บทที่ 5 เลขาฯตัวร้าย
“แสดงว่ายายผะดาชไมนี่ร้ายพอควร อย่างนี้จะไปกับแกไหวเหรอวะภู ยายนั่นไม่ยอมรับเพื่อนของแก ไม่ยอมให้แกกระดิกตัวไปไหนได้เลยอย่างนี้ก็ตายสิวะ”
ธเนศเอ่ยขึ้นอย่างเป็นห่วงเพื่อน พงศ์ธรย้ำอีกว่า
“นั่นสิ ถ้าแกเลือกผะดาชไมมาเป็นคู่ชีวิตแก ฉันกับได้เนศก็ต้องหลุดออกจากวงโคจรชีวิตของแก แต่แกไม่ต้องมาคิดถึงพวกฉันหรอกนะโว้ย ถ้าแกรักคุณผะดาชไมจริงก็ขอแต่งงานไปเถอะเพื่อน”
“เออใช่ อย่าให้ฉันสองคนมาเป็นตัวถ่วงชีวิตรักของแกเลยว่ะ”
ภูรีมองหน้าเพื่อนสลับกันแล้วพูดเสียงจริงจัง
“ฉันมีเหตุผลพอที่จะเลือกผู้หญิงมาเป็นภรรยา มาเป็นแม่ของลูกฉัน ถ้าฉันกับเขาไปด้วยกันไม่ได้ฉันก็ไม่เลือก แกไม่ต้องมายุดีหรอกไอ้พงศ์ไอ้เนศ รีบกินฉันจะกลับไปเอาเรื่องกับยายเลขาฯตัวร้ายของฉัน วันนี้ฉันต้องพูดให้รู้เรื่องไม่งั้นเอาเรื่องส่วนตัวฉันไปเล่าให้ใครต่อใครฟังหมด”
“เล่าให้ใครฟังที่ไหน เล่าให้ฉันสองคนฟังแค่นั้นเอง อย่าทำเป็นโกรธไปเลยน่ะ”
พงศ์ธรแก้ตัวให้รุ่งไพลิน ธเนศมองหน้าภูรีแล้วยิ้มขำ ๆ ก่อนจะเอ่ยว่า
“สงสัยเลขาฯกับเจ้านายคู่นี้ไม่พ้นกันหรอกว่ะพงศ์ เพราะมันร้ายพอ ๆ กัน”
พงศ์ธรหันมามองหน้าธเนศแล้วหันไปมองภูรีก่อนจะพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของธเนศ
“จริงว่ะ เลขาฯ ตัวร้ายกับเจ้านายตัวแสบ เหมาะสมกันที่สุดว่ะ”
“ไอ้บ้าพูดอะไรมั่ว ๆ ฉันไม่มีทางลงเอยกับยายบ้านั่นหรอกเบื่อหน้าจะตาย ฉันขอเลขาฯคนใหม่กับผอ.เร็ว ๆ
นี้แหละ ให้ยายรุ่งไพลินไปอยู่แผนกอื่น จะได้เงียบหูซะที”
“มันจะไม่เป็นอย่างที่แกคิดน่ะสิวะภู ถ้าแกขอเลขาฯคนใหม่แกจะบอกเหตุผลกับผอ.ว่ายังไง”
ธเนศแทรกขึ้นพร้อมกับจ้องหน้าเพื่อนรัก
“นั่นสิภู แกจะอ้างว่าไม่ชอบหน้ายายรุ่งงั้นเหรอวะ ผอ.ต้องถามว่าทำไมไม่ชอบ ทะเลาะกันเรื่องอะไร และแกนั่นแหละที่จะต้องโดนย้ายเพราะเป็นผู้จัดการที่ไม่มีเหตุผลและไม่สามารถปกครองลูกน้องไม่ได้ แกคิดดูให้ดี ๆ นะโว้ยภู อย่าเพิ่งใจร้อน”
ชายหนุ่มนิ่งไปครู่หนึ่งจึงถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วส่ายหน้าไปมา
“นี่ฉันต้องทนกับยายปากร้ายตัววุ่นวายไปอีกนานแค่ไหนวะ”
“ก็แค่แกแต่งงานกับคุณผะดาชไมแล้วก็ย้ายไปทำงานที่บริษัทของเธอ เท่านี้แกก็จะไม่เห็นหน้ายายรุ่งอีก แต่ฉันว่านะ ถ้าเป็นฉัน ฉันจะจีบยายรุ่งรักยายรุ่งเพราะเด็กคนนี้นิสัยดีน่ารักสวยก็สวย ฉลาดทันคน ผู้หญิงแบบนี้หาไม่ได้ง่าย ๆ นะโว้ยภู”
พงศ์ธรพูดยืดยาวแล้วหันไปพยักหน้าขอความเห็นจากธเนศก่อนจะหันมาที่ภูรีซึ่งทำหน้าเมื่อยอยู่ตรงหน้า
“เอาล่ะ ฉันจะทนอยู่กับยายรุ่ง แต่ฉันไม่บ้าจี้ตามแกถึงขึ้นจีบยายบ๊องนี่หรอกนะ”
ธเนศหันไปมองหน้าพงศ์ธรแล้วยิ้มให้กันก่อนจะพูดลอย ๆว่า
“แต่ถ้าจีบได้ก็ดีนะ คนน่ารักอย่างยายรุ่งมีแต่คนอยากจีบไม่เชื่อไปถามนายดิศรณ์ดูสิ”
ภูรีชะงักกับชื่อของดิศรณ์เขามองหน้าเพื่อนรักด้วยความไม่เข้าใจ ธเนศกับพงศ์ธรยิ้มแล้วพูดเรื่องอื่นเพราะรู้ว่าภูรีเริ่มเขวแล้ว และไม่ว่าภูรีจะวกเข้ามาเรื่องดิศรณ์สองหนุ่มก็ไม่มีคำอธิบายใด ๆ ทำให้ภูรีหงุดหงิด เขาขับรถกลับบริษัทหลังจากเพื่อน ๆ แยกย้ายกันกลับไปทำงาน
“ยายรุ่งไพลินมีคนมารับไปกินข้าวกลางวัน คนที่มารับเป็นหนุ่มคนใหม่หรือว่าเป็นนายดิศรณ์ ยายนี่เสน่ห์แรงจริง ๆ”
เขาพูดคนเดียวขณะเดินเข้าลิฟต์ และพอก้าวออกจากลิฟต์ใบหน้าเข้มก็ยังบึ้งเพราะใจของเขาคิดถึงแต่ชื่อ
ดิศรณ์ วันนี้เขาต้องถามดิศรณ์ให้ได้ว่าคิดจะจีบรุ่งไพลินจริงหรือเปล่าและแทนที่ภูรีจะเดินไปที่ห้องทำงานของเขากลับเดินไปที่ห้องทำงานของดิศรณ์
“เอ.หน้าบึ้งมาอย่างนี้มีเรื่องอะไรจะให้ผมรับใช้หรือเปล่าครับคุณภูรี”
ดิศรณ์ทักทายพร้อมรอยยิ้ม เขาได้รับโทรศัพท์จากพงศ์ธรและรู้เรื่องทั้งหมดแล้ว ถึงพงศ์ธร ธเนศและภูรีจะไม่เคยคบกับดิศรณ์มาตั้งแต่สมัยเรียนแต่ก็สนิทกันเมื่อเข้ามาทำงาน
“แกไม่ต้องกวนประสาทฉันเลยนะนายศรณ์ บอกฉันมาเมื่อตอนกลางวันแกพาเลขาฯฉันไปกินข้าวที่ไหน”
“ใครบอกแกว่าฉันพายายรุ่งไปกินข้าว ฉันยังไม่เคยชวนเลย คิดจะชวนอยู่เหมือนกันเพราะฉันกำลังจะจีบยายรุ่ง ไม่รู้ว่าจะสำเร็จหรือเปล่า แกมาก็ดีแล้วช่วยฉันหน่อยสิ เย็นนี้ฉันจะชวนยายรุ่งไปกินข้าว แกไปเป็นเพื่อนฉันหน่อยนะถ้าฉันชวนยายรุ่งไปตามลำพังกลัวไม่สำเร็จ”
“อ้อ.ก็เลยให้ฉันเป็นหนังหน้าไฟงั้นสิ”
“เออ ช่วยเพื่อนแค่นี้หน่อยไม่ได้รึไงวะ”
“ไม่ได้โว้ยและฉันห้ามแกเข้าไปวุ่นวายกับเลขาฯของฉันเด็ดขาด”
“อะไรวะ หวงหรือไงวะ อย่าลืมนะโว้ยภูแกมีคุณผะดาชไมอยู่แล้วนะห้ามหวงยายรุ่งกับเพื่อน”
“ใครบอกฉันหวงแต่ฉันมีงานจะให้ยายรุ่งทำเย็นนี้”
“อ้อ.เหรอ คิดว่าหวงซะอีก”
ดิศรณ์ยิ้มอย่างรู้ทัน เขามองตาภูรีเพียงแวบเดียวก็รู้ว่าภูรีชอบรุ่งไพลินแต่ทำเป็นโกรธเป็นทะเลาะกันทุกวันไปอย่างนั้นเอง
“ฉันไม่ได้หวง แต่ฉันไม่อยากให้งานฉันเสีย”
“เออ ๆ ฉันเข้าใจ เอาเป็นว่าพรุ่งนี้ฉันจะชวนยายรุ่งไปกินข้าวกลางวันแทนเย็นนี้ก็แล้วกันนะเพื่อน แล้วนี่นายมีอะไรอีกหรือเปล่า”
“ไม่มี ฉันรบกวนแกแค่นี้แหละ”
ภูรีเดินออกจากห้องไปทันทีที่พูดจบ ดิศรณ์มองตามแล้วหัวเราะก่อนจะกดโทรศัพท์เข้ามือถือพงศ์ธรและธเนศทุกคนหัวเราะกับสิ่งที่ได้ยินและมั่นใจว่าเจ้านายตัวแสบของรุ่งไพลินแอบรักลูกน้องสาวตัวร้ายเข้าแล้ว
“คุณรุ่ง เย็นนี้ช่วยผมทำงานด้วย นัดหนุ่มคนไหนไว้ก็ยกเลิกไปก่อน”
เจ้านายหนุ่มออกคำสั่งเสร็จก็เดินเข้าห้องทำงานไป หญิงสาวเงยหน้ามองตามด้วยท่าทางงุนงง
“ทำงานอะไร ไม่เห็นมีงานนี่นา หรือว่าต้องการแกล้งเรา ได้เลยคุณผู้จัดการ ในเมื่อต้องการแกล้งฉัน ฉันก็จะแกล้งกลับดูซิว่าใครจะแพ้ไปก่อน”
รุ่งไพลินหัวเราะพอใจกับแผนที่หล่อนคิดจะแกล้งเจ้านาย ส่วนภูรีนั้นเขาหางานให้เลขาฯเนื้อหอมทำโดยที่ไม่ใช่งานสำคัญแม้แต่นิดเดียว เขาบอกตัวเองไม่ได้เหมือนกันว่าทำไมต้องแกล้งหล่อนด้วยรู้แต่ว่าไม่อยากให้หล่อนไปทานข้าวกับชายหนุ่มคนไหนทั้งนั้น