เพราะทั้งสองกำลังดูเสื้อผ้าคอลเลคชั่นใหม่ที่อังคนาจะฝากเพื่อนสาวซื้อจากต่างประเทศให้ ต่างจากชลธิชาที่เดินออกมาจากทางห้องน้ำแล้วจะกลับไปหาเพื่อนสาวทั้งสองนั้นก็ถึงกับทำหน้าตกใจเลยทีเดียวที่เธอนั้นเห็นภัคพลนั้นประคองพี่สาวของเธอไปนั่งที่โต๊ะอาหาร

“พี่ไหมมากับพี่ภามได้ยังไง…สองคนนี้เลิกกันไปนานแล้วนิ…” ชลธิชาพูดไปอย่างงงๆ ก่อนจะเอามือปิดบังหน้าแบบเนียนๆในขณะที่ทั้งสองกำลังสั่งอาหารกับพนักงานเข้าไปนั่งด้านหลังโต๊ะของพี่สาวของเธอทันที เพราะเธออยากจะรู้ว่าพี่สาวของเธอมาเจอภัคพลทำไม…

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel