แฟนเธอรู้หรือเปล่าว่าฉันเลียเธอหมดทั้งตัว
มือหนึ่งประคองถาดอาหาร อีกมือเปิดตูและเดินเข้าไปมุมซ้ายของห้องที่มีชุดรับแขกเล็ก ๆ ตั้งอยู่
เขาสวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงขาสามส่วนสีครีม นั่งอยู่บนโซฟาด้วยท่าทางสบายๆ สองแขนกางพาดพนักพิง สองขากำยำกางออกนิดๆ และกำลังจ้องมองมาที่เธอ
มัสยาหน้าร้อนวูบ เขาก็อาจจะมองปกติ แต่ทำไมเธอจะต้องร้อนตัวด้วยก็ไม่รู้
เธอคุมสติแต่ก็อดมือสั่นไม่ได้ ค่อยวางถาดอาหารลงบนโต๊ะแล้วกำลังถอยออกมา แต่โดนเขาคว้าข้อมือเอาไว้
“ เดี๋ยว ” เธอเงยหน้ามองด้วยสายตาตระหนกตื่นและพยายามบิดข้อมือออกจากการเกาะกุม
“ คะ? ”
“ อย่าพึ่งไป ”
“ ทะ... ทำไมคะ ”
“ ฉันมีเรื่องต้องคุยกับเธอ ”
“ แต่มัสไม่... ”
“ จะนั่งลงเองดี ๆ หรือต้องให้บังคับ แล้วลงเอยบนตักฉัน ” น้ำเสียงเรียบ ๆ แต่ดวงตาดุดันที่จ้องมองมานั้นทำให้มัสยาจำต้องยอมนั่งลงบนโซฟาแต่โดยดี ขืนขัดไปคงเปล่าประโยชน์ อีกอย่างไม่มีใครสักคนอยู่ในบ้าน เกิดเขาระห่ำทำบ้าอะไรขึ้นมาเธอคงหมดทางเอาตัวรอด
“ ทำไมทำท่าทำทางเหมือนรังเกียจฉันนักหนา ”
เขายิงคำถามพลางตักอาหารเข้าปากช้า ๆ
คนบ้า ยังจะมีหน้ามาถามอีก !
เปล่าหรอก เธอไม่ได้พูดมันออกมา เพียงแค่คิดอย่างโกรธ ๆ ในใจพลางเชิดหน้าขึ้นนิด ๆ
“ มัสพูดได้เหรอคะ ”
“ อืม พูดสิ ฉันอยากรู้ ”
“ เพราะมัสเกลียดคุณเอกไงคะ ทำเป็นช่วยให้มัสรอดพ้นจากเพื่อน แต่คุณกลับทำกับมัสเสียเอง คุณมันก็ไม่ต่างอะไรจากคุณเท็ดดี้หรอกค่ะ ” เขาส่ายศีรษะ
“ ไม่สิ ฉันต่างจากเท็ดดี้ เธอพิเศษสำหรับฉัน ”
คนพิเศษงั้นเหรอ เหตุผลของคนแก่ตัว !
มัสยาหน้าแดงก่ำ มือกำแน่น พยายามข่มใจไม่ให้เดือดพล่าน
“ หมดธุระแล้ว มัสขอตัวก่อนค่ะ ”
“ ฉันขอโทษ ” จู่ ๆ เขาก็โพล่งขึ้นมา แต่สีหน้าดูไม่ได้สำนึกผิดใด ๆ ทั้งสิ้น นั่นยั่วให้มัสยาขาดสติ
“ ถ้าคุณไม่ได้รู้สึกผิดจริง ๆ ก็ไม่ควรพูดออกมาค่ะ ”
“ รู้ได้ยังไงว่าฉันไม่รู้สึกผิด ”
เธอไม่ตอบ ได้แต่จ้องมองเขานิ่ง ๆ ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“ ถ้าอย่างนั้นก็ให้มันจบแค่นี้เถอะค่ะ มัสจะลืม ๆ มันไป ขอตัวก่อนนะคะ มัสรอโทรศัพท์แฟนอยู่ ” คิ้วเข้มเลิกขึ้นอย่างประหลาดใจ
“ อะไรกัน ฉันไม่อยู่สามปีนี่เธอชิงมีแฟนแล้วเหรอ หรือคบตอนฉันไม่อยู่ ”
“ ค่ะ คบกันตั้งแต่ปีสอง ” เธอโกหก แต่เธอสามารถพูดอะไรก็ได้ทั้งนั้นในตอนนี้ให้เขารู้สึกสำนึกขึ้นมาบ้าง
“ ทำไมคบคนอื่น ไม่คิดถึงฉันบ้างหรือไง ”
“ ทำไมมัสจะต้องคิดถึงคุณด้วยล่ะคะ เราไม่ได้เป็นอะไรกัน และมัสก็ไม่เคยคิดอะไรกับคุณทั้งนั้น ! ”
“ เรื่องคืนนั้นไม่มีความหมายอะไรกับเธอบ้างเลยเหรอ ”
“ ไม่ค่ะ ไม่มีแม้แต่นิด แถมมันยังทำให้มัสรู้จักคนอย่างคุณมากขึ้นอีกด้วย ”
“ เธอควรจะฟังฉันอธิบายก่อน ”
“ ไม่มีอะไรต้องฟังอีกแล้ว ลืม ๆ มันไปเสียเถอะค่ะ เพราะมัสลืมมันไปตั้งนานแล้ว ไม่รู้ว่าคุณจะมารื้อฟื้นมันอีกทำไม เรื่องไร้สาระ ! ” กรามได้รูปถูกขบเป็นสันนูน ความรู้สึกที่เขามีให้เธอไม่เคยไร้สาระ จะฟังเขาอธิบายบ้างไม่ได้หรือยังไงนะ ให้ตายสิ !
แต่นิสัยดื้อรั้นอยากเอาชนะของเขาที่มีมาแต่เกิดมันทำให้หมดความอดทนที่จะใช้น้ำเย็นเข้าลูบ ในเมื่อเธอร้อนใส่แถมยังหมิ่นคนอย่างเขา ก็ไม่จำเป็นต้องอดทน
“ แต่ฉันคิดถึงเธอนะมัส อีกอย่างคืนนั้นเธอก็มีความสุขมาก มันสุขจนกระทั่งเธอสลบคาปากฉันไปเลย ”
“ คุณเอก ! ”
“ อย่าเสียงดังสิ เราเป็นสุภาพชนนะ ค่อยๆ คุยกันสิ ”
เธอกัดฟันกรอด ใครจะทนสุภาพกับเขาได้ ถ้ามีไม้หน้าสามอยู่ตอนนี้เธอจะหยิบมันขึ้นมาตีหน้าเขาให้ยับ !
“ แฟนชื่ออะไร ” เขาถามต่อ
“ เอ่อ.. พีระค่ะ ” เธอตะกุกตะกักแต่ก็พูดชื่อเพื่อนสาวประเภทสองในกลุ่มคนหนึ่งออกไปได้ทันท่วงที ใบหน้าหล่อ รูปร่างสูงกำยำล่ำสัน มีอาชีพเป็นเทรนเนอร์ฟิตเนส ภายนอกเป็นชายชาตรีแต่ภายในเป็นสตรีทั้งแท่ง
เขาหยิบแก้วน้ำมาจรดปากดื่ม ละเลียดลงคอช้าๆ แล้วตวัดสายตามามองเธอแล้วยิ้มมุมปากก่อนถามเสียงเรียบ
“ แฟนเธอรู้หรือเปล่าว่าฉันเลียเธอหมดทั้งตัว แถมยังทำเธอแตกคาปากด้วย ”