บทที่ 1
โครม!...เพล้ง!…
“เฮ้อ…เอาอีกแล้ว วันนี้มวยคู่เอกทะเลาะกันเป็นรอบที่ 3 แล้ว”
ขวัญชนก ศิริวัฒน์ ถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายเมื่อได้ยินเสียงแจกันตกแตกดังออกมาจากห้องรับแขก
คุณหญิงขวัญฤทัยส่ายหน้ายิ้มๆ กับคำบ่นของลูกสาว “รอบที่ 3 เองลูก ปกติวันหยุดแบบนี้มวยคู่เอกเขาทะเลาะกันถึง 5 ครั้งไม่ใช่หรือ? ออกไปห้ามหน่อยดีไหม”
คุณหญิงเลิกคิ้วถาม ใบหน้าระบายไปด้วยรอยยิ้มขบขำมองลูกสาวที่ดูสวยงามเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวลด้วยอายุครรภ์ 4 เดือน
“หลินเบื่อที่จะคอยเป็นกรรมการแล้วนะคะ วันหยุดทีไรหลินปวดหัวทุกทีเลย” ขวัญชนกบ่นพึมพำล้างมือกับอ่างล้างจานเพื่อเตรียมตัวไปเป็นกรรมการห้ามมวย
“เอาเถอะลูกไปห้ามหน่อย ถึงพี่รุตกับสารวัตรพันจะทะเลาะกันทุกวัน แต่แม่ก็เห็นเขารักกันดีนะ”
คุณหญิงยิ้มละไมเมื่อเอ่ยถึงคนทั้งสอง
“หลินรู้ค่ะ แต่แหม…คุณแม่คะ ถ้ารักกันแล้วชอบแกล้งกันเป็นเด็กๆ แบบนี้ หลินก็เหนื่อยเหมือนกัน” ขวัญชนกยิ้มเห็นด้วยกับคำพูดของมารดาแต่ก็อดที่จะบ่นออกมาไม่ได้
หลังจากที่แต่งงานได้ไม่กี่เดือนครอบครัวธิติการณ์กุลและครอบครัวศิริวัฒน์ก็ได้รับข่าวดีเมื่อกำลังจะมีสมาชิกตัวน้อยเพิ่มมาอีกคนและเดือนต่อมาก็ได้รับข่าวดีเพิ่มอีกหนึ่งข่าวเมื่อ ร.ต.อ.พันธวุธได้รับเลื่อนขั้นเป็น พ.ต.ต. ด้วยความดีและความสามารถอันเป็นที่ประจักษ์แก่สายตา...
ถึงแม้สารวัตรทั้งสองจะชอบทะเลาะกันแบบไร้เหตุผล แต่เวลามีเรื่องเดือดร้อนกลับเป็นห่วงเป็นใยกันและพร้อมจะตายแทนกันได้อย่างไม่น่าเชื่อ
เธอยังจำได้ดีเมื่อเดือนก่อน ‘พลโทธิติ’ คุณพ่อของเธอได้รับคำสั่งให้ลงไปทำงานที่ภาคใต้เป็นเวลา 2 สัปดาห์ ทั้งปวรุตม์และ พันธวุธต่างเป็นเดือดเป็นร้อนเป็นห่วงในความปลอดภัยของท่านนายพล สารวัตรทั้ง 2 ยืนกรานเป็นเสียงเดียวกันว่าจะไปภาคใต้พร้อมกับท่านนายพลด้วย
โครม!...เพล้ง!…
“โอ๊ย!...คุณแม่เอาอีกแล้ว ต่อไปหลินจะไม่ซื้อของใช้แบบแก้วอีกแล้ว จะซื้อแบบเมลามีนให้หมด เวลาทะเลาะกันจะได้ไม่มีอะไรแตกอีก” ขวัญชนกร้องออกมาเมื่อได้ยินเสียงของแตกดังขึ้นมาอีกรอบ คุณหญิงขวัญฤทัยหัวเราะขำก่อนเอ่ยไล่หลังลูกสาว
“แม่ไม่กลัวแจกันแตกหรอก แต่แม่กลัวหัวตารุตหรือไม่ก็หัวสารวัตรจะแตกเสียมากกว่า” คุณหญิงเอ่ยกลั้วหัวเราะแล้วหันไปทำกับข้าวต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ขวัญชนกพาร่างอวบอิ่มด้วยอายุครรภ์เดินหน้าบึ้งเข้าไปในห้องรับแขก แล้วก็ต้องกลอกตาขึ้นบนด้วยความอ่อนใจ เมื่อท่านนายพลกับน้องอาร์ตกำลังเล่นหมากรุกด้วยความสนุกสนาน ส่วนสารวัตรทั้งสองกำลังแลกหมัดแลกกำปั้นกันอย่างเมามันส์
“พี่รุต! พี่พัน! หยุดทะเลาะกันได้แล้ว” ขวัญชนกตะโกนห้ามมวยคู่เอกแต่ไม่มีใครสนใจเธอเลยสักคน
“พี่พัน!” หญิงสาวเรียกสามีอีกครั้งแล้วก็เกือบหน้าหงายเมื่อหมอนอิงใบใหญ่ 2 ใบลอยหวือเฉียดใบหน้างามไป
“โอ๊ย!...”
ร่างอวบอิ่มของคุณแม่แกล้งทิ้งตัวลงนั่งแล้วตะโกนร้องเสียงดังทำหน้าเหยเกด้วยความเจ็บปวดได้ผล!...มวยคู่เอกหยุดชะงักทันที ท่านนายพลกับน้องอาร์ตก็หยุดเล่นหมากรุก หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ทั้ง 4 รีบวิ่งมาประคองร่างอวบอิ่มด้วยความเป็นห่วง สารวัตรพันวิ่งมาถึงภรรยาพร้อมๆ กับสารวัตรปรวุตม์ พอปวรุตม์จะประคองให้น้องสาวลุกขึ้น สารวัตรพันก็ปัดมืออีกฝ่ายออก
“ไม่ต้อง! ผมประคองเมียผมเอง”
สารวัตรพันธวุธจ้องมองอีกฝ่ายเขม็งเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ ใบหน้าหล่อเหลามีรอยแตกเลือดซึมตรงหางตา ส่วนสารวัตรปวรุตม์ก็ไม่ได้ดูดีไปกว่ากันมากนัก เพราะตรงมุมปากคมกริบเหมือนกรรไกรก็มีรอยแตกเลือดซึมซิบๆ เหมือนกัน
ปวรุตม์ถลึงตามองไม่หลบสายตา ใบหน้าหล่อๆ ถมึงทึงเอ่ยตวาดน้องเขยเสียงดังลั่นห้อง “เมียมึง แต่ก็เป็นน้องกูโว๊ย!”
“แล้วไง? ตอนนี้คนที่มีสิทธิ์ดูแลหลินที่สุดก็คือสามี ไม่ใช่พี่ชาย” สารวัตรพันธวุธย้อนอีกฝ่ายจนสารวัตรปวรุตน์โมโหหน้าดำหน้าแดง
ขวัญชนกกลอกตาด้วยความเหนื่อยหน่าย หญิงสาวหันไปมองท่านนายพลที่ยิ้มกริ่มทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้กับมวยคู่เอกที่เปลี่ยนจากแลกหมัดมาเป็นสงครามน้ำลายแทน
“น้องอาร์ตช่วยประคองแม่หลินหน่อยค่ะ”
ขวัญชนกหันไปบอกลูกชายแทนเมื่อสารวัตรทั้งสองยังทะเลาะกันไม่เลิก
“ไม่ต้องครับ เดี๋ยวพี่พันประคองเอง เจ็บมากมั้ยครับ” พันธวุธประคองภรรยาให้ไปนั่งตรงโซฟาพลางสำรวจตามลำตัวและหน้าท้องนูนด้วยความเป็นห่วง
“เจ็บค่ะ ใครเป็นคนโยนหมอนใส่หลินคะ” ขวัญชนกเอ่ยถามเสียงเย็นพลางกวาดสายตาดุๆ มองที่ตัวการทั้งสองซึ่งพากันหลบตาแล้วชี้ฝ่ายตรงข้ามให้มั่วไปหมด
“ไอ้พัน!” สารวัตรปวรุตม์ชี้ที่หน้าน้องเขยตัวแสบแล้วเอ่ยฟ้องเสียงดัง
“คุณรุต!” สารวัตรพันธวุธถลึงตามองแล้วชี้หน้าปวรุตม์คืน
ขวัญชนกทำตาเขียวปัดใส่ทั้งสองคนแล้วหันไปถามลูกชาย “น้องอาร์ตเห็นเปล่าคะว่าใครเป็นคนโยนหมอนใส่แม่หลิน”
น้องอาร์ตพยักหน้าหงึกๆ ยกนิ้วชี้ขึ้นแล้วกวาดนิ้วช้าๆ ไปที่คุณพ่อจากนั้นก็กวาดนิ้วช้าๆ ไปที่คุณลุงรุตก่อนจะเอ่ยบอกโดยเน้นคำพูดทีละคำ
“ทั้ง 2 คนครับ”
สารวัตรทั้งสองยิ้มเจื่อนเมื่อเจอสายตาดุตวัดมองมา พันธวุธยิ้มแห้งๆ บีบตามลำแขนภรรยาอย่างเอาใจ
“พี่พันขอโทษครับ พี่ไม่ได้ตั้งใจโยนใส่น้องหลิน”
“พี่ก็ไม่ได้ตั้งใจเหมือนกัน กะว่าจะเล็งให้โดนหัวไอ้พันแต่มันผิดพลาดไปหน่อย” สารวัตรปวรุตม์ที่นั่งติดกันก็บีบลำแขนน้องสาวอย่างลุแก่โทษ
ขวัญชนกส่ายหน้าอย่างระอา วันหยุดทีไรได้มีเรื่องให้ปวดหัวทุกคราไป หญิงสาวกวาดสายตามองสภาพของห้องรับแขกที่เละเป็นโจ๊กก็ถอนหายใจออกมาดังๆ “แล้วนี่ทะเลาะกันเรื่องอะไรอีกคะ อ่ะๆ ไม่ต้องแย่งกันตอบเลย ตอบทีละคนก็ได้”
ขวัญชนกถลึงตาใส่เมื่อสารวัตรทั้งสองทำท่าฮึ่มๆ กำลังจะเถียงกันอีก
ท่านนายพลหัวเราะฮึๆ ก่อนจะเอ่ยตอบแทนด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ “จะมีอะไร...ก็ทะเลาะกันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง”
“ที่ว่าไม่เป็นเรื่อง แล้วมันคือเรื่องอะไรคะ ทำไมต้องทะเลาะกันจนหน้ายับแบบนี้“
ขวัญชนกรับสำลีที่เหยาะทิงเจอร์ไอโอดีนมาจากเด็กหน่อยแล้วจิ้มเข้าไปแรงๆ ที่หางตาของสามีจนอีกฝ่ายร้องลั่น
“โอ๊ย!...เบาๆ สิครับ พี่พันแสบนะครับ” สารวัตรพันตะโกนร้องลั่นแต่พอเห็นสายตาเยาะเย้ยของคู่กรณีที่กำลังยิ้มเยาะอยู่ก็หุบปากฉับ!
“ทียังงี้มาทำเป็นสำออย ตอนแลกหมัดแลกกำปั้นกันหลินไม่เห็นมีใครร้องว่าเจ็บสักคน จะบอกได้หรือยังว่าทะเลาะกันเรื่องอะไร วันนี้แจกันแตกไป 3 ใบแล้วนะ ถ้านับรวมทั้งเดือนก็เป็นสิบแล้ว”
ขวัญชนกมองค้อนสามีด้วยความหมั่นไส้พลางเอ่ยต่อว่าทั้งสองคนอย่างอดไม่อยู่