พี่เป็นผู้ปกครองเรานะ
“ตารางงานมีเพียงเท่านี้ค่ะ” ร่างบางเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงฉะฉานมองร่างสูงที่ผ่อนตัวไปพิงกับเก้าอี้ด้วยความเหนื่อยล้า
“ขอบคุณที่เหนื่อยครับโรส” ร่างบางยิ้มอ่อนนี่เป็นคำขอบคุณเล็กๆ ที่แมทธิวมักพูดขึ้นเสมอหลังจากจบงานอันแสนหนักหน่วงมาทั้งวัน
“ไปกินข้าวกันไหม?” ใบหน้าหล่อคมเข้มเอ่ยถามกับอีกฝ่าย
“พอดีโรสมีนัดแล้วน่ะค่ะ” เธอเอ่ยตอบแต่คำตอบของเธอกลับทำให้คิ้วเข้มๆ ของอีกฝ่ายขมวดกันแสดงถึงความไม่พอใจที่เธอปฏิเสธ
“นัด?”
“ค่ะ..ขอตัวก่อนนะคะ”แมทธิวมองโรสที่พอพูดจบก็เดินออกจากห้องทำงานของเขาไปทันที ร่างสูงถอนหายใจออกมาเบาๆ วันนี้ทั้งวันเลขาของเขานั่นเอาแต่ทำหน้าเรียบเฉยอย่างกับหุ่นยนต์ก็ไม่ปาน ไม่รู้ว่าเธอกำลังไม่พอใจอะไรเขาอยู่ หรือจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานกัน
“วันนี้กลับบ้านเร็วจัง”
“อ่าวดีค่ะพี่พุท^^” ใบหน้าสวยฉีกยิ้มทักทายให้กับคนตรงหน้าพี่พุทคือผู้ชายวัยกลางคนที่อาศัยอยู่ข้างบ้านของเธอและคอยช่วยเหลือเธอมาตลอดตั้งแต่ย้ายเข้ามาใหม่ๆ แถมยังเคยเป็นอดีตเจ้าของบ้านหลังที่เธออยู่อีกด้วย
“ดีครับทำไมวันนี้กลับบ้านเร็วล่ะ?” เขาเอ่ยถามอีกครั้งเพราะปกติกว่าอีกฝ่ายจะกลับมาก็ดึกดื่นหรือไม่ก็ไม่กลับมาเลยเขาเลยมักจะต้องได้เข้าไปให้อาหารแมรี่แมวสุดที่รักของโรสอยู่เป็นประจำ
“วันนี้โรสอยากพักผ่อนน่ะค่ะ” เธอเอ่ยตอบเสียงเบาก่อนจะก้มหัวลาอีกฝ่ายและรีบเข้าบ้านไปทันที
“แมรี่เมี้ยวๆ มาหาแม่เร็ว” ร่างบางเอ่ยเรียกแมวสุดที่รัก ไม่นานแมวตัวอ้วนสีขาวฟูก็วิ่งเข้ามาหาอย่างรู้งาน โรสอุ้มแมรี่ขึ้นด้วยรอยยิ้มทั้งจูบทั้งหอมด้วยความคิดถึง
Rrrr
โรสจำใจต้องปล่อยแมรี่ลงก่อนจะรีบหยิบมือถือขึ้นมารับสาย
“ค่ะคุณแมทธิว” เธอตอบปลายสาย หากในเวลาปกติเธอจะเรียกอีกฝ่ายว่าคุณแมทธิวแต่ถ้าอยู่ด้วยกันสองต่อสองเธอสามารถเรียกเขาว่าแมทอย่างเดียวได้ ซึ่งเป็นชื่อที่น้อยคนมากจะเรียกอีกฝ่ายได้เช่นกัน
(ผมมีนัดคุยกับลูกค้าด่วน โรสช่วยเตรียมตัวให้ผมหน่อยได้ไหม?) น้ำเสียงรีบๆ บ่งบอกว่าเรื่องที่เขาพูดไม่ได้เป็นการปั้นแต่งขึ้นมา แต่มันช่างเหมาะเจาะเสียจริงเพราะเธอพึ่งจะได้เหยียบเข้าบ้านมาได้ไม่ถึง2นาทีเลยด้วยซ้ำ
“ได้ค่ะ” ร่างบางตอบกลับในทันที เพราะมันเกิดขึ้นหลายครั้งกับงานที่มานอกตารางที่กำหนดเธอซึ่งเป็นเลขาก็ต้องตามติดไปด้วยตลอด
(โรสอยู่บ้านใช่ไหมเดี๋ยวผมขับไปรับ)
“ไม่เป็นไรค่ะเดี๋ยวโรสไปเอง จะได้ไม่ต้องเสียเวลาวนไปวนมา” เธอเอ่ยตอบกลับไปส่วนมือก็เร่งรีบกับการเทอาหารให้แมรี่ เพราะสงสัยคืนนี้เธอคงจะได้กลับบ้านดึกหรือไม่ก็ไม่ได้กลับบ้าน
(งั้นก็ได้ครับ) หลังจากนั้นสายก็ถูกตัดไป โรสรีบจัดการตัวเองเช็กความเรียบร้อยอีกครั้งก่อนจะรีบล็อกประตูบ้านทันที
“อ่าวจะไปไหนอีก” พุดเอ่ยถามเพราะเขาพึ่งเห็นอีกฝ่ายเข้าบ้านไปได้ไม่นานเอง
“คือว่ามีงานด่วนน่ะค่ะต้องรีบไป” ร่างบางตอบกลับเธอรีบมากจนกองเอกสารในมือร่วงจนกระจัดกระจาย
“เดี๋ยวพี่ช่วยเก็บ” พุดเอ่ยบอกก่อนจะรีบเข้ามาช่วยร่างบางเก็บเอกสารทันที
“จะไปที่ไหน ให้พี่ขี่มอไซค์ไปส่งไหม?”
“ไม่เป็นไรค่ะโรสเกรงใจ”
“เกรงใจทำไมกัน พี่เป็นผู้ปกครองเรานะ” คำพูดของอีกฝ่ายทำเธอชะงักไปเล็กน้อยก่อนที่ริมฝีปากบางจะยิ้มขำออกมา
“นั่นมันเมื่อก่อนนิคะ” มันเป็นเรื่องจริงที่พุดเคยมาเป็นผู้ปกครองของเธอตามคำสั่งของทางราชการแต่พอเธอบรรลุนิติภาวะแล้วก็ไม่จำเป็นต้องมีผู้ปกครองอีกต่อไป
“จะเมื่อก่อนหรือตอนนี้พี่ก็เป็นห่วงเราเหมือนน้องในไส้แหละหน่า” มือหนายกขึ้นยีหัวโรสอย่างเอ็นดูเขายังจำวันที่เด็กน้อยมาขอซื้อบ้านที่เขาประกาศขายได้อยู่เลย ตอนแรกก็คิดว่าอีกฝ่ายพูดเล่นเพราะเห็นเป็นเด็ก แต่พอรู้ว่าเด็กคนนี้พูดจริงก็ทำเอาเขาช็อกไปทันที แต่แน่นอนว่าเขาก็ปล่อยบ้านให้เธอในราคาที่ตัวเองขาดทุนด้วยเพราะสงสาร
“ขอบคุณที่มาส่งนะคะ” ร่างบางเอ่ยขึ้นพร้อมกับส่งหมวกกันน็อกให้อีกฝ่ายสุดท้ายเธอก็ต้องยอมรับความช่วยเหลือจากพุดเพราะกลัวว่ารถจะติดจนมาเตรียมตัวสาย
“ด้วยความยินดีครับ^^” อีกฝ่ายตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
“โรส” ร่างบางหันไปตามเสียงที่คุ้นเคย เธอมองแมทธิวที่ยืนอยู่หน้าโรงแรมด้วยสีหน้าหงุดหงิด
“โรสไปก่อนนะคะ ขอบคุณอีกครั้งค่ะพี่พุด” โรสรีบหันไปขอบคุณพุดอีกครั้งก่อนจะรีบสาวเท้ามาหาแมทธิวทันที สายตาคมจ้องมองเลขาสาวที่ส่งยิ้มหวานให้กับผู้ชายคนอื่นอย่างไม่ชอบใจ ดูจากรถมอไซค์คันเล็กๆนั่นแล้ว คงจะกอดเอวกันมาอย่างหวานชื่นแน่นอน
“ลืมเรื่องภาพลักษณ์ไปแล้วเหรอครับ” ร่างสูงเอ่ยเสียงตำหนิ การที่เลขาเขานั่งรถมอไซค์มาว่าแย่พอแล้ว แต่เธอยังใส่กระโปรงนั่งมาอีกด้วย พวกคนที่เห็นคงจะมองขาอ่อนขาวๆ ของเธอตาเป็นมันกันน่าดู
“ขอโทษค่ะพอดีเห็นว่ามันเร่งด่วน” โรสเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงอ่อนเป็นการยอมรับผิด แต่มันยังดีกว่าการที่เธอนั่งแท็กซี่ท่ามกลางเวลาเลิกงานที่รถติดสะบัดเป็นไหนๆ
“ผมไม่ได้มีปัญหากับการขับรถไปรับคุณหรอกนะโรส..ต่อให้มันจะอ้อมโลกแค่ไหนผมก็ไปรับคุณได้” ร่างบางมองแมทธิวที่เอ่ยขึ้น แม้ว่ามันจะเป็นน้ำเสียงที่หงุดหงิดแต่ประโยคของเขากลับเต็มไปด้วยความอบอุ่นและความใส่ใจ เพราะเขาเป็นแบบนี้ไงเธอถึงตกหลุมรักเขา
“โรสจะจำไว้ค่ะ”เธอตอบกลับสั้นๆด้วยรอยยิ้ม แมทธิวที่เห็นรอยยิ้มอีกฝ่ายเขาก็หายหงุดหงิดทันที แต่ก็ยังมีหงุดหงิดบ้างเล็กน้อยเมื่อนึกถึงตอนที่เธอกอดเอวผู้ชายคนอื่น
กอดคนอื่นไม่ได้เลยยย แต่ตัวเองไปจูบกับสาวคนอื่นได้
