บทที่ 3
“พืชสมุนไพรที่มีพิษแฝง”
เธอนอนอ่านหนังสือในมือแบบออกเสียง หลังจากที่หาวเป็นรอบที่สามเพื่อไม่ให้ตนเองง่วงหลับ หนังสือที่เธอเอามาจดย่อข้อมูลให้เขานั้น เกี่ยวกับพืชสมุนไพรพิษ ที่บางอย่างสรรพคุณอ่านแล้วช่างน่าหวาดเกรงยิ่งนัก
ดีเหมือนกันที่เธอได้ทำงานนี้ มันพลอยให้รู้ข้อมูลต่างๆ ไปด้วย เจ้านายของเธอมีหนังสือแบบนี้หลายเล่มเหลือเกิน แต่ล่ะเล่มข้อมูลแน่นเอี๊ยด ไม่แปลกหรอกที่นิยายของเขาจะสมจริงสมจังมาก เธอเองก็เป็นแฟนหนังสือของเขา ไม่มีใครที่อ่านผลงานของเขาแล้วจะไม่ติดตามต่อ เควินเป็นอัจฉริยะทางด้านงานวรรณกรรมตัวจริงเสียงจริงเลยก็ว่าได้
นักเขียนอัจฉริยะที่สิบปีจะมีหนหนึ่งของวงการวรรณกรรมอังกฤษ นี่คือสิ่งที่เขาได้รับฉายามา และมันก็ไม่น่าแปลกใจหรอก เพราะจากการเป็นผู้ช่วยของเขาแค่วันแรกก็ทำให้รู้แล้วว่า เขาตั้งใจกับงานของตนเองขนาดไหน
“เบลาดอนน่า มีพิษทำให้ไข้ขึ้นสูง ชัก เพ้อ อาเจียน และอาจทำให้ถึงตายได้ มีพิษทุกส่วนของต้น ต้นอะไรน่ากลัวได้ขนาดนี้กันนะ ใครจะอุตริปลูกกันหนอ”
เธอบ่นพึมพำ หลังจากที่อ่านมาจนเกือบจะหมดเล่ม จดจำสมุนไพรได้แล้วหลายชนิด เจ้านายของเธอจะเขียนเรื่องเกี่ยวกับอะไรกันนะหนนี้ หนก่อนผลงานล่าสุดเมื่อสองปีที่แล้วเกี่ยวกับพิศวาสฆาตกรรม นั่นแหละที่ทำให้เขาถูกมองว่าเป็นฆาตกรฆ่าเมียตัวเอง เพราะว่าสิ่งที่เกิดขึ้นช่างเหมือนกับนิยายที่เขาเขียนเสียเหลือเกิน แต่สุดท้ายตำรวจก็จับคนร้ายยังไม่ได้จนถึงเดี๋ยวนี้
เธอปิดสมุดและหนังสือ ปิดปากหาวหวอดอีกหนพลางมองนาฬิกา เกือบเที่ยงคืนแล้ว อลิเซียยิ้มน้อยๆ กับความขยันของตนเอง ก่อนจะบิดขี้เกียจแล้วลุกขึ้นจัดการอาบน้ำอาบท่า เตรียมเข้านอน งานนี้ไม่เลวร้ายนักหรอก ยิ่งเธอเป็นคนชอบอ่านหนังสืออยู่แล้วด้วยก็ยิ่งสนุก ทั้งได้ความรู้รอบตัวไปด้วยในตัว เธออ่านเกี่ยวกับสมุนไพรพิษพวกนี้จนแทบจะจำขึ้นใจได้แล้วว่าอะไรเป็นอะไร มีพิษแบบไหน
นี่ถ้าเธอปลูกพวกมันบ้าง จัดการผสมสูตรยา ทำยาพิษคร่าชีวิตคนได้เลยนะนี่
อลิเซียคิดเล่นๆ ก่อนจะปรือตาหลับลงเมื่อปีนขึ้นเตียงแล้วเรียบร้อย ไม่เลวนักหรอกกับการทำงานวันแรก อาหารการกินก็นับได้ว่าอร่อยเลยทีเดียว ห้องพักก็แสนสบาย และเจ้านายรูปหล่อที่ทำให้เธอเจริญหูเจริญตานั่นอีก แม้เขาจะไม่ใคร่ยิ้มและมักจะมองเธอด้วยสายตาแฝงเร้นอะไรบางอย่างก็ตามที
เร้นลับ...
ชวนให้หลงใหลอยากรู้จักนัก ว่าจริงๆ แล้วเขาเป็นคนอย่างไร
เควิน แอนเดอร์สัน
นัยน์ตางดงามพริ้มหลับในที่สุด ค่ำคืนแรกในคฤหาสน์อันเก่าแก่หรูหราของอลิเซีย
กลิ่นหอมแปลกๆ ฟุ้งกรุ่นในอากาศ เหมือนกลิ่นของเครื่องหอมสมุนไพร อลิเซียสูดจมูกฟุตฟิต กลิ่นของมันหอมก็จริง แต่ก็ทำให้เธอรู้สึกเหมือนกึ่งหลับกึ่งตื่น ทำไมอย่างนี้กันนะ หรือเพราะเธอยังไม่คุ้น
อลิเซียพยายามปรือตาขึ้น แต่หนังตาก็หนักนัก ทำไมมันถึงรู้สึกแบบนี้กันหนอ หรือว่าเธอกำลังฝัน ในความฝันนี้ช่างอึดอัดนัก เพราะเหมือนจะขยับร่างกายแต่ก็ทำไม่ได้อย่างใจนึก ในที่สุดเธอก็ปรือตาขึ้นมาได้ สายตาของเธอปะทะเข้ากับร่างสูงใหญ่ ที่ทรุดนั่งอยู่ข้างเตียง อลิเซียพยายามเบิกตาดู แต่ก็ทำไม่ได้ ร่างกายหนักหน่วงประท้วงไม่ยอมขยับ โอ...นี่เป็นฝันที่ช่างแสนน่ากลัวนัก
เธอมองไม่เห็นเขาชัดนัก เสี้ยวหน้านั้นซ่อนในเงามืด มือหนาของเขาเอื้อมมาที่ใบหน้าของเธอ อลิเซียกลั้นใจ เมื่อมันสัมผัสกับหน้าเนียนนุ่มนั่น มือใหญ่ไล้ไปเรื่อยตามรูปหน้าเรียว เสียงถอนใจน้อยๆ ดังจากร่างนั้น เธอกลัวเหลือเกิน...นี่มันอะไรกันนะ เขาค่อยก้มลงมาจนชิดใบหน้าเธอ แล้วแตะจมูกที่แก้มเนียนเบาๆ ก่อนจะผุดลุกขึ้น แล้วเดินก้าวช้าๆ ออกไปจากห้องนอนของเธอ
จมูกได้กลิ่นหอมเย็น สมองเริ่มพร่าเบลอ สติครึ่งๆ กลางๆ ดับวูบลงไป แล้วทุกอย่างก็กลายเป็นสีดำสนิท...
………………………………………………………………………………………………
เมื่อคืนนี้เธอฝันอะไรกันนะ...
อลิเซียยังคงมึนงง กับเรื่องค่ำคืนที่ผ่านมา กลิ่นหอมอวลประหลาดนั่นติดจมูกจนรุ่งเช้า มันกรุ่นตามที่นอนและเสื้อผ้า รวมถึงเรือนกายของเธอ มันคงจะเป็นกลิ่นของน้ำหอมเครื่องอบผ้ากระมัง ขนาดอาบน้ำแล้วกลิ่นก็ยังไม่จางจากผิวเนื้อเลยเสียทีเดียว
เธอรีบเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วเดินลงมายังห้องรับประทานอาหาร ไม่อยากให้เจ้าของบ้านต้องรอนาน มื้อเช้ามื้อแรกของคฤหาสน์แอนเดอร์สัน และนอกจากเควินที่นั่งอยู่ตรงเก้าอี้หัวโต๊ะแล้ว ขวามือของเขามีตุ๊กตานางฟ้าน้อยๆ นั่งอยู่
เด็กหญิงหันหน้ามองเธอ ใบหน้ารูปหัวใจจิ้มลิ้ม นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มเหมือนช็อกโกแลตกำลังมองเธอเขม็ง ริมฝีปากรูปกระจับเม้มแน่น ผมยาวเป็นเกลียวธรรมชาติล้อมกรอบใบหน้าหวานนั้น ทำให้เจ้าหล่อนงดงามราวกับนางฟ้า แต่เป็นนางฟ้าหน้าบึ้งและคิ้วขมวด ดูแล้วอารมณ์ไม่ใคร่จะสู้ดีนัก
“นังนี่เป็นใครคะแด๊ด”
“คาเรน อย่าพูดจาไม่สุภาพกับผู้ช่วยของพ่อ”
เสียงขรึมๆ ของบิดาเอ่ยเตือน หากแต่นางฟ้าน้อยกลับหัวเราะ
“ผู้ช่วยของแด๊ด ก็ขี้ข้าน่ะสิคะ ทำไมจะพูดไม่ดีด้วยไม่ได้ จริงไหม นังหมูสกปรก”
เด็กเปรต!
อยากจะอุทานออกไปอย่างนี้นัก แต่อลิเซียก็ได้แต่ยิ้มหวานส่งให้ แม่นางฟ้า ไม่สิ ต้องเรียกว่าแม่มดน้อยๆ ดีกว่า ยังคงนั่งมองเธอด้วยสายตาวาวๆ เจ้าเล่ห์ และยิ้มหยันส่งให้ ยามยิ้มเย้ยโลกแบบนี้ พันธุกรรมก็แสดงผลของมันบนใบหน้าของเด็กน้อย เพราะมันละม้ายคล้ายคลึงกับบิดายิ่งนัก
“ขอโทษแทนลูกสาวของฉันด้วย คาเรนวันนี้ลงเตียงผิดด้านหรือ? ถึงได้เป็นเด็กดื้อแบบนี้ ขอโทษคุณอลิเซียสิ เธอจะเป็นแนนนี่ของลูกด้วย แทนคนเก่าที่ลาออกไป”
“...”
ใบหน้าน่ารักนั้นทำเชิด ไม่สนใจที่บิดาสั่งความเลยสักเพียงน้อย อลิเซียได้แต่ยิ้มแหย เควินสั่นหน้าน้อยๆ แล้วให้ความสนใจอาหารในจานแทน สาวใช้รีบเข้าประจำตำแหน่ง และจัดการวางอาหารเช้าตรงหน้าเธอ
ไส้กรอกทอด เบคอนเกรียมกำลังดี ไข่ดาวสองฟอง มีผักบ็อกโคลี่ผัดเนยเคียงมาด้วย พร้อมทั้งมะเขือเทศหั่นบาง ขนมปังปิ้งทาเนยและแยมผิวส้ม น้ำส้มคั้นอีกแก้วใหญ่ นี่กระมังที่ถือว่าเป็นโชคดีอย่างมากของอลิเซียที่มาทำงานที่นี่ เพราะมีอาหารอร่อยจัดเต็มแบบไม่อั้นทุกมื้อ
เธอรับประทานอาหารได้ค่อนข้างมาก เธอก้มหน้าก้มตาอยู่แต่กับจานของตนเอง ไม่ได้สนใจพ่อลูกคู่นั้นเลย ได้ยินเพียงเสียงหัวเราะคิกคักของแม่มดตัวน้อย และเสียงห้าวๆ ของบิดาที่ตอบโต้
นี่เธอต้องเป็นพี่เลี้ยงเด็กด้วยหรือนี่...แล้วก็ต้องอ่านหนังสือกองโต ย่อยข้อมูล จดข้อมูล จะว่าไปเงินเดือนที่เขาเสนอให้เธอ มันก็ใช้งานเธอได้คุ้มค่าอยู่หรอก งานที่นี่โชคดีตรงมีที่กิน ที่พัก ไม่ต้องเช่าหรือจ่ายเพิ่มอะไร ถ้าประหยัดๆ ก็เก็บเงินได้ก้อนโต
น่าเกรงอยู่อย่างเดียว ก็คือนายจ้าง...ทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ เธอคิดในใจ พลางลอบมองคนทั้งคู่ ตอนนี้แม่เด็กน้อยกำลังจิ้มไส้กรอกป้อนบิดา ท่าทีน่ารักไร้เดียงสา ไม่น่าเชื่อว่าจะพูดจาแบบนั้นกับเธอ ไม่รู้ว่าเด็กคนนี้ถูกอบรมมาแบบไหน อย่างไรกันแน่นะ
เมียของเขาที่ถูกฆาตกรรมเป็นคนแบบไหนกันนะ ถึงได้อยู่กับคนลึกลับแบบเควินได้
“วันนี้ช่วยงานฉันครึ่งวัน ส่วนอีกครึ่งวัน ฉันอยากให้เธอช่วยสอน หนังสือให้กับคาเรน พอจะทำได้ไหมอลิเซีย”
เสียงคำสั่งนั้นดังขึ้น ทำเอาเธอเกือบสำลักน้ำส้มที่กำลังจิบ สิ่งที่เธอหวาดกลัวที่สุดกำลังมาถึงแล้วสินะ คือการรับมือกับเด็กร้ายกาจนี่
“ทำได้ค่ะ”
“หนูไม่เรียนกับนังผิวเหลืองนี่นะคะแด๊ด ไม่เรียนค่ะ เอาครูเบรกคืนมา”
เสียงแหลมเล็กโวยวายขึ้นทันที ก่อนจะเบ้ปากใส่เธอ มือหนาลูบศีรษะบุตรสาว แล้วเอ่ยอ่อนโยน ไม่สนใจกิริยาสะบัดหนีของเด็กน้อย
“ต้องเรียน ครูเบรกลาออกไปแล้ว ลูกไปแกล้งอะไรเค้าเข้าล่ะ”
“ไม่ได้ทำอะไรเสียหน่อย”
แม่ตัวเล็กว่า แล้วลุกขึ้นยืน เธอสะบัดหน้าใส่อลิเซีย แล้ววิ่งแจ้นหนีออกจากประตูไปเลย
“ขอโทษอีกครั้งนะ”
เควินเอ่ย อลิเซียกลืนน้ำลาย เขามอบหน้าที่แนนนี่ให้เธอแบบนี้แล้ว เธอก็จะต้องมีข้อต่อรองกันบ้าง ก็ลูกสาวเขาน่ะเหลือขอเสียเหลือเกิน
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เอ่อ...คุณเควินคะ ถ้าดิฉันอยากจะขออะไรสักเล็กน้อย ในการทำหน้าที่พี่เลี้ยงเด็กให้กับลูกสาวของคุณ คุณจะอนุญาตไหมคะ”
“ได้สิ” นัยน์ตาสีฟ้าจัดมองเธออย่างสงสัย
“ฉันอยากจะขออำนาจ ในการลงโทษ ตักเตือนคาเรน ถ้าเกิดว่าแกแสดงกิริยาไม่เหมาะ คำพูดไม่ควรอย่างเมื่อครู่”
“เธอจะทำอะไรลูกสาวฉันหรือ?” ชายหนุ่มหรี่ตาลง แล้วเอ่ยเสียงขรึม
“ฉันให้อำนาจเธอ แต่ห้ามตีลูกสาวฉันเด็ดขาด”
“ได้ค่ะ ไม่มีการตีเด็ดขาด”
อลิเซียยิ้มบางๆ เควินไม่รู้เสียแล้วว่า บางทีการลงโทษที่น่ากลัวการตี ก็มีหลากหลายนัก
แล้วเธอก็ชักนึกสนุกในการอย่างจะช่วยดัดนิสัยแม่มดน้อย ให้กลายเป็นนางฟ้าตัวน้อยเสียด้วย