เล่ห์ร้าย : EP 2 ยึดทุกอย่าง
บทที่ 2
เช้าวันใหม่เควินพาลรินมาที่ห้างแห่งหนึ่งและเดินตรงไปยังอำเภอ เธอไม่รู้เลยว่าเขาจะพาเธอไปไหนซึ่งเอ่ยถามไปเขาก็เงียบและไร้คำตอบ ในขณะที่นั่งรอคิวลรินเธอจับแขนของเควินแต่เขานั้นดูเหมือนไม่สนใจเธอ
“คุณคะเรากำลังจะทำอะไรกัน”เธอหันซ้ายและขวาอยู่บ่อยครั้งจนกระทั่งอดกลั้นคำถามของตนเองไม่ไหว
“เรามาจดทะเบียนเป็นผัวเมียกันต้องมีทะเบียนสมรส”
“ทะเบียนสมรสคืออะไร”ใบหน้าของเธอบ่งบอกถึงความงงในคำพูดของเควินและเธอก็ไม่รู้ว่าทะเบียนสมรสนั้นคืออะไร ขณะเดียวกันนั้นถึงคิวที่พนักงานเรียกพอดีเขาจึงจับแขนของเธอและดึงให้ลุกขึ้นจากเก้าอี้ตรงมานั่งเก้าอี้ด้านหน้าของนายอำเภอ
“จดทะเบียนสมรสนะครับนี่ครับเอกสารของคุณผู้ชายเซ็นด้านนี้ส่วนคุณผู้หญิงเซ็นด้านนี้”
ลรินมองเควินที่เซ็นชื่อตนเองนั้นใส่ใบทะเบียนสมรสแต่ลรินไม่รู้ว่าตัวเองนั้นต้องเซ็นแบบไหน
“เซ็นสิครับ”เควินหันกลับมองหน้าลรินในขณะที่นายอำเภอนั้นเร่งให้เธอเซ็นแต่เธอยังคงถือปากกาและมองเควิน
“เซ็นสิชื่อจริงของเธอและนามสกุล”
“ฉันไม่รู้”เธอปฏิเสธการเซ็นอีกครั้งและส่ายหน้าไปมาซึ่งเธอไม่รู้ว่าเธอจะต้องเขียนแบบไหน เธอจำเรื่องราวในอดีตไม่ได้และเธอก็ไม่รู้ว่าชื่อของเธอมีตัวอะไรบ้างนายอำเภอนั้นมองหน้าของเควินเริ่มสงสัย
“มันจะไปยากอะไร”เขาจับมือของเธอให้จับปากกาและเซ็นลงไปทั้งชื่อและนามสกุลเควินนั้นรู้อยู่แล้วว่ามีตัวอะไรบ้าง
“เปลี่ยนนามสกุลไหมครับ”คนรับจดทะเบียนสมรสนั้นไม่ได้สงสัยอะไรหลังจากที่รับซองขาวใต้โต๊ะจากเควินไปแล้วเขาเงียบทุกอย่างและเผยรอยยิ้มออกมา
“เปลี่ยน”
เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นเขาถือใบทะเบียนสมรสเป็นกระดาษขนาดสี่เหลี่ยมเท่ากระดาษA4ออกมา 2 ใบเขายืนยิ้มด้วยความพอใจ
“ทำไมเราต้องจดทะเบียนสมรสกัน”
“ก็ฉันบอกแล้วไงว่าเราทั้งคู่เป็นผัวเมียกันจะต้องมีทะเบียนสมรส อย่าถามมากลรินฉันไม่อยากปวดหัวกับเธอ”
“แล้วจะไปไหน”เขาจับเข้าที่ข้อมือของเธอและดึงให้เดินตามเขามาเธอหยุดชะงักและจับมือของเขาไว้ใบหน้าน้อยจ้องมองเขาและคิ้วขมวดเข้าหากัน
“ทำไมเธอถึงเป็นคนขี้สงสัยจังจะให้ไปไหนก็ไปเถอะเดินตามมา”เธอได้เพียงแต่เงียบและเดินตามเขาจนกระทั่งถึงร้านอาหาร
“หิวไหม”
“หิวค่ะ”
“ฉันให้เลือกระหว่างด้านซ้ายกับด้านขวาเธอจะเข้าร้านไหน”เขาพาเธอยืนระหว่างกลางทางซ้ายมือของเขานั้นเป็น MK ส่วนขวามือนั้นเป็น KFC
“ฉันไม่รู้”
“อืม อย่างนั้นเธอก็กลับไปกินไข่ทอดที่บ้านเถอะ”เขาหงุดหงิดและอารมณ์เสียที่เธอพูดแต่คำว่าไม่รู้จึงไม่พาเธอทำอะไรเลยแม้แต่อย่างเดียวจนกระทั่งมาถึงรถ
“เราจะกลับบ้านใช่ไหม”
“ยังทุกอย่างยังไม่เสร็จสิ้นต้องไปบริษัทของพ่อเธอก่อนแล้วค่อยชดใช้เวรกรรมที่ฉันจะมอบให้”
“อะไรนะคะ”เหมือนกับเขาพูดในลำคอไม่ได้บอกกับเธอเสียงดังจึงทำให้เธอไม่ได้ยินชัดเธอจึงเอ่ยถามเขาอีกครั้ง
“ไม่มีอะไรหรอก”
“คุณเป็นคนรักของฉันจริงๆเหรอคะ”ในขณะที่เขากำลังขับเคลื่อนรถนั้นเตรียมที่จะออกจากห้างแต่เมื่อเธอยังจ้องมองใบหน้าและเอ่ยถามจึงทำให้เขาไม่พอใจและเหยียบเบรครถกระทันหันหน้าของเธอทิ่มลงตรงด้านหน้ากระทบกับของแข็งจึงทำให้หน้าผากของเธอนั้นแดงอยู่มุมหนึ่ง
“โอ้ย”
“ขอโทษพอดีว่าไม่ค่อยได้ขับรถเองมานานเป็นอะไรมากไหม”อาการของเขาบ่งบอกถึงความโกรธแต่พยายามเก็บอารมณ์ของตนเองสูดลมหายใจเข้าลึกๆและหันกลับมาถามเธอ ลรินส่ายหน้าเบาๆ
“ไม่เป็นอะไรค่ะ”
“อืม ลรินถ้าฉันพูดอะไรเธอต้องพยักหน้าเข้าใจไหม”
“ค่ะ”
เวลาผ่านไปเกือบ 2 ชั่วโมง บริษัทแห่งนี้เป็นบริษัทรถมอเตอร์ไซค์ซึ่งไม่ได้ใหญ่ระดับประเทศแต่ก็มีหลายสาขาและทำเงินให้กับบริษัทได้เดือนละหลายสิบล้านบริษัทนี้เป็นของเฉินที่ยกให้ลรินบริหาร
“บริษัทเธอนี่มันใหญ่ดีนิ”หลังจากที่เขาลงมาจากรถซึ่งอยู่ด้านหน้าของบริษัทเควินเดินโอบกอดลรินดั่งคนรักกัน เมื่อพนักงานเห็นเขารีบก้มหน้าลงทันที
“สวัสดีครับคุณลริน”สายตาของลรินนั้นงงว่าใครเป็นคนเข้ามารับแถมยังทำความเคารพตนเอง
“พาฉันกับลรินขึ้นไปห้องประชุม”เขารีบพยักหน้าให้กับเควินทันทีและเดินนำไปด้านหน้าหลังจากที่ขึ้นลิฟต์มาเสร็จเขามาส่งที่หน้าห้องประชุมและเดินออกไป
ก๊อกๆ
เมื่อเควินเปิดประตูห้องประชุมคนที่นั่งอยู่ในนี้เป็นหุ้นส่วนและหัวหน้าทุกแผนก สายตาทุกคนจับจ้องมองมาที่เขากับเธอและรีบพากันลุกขึ้น พวกเขาทำความเคารพลรินดั่งเช่นเคย
“หายหน้าหายตาไปหลายวันเลยนะครับคุณลรินผมคิดว่าคุณหายสาบสูญ"
“กรุณาใช้คำพูดที่ดีต่อภรรยาของผมด้วยนะครับการที่คนคนหนึ่งหายไปไม่ใช่ว่าจะหายสาบสูญแต่ถ้าคนจะหายสาบสูญอาจจะเป็นเพราะปากที่พูดไม่ดีแบบนี้ก็ได้”เควินจับจ้องมองผู้ชายที่พูดว่าให้กับลรินก่อน
“ที่เรียกประชุมทุกคนในวันนี้มีอะไรหรือเปล่าคุณลริน”เธอได้เพียงแต่เงียบไม่รู้จะตอบว่าอย่างไรเธอไม่รู้จักพวกเขาด้วยซ้ำเพราะว่าจำไม่ได้
“ในวันนี้ผมจะมาบริหารแทนลรินทุกอย่าง ทุกคนต้องเคารพผมแทนลริน”ลรินได้เพียงแต่หันมองหน้าเควินแต่เธอไม่ได้โต้ตอบหรืออะไรสายตาของทุกคนจับจ้องมองมาที่ลรินบางคนทำท่าทีงงในสิ่งที่เกิดขึ้นจนคิ้วขมวดกันหมดจนเห็นได้ชัด
“หมายความว่ายังไงครับปรกติคุณลรินจะไม่ให้ใครเข้ามายุ่งกับงานนอกจากท่านเฉิน”!!
เพร๊ง!! แก้วน้ำเปล่าวางอยู่บนโต๊ะประชุมถูกเขวี้ยงเข้าที่ข้างผนังเฉียดใบหูคนที่เอ่ยชื่อถึงเฉินเป็นชื่อที่เควินนั้นเกลียดมากจนไม่อยากได้ยิน
“อย่ามาพูดแบบนี้กับกู กูคือผัวที่ถูกต้องตามกฎหมายของลริน ทั้งบริษัทนี้และทุกอย่างที่เป็นของลรินเมียของกูก็คือของกูจำเอาไว้”ไม่เพียงแต่เควินนั้นชี้หน้าว่าให้กับทุกคนแต่เขานั้นยัง เอาทะเบียนสมรสที่ตนเองพึ่งจดกับลรินนั้นมาโชว์ให้กับทุกคนดู
“ผมจะพูดเป็นครั้งสุดท้ายถ้าใครไม่เคารพผมนับตั้งแต่วันนี้ไปก็เชิญออกจากบริษัทนี้”เควินลุกขึ้นจับเข้าที่ข้อแขนของลรินพาเดินออกมาจากห้องประชุม
“ใจเย็นๆสิคะ”
“อย่ามายุ่ง”!!! เธอสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อถูกเขาตะเบ็งเสียงใส่หน้าเธอ
“กลับบ้านหมดหน้าที่ของเธอแล้วหมดเวลาที่กูจะปั้นหน้าใส่”
“หมายความว่ายังไงเหรอคะปั้นหน้าใส่คืออะไร"เธอเอ่ยถามเขาแต่สิ่งที่ได้มาคือความเจ็บเขาจับแขนของเธอกระชากดึงไปที่รถไม่สนใจว่าเธอจะเจ็บหรือป่าว
“ฮึ๊กฉันเจ็บ”
“อย่ามาสำออยเจ็บแค่นี้ไม่ตาeหรอก”
“คุณ”เธองงกับการกระทำของเขาที่อยู่ดีๆก็เปลี่ยนไป
“ไหนบอกว่าเราเป็นคนรักกันทำไมคุณถึงพูดแบบนี้”
“กูไม่เคยรักผู้หญิงแบบนี้ และจำเอาไว้กูไม่เคยรักลูกฆาตกร”ดวงตาคู่นี้ดั่งเสือร้ายที่จะขย้ำเหยื่อเขามองเธอด้วยความเกลียดตะเบ็งน้ำเสียงใส่จนตัวของเธอนั้นสั่นเครือ