หญิงสาวคนนั้น
“ โอ้โห ทำไมพี่ตัวโตเหมือนต้นไม้เลย กินอะไรเข้าไปเนี่ย ”
“ กินอาหารที่มีประโยชน์แล้วเล่นกีฬาสิ ตอนเด็ก ๆ พี่ก็ตัวเล็ก ๆ เหมือนพวกเรานี่แหละ ”
“ แม่ครูบอกว่าพี่กินทุกอย่างเลย ผักชีก็กิน ผักบุ้ง บวบก็กิน หนูไม่ชอบกินผักเลย ”
“ อ้าว แล้วกัน ไม่งั้นหนูก็จะไม่โตนะครับ ”
“ ไม่โตก็ไม่โต ตัวใหญ่อย่างพี่น่ากลัวเหมือนยักษ์ ”
พูดแล้วก็วิ่งจากไป เด็กหนอเด็ก คิดอะไรก็พูดออกไปอย่างนั้น ไม่ต้องปกปิด ไม่ต้องเสแสร้ง
ขณะกำลังคิดอะไรเพลิน ๆ พลันสายตาก็ไปกระทบกับร่างหนึ่งที่ตรึงสายตาเขาได้ทันที
ผู้หญิงร่างบอบบาง ผมดำขลับยาวสลวยราวเส้นไหมน่าจะถึงกลางหลัง สวมชุดเดรสแขนตุ๊กตากระโปรงทรงเอยาวเลยหัวเข่าสีชมพูอ่อนลายดอกไม้เล็ก ๆ เมื่อเจ้าหล่อนเดินมาใกล้ขึ้นก็เผยให้เห็นผิวขาวสะอาด ตากลมโต จมูกเล็กโด่งรั้น เหนือริมฝีปากอวบอิ่มสีชมพูระเรื่อ ใบหน้าไร้การแต่งแต้มจากเครื่องสำอางหรือหากจะแต่งก็คงบางเบาเหลือเกิน
ในมือของเธอ ถือตะกร้าที่ด้านในบรรจุของคล้ายปิ่นโตหรือกล่องข้าว รามแอบยิ้มกับตัวเอง คงจะเป็นแฟนสาวหรือแม่บ้านของใครสักคนที่ทำกับข้าวมาส่งคู่รัก น่ารัก น่าอิจฉาเป็นบ้า
ผู้หญิงใส ๆ แบบนี้ก็น่ารักไปอีกแบบ ที่เขาเคยเจอมามีแต่แม่เสือสาวเปรี้ยวเข็ดฟันที่พร้อมเสนอตัวเพื่อเข้าสู่สมรภูมิกามารมณ์มานับไม่ถ้วน ไอ้เขาเองมันเป็นคนเงียบขรึม เลยไม่เคยไปจีบผู้หญิงที่ไหนจริง ๆ จัง ๆ มัวแต่ตั้งใจเรียน ทำงานพิเศษ จบแล้วก็ตั้งใจทำงาน ลืมคิดถึงเรื่องความรักไปเสียฉิบ
เมื่อเห็นสาวน้อยหน้าหวานนอกกระจกคนนั้นก็อดคิดซน ๆ ตามประสาผู้ชายไม่ได้ว่า ผู้หญิงหวาน ๆ แบบนี้เวลาอยู่บนเตียงเมื่อโดนเล้าโลมด้วยฝีมืออันจัดเจนของเขาแล้วเธอจะเร่าร้อนได้แค่ไหนกันนะ
รามมองตามผู้หญิงคนนั้นจนเหลียวหลังก่อนจะลับสายตาไป แล้วก็ต้องสะดุ้งตกใจเมื่อมีฝ่ามือหนึ่งฟาดเข้าที่ไหล่อย่างแรง
“ เฮ้ย ไอ้พระราม มึงเหลียวหลังมองนางสีดาที่ไหนวะน่ะ ปกติเห็นนิ่งอย่างกับพระพุทธรูป ”
รามหันมามองเจ้าของเสียง นฤบดินทร์สวมเชิ้ตสีขาวด้านในแล้วทับด้วยสูทกับกางเกงสแล็คยี่ห้อดังราคาแพงหูฉี่ สมกับความเป็นเพลย์บอยไฮโซเช่นเคย
“ เปล่า ก็มองปกติ ” นฤบดินทร์ยิ้ม เพื่อนเขายังคงหล่อเหลาเคร่งขรึมเช่นที่เป็นมา
“ กินอะไรมายัง ”
รามส่ายศีรษะ ยังไม่ทันพูดอะไรต่อโทรศัพท์มือถือของนฤบดินทร์ก็ดังขึ้น ชายหนุ่มหยิบขึ้นมาดูชื่อแล้วเหลือบตามองเพดานอย่างเบื่อ ๆ รามเลิกคิ้วเป็นเชิงถามเมื่อเห็นสีหน้าของเพื่อน อีกฝ่ายอ้าปากพะงาบ ๆ อ่านออกได้ว่าเดี๋ยวเล่าให้ฟัง แล้วกดรับสาย
“ ว่าไงคะน้องน้ำหนึ่ง ” นิ่งไปสักพักเพื่อฟังปลายสาย จากนั้นก็กรอกเสียงกลับไป
“ พี่คุยธุระกับแขกอยู่ที่ห้องรับแขกวีไอพีนะ น้ำหนึ่งฝากไว้ประชาสัมพันธ์ก็ได้ค่ะ เดี๋ยวพี่ไปทาน ”
นิ่งไปอีกครู่หนึ่ง
“ โอเค ถ้างั้นเข้ามาก็ได้ค่ะ พอดีแขกก็เพื่อนพี่เองแหละ มาคุยงานกัน แล้วเจอกันค่ะ ” แล้วเขาก็กดวางสาย
“ น้องน้ำหนึ่ง คู่หมั้นกูเอง พ่อเขากับพ่อกูเป็นเพื่อนและหุ้นส่วนทางธุรกิจกัน พึ่งจบปริญญาตรี ลูกสาวคนเดียวเลี้ยงอย่างกับไข่ในหิน ” รามพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้
“ แต่แม่งจืดชืดเป็นบ้า แต่งตัวก็อย่างกับนางชี ปิดบนปิดล่าง นี่มาทำไมรู้ไหม ทำกับข้าวมาส่งมื้อเที่ยงกูเว้ย แม่งทำอย่างกับเมียทำกับข้าวไปส่งผัวที่ทุ่งนาตามบ้านนอก กูจะบ้าตาย ”
รามขมวดคิ้ว นึกตะหงิดในใจ ทำกับข้าวมาส่ง จะใช่ผู้หญิงที่ถือตะกร้าอาหารคนนั้นหรือเปล่าหนอ
ทันใดนั้นคำตอบก็เดินมาให้เห็นตัวเป็น ๆ ใช่เธอจริง ๆ ด้วย !
เธอเดินเข้ามาใกล้ก็ยิ่งเห็นความสวยน่ารักมากขึ้น ผิวขาวใสเนียนละเอียด ตาโต แก้มป่อง พร้อมรอยยิ้มหวานอันประดับอยู่บนใบหน้า ก่อนเอ่ยทักทายนฤบดินทร์
“ พี่บดินทร์ สวัสดีค่ะ ”
“ สวัสดีค่ะ น้องน้ำหนึ่งคะ นี่ ราม ราชรักษา เพื่อนพี่ที่เคยเรียนที่ออสมาด้วยกัน เป็นสถาปนิกมือหนึ่ง พี่เลยจะให้ช่วยออกแบบโรงแรมโครงการที่หัวหินให้ ราม นี่น้องน้ำหนึ่งนะ คู่หมั้นกู ”
“ สวัสดีค่ะพี่ราม ” เธอยกมือขึ้นไหว้และส่งยิ้มหวานให้ รามยิ้มแล้วตอบกลับ
“ สวัสดีครับน้องน้ำหนึ่ง ”
“ น้ำหนึ่งทำกับข้าวกับขนมมาให้พี่บดินทร์ทานกลางวัน พี่รามทานด้วยกันนะคะ น้ำหนึ่งทำมาเยอะเลยค่ะ ”
รามเงยหน้ามองเพื่อนที่พยักหน้ากลับมาเป็นเชิงให้เขารับ ๆ ไป หญิงสาวเปิดตะกร้าแล้วหยิบกล่องอาหารขึ้นมาวางเรียงบนโต๊ะแล้วเปิดฝาออกเผยให้เห็นอาหารที่อยู่ด้านใน จากนั้นก็นำจานชามช้อนขึ้นมาเรียง