บทที่ 4 ผู้ชายเฮงซวย (2)
“แต่งหน้าแต่งตาจัดจ้าน คิดล่อผู้ชายให้ติดกับ แต่คุณนี่ฉลาดนะ” เขาหยุดพูดเพียงเท่านั้น เหยียดยิ้มเยาะ ก่อนพูดต่อ “นอกจากใช้ความสามารถหาเงินในตอนกลางวัน คุณยังหาเงินพิเศษจากความสวยของตัวเองในตอนกลางคืนอีกด้วย”
“ฉัน…” หล่อนพูดไม่ออก รู้สึกจุกอย่างบอกไม่ถูก ใช่…เขาพูดถูกทุกประการ เพียงแค่ให้ได้มาซึ่งเงินจำนวนมากๆ หล่อนไม่เกี่ยงทั้งนั้นว่าจะเป็นงานอะไร ขอเพียงไม่ผิดกฎหมายเท่านั้นก็พอ
“ทำไม…พูดไม่ออกเลยเหรอไง” หน้าคมยื่นเข้าใกล้อีกนิด ในขณะที่หญิงสาวเม้มปากแน่น แผนการที่ถูกคิดขึ้นอย่างเร่งด่วนปรากฏขึ้นในสมอง สองมือผลักไสอกกว้างอย่างแรงจนเขาเซเล็กน้อยเพราะไม่ทันตั้งตัว สกุณาถลาลงบนพื้นพร้อมโวยวาย
“คุณมันผู้ชายเห็นแก่ตัว ไม่เคยนึกเข้าใจเพศแม่ของตัวเองเลย” มือเรียวคว้าหมับเข้าที่กระเป๋าถือที่ตกบนพื้น นั่งหันหลังตัวสั่นระริก ชายหนุ่มชะงักงัน คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน ค่อยๆขยับเดินไปใกล้ๆ ว่าจะใจอ่อนอยู่แล้วเชียวถ้าหากว่าอยู่ๆหล่อนจะไม่หันขวับมาพร้อมที่ชาร์ตไฟฟ้าในมือ…
คราวนี้เขาไม่ยอมพลาดท่าอีก มือหนาไวกว่าเพราะจับข้อมือเล็กไว้ได้ทัน ออกแรงบิดจนหล่อนอุทานด้วยความเจ็บ เครื่องชอร์ตตกลงบนพื้นใกล้ตัว หน้าหล่อเหลาเครียดขมึงฉุดดึงหล่อนให้ลุกขึ้น
“พิษเยอะนักนะ”
“ปะ ปล่อย ฉัน ฉันขอโทษ แต่ฉันไม่ต้องการขายตัวให้กับใคร ไม่ต้องการจริงๆ ฮือๆ” คราวนี้หล่อนร่ำไห้เหมือนเด็กไร้ที่ไป ชายหนุ่มยืนนิ่ง ก่อนจะดึงร่างอวบเข้าแนบชิดอกกว้าง ก้มลงจุมพิตอย่างดุดันก่อนเปลี่ยนเป็นอ่อนหวาน แทรกปลายลิ้นร้อนเกี่ยวกระหวัดรัดลิ้นนุ่ม…เขาจูบซ้ำแล้วซ้ำอีกจนหล่อนแทบขาดใจ กายสั่นระริกคิดว่าคงต้านทานต่อไปไม่ไหว อยู่ๆเขาก็หยุดการกระทำแสนจาบจ้วงลงพร้อมกระซิบข้างหูเล็ก
“ถ้าไม่อยากเป็นแบบนี้อีก ก็เลิกทำงานนี้ซะ ไม่งั้นภราดรคงเที่ยวเอาคุณไปขายให้ผู้ชายคนอื่นอีก ถ้ารักตัวเองก็เลิกทำ” พูดจบ เขาก็ผลุนผลันจากไป ทิ้งคนตัวเล็กในชุดวาบหวิวที่ค่อยๆทิ้งตัวลงนั่งกองบนพื้นด้วยสีหน้าแดงก่ำสลับกับซีดเผือด
คิดว่าจะไม่รอดอยู่แล้วเชียว ทั้งๆที่เขาเสียเงินไปมากมาย กลับไม่พล่าผลาญพรมจรรย์จากหล่อน ทำแค่เพียงจูบเท่านั้น หากเป็นผู้ชายคนอื่น ป่านนี้หล่อนคงถูกขยี้จนบอบช้ำ
เมื่อเริ่มโล่งใจ มือจึงเลื่อนขึ้นแตะริมฝีปากที่ยังร้อนผ่าวเบาๆก่อนที่น้ำตาจะไหลพรากราวเขื่อนกั้นน้ำพังทลาย…ความลำบากที่ได้รับมาตั้งแต่เล็กดูจะทวีความรุนแรงมากขึ้นทุกวัน และทุกวัน…โดยเฉพาะปีที่หล่อนอายุย่างเข้าสู่25 ความโชคร้ายกลับโหมกระหน่ำราวมรสุมที่พัดพาแต่ความทุกข์และหยาดน้ำตามาให้
เทโรนี่ ดีน มอนดาโดรี่…หลังจากที่หล่อนตัดชุดวิวาห์ให้เขาเสร็จ วันนั้นคงเป็นวันที่หล่อนและเขาจะไม่ได้เจอกันตลอดกาล หล่อนจะต้องพยายามตัดให้เสร็จไวๆ ไม่อยากเจอเขาอีกแล้ว…
กำปั้นใหญ่ซัดโครมเข้าที่ผนังห้อง ความปวดร้าวแล่นจากมือสู่ท่อนแขน แต่หน้าคมกลับไม่คลายความกระด้าง ดวงตาสีน้ำเงินขุ่นคลั่ก ริมฝีปากได้รูปแสยะออกเห็นฟันขาวๆเรียงตัวเป็นระเบียบ…
น่ากลัว พูดได้คำเดียวว่าน่ากลัว ผู้จัดการร้านอาหารได้แต่ยืนตาค้าง ขาสั่นพั่บๆ ไม่คิดว่าลูกค้าหนุ่มจะโกรธจัดถึงเพียงนี้
“กะ โกรธอะไรหรือครับ” ทำใจกล้าถามออกไป ก่อนจะใจหายวูบเมื่อดวงตาคมปลาบตวัดมามอง
“กล้าถามอีกเหรอว่าผมโกรธอะไร คุณหลอกผม”
“ละ… หลอกอะไรเหรอครับ” พยายามทำหน้าไก๋ ดวงตาแอ๊บแบ๊วที่สุดเท่าที่จะทำได้
“ไม่ต้องตีหน้าซื่อ แม่มดกุหลาบไฟยังบริสุทธิ์ผุดผ่อง คุณหลอกผมว่าเธอมั่ว เหลวแหลก เน่าเฟะ”
“อะ เอ่อ…” ภราดรอ้ำอึ้ง แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าสกุณาไม่เคยคิดจะขายตัว แต่เขาก็ไม่นึกอยู่ดีว่าหล่อนจะยังบริสุทธิ์ นึกว่าผู้หญิงวัย25แถมร้อนแรงสะสวยแบบหล่อนจะเคยนอนกับผู้ชายมาบ้างเสียอีก
“ทุเรศ เห็นแก่เงิน” คำหยาบถูกพ่นออกจากริมฝีปากหยักลึก ท่าทางคุกคามของเขาทำให้ผู้จัดการร้านหายใจไม่ทั่วท้อง ได้แต่ยกมือขึ้นไหว้ปะหลกๆ
“ผมขอโทษครับ ขอโทษจริงๆ”
“รู้มั้ยว่าถ้าผมโมโหขึ้นมา ไอ้ร้านอาหารกระจอกๆแบบนี้ ผมสามารถขยี้ทิ้งได้โดยไม่ลังเล”
ภราดรกลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคออย่างยากเย็น แทบจะร้องไห้ด้วยความเครียด อ้อนวอนเสียงสั่น
“ได้โปรดเถิดครับ ผมจะคืนเงินสามหมื่นให้”
“ผมไม่เอาคืน” เทโรนี่พูดเสียงกร้าว กระชากคอเสื้อคนตรงหน้าขึ้นมา แล้วผลักอย่างแรงจนอีกฝ่ายเซไปปะทะผนังห้อง “แต่นับจากวันนี้ไป สกุณาจะลาออกจากงาน ถ้าคุณรับเธอเข้าทำงานอีก ผมขยี้ร้านคุณแน่” ชายหนุ่มขู่ แววตาวาววับเอาจริง
“ขะ เข้าใจแล้วครับ”
“ดี” เทโรนี่เน้นเสียงหนักอย่างพอใจ ก่อนจะเดินกระแทกส้นเท้าจากไป เมื่อลับร่างหนุ่มต่างชาติลูกค้าคนสำคัญแล้ว ภราดรก็เริ่มหายใจสะดวกขึ้น เขายกมือขึ้นปาดเหงื่อ ก่อนจะสะดุ้งเฮือกเมื่อหูแว่วได้ยินเสียงรองเท้าส้นสูงกระทบกันกึกๆก่อนที่แม่มดสาวจะปรากฏกาย ในมือซ้ายถือกระเป๋า มือขวาถือเครื่องชอร์ตไฟฟ้า สีหน้าเจ้าหล่อนดูบูดบึ้งไม่ต่างจากคนที่เพิ่งเดินกลับไปเลยแม้แต่น้อย
“อะเอ่อ…ไฮ้ นีน่า ขอโทษทีนะ ผมไม่นึกว่าคุณยังบริสุทธิ์อยู่” ยิ้มแห้งๆให้ แต่สกุณาไม่ยิ้มตอบ หล่อนก้าวฉับๆมายืนใกล้ๆเขา พูดเสียงดังฟังชัดว่า
“ไอ้ผู้ชายทุเรศ เห็นแก่ตัว ละโมบโลภมาก ชอบทำนาบนหลังคนอื่น เฮงซวย” จบคำพูด ก่อนจะกระทืบส้นสูงลงบนหลังเท้าชายหนุ่มอย่างแรง
“โอ๊กกกก” ภราดรร้องลั่น ตาแทบถลนออกมาข้างนอก ยกเท้าขึ้นอย่างเจ็บแสบ เท่านั้นยังไม่เพียงพอสำหรับความแค้นของหล่อน มือเรียวจี้เครื่องชอร์ตไฟฟ้าเข้าที่สีข้างชายหนุ่ม
แปล๊บบบบบบบบบ
กระแสไฟแล่นปรู๊ดไปทั่วร่าง ภราดรตาเหลือก ทรุดลงนอนชักกระแด่วๆบนพื้น ในขณะที่สกุณาเตะก้นเขาไปอีกทีเพื่อความสะใจ
“ฉันขอลาออก ไอ้ทุเรศ” ว่าแล้วก็เดินฉับๆจากไปอีกคน ทิ้งให้ผู้จัดการร้านหนุ่มนอนสลบเหมือดอยู่เพียงผู้เดียว