จุดเริ่มต้น (100%)
คฤหาสน์โบลาโกนี
ย่านแมนฮัตตัน นิวยอร์กซิตี้ สหรัฐอเมริกา
ฟรานเชเซียส โบลาโกนี ลูกครึ่งอเมริกัน-รัสเซีย วัยสามสิบสามปี เจ้าพ่อจอมอหังการผู้ค้าอาวุธสงครามรายใหญ่ของโลก บุรุษหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ไหล่กว้างที่เปล่งรัศมีแห่งพลังอำนาจและความดิบเถื่อนออกมาอย่างเต็มเปี่ยม และยังโดดเด่นด้วยเสน่ห์แห่งบุรุษเพศอย่างถึงแก่น เจ้าของใบหน้าคมเข้มออกเค้ากระด้าง นัยน์ตาสีทองอร่ามที่เจือไว้ซึ่งความเย็นชา บ่งบอกว่าเจ้าตัวไม่แยแสหรือครั่นคร้ามต่อสิ่งใดในโลก ผมสีน้ำตาลไหม้เป็นประกายเงาวับ รับกับผิวสีน้ำตาลทองได้อย่างลงตัว จมูกโด่งเป็นสันตรง ปากหยักโค้งติดจะหยิ่งผยอง โหนกแก้มสูงประดับด้วยไรเคราจางๆ ส่งผลให้เครื่องหน้าดูดุดัน ห้าวหาญและน่าเกรงขามเป็นเท่าทวี
ฟรานเชเซียส โบลาโกนี เปรียบเสมือนนิยามของคำว่า ‘เป้าหมายมีไว้พุ่งชน’ สำหรับสาวๆ ทั่วทั้งโลก ด้วยความเพียบพร้อมและสมบูรณ์แบบในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะรูปร่างหน้าตา ซึ่งพ่อคุณได้พกพาเอาสิ่งที่พระเจ้าประทานมาอย่างเต็มเปี่ยม ชนิดที่รูปปั้นเดวิด (David) ของ มิเคลันเจโล (Michelangelo Buonarroti) ศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ของโลก ชาวอิตาลี ซึ่งปัจจุบันตั้งแสดงอยู่ที่ The Accedamia Gallery กรุงฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี ยังต้องชิดซ้าย พ่อยอดชายเดวิดก็พ่อยอดชายเดวิดเถอะ เจอฟรานเชเซียส โบลาโกนี เข้าไปเป็นต้องหน้าหงายตกแท่นบัลลังก์
ขณะนี้ร่างทรงพลังกำลังนั่งสะสางงานที่ค้างคามากว่าหนึ่งอาทิตย์ กะว่าคืนนี้จะทำมันให้เสร็จ ก่อนจะบินลัดฟ้าไปเจรจากับคู่ค้าในแถบเอเชียในเช้าวันรุ่งขึ้น
ก๊อก…ก๊อก…ก๊อก
เสียงเคาะประตูของบุคคลที่มารบกวนในยามวิกาลดังขึ้นเบาๆ ติดกันสามครั้งอย่างมีมารยาท ทำให้คนที่นั่งทำงานด้วยท่าทางขะมักเขม้นผงกหัวขึ้นจากเอกสารที่ประกอบด้วยตัวเลขของผลกำไรในไตรมาสที่สามของปี มือใหญ่คว้าถ้วยกาแฟที่แม่บ้านชงมาให้ขึ้นจิบ แล้วก็เป็นอย่างที่คิด มันเย็นชืดหลังจากส่งกลิ่นหอมกรุ่นยั่วน้ำลายมากว่าครึ่งชั่วโมงโดยไร้ซึ่งการแตะต้องจากเจ้าของห้อง ก่อนจะเบนสายตาคมกริบไปยังประตู
“เข้ามา” เสียงทรงอำนาจของบุรุษหนุ่มผู้มีใบหน้าหล่อเหลาราวเทพบุตรแต่เย็นชาประดุจดั่งปีศาจร้ายเอ่ยอนุญาตดังพอที่คนภายนอกจะได้ยินเต็มสองหู
หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีก็มีเสียงเปิดประตู พร้อมกับร่างของแฟรงค์ อัลเลเดียส เลขานุการหนุ่มมาดนิ่งที่เดินมาหยุดลงตรงหน้าโต๊ะทำงานของเจ้านาย
“มีอะไรหรือเปล่าแฟรงค์” น้ำเสียงทรงพลังถูกเปล่งออกมาจากริมฝีปากกระด้าง ทั้งที่เจ้าตัวยังไม่ได้ถอนสายตาสีทองอร่ามจากเอกสารที่กำลังตรวจสอบอยู่ก่อนหน้านี้
“มีเรื่องด่วนครับนาย” คนที่ยืนกุมมืออยู่ต่อหน้าเจ้าพ่อหนุ่มรายงานด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งไม่บ่งบอกถึงอารมณ์ พอๆ กับหน้าตาอันแสนเฉยชา
หลังจากขับไล่ความเมื่อยขบโดยการบิดขี้เกียจไปมาสองสามครั้ง ฟรานเชเซียสก็วางปากกาด้ามทองในมือลงบนโต๊ะทำงาน แล้วจึงได้เงยหน้าขึ้นมามองลูกน้องคนสนิทพร้อมยิงคำถาม
“มีเรื่องอะไรก็ว่ามา”
“ลูกค้าแจ้งมาว่าของที่สั่งไปยังไม่ได้รับครับ” หลังจากรับโทรศัพท์ด่วนจากเลขานุการของรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของประเทศรัสเซีย แฟรงค์ก็รีบผลุนผลันมารายงานเจ้านายทันที ซึ่งคนที่โทรมาก็ออกอาการเกรงอกเกรงใจอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรเพราะอีกห้าวันข้างหน้าจำเป็นต้องนำอาวุธไปใช้ในการฝึกหัดให้กับหน่วยนาวิกโยธินชุดใหม่ที่เพิ่งได้รับการบรรจุเข้าสังกัด เลขานุการสาวเลือกที่จะโทรมาหาแฟรงค์เพราะไม่กล้าติดต่อมายังฟรานเชเซียสโดยตรง
คำที่หลุดออกมาจากปากคนสนิททำให้ใบหน้าที่ดูผ่อนคลายเมื่อสักครู่แปรเปลี่ยนเป็นถมึงทึงทันตาเห็น พร้อมกันนั้นก็ใช้สมองอันชาญฉลาดคิดทบทวนถึงออร์เดอร์ที่ส่งไปในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา
“อย่าบอกนะ ว่าไอ้ที่แกกำลังพูดถึงคือรัฐบาลของรัสเซีย” ฟรานเชเซียสถามขึ้นเมื่อนึกได้ หลังจากส่งของให้ลูกค้ารายใหญ่มาแล้วเป็นอาทิตย์ก็ไม่เห็นท่านนายพลจะติดต่อมาว่ากระไร เขาจึงคิดว่าของคงจะถึงมือลูกค้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่หารู้ไม่ว่าที่อีกฝ่ายไม่โทรมาทวงถาม เพราะเกรงใจและยำเกรงในบารมีของเจ้าพ่อค้าอาวุธสงครามรายใหญ่ของโลกอย่างฟรานเชเซียส โบลาโกนี
“ใช่ครับนาย” ขาดคำรายงายของแฟรงค์เจ้าพ่อคลังแสงก็สบถลั่น นัยน์ตาสีทองอร่ามเคลือบไปด้วยประกายโทสะ ใบหน้าคร้ามคมแดงก่ำ เพราะความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจะทำให้ความน่าเชื่อถือของบริษัทลดน้อยถอยลงในสายตาของลูกค้า
“บ้าเอ๊ย…มันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ยังไงกันวะ” เมื่อทนไม่ไหวระงับใจไม่อยู่ฟรานเชเซียสก็สบถลั่นออกมาอีกระลอก เรื่องใหญ่โตแบบนี้ไม่น่าจะเกิดกับองค์กรของเขาได้ มันต้องมีอะไรตื้นลึกหนาบางกว่านั้นแน่
“ไปสืบมาให้ได้ ว่าใครมันกล้าทำให้บริษัทฉันเสียชื่อเสียง” ออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด ความผิดพลาดนี้คงจะไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรือเหตุสุดวิสัยอย่างแน่นอน เพราะถ้ามันเป็นอย่างนั้นคนที่มีหน้าที่รับผิดชอบและเกี่ยวข้องโดยตรงจะต้องแจ้งให้เขาทราบตั้งแต่ถึงวันกำหนดส่งของให้ลูกค้า ไม่ใช่ปล่อยปละละเลยมาเป็นอาทิตย์แบบนี้ และเรื่องนี้จะต้องมีผู้รับผิดชอบ
“ครับนาย” เลขาฯ หนุ่มค้อมหัวให้เจ้านายเลือดร้อนพร้อมทั้งน้อมรับคำสั่ง ก่อนจะหมุนปลายเท้าก้าวออกไปจากห้องทำงานใหญ่ทันที
เขตชานเมือง รัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกา
สารวัตรทวิชา แฟรงคลินท์ ลูกครึ่งไทย – อเมริกัน สารวัตรสาวมือฉมังผู้เลื่องชื่อของสถานีตำรวจเมืองนวร์ก รัฐนิวเจอร์ซีย์ เจ้าของร่างเพรียวระหงสมส่วนและสง่างามราวนางพญาในชุดตำรวจหญิง ที่พกพาความสูงมากว่าร้อยหกสิบเจ็ดเซ็นติเมตร ผมดำขลับมันวาวยาวสยายจนถึงกลางหลัง มาบัดนี้ถูกรวบตึงอวดต้นคอขาวระหงน่าซุกไซ้ เสริมให้ดวงหน้ารูปหัวใจดูโดดเด่นและกระจ่างตามากยิ่งขึ้น ผิวขาวอมชมพู คิ้วโก่งดั่งคันศร นัยน์ตาสีน้ำผึ้งชวนหลงใหล จมูกโด่งเล็กปลายเชิดรั้น และริมฝีปากอวบอิ่มสีกุหลาบน่าสนิทเสน่หา ทุกอย่างที่ประกอบขึ้นเป็นตัวเธอดูเป็นสาวพราวเสน่ห์ แต่ทวิชาก็ไม่เคยหลงละเมอไปกับความงามที่ฟ้าประทานมาให้ เพราะรู้ดีว่ามันจะเสื่อมสลายไปตามกาลเวลา ดังคำว่าสังขารไม่เที่ยง เปลือกภายนอกย่อมไม่ยั่งยืนจีรังเหมือนความดีที่อยู่ภายใน
หากใครที่ไม่เคยได้ยินกิตติศัพท์ความเก่งกาจและความโหดของทวิชา ก็คงจะไม่เชื่อแน่ว่าตำรวจสาวคนสวยที่มีอายุเพียงยี่สิบเจ็ดปีจะได้ตำแหน่งสารวัตร หรือบางคนอาจจะคิดว่าเธออาศัยบารมีของนายพลทราวิส แฟรงคลินท์ อดีตผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษของฐานทัพอเมริกา(SEAL) ผู้เป็นบิดาที่ได้ล่วงลับไปแล้ว ในการเลื่อนยศขึ้นตำแหน่ง แต่คนที่อยู่ในแวดวงเดียวกันย่อมรู้ดีว่าทวิชาเก่งกาจและเปี่ยมล้นด้วยฝีมือมากแค่ไหน
ตำรวจอเมริกาไม่มีการประมูลตำแหน่งหรืออาศัยเส้นสาย การจะได้เลื่อนตำแหน่งต้องมาจากความสามารถเท่านั้น ทวิชาเองก็เช่นกัน หลังจากจบวิศวกรรมการบินเธอก็สอบเข้าสถาบันฝึกตำรวจ (Police Academy) และสอบเลื่อนตำแหน่งจากจ่ามาเป็นสารวัตรภายในระยะเวลาเพียงห้าปี และขณะนี้กำลังประจำการอยู่ที่สถานีตำรวจเมืองนวร์ก รัฐนิวเจอร์ซีย์ ในฐานะหัวหน้าตำรวจ (Chief Police) แผนกอาชญากรรม
รัฐนิวเจอร์ซีย์เป็นพื้นที่สีแดงมากว่าห้าปี มีทั้งการคอรัปชั่นและอาชญากรชุกชุม และนั่นก็เป็นสาเหตุให้เธอต้องมาเยือนที่นี่ในวันนี้ สถานที่สำหรับคนรวยไปจนถึงระดับมหาเศรษฐี มีระบบรักษาความปลอดภัยเป็นเลิศ แต่บรรยากาศกลับดูวังเวงเงียบเหงา สายลมที่พัดหวิวไหวมาต้องผิวกายเย็นยะเยือกชวนให้ขนหัวลุก คนที่มีเงินและไม่มีลมหายใจเท่านั้นถึงจะมาอาศัยที่นี่ได้ เพราะที่นี่คือสุสาน สถานที่หลังความตายที่ผู้ล่วงลับจะถูกย้ายเข้ามาอยู่
สารวัตรสาวยืนอยู่เพียงลำพังหน้าหลุมศพที่จารึกคำว่าไมเคิล ดีแลน อยู่ข้างล่างรูปที่ชายหนุ่มหน้าตาดีกำลังฉีกยิ้มกว้างส่งมาให้ผู้มอง มันคงจะดีกว่านั้นหากรอยยิ้มที่แต่งแต้มอยู่บนใบหน้าคมคายมาจากเจ้าตัวจริงๆ ไม่ใช่แค่เพียงรูปถ่ายที่แปะเอาไว้ให้ดูต่างหน้า
หลังจากร่างเพรียวระหงย่อตัวลงวางดอกไม้สีขาวหน้าหลุมศพด้วยท่วงท่าสง่างาม ทวิชาก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ แล้วถึงได้ลดหน้าลงมาพูดกับรูปถ่ายของเพื่อนรัก
“หลับให้สบายนะไมเคิล นกสัญญาว่าจะลากคอคนชั่วมาเข้าคุกแทนไมเคิลให้ได้ ฮึก…นกสัญญา” เจ้าของใบหน้าพริ้มเพราทว่าเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตาขยับริมฝีปากสีชมพูระเรื่อกล่าวเสียงเครือเจือสะอื้นหากแต่แฝงไปด้วยความเด็ดเดี่ยว มือเรียวยื่นไปลูบไล้รูปถ่ายด้วยความอาลัยอาวรณ์ หยาดน้ำตาใสๆ ที่รินไหลออกมาจากหางตาเศร้าสร้อยตกลงกระทบปลายรองเท้าคัชชูสีดำมันปลาบหยดแล้วหยดแล้ว ความสะเทือนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังคงอัดแน่นอยู่ในหัวอกพอๆ กับความคั่งแค้นให้ตัวต้นเหตุแห่งความสูญเสียในครั้งนี้
หลังจากที่ไมเคิลจบชีวิตลงได้แค่วันเดียว ทวิชาก็นำหลักฐานที่รวบรวมได้ทั้งหมดมาตรวจสอบและพบว่าอาวุธที่คนร้ายใช้ก่อเหตุเป็นของบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างโบลาโกนี กรุ๊ป ซึ่งบริษัทนี้ขายอาวุธสงครามให้กับรัฐบาลเกือบทั่วโลกและหนึ่งในนั้นก็คือพี่บิ๊กอย่างอเมริกา ที่เป็นคู่ค้าสำคัญและทำสัญญากันแบบผูกขาดมากว่าสิบปี ซึ่งผู้กุมบังเหียนนั่งแท่นบริหารสูงสุดก็คือ ฟรานเชเซียส โบลาโกนี มหาเศรษฐีหนุ่มผู้มั่งคั่งทั้งอำนาจและเงินตรา เจ้าพ่อคลังแสงที่เพียงแค่คนทั่วไปได้ยินชื่อเสียงเรียงนามก็ต่างพากันครั่นคร้ามต่ออำนาจ บารมี และอิทธิพลอันล้นฟ้า แต่ทวิชากลับไม่นึกยำเกรงเลยสักนิด หากเหตุการณ์เลวร้ายทั้งหมดนี้เกิดจากน้ำมือของเขาจริงๆ เธอนี่แหละจะเป็นคนลากคอเจ้าพ่อผู้ยิ่งใหญ่มารับโทษทัณฑ์ด้วยตัวเอง
มือเรียวยกขึ้นปาดหยาดน้ำตาที่ทะลักออกมาอีกระลอกอย่างลวกๆ เกลียดนักความอ่อนแอที่กำลังเล่นงานเธออยู่ หากมันมีตัวตนที่สามารถสัมผัสจับต้องได้ ทวิชาจะจับตีศอกตอกหมัดใส่กุญแจมือแล้วขังลืมซะให้เข็ด สูดลมหายใจเข้าปอดลึกแล้วบอกดวงวิญญาณของเพื่อนรักด้วยน้ำเสียงมาดมั่น
“นกคงต้องกลับก่อนนะไมเคิล แล้วนกจะมาเยี่ยมอีกครั้งพร้อมกับข่าวดี” หญิงสาวพยายามระงับอารมณ์และเตือนสติตัวเองว่าไมเคิลได้จากไปแล้ว เธอไม่ควรจะมายืนร้องไห้คร่ำครวญต่อหน้าหลุมศพเพราะมันคงไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นมาได้ สู้เอาเวลาไปไล่ล่าหาความจริงและจับผู้ร้ายเข้าคุกซะยังจะดีกว่า เมื่อคิดได้ดังนั้นสารวัตรสาวก็หันหลังก้าวจากมาอย่างช้าๆ
เจ้าของร่างสง่างามเดินทอดน่องหอบเอาอารมณ์อ้างว้างว่างเปล่ามาตามถนนที่โรยตัวด้วยพื้นคอนกรีต ตลอดระยะทางดูวังเวงและเงียบสงัด หากแต่ความเงียบงันเหล่านั้นเทียบไม่ได้เลยกับความเงียบเหงาที่กำลังเกาะกินในหัวใจดวงน้อยของทวิชา ขาเรียวก้าวเอื่อยๆ ไปข้างหน้าจนกระทั่งมาหยุดลงตรงบิ๊กไบค์สีแดงเพลิงคันใหญ่ที่ดูโดดเด่นเป็นสง่าด้วยรูปลักษณ์และการดีไซน์อันแสนลงตัว เก็บรายละเอียดได้เนี๊ยบในทุกตารางนิ้ว สมกับเป็นสินค้าที่ผลิตมาจากค่ายรถมอเตอร์ไซต์ดังระดับโลก ซึ่งเธอและพ่อตั้งชื่อให้มันว่า ‘เจ้าร้ายกาจ’
เจ้าร้ายกาจคือ Ducati 1199 Panigale R ตัวเเรงของตระกูล 1199 Panigale ด้วยความสมบูรณ์แบบของซุปเปอร์ไบค์สายพันธุ์สปอร์ตจากดูคาติ เป็นซูเปอร์ไบค์ที่มาพร้อมกับอารมณ์ของการขับเคี่ยวบนสนามแข่งอย่างแท้จริง เมื่อได้ป้ายขาขึ้นควบขี่จิตวิญญาณความเป็นนักซิ่งก็จะเข้าสิงโดยไม่รู้ตัว
วัสดุที่นำมาใช้ในการผลิตก็ล้วนแล้วแต่ถูกคัดสรรค์มาเป็นอย่างดีจากทีมงานมืออาชีพชั้นยอด อาทิเช่น ลูกสูบแบบไทเทเนียม ตัวรถผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์ที่ให้น้ำหนักเบาที่สุดในตระกูลซูเปอร์ไบค์ ท่อไอเสียแบบเดียวกับสนามแข่งเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้โดดเด่นและหาตัวจับยากในทุกวาระของการประลอง
ถูกออกแบบมาให้มีน้ำหนักเบามากที่สุดภายในตระกูลซูเปอร์ไบค์ ใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ล้ำสมัยในการปล่อยกำลังของตัวรถเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเเละความแม่นยำในการขับขี่ และมีอัตราส่วนกำลังต่อน้ำหนักถึง 1.19 แรงม้า/กิโลกรัม ซึ่งไม่เหมือนซูเปอร์สปอร์ตไบค์ใดในโลก ขณะที่รุ่น “R” นี้ยังคงมีกำลังเหมือนกับรุ่นอื่น ๆ ในตระกูล 1199 Panigale แต่พิเศษที่มีระบบท่อไอเสียแบบรถในสนามแข่งขันซึ่งเมื่อมาประสานกับเครื่องยนต์เเล้วให้กำลังม้าเพิ่มขึ้นถึง 201 กำลังม้าเลยทีเดียว
การออกแบบที่มีความสวยงามแฝงด้วยประสิทธิภาพความเร็วที่เหนือกว่า จิตวิญญาณความเป็นนักแข่งจะเข้าสิงทันทีเมื่อได้ควบขับเจ้า 1199 Panigale R ทุกครั้งที่ได้ขับขี่มันจะบ่งบอกถึงความสง่างามในความเป็นดูคาติที่มีกำลังสูงและความคล่องตัวปราดเปรียว โฉบเฉี่ยวไปในทุกเส้นทาง นี่ไม่ใช่แค่คำโฆษณาที่ทางบริษัทปล่อยออกมาเพื่อล่อตาล่อใจลูกค้าเพียงเท่านั้น แต่มันเป็นจริงดังที่ได้กล่าวไว้ทุกประการอย่างไร้ซึ่งข้อกังขาใดๆ เพราะทวิชาได้พิสูจน์มาแล้วด้วยตัวเองก่อนนักซิ่งคนอื่นในโลกเสียด้วยซ้ำ นั่นจึงไม่แปลกที่ทางบริษัทมักจะหยิบยกชื่อของสารวัตรสาวขาโหดคนดังมากล่าวอ้างในฐานะผู้ทดลองใช้ เพื่อเพิ่มยอดขายและความน่าเชื่อถือให้เป็นเท่าทวี
ทางผู้ผลิตเพิ่งนำบิ๊กไบค์รุ่นนี้ออกมาจำหน่ายเมื่อต้นปี และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ก่อนหน้านี้ไม่ว่าเธอจะพาเจ้าร้ายกาจไปปรากฏกายที่ไหน ก็ย่อมเป็นจุดสนใจของคนทั้งหลาย โดยเฉพาะสาวกบิ๊กไบค์เพราะไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน บ้างก็พากันสันนิษฐานไปว่ามันจะเป็นรถของค่ายนั้นค่ายนี้ เพราะรถเพื่อให้ลูกค้าวีไอพีทดลองขับจะไม่ติดตราสัญลักษณ์บ่งบอกถึงยี่ห้อ
พ่อของเธอได้บิ๊กไบค์ที่เปรียบเสมือนตัวต้นแบบมาครอบครองเมื่อสี่ปีก่อน เพราะทางบริษัทรู้ว่าท่านคลั่งไคล้และเป็นนักสะสมบิ๊กไบค์ตัวยง แถมยังมีความรู้เรื่องรถอยู่ไม่น้อย เพราะก่อนที่จะเข้าโรงเรียนนายทหารท่านได้จบวิศวกรรมยานยนต์ด้วยเกียรตินิยมเหรียญทอง หากจะเรียกว่าเป็นอัจฉริยะในเรื่องเครื่องยนต์กลไกก็คงจะไม่เกินจริงไปสักเท่าไร จึงไม่แปลกที่ทางบริษัทยักษ์ใหญ่จะนำบิ๊กไบค์มามอบให้ทดลองขับ โดยแลกกับคำแนะนำดีๆ ที่จะได้รับจากท่านนายพลทราวิส แฟรงคลินท์ เพื่อจะนำข้อมูลที่ได้ไปพัฒนาผลิตภัณฑ์ ก่อนจะผลิตออกมาวางขายในตลาด
หลังจากที่ได้แต่มองอย่างชื่นชมและลูบๆ คลำๆ ด้วยความหลงใหลมาหลายปี เห็นพ่อขับแล้วเท่ห์ก็อยากจะเป็นอย่างพ่อบ้าง ยิ่งได้นั่งซ้อนท้ายก็ยิ่งคันไม้คันมืออยากจะขับเสียเอง พอได้ยินว่าพ่อจะขายเพราะไม่อยากผิดสัญญาที่เคยให้กับแม่ไว้ว่าจะเลิกขับบิ๊กไบค์โดยเด็ดขาด ทวิชาจึงเอ่ยขอมันมาเป็นของตัวเอง และนั่นก็ทำให้เจ้าร้ายกาจกลายมาเป็นคู่หูของเธอจนถึงปัจจุบันนี้
“เฮ้อ…สุดท้ายฉันก็เหลือแค่แกเป็นเพื่อนข้างกายจริงๆ แล้วเจ้าร้ายกาจ” ถอนหายใจออกมายาวเหยียด มือเรียวลูบไล้แผ่วพลิ้วพร้อมพูดกับมรดกชิ้นสุดท้ายที่พ่อทิ้งเอาไว้ให้ดูต่างหน้า หลังจากที่ท่านจากไปอย่างไม่มีโอกาสแม้แต่จะได้เอื้อนเอ่ยคำล่ำลา
ที่เขาว่าคนดีมักจะอยู่ได้ไม่นานเพราะแพ้ภัยมารเห็นท่าจะจริงก็คราวนี้ เพราะคนดีอย่างพ่อของเธอและไมเคิลได้ลาลับอย่างไม่มีวันกลับ นายพลทราวิส แฟรงคลินท์ ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะผู้พิทักษ์สันติราษฎ์อยู่บนความถูกต้องและเถรตรงมาโดยตลอด แต่แล้วก็ต้องถูกลอบสังหารอย่างน่าอนาทจากน้ำมือของคนชั่ว ด้วยเหตุผลที่ว่าบังเอิญไปล่วงรู้ความลับของพวกมันเข้า
เมื่อสามปีก่อนทวิชาร้องไห้จนน้ำตาแทบเป็นสายเลือดกับการจากไปอย่างกะทันหันของบิดาอันเป็นที่รัก ผู้ซึ่งเป็นแบบอย่างให้เธอเจริญรอยตามในทุกๆ ด้าน เนื่องจากมารดาได้สิ้นบุญไปตั้งแต่เธออายุได้สิบห้าปี ทำให้หญิงสาวสนิทสนมกับพ่อเป็นอย่างมาก เป็นคู่หูต่างวัยที่มักจะควงแขนกันไปทำกิจกรรมโลดโผนเมื่อมีโอกาส จนทวิชากลายเป็นสาวขาลุยที่พ่วงความโหดมาเต็มกระบุง ศิลปะการต่อสู้ที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากบิดาส่งผลให้เธอเป็นหัวโจกของเด็กในวัยเดียวกันไม่ว่าจะเป็นทั้งหญิงและชาย และเหนือสิ่งอื่นใดคือการได้ใกล้ชิดกับชายชาติทหารอย่างผู้เป็นพ่อทำให้เธอมีความเด็ดเดี่ยว กล้าหาญและรักชาติอยู่เต็มเปี่ยม
ทวิชานึกว่าความเสียใจเหล่านั้นจะถูกชะล้างให้มลายหายไปพร้อมกับกาลเวลา แต่เมื่อได้มาเจอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับไมเคิล มันยิ่งตอกย้ำให้เธอรู้ว่าทุกอย่างยังติดอยู่ในความทรงจำ การได้เห็นคนชั่วสังหารเพื่อนรักอย่างเหี้ยมโหดทำให้สารวัตรสาวแทบกระอักเลือดด้วยความเสียใจและคั่งแค้น เธอจะไม่ยอมให้ใครต้องมาตายด้วยการกระทำชั่วช้าแบบนี้อีกแล้ว พวกมันทุกคนจะต้องชดใช้อย่างสาสม!