ตอนที่ 5
หญิงสาวสุดลมหายใจเข้าปอด เพื่อลดทอนความหม่นหมองในหัวใจ ก่อนเดินเข้าไปที่โต๊ะเช่นเดิม เวลาช่างผ่านไปอย่างเชื่องช้า เธอทำได้แค่ตักอาหารใส่ปาก ปล่อยให้พี่และเจ้านายสนทนากันอย่างถูกคอ รอบหน้าเขาสองคนคงนัดหมายมากันเองได้แล้วละมั้ง แบบนั้นเธอคงสบายใจมากกว่านี้
สามร่างเดินเคียงกันออกมาจากร้านอาหาร เตมินทร์ไม่อยากเร่งรัดมากไปกว่านี้ เพราะท่าทางจันทร์จิราเองก็ไม่ใช่ผู้หญิงง่ายๆ เหมือนคนอื่น เธอเหมือนนกที่พร้อมจะบินหนีไปเมื่อไหร่ก็ได้
“ขอบคุณสำหรับอาหารนะคะคุณเตมินทร์” จันทร์จิราบอก แล้วระบายยิ้ม
“ครับ” เขาสบตา “ครั้งหน้าเราไปดูหนังกันดีไหมครับ”
คนถูกชวนครุ่นคิด “ยัยจีไปด้วยหรือเปล่าคะ”
จิรัสยาเม้มริมฝีปาก ทำไมต้องพกเธอไปด้วย อยากสวีทน่าจะไปกันแค่สองคนก็พอ
“แล้วแต่คุณจันทร์จิราสะดวกครับ ผมยังไงก็ดี จิรัสยาก็เหมือนน้องสาวผมคนหนึ่ง”
เธอยกยิ้ม “เอาไว้ฉันส่งข้อความหาคุณแล้วกันค่ะ ว่าจะชวนยัยจีไปไหม”
“ได้ครับ”
สองสาวนั่งรถเบาะหน้าคู่กัน จันทร์จิราเคลื่อนรถออก ส่วนคนเป็นน้องนิ่งเงียบตลอดเส้นทางจนพี่สาวสังเกตได้ เธออมยิ้ม
“อาหารอร่อยนะจีร้านนี้” พี่สาวชวนคุย ทว่าน้องกลับไม่ตอบอะไร เพราะมัวแต่เหม่อ จันทร์จิราหันมามองน้อง “จีได้ยินพี่หรือเปล่า!”
คนถูกเรียกชะงัก “คะพี่จัน!”
“เป็นอะไรเหม่อเชียว”
เธอส่ายหน้า “เปล่าค่ะ” ตอบแล้วแสร้งยิ้ม “จีคิดว่าเจ้านายจะขึ้นเงินเดือนให้เท่าไหร่ ถ้าพาพี่จันไปเจอเจ้านายได้”
“แหม.. เห็นพี่เป็นอะไรน่ะเรา ขุมทรัพย์เหรอ”
จิรัสยาแสร้งหน้างอ “ก็จีอยากเก็บเงินไว้เยอะ เวลาแก่จะได้ไม่ลำบาก”
“มีลูกซะสิจี เผื่อลูกจะเลี้ยง”
“หาสามีให้ได้ก่อนเถอะพี่จัน แต่จีคงไม่มีหรอก ใครจะมาชอบคนอย่างจี”
จันทร์จิรายิ้มกว้าง “เดี๋ยวก็มี พี่ไม่เชื่อหรอกว่าจะไม่มีใครชอบจี แค่จีไม่เปิดใจเท่านั้นเอง”
คนเป็นน้องครุ่นคิดตามคำพี่ ไม่เปิดใจงั้นเหรอ ไม่แน่ใจเหมือนกัน เพราะในหัวใจมันดันมีเจ้าของจับจองเสียแล้ว เลยไม่คิดมองคนอื่น แม้ใครเข้ามาก็แทบไม่ได้สนใจเลย บางที... เธอควรมองคนอื่นบ้างได้แล้ว