นางนกต่อจำเป็น (100%)

“แล้วเราจะให้ใครไปล่ะครับท่าน” แมทธิว เมดิสันผู้หมวดหนุ่มมาดกวนของแผนกอาชญากรรมสวนขึ้นทันทีที่ผู้อาวุโสสุดในองค์ประชุมกล่าวจบ

“นั่นน่ะสิคะ การที่จะเข้าไปล้วงคอเจ้าพ่อมันเป็นงานที่หนักหนาและเสี่ยงอันตรายเอาการ” หมวดนีน่าไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งที่จะให้ลูกผู้หญิงไปเสี่ยงอันตราย ฟรานเชเซียส โบลาโกนี ขึ้นชื่อเรื่องความโหดร้ายและป่าเถื่อนมากแค่ไหนทุกคนในที่นี้ก็น่าจะรู้ดี

“ก็คงจะเป็นนักข่าวคนเดิมนั่นแหละ เธอดูกล้าหาญดี” เธอที่ผู้อาวุโสกล่าวถึงคือนักข่าวสาวสายอาชญากรรมของสำนักข่าวดัง ที่เคยอาสาเข้ามาร่วมสืบคดีกับทางตำรวจหลายต่อหลายครั้ง อลิซาเบธ เทเลอร์ไม่เพียงแค่เป็นนักข่าวขาลุยเธอยังเคยเป็นอดีตนายตำรวจฝีมือดี แต่ต้องลาออกจากราชการเพราะหูพิการจากแรงระเบิดในเหตุการชุมนุมต่อต้านนโยบายของรัฐบาลเมื่อสามปีก่อน

“มันจะดีเหรอครับท่าน เอาคนไม่มีทักษะการต่อสู้ไปทำงานใหญ่แบบนี้” จ่าวัยใกล้เกษียณนายหนึ่งแย้งอย่างสุภาพ เพราะไม่เห็นด้วยกับศักยภาพของนักข่าวสาว ถึงแม้ว่าเธอจะเคยผ่านงานมาแล้วหลายครั้งก็ตาม

“ใครว่าล่ะ เธอเป็นอดีตตำรวจฝีมือดีเชียวนะ แต่หูพิการก็แค่นั้น” น้อยคนนักที่จะรู้ความจริงเกี่ยวกับนักข่าวสาวในข้อนี้ และท่านนายกเทศมนตรีก็ไม่คิดว่าหูพิการจะเป็นอุปสรรคต่อการทำงานในครั้งนี้

“แต่ดิฉันว่าให้คนอื่นไปทำแทนเถอะนะคะ อย่าให้เธอไปเลยมันเสี่ยงอันตราย” หมวดออร์ลีนหันไปบอกท่านนายยกเทศมนตรีด้วยความเป็นห่วงนักข่าวสาว ซึ่งหมวดนีน่าก็พยักหน้าเห็นด้วยอีกแรง

“นั่นสิครับท่าน มันเสี่ยงเกินไปนะผมว่า” หนึ่งในนั้นเห็นด้วยเพราะว่างานในครั้งนี้มันไม่ต่างอะไรกับล้วงคอพญาราชสีห์ตัวเอ้ แถมพญาราชสีห์ตัวนี้ยังมีเขี้ยวเล็บแหลมคมและพิษสงรอบด้าน การจะทำภารกิจใหญ่อย่างนี้คงไม่เหมาะกับผู้หญิงเป็นแน่

“งั้นเราจะให้ใครไปล่ะ ในเมื่อทางนั้นเขาระบุว่าต้องการนักวิทยาศาสตร์สาว หรือพวกคุณจะแต่งหญิงแล้วปลอมตัวไปเอง” ว่าพลางไล่กวาดสายตาคมกริบมองใบหน้าของลูกน้องที่เป็นชายทั้งแท่งทีละคน ซึ่งชายชาตรีอกสามศอกทุกนายในที่นี้ต่างพากันหลบตาผู้อาวุโสพัลวัน ด้วยเกรงว่าตัวเองจะเป็นผู้ถูกเลือก

ทุกคนอดที่จะขำกับวาจาที่ท่านนายกเทศมนตรีเปล่งออกมากันไม่ได้ ในสถานการณ์ตึงเครียดแบบนี้ผู้บังคับบัญชาสูงสุดในห้องประชุมยังมีอารมณ์ขันมาพูดจาติดตลก แต่นั่นก็ทำให้ทุกคนที่กำลังถกเถียงและออกหัวคิดรู้สึกผ่อนคลายได้อย่างไม่น่าเชื่อ

“ดิฉันขออาสาไปทำงานนี้เองค่ะ” น้ำเสียงเด็ดเดี่ยวมั่นคงของสารวัตรทวิชา แฟรงคลินท์ ซึ่งเป็นหัวหน้าของตำรวจ (Chief Police) ทุกนายในที่นี้โพล่งขึ้น ทำให้ตำรวจทั้งห้องประชุมถึงกับพากันหันขวับมามองคนยืดอกรับหน้าที่นางนกต่ออย่างพร้อมเพรียงกัน

“ให้ผู้หญิงไปทำงานใหญ่แบบนี้ มันจะไหวเหรอครับท่าน” ผู้กองแฮริสัน แมคอาดัม ที่นั่งอยู่ทางซ้ายมือของประธานในห้องประชุมเอ่ยขึ้นอย่างไม่เห็นด้วย

ทวิชาหันขวับไปมองหน้าคนที่เพิ่งพ่นวาจาไม่น่าฟังออกมาพร้อมกับกำหมัดแน่น ตอนเสนอให้นักข่าวสาวไปทำภารกิจอีกฝ่ายนั่งนิ่งเฉยทำเป็นทองไม่รู้ร้อน แต่พอถึงทีเธอเสนอตัวกลับทำท่าจะค้านหัวชนฝา

“ผู้หญิงก็มีศักยภาพไม่ต่างจากผู้ชายนักหรอกค่ะ เผลอๆ อาจจะเก่งกาจกว่าซะด้วยซ้ำ” คนรอเวลานี้มานานตอบโต้ด้วยน้ำเสียงสุภาพ หากแต่วิ่งเข้าทิ่มแทงใจดำคนฟังทุกประโยค นั่นก็เป็นเพราะหญิงสาวไม่ชอบใจที่อีกฝ่ายมักจะพูดจาดูถูกความสามารถและระดับมันสมองของเพศแม่อยู่เนืองๆ

“เฮอะ…” ยังไม่ทันที่คนทำเสียงเยาะขึ้นจมูกจะพูดต่อให้จบประโยค สารวัตรสาวขาโหดก็ชิงโพล่งขึ้นเสียก่อน

“และฉันก็ขอรับรองด้วยเกียรติ ว่าจะไม่ทำให้ทุกคนในที่นี้ผิดหวัง” แม่สาวขาโหดยืนยันให้ทุกคนในองค์ประชุมได้มั่นใจด้วยท่าทางมาดมั่น

“คุณแน่ใจนะว่า หากถูกจับได้คุณจะไม่ปอดแหกบอกแผนการให้พวกมันรู้ซะจนหมดสิ้น” คู่อริของทวิชายังคงกัดไม่ปล่อย ทำเอาหญิงสาวถอนหายใจออกมาอย่างฉุนจัด ไม่เคยมีใครกล้าท้าทายเธอได้มากถึงเพียงนี้ แล้วเรื่องอะไรเธอจะยอมลงให้ไอ้หน้าแหลมตรงหน้า

“ตำแหน่งสารวัตรที่มันค้ำคอฉันอยู่ทุกวันนี้ ฉันไม่ได้จับฉลาก ร่วมชิงโชคหรือได้รับการหนุนหลังจากผู้ใหญ่เหมือนใครบางคน เพราะฉะนั้นไม่ต้องเป็นห่วงว่าฉันจะปริปากแพร่งพรายความลับออกไปหรอก ถึงตายความลับทั้งหมดก็จะไม่ถูกเปิดเผย และฉันขอสัญญาว่าจะทำงานให้คุ้มค่าจ้างที่มาจากภาษีของประชาชนอย่างแน่นอน”

ทวิชายืดอกบอกอย่างกล้าหาญ แล้วก็ถึงคราวที่ลูกชายของอดีตรัฐมนตรีใหญ่อย่างผู้กองแฮริสัน แมคอาดัม จะสะดุ้งจนแทบตกเก้าอี้ ส่วนคนอื่นๆ ก็ได้แต่พากันแอบยิ้มด้วยความพอใจ จะหนักก็คงจะเป็นฝ่ายตำรวจหญิงที่พากันปิดปากหัวเราะเบาๆ อย่างพยายามรักษามารยาท

“คุณแน่ใจแล้วเหรอสารสารวัตรทวิชา ว่าจะอาสาไปทำงานนี้ด้วยตัวเอง” หลังจากฟังหนุ่มสาวที่เป็นไม้เบื่อไม้เมาถกเถียงกันพักใหญ่ เสียงทุ้มของท่านนายยกเทศมนตรีก็เอ่ยขึ้นอย่างไม่อยากจะเชื่อ ถึงจะรู้ว่าลูกน้องสาวจะมีความกล้าหาญอยู่ในสายเลือดไม่ต่างจากบิดาของเธอผู้ซึ่งเป็นเพื่อนรักของเขาที่ล่วงลับไปแล้ว แต่ก็ไม่คิดว่าทวิชาจะบ้าดีเดือดได้มากขนาดนี้

“นั่นสิครับสารวัตร มันเสี่ยงมากเลยนะ ผมว่าให้คนอื่นไปทำเเทนกว่าดีไหม” ยังไม่ทันที่สารวัตรสาวคนสวยทว่าโหดจะได้เอื้อนเอ่ยประการใดต่อผู้บังคับบัญชา เสียงหนึ่งก็ดังแทรกขึ้นมาเสียก่อน

พอทุกถ้อยคำของหนึ่งในเพื่อนร่วมงานกล่าวเหมือนจะเตือนด้วยความเป็นห่วง แล้วทั้งองค์ประชุมก็พยักหน้าหงึกหงักเห็นด้วย ตำรวจสาวทุกนายต่างส่งสายตามาวิงวอนคล้ายจะขอให้สารวัตรตรองดูใหม่ เพราะทุกคนต่างก็รักและเป็นห่วงเธอ

“เสี่ยงแค่ไหนดิฉันก็ไม่หวั่น ถ้ามันจะทำให้คนชั่วมารับโทษในสิ่งที่มันได้ก่อไว้ ดิฉันพร้อมแม้จะต้องสละชีวิตเพื่อภารกิจในครั้งนี้ค่ะ” ทุกคนต่างทึ่งและนับถือในความห้าวหาญเยี่ยงชายชาตรีของสารวัตรสาว

“เอ้า…ก็ได้ ถ้าคุณว่าอย่างนั้น เราก็จะลองกันสักตั้ง” ท่านนายกเทศมนตรีถอนหายใจออกมาอย่างปลงๆ ก่อนจะยอมแพ้ให้กับความดื้อแพ่งของทวิชา เพราะคิดว่าถึงจะห้ามยังไงแม่สาวใจกล้าก็คงจะค้านหัวชนฝาอยู่ดี

“ขอบคุณค่ะท่าน ขอบคุณที่ให้โอกาสดิฉัน” หญิงสาวเอ่ยด้วยรอยยิ้มน้อยๆ ทว่าแฝงไปด้วยความมุ่งมั่นกับภารกิจที่ตัวเองเพิ่งคว้ามาไว้ในกำมือ

คริสโตเฟอร์ไม่ได้ว่ากระไร ทำเพียงพยักหน้าให้เบาๆ ก่อนจะผุดลุกขึ้นแล้วเดินออกจากห้องประชุม โดยมีนายตำรวจท่านอื่นทยอยตามหลังไป จนเหลือเพียงทวิชาที่ยืนยิ้มอยู่คนเดียว

ประตูของห้องทำงานใหญ่บนชั้นสูงสุดของบริษัทโบลาโกนี กรุ๊ป ถูกเปิดออกพร้อมร่างสูงใหญ่ของแฟรงค์ในบ่ายแก่ของวันจันทร์

“เป็นไงวะ ได้เรื่องอะไรบ้างไหม” เจ้าของร่างสูงใหญ่ที่อยู่ภายใต้ชุดสูทหรูราคาแพงระยับจ้องใบหน้าคนสนิท พร้อมกับเอ่ยถามถึงเรื่องสำคัญที่ให้ไปจัดการ

“ยังไม่เจอความผิดปกติอะไรเลยครับนาย” คนที่กุมมือยืนตัวตรงอยู่หน้าโต๊ะทำงานใหญ่รายงานผู้เป็นนายด้วยเสียงนิ่ง ตามความเป็นจริงที่ได้รับการยืนยันจากคนที่เขาให้เฝ้าสังเกตการณ์หุ้นส่วนในบริษัทมาตลอดช่วงเวลาหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา

ปัง!

เสียงตบโต๊ะดังสนั่นตามแรงอารมณ์ของเจ้าพ่อหนุ่ม หากไม่คุ้นชินกับความเกรี้ยวกราดของเจ้านาย แฟรงค์คงได้สะดุ้งสะเทือนและเหงื่อแตกซิกไปแล้ว แต่นี่ถือว่าเป็นเรื่องปกติ ถึงคราวไม่ได้ดั่งใจฟรานเชเซียสก็มักจะออกอาการโมโหหน้าดำหน้าแดง

“ดูเหมือนว่าจะมีคนเริ่มรู้ระแคะระคายบ้างแล้วครับ” แฟรงค์เอ่ยปากรายงานไปเรื่อยๆ ไม่ได้อนาทรร้อนใจที่เจ้านายหนุ่มจะของขึ้น

“บ้าเอ๊ย ให้มันได้อย่างนี้สิวะ!” เจ้าพ่อคลังแสงสบถลั่นด้วยความฉุนจัด นัยน์ตาสีทองอร่ามมีประกายไฟ ใบหน้าหล่อระเบิดระเบ้อราวเทพบุตรที่หลุดออกมาจากตำนาน บัดนี้กลับฉาบไปด้วยความถมึงทึง ดูน่าประหวั่นพรั่นพรึงไม่ต่างจากพญามัจจุราชต้วร้ายที่หลุดออกมาจากห้วงอเวจี

“แต่นายไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ อีกไม่นานเราคงได้รู้ตัวคนทำแน่” คราวนี้น้ำเสียงของเลขาฯ ร่างยักษ์ทำการยืนยันอย่างหนักแน่นมั่นคง

“จะรู้ได้ไงวะ ในเมื่อดูท่าว่ามันจะไหวตัวทันแล้ว” เจ้าพ่อค้าอาวุธกระแทกลมหายใจออกมาอย่างหงุดหงิด

“ยังหรอกครับ แต่ช่วงนี้มันยังไม่เคลื่อนไหวก็แค่นั้นเอง” แฟรงค์ยังมั่นใจเพราะการทำทุจริตเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นในบริษัท เชื่อว่าคนชั่วยังไม่ยอมรามือง่ายๆ ตราบใดที่พวกมันยังกอบโกยผลประโยชน์และเงินเข้ากระเป๋าไม่หนำจำ

“ถ้ามันเป็นอย่างนั้นก็ดีสิวะ” ว่าพลางกระแทกลมหายใจผ่าวระอุที่อัดแน่นไปด้วยความเครียดเขม็งออกมาแรงๆ แต่ไหนแต่ไรบริษัทของเขาไม่เคยมีเรื่องพรรค์นี้เกิดขึ้น แล้วใครกันนะที่มันเผยออยากจะวัดรอยเท้ากับเจ้าพ่อจอมอหังการอย่างฟรานเชเซียส โบลาโกนี

“เป็นไม่เป็น เดี๋ยวเราก็รู้ครับ เพราะผมให้คนตามติดดูพฤติกรรมของผู้ถือหุ้นรายหลักๆ อย่างใกล้ชิด ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือคุณราฟาล นายคงไม่ว่าอะไรใช่ไหมครับ” เลขาฯ หนุ่มมั่นใจว่าคนที่กล้าทำเรื่องใหญ่อย่างนี้ได้คงจะเป็นผู้บริหารระดับสูงของบริษัทอย่างแน่นอน

“อืม…ตราบใดที่เรายังไม่รู้ความจริง ทุกคนคือผู้ต้องสงสัยทั้งหมดนั่นแหละ รวมทั้งไอ้ราฟาลด้วย” ฟรานเชเซียสยกมือขึ้นลูบปลายคางบึกบึน แล้วบอกอีกฝ่ายด้วยท่าทางสุขุมเยือกเย็น หลังจากใช้สมองอันชาญฉลาดคิดไตร่ตรองดูแล้ว ประกอบกับช่วงนี้ราฟาลไม่ค่อยเข้าบริษัท และชอบทำตัวผลุบๆ โผล่ๆ

“ผมเปิดรับสมัครนักวิทยาศาสตร์ชุดใหม่ทางหน้าเว็บไซต์ของบริษัท และเว็บไซต์จัดหางานตามที่นายต้องการแล้วนะครับ นายจะให้ผมเริ่มเรียกสัมภาษณ์เลยไหมครับ” ถามถึงนักวิทยาศาตร์อัจฉริยะระดับหัวกะทิที่จะมาคิดค้นและต่อยอดอาวุธนิวเคลียร์รุ่นใหม่ล่าสุด หลังจากที่ชุดเก่าหายสาบสูญ

“โอเค ดำเนินการได้เลย แต่ก็อย่าลืมให้คนตามหาชุดเดิมล่ะ ฉันว่าคนพวกนั้นยังมีชีวิตอยู่ที่ไหนสักแห่งบนโลกอย่างแน่นอน”

การที่นักวิทยาศาสตร์ของบริษัทหายไปอย่างไร้ร่องรอยเมื่อเดือนที่แล้ว สร้างความหนักใจให้ฟรานเชเซียสเป็นอย่างมาก เพราะความเสียหายและความล่าช้าย่อมเกิดขึ้น และไม่รู้ว่าจะหาคนมาทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยมเหมือนชุดเดิมหรือไม่ ใครที่มันกล้าทำแบบนี้ก็เท่ากับว่าต้องการตัดแข้งตัดขาให้เขาทำมาหากินไม่ได้ ครั้นฟรานเชเซียสจะเค้นคอเอาความจริงจากปากแต่ละคนก็เกรงว่าไก่จะตื่นและพลอยทำให้เสียแผนซะก่อน

“ได้เลยครับนาย ตอนนี้ผมจ้างนักสืบเอกชนมือดีไปแล้วเรียบร้อยครับ” แฟรงค์รับคำเจ้านายหนุ่มพร้อมเอ่ยถึงสิ่งที่ตัวเองได้ดำเนินการให้อีกฝ่ายรับรู้