บท
ตั้งค่า

ตอนที่1 พี่ชายจอมหยิ่ง

พรุ่งนี้เป็นวันเปิดเรียนวันแรกของปีการศึกษาภาควิชาปกติของคณะอักษรศาสตร์

คืนนี้ก่อนเข้านอน ณภัทร จึงถูกลินดาผู้เป็นมารดาบังคับให้ใส่ชุดนักศึกษามาอวดโฉม หรือเรียกง่ายๆ อีกอย่างหนึ่งว่าบังคับแต่งกายมาให้แม่ตรวจระเบียบดูก่อนอย่างเข้มงวดกวดขัน

ชุดต้องไม่รัดรูปจนเกินไป กระโปรงสอบก็ห้ามสั้น กระโปรงพลีทจีบรอบก็ต้องไม่บางเกินไป กระดุมเสื้อต้องแน่นหนา ซิปห้ามปริ ผ่าหลังห้ามสูง ไม่ให้ใส่ผ่าข้างเห็นโคนขา

สรุปก็คือลินดาเป็นคุณมารดาเจ้าระเบียบระดับห้าดาว เป็นคุณแม่ที่เจ้ายศเจ้าอย่างตามแบบฉบับครอบครัวที่เติบโตมา ชอบความมีระเบียบชอบจัดการชอบบริหาร

เมื่อก่อนตั้งแต่เด็กอนุบาล ชั้นประถม มัธยมคอซอง จนกระทั่งเติบโตเข้าเรียนชั้นมัธยมปลายถึงปีที่ห้า ณภัทรถูกลินดาคุมเข้มทุกอย่างตั้งแต่เรื่องกินเรื่องแต่งตัวแค่คนเดียว

แต่ต่อมาตั้งแต่มัธยมปลายปีที่หกจนถึงเวลานี้เธอถูกคุณพ่อซึ่งเป็นสามีใหม่ของแม่ช่วยคุมเข้มด้วยอีกคน

ดังนั้นสาวสวยวัยใสจึงต้องแต่งชุดนักศึกษาถูกระเบียบตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้ามาให้ทั้งสองท่านตรวจการแต่งกายที่ห้องพักผ่อนดูทีวีของครอบครัว

เธอยิ้มเต็มหน้าจนเกิดลักยิ้มน่ารักที่ข้างแก้มขาว เรือนผมดำขลับเรียบลื่นปล่อยยาวสยายเคลียไหล่มน ผมหน้าม้ายาวจนต้องปัดออกไปด้านข้าง เผยดวงตากลมโตภายใต้แพขนตางอนยาว

ด้วยชุดที่เปลี่ยนแปลงไปเช่นนี้ จึงคล้ายกับสามารถทำให้คนหนึ่งเปลี่ยนจากสาวน้อยวัยละอ่อนสู่การเติบโตอันยิ่งใหญ่กลายเป็นหญิงสาวเต็มวัยได้ในชั่วข้ามคืน

วิชัยสามีของลินดาขมวดคิ้วมอง สีหน้าเคร่งเครียด

“อืม....ยัยภัทรเปลี่ยนจากการถักผมเปียสวมชุด ม.ปลายเป็นนักศึกษาเต็มตัวแล้ว ผมคงต้องไว้หนวดดุๆ แล้วล่ะ จะทำตัวเป็นเสี่ยธรรมดาไม่ได้แล้ว พรุ่งนี้ที่รักพาผมไปเข้าคอร์สเสริมบุคลิกภาพมาดเจ้าพ่อเลยนะ เอาไว้ข่มขวัญหนุ่มๆ สักหน่อย”

ลินดาหันมาพูดยิ้มๆ “ได้เลยค่ะ”

สามีภรรยาวัยกลางคนสบตาและหัวเราะให้กันเหมือนเป็นคู่รักวัยขบเผาะแรกรุ่น

สายตาที่มองให้กันและกันอ่อนหวานหยาดเยิ้มเต็มไปด้วยความรักใคร่เสน่หาของคู่รักที่เพิ่งผ่านพ้นช่วงฮันนีมูนมาหมาดๆ

ณภัทรยืนเอียงคอมองแม่แท้ๆ ของตัวเองกับพ่อเลี้ยงด้วยสองตานิ่งสงบแต่สองแก้มแดงมาก

ในความรู้สึกของเธอเหมือนกำลังดูฉากหนึ่งในซีรีย์แนวรักละมุนหวานแหววน้ำตาลละลายในน้ำผึ้งเดือนห้า

ครู่หนึ่งจึงแอบชำเลืองมองกรอบรูปขอบทองที่เพิ่งใส่รูปแต่งงาน ถัดกันยังเป็นกรอบสลักลายหัวใจที่ใส่ใบทะเบียนสมรส สิ่งของทั้งหมดตั้งอยู่บนตู้โชว์หรูหราทันสมัยริมห้อง เยื้องไปทางด้านข้างตรงมุมทีวีขนาดใหญ่

เธอมองทุกสิ่งอย่างเหม่อลอยอยู่บ้าง มองอย่างคนที่กำลังค้นพบว่า พวกคนที่เพิ่งมีความรัก ไม่ว่าอยู่ในวัยไหน อายุเท่าไหร่ โลกทั้งใบของพวกเขาก็คงเป็นสีชมพูสดใสเหมือนกันทั้งนั้น ขนาดทะเบียนสมรสยังตั้งโชว์โดดเด่นสะดุดตาอยู่กลางบ้านเลย

ทว่าถึงแม้จะเป็นอย่างนั้น แต่พวกท่านก็ยังไม่เคยลืมความเจ้าระเบียบที่มีในสายเลือด ทั้งสองมีนิสัยเจ้าระเบียบที่เหมือนกันคล้ายนัดหมาย โชคดีที่เธอเป็นคนเรียบร้อยเป็นนิตย์อยู่ในกฎเกณฑ์มีระเบียบทุกกระเบียดนิ้วอยู่แล้วอย่างสม่ำเสมอ จึงไม่ได้รู้สึกอึดอัดหรือคับข้องใจอะไร

ระหว่างที่ณภัทรกำลังคิดในใจก็ได้ยินเสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์มือถือดังมาจากมุมนั่งเล่นอีกฝั่ง เธอชำเลืองมองเล็กน้อย เสียงริงโทนดังอยู่ตั้งนานก็ไม่เห็นเจ้าของโทรศัพท์จะกดรับเสียที ทั้งๆ ที่เขานั่งอยู่กับโทรศัพท์มือถือของตนเองแค่เอื้อมนิ้วกดเท่านั้น กระทั่งแม่บ้านที่คอยดูแลเจ้าของโทรศัพท์อยู่ใกล้ๆ ต้องถามขึ้น

“คุณหนูให้พี่แววรับให้มั้ยคะ”

เจ้าของโทรศัพท์ตอบเสียงขรึม “อืม”

พี่แววกดรับ ฟังปลายสายครู่หนึ่งแล้วหันมาถามอีกฝ่าย “เขาบอกว่าชื่อแนทตี้ค่ะ อยากชวนคุณหนูไปดูหนังวันพรุ่งนี้”

“ไม่ไป”

พี่แววตอบกลับไปตามนั้น ซักพักก็หันมาถามเจ้าของมือถืออีกว่า “เธอบอกว่าแค่ไปกินข้าวก็ได้ค่ะ”

เจ้าของมือถือตอบเสียงราบเรียบ “รบกวนพี่แววปิดเครื่องแล้วเปลี่ยนเบอร์ให้ผมใหม่ด้วยครับ”

พี่แววพยักหน้ากดตัดสายก่อนจะปิดเครื่องตามคำสั่งอย่างที่เคยกระทำมาโดยตลอดตั้งแต่คุณหนูของเธอโตเป็นหนุ่มเต็มวัย

วิชัยมองคนหนุ่มเสน่ห์แรงของบ้านพลางเอ่ยกลั้วหัวเราะกับลินดา “พรุ่งนี้เป็นวันแรกในรั้วมหาลัยของลูกสาวคนสวย ผมคิดว่าควรให้พี่ชายมาดดุร้ายไปส่งเข้าเรียนแล้วกันนะคุณ จะได้ไม่มีหนุ่มคนไหนกล้าเข้ามาขายขนมจีบตั้งแต่วันแรกที่เปิดเรียน”

ลินดาหยุดหัวเราะทันใดแต่ยังคงรักษารอยยิ้มละไมเอาไว้ ทว่าเธอกลับไม่พูดอะไร ทั้งไม่ตอบรับและไม่ปฏิเสธ นับเป็นการหยั่งเชิงกลายๆ อย่างแนบเนียน

วิชัยหันหน้าไปทางชายหนุ่มอีกคนที่นั่งเอกเขนกอยู่บนโซฟาอีกฝั่งของห้องนั่งเล่น “ว่าไงรัช พรุ่งนี้แกไปส่งน้องได้รึเปล่า?”

สิ้นคำถาม ณภัทรที่ละสายตากลับมามองพ่อกับแม่คุยกัน จำต้องเหลือบตามองพี่ชายสุดหล่ออีกครั้งทันที

เธอยังมีความผิดติดตัวเรื่องที่เมื่อวันก่อนตอนที่พ่อสั่งให้พี่ชายไปส่งเธอซื้อของแล้วบังเอิญเจอกลุ่มเพื่อน

เพื่อนๆ แย่งกันขอเบอร์โทรพี่ชายคนนี้แล้วเธอก็ให้ไป พวกนั้นโทรหาพี่ชายไม่เว้นวันจนปลายสายแทบไหม้ กระทั่งพี่ชายต้องเปลี่ยนเบอร์โทรใหม่เพื่อตัดรำคาญ

สุดท้ายเบอร์ใหม่ก็ยังเล็ดลอดออกไปอยู่ดี เห็นอยู่เมื่อกี้นี้ไง ยัยแนทตี้นั่นก็คือหนึ่งในเพื่อนของเธอ ซึ่งก็ไม่ได้สนิทกันเท่าไหร่ ขนาดแยกย้ายกันไปเรียนต่อคนละที่แล้วเชียว ยังโทรมาหาแบบนี้

การให้เขาไปส่งเธอในสถานที่ที่อาจจะเจอเพื่อนของเธออีกคงไม่ปลอดภัยแน่ ๆ

หญิงสาวรีบกล่าวปฏิเสธอย่างลนลาน “ไม่ต้องหรอกค่ะ ภัทรไปเองได้สบายอยู่แล้ว เกรงใจพี่รัชนะคะ”

สิ้นเสียงปฏิเสธแบบไม่ต้องเสียเวลาคิดของหญิงสาว แก้วน้ำที่อีกฝ่ายถืออยู่ก็ถูกวางลงบนโต๊ะกลางห้องนั่งเล่นจนเกิดเสียงดังแกร็กเข็ดฟัน แต่คนหล่อไม่พูดอะไร เอาแต่เงียบทำหน้านิ่งเหมือนฉาบปูนซีเมนต์เอาไว้ตลอดเวลา

หญิงสาวเหลือบมองจึงเห็นเพียงสีหน้าเย็นชาไร้ความรู้สึก และท่าทางเย่อหยิ่งเกินอัตราชายไทยส่วนใหญ่

สายตานิ่งๆ คมๆ ดุๆ มองณภัทรทีหนึ่ง

แค่ทีเดียวเท่านั้นแต่กลับเย็นชาหนักมาก ให้ความรู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ ทะลุรูขุมขนทุกอณูผิวกายอย่างเหลือเชื่อ

สาวน้อยหลุบตาลง ยังคงเป็นเธอเพียงฝ่ายเดียวที่ไม่กล้าจ้องมองพี่ชายสุดเนี้ยบคนนี้ได้นานเกินสามวินาที

พี่ชายตามกฎหมายกับพี่ชายในสายเลือดแตกต่างกันตรงนี้ ตรงที่เธอไม่เคยรู้สึกสนิทใจเมื่อจ้องตา

เขามองอย่างไม่ยี่หระปราศจากความใส่ใจ ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินออกไปอีกทางหนึ่งอย่างคนถือตัว ไม่แยแสใครทั้งนั้น เป็นอันสรุปว่าหากมีปัญญาก็เชิญไปเรียนเอง

เขาไม่ไปส่ง!

ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบอย่างประหลาด

วิชัยขมวดคิ้วบ่นอุบ “เจ้ารัชมันหยิ่งจองหองอย่างนี้ตั้งแต่เด็กแล้วล่ะ ใคร ๆ ก็ให้ฉายามันว่าคุณชายน้อยผู้เรียบร้อยสุดเนี้ยบ คุณกับยัยภัทรอย่าคิดมากเลยนะ คนที่หล่อร้ายกระชากใจสาวๆ เหมือนพ่อสมัยหนุ่มๆ ก็แบบนี้ ถ้าไม่หยิ่งไม่เชิดเอาไว้บ้างบันไดบ้านไม่แห้งแน่ ๆ”

ประโยคติดตลกชวนขบขันแท้ๆ แต่ลินดากลับฝืนยิ้มเรียบๆ อย่างคนพยายามอารมณ์ดีไม่คิดมากอะไร ส่วนณภัทรเองก็พยายามยิ้มอย่างเป็นธรรมชาติเช่นกัน

พวกเธอสองคนแม่ลูกเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่บ้านนี้ในฐานะสมาชิกใหม่ของครอบครัวได้ไม่นาน หากสามีผู้เป็นเจ้าของบ้านบอกชัดว่าลูกชายของตัวเองหยิ่งจองหองและดื้อรั้นตั้งแต่เด็ก ไม่ใช่เพิ่งจะหยิ่งและมีนิสัยแข็งกร้าวอารมณ์ร้ายเมื่อมีแม่เลี้ยงเข้ามาในชีวิต พวกเธอก็ไม่มีอะไรจะเถียง

ลูกสาวกับพ่อเลี้ยงอาจไม่มีปฏิกิริยาเทียบเท่าแม่เลี้ยงกับลูกเลี้ยงที่เป็นผู้ชาย เขาคัดค้านหัวชนฝาอยู่นานร่วมปีก็เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ว่าไม่ต้องการมีแม่ใหม่มาแทนที่แม่คนเก่า

กระทั่งเสี่ยวิชัยเลือกที่จะแต่งงานและจดทะเบียนสมรสโดยไม่สนใจลูกชาย เขาทำใจยอมรับไม่ได้แบบนี้จึงไม่ใช่เรื่องแปลก

ลินดาจึงค่อนข้างระมัดระวังตัวกับลูกเลี้ยงเป็นพิเศษ

หากเธอกับลูกสาวอยากมีอนาคตที่ดีและสดใสจะต้องไม่มีเรื่องร้าวฉานเกิดขึ้นในบ้านสามีใหม่คนนี้โดยเด็ดขาด

ในชั่วขณะที่ลินดากำลังตระหนักและพะวงถึงการรับมือกับลูกชายคนเดียวของสามีใหม่ ณภัทรเองก็กำลังขบคิดถึงพี่ชายคนนี้อยู่เช่นกัน เธอไม่รู้ว่าคิดไปเองคนเดียวหรือเปล่า

ตั้งแต่กลับมาจากการเลี้ยงฉลองเรียนจบของเธอวันนั้น เธอรู้สึกว่าพี่รัชเหมือนจะหยิ่งมากกว่าเดิมอีกหลายขุม ทั้งถือตัวและดื้อรั้นมีอารมณ์ร้ายขวางโลกขวางคลองหนักข้อขึ้นทุกวัน ท่าทางเฉยเมยไม่เคยเห็นหัวใครและใบหน้านิ่งสงบไร้ซึ่งอารมณ์ใด ๆ นั้น เธอเดาไม่ได้เลยว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่

ดังนั้น เธอจึงทำได้เพียงระมัดระวังให้มาก ทำตัวออกห่างเพื่อเว้นระยะอันเหมาะสมยิ่งขึ้น ใครจะไปรู้ วันดีคืนดีพี่ชายคนนี้อาจจะมีอารมณ์รุนแรงถึงขั้นลุกขึ้นมาฟาดงวงฟาดงาจนเธอกับแม่ต้องกลายเป็นคนไม่มีที่ซุกหัวนอนก็เป็นได้ อาจถึงขั้นต้องกลับไปมีชีวิตที่ลำบากเหมือนเมื่อก่อน

ณภัทรคุยเล่นกับลินดาและวิชัยอีกครู่หนึ่งจึงเดินขึ้นมาชั้นสองเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมตัวเข้านอน

แต่ยังไม่ทันถึงห้องตัวเอง ข้อมือเล็กก็ถูกมือใหญ่จับเอาไว้แล้วกระชากเข้าไปทางห้องอีกฝั่ง ประตูถูกปิดตามหลังอย่างรวดเร็ว บทจูบจู่โจมอันร้อนแรงเกิดขึ้นวินาทีนั้น

สัมผัสเร่าร้อนไม่ทันตั้งตัวนี้ เสมือนเขาเห็นเธอคล้ายเป็นเหยื่อที่น่าโดนขย้ำ ลิ้นร้อนตวัดรุกล้ำเข้าขั้นอันตราย

แรกเริ่มณภัทรตกใจแทบช็อคตาย แต่พอมีสติกลับมาเธอเบี่ยงหน้าหลบ ทว่าก็ทำไม่ถนัด ได้แต่ครางอย่างอัดอั้นอยู่ในลำคอ

“อื้อ...”

กลีบปากร้อนชื้นที่เหมือนกันทุกประการยามฝันเปียกกำลังบดคลึงกดจูบรุนแรงหนักขึ้นทุกที สมองน้อยๆ ของณภัทรเริ่มสับสนมึนงงจนทั้งร่างอ่อนระทวย รับรู้ได้ถึงกระแสไฟอบอุ่นเร่งเร้า เทียบชั้นสเต็ปปลุกปล้ำเล้าโลมสุดเร่าร้อนรุนแรงแทบถอนตัวไม่ขึ้น จนเธอตั้งรับแทบไม่ทัน สั่นสะท้านกันเลยทีเดียว

สาวน้อยถึงขั้นเผยอปากจูบตอบ อีกฝ่ายก็ไม่รอช้า ตวัดลิ้นสอดแทรกเข้ามา เกี่ยวพันกับลิ้นเล็กๆ ของเธออย่างรุกล้ำ

ไม่มีเวลารวบรวมสติที่เริ่มเตลิด แผงอกของเขาเบียดชิดเข้าหาตัวเธอ ความอุ่นร้อนจากร่างเขาโอบล้อมรอบตัวเธอ

ความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้ก่อตัวขึ้นอย่างรุนแรง ทำให้เธอทอดกายโอนอ่อนในอ้อมแขนของผู้ชายปริศนาตรงหน้า

ไม่สิ! เขาไม่ใช่ผู้ชายปริศนา แต่เป็นผู้ชายบ้าตัณหาคนหนึ่ง

ทั้งบ้าอำนาจ อารมณ์ร้ายและเอาแต่ใจ

จูบของเขาแสดงให้เห็นถึงความเป็นเจ้าของ

เป็นการจับจองอย่างรุกรานที่ร้อนแรงแฝงด้วยความปรารถนาอันบ้าคลั่งที่ต้องเก็บกดไว้

ทว่า...ทั้งเพลิดเพลิน ดื่มด่ำ ปลุกเร้าอารมณ์จนพลุ่งพล่าน

เมื่อการจูบปากเกิดขึ้นเนิ่นนานจนทั้งสองหายใจไม่ทัน การถอนใบหน้าออกจากกันจึงเกิดขึ้น ณภัทรรีบสูดอากาศหายใจคล้ายปลาขาดน้ำ

อีกฝ่ายกลับไม่หยุด เขาก้มหน้าซุกซอกคอขาวผ่องของเธอ ขบเม้มหยอกเย้าแล้วดูดดึงติ่งหูไม่หนักไม่เบาอีกหลายที

ณภัทรรู้สึกจักจี้จนหลุดหัวเราะคิก เธอเพิ่งรู้ว่าเขาคนนี้ไม่ได้โกนหนวด ตอนที่มองจากระยะไกลก็เห็นหน้าหล่อๆ ผิวขาวๆ เรียบเนียนดี มองไม่เห็นตอหนวดสักนิด

และการหลุดหัวเราะถึงทำให้อารมณ์เตลิดที่กำลังเกิดขึ้นต้องหยุดชะงัก น้ำเสียงหงุดหงิดดังขึ้นเบาๆ แบบกระเส่าที่ริมหู

“ตกลงเธอจะให้พี่ชายไปส่งหรือเปล่า?”

ประโยคคำถามนั้นทำคนฟังต้องกะพริบตา ยังไม่ทันตอบเอวคอดพลันถูกอุ้งมือโอบกระชับจนทั้งร่างนุ่มนิ่มประชิดร่างแข็ง แม้มีเสื้อผ้ากางกั้นแต่ไม่อาจสกัดกั้นความร้อนจากผิวหนัง

ทรวงอกอวบอิ่มหยุ่นนุ่มกลมกลึงและเต่งตึงที่ซ่อนรูปอยู่ใต้เสื้อนักศึกษาตัวหลวมยังบดเบียดเสียดสีกับแผงอกแข็งแรง

ฝ่ามือใหญ่บีบเคล้นหนักที่สันหลังบางเรื่อยลงไปที่เอวเล็ก เขาแวะบีบบั้นท้ายกลมเด้งก่อนที่กระโปรงจะถูกเลิกขึ้นสูงได้อย่างง่ายดาย

เห็นได้ชัดว่าเพราะมันไม่รัดรูปจนอึดอัดก็เลยถูกเลิกและเปิดขึ้นถึงเอวได้ง่ายๆ ในพริบตา

สัมผัสพิศวงก่อเกิดในไม่ช้า ใบหน้าขาวของณภัทรร้อนผ่าว เสียงหัวเราะคิกคักถูกกลืนหายด้วยเรียวปากและเรียวลิ้นร้อนชื้นของอีกฝ่าย กางเกงชั้นในยังถูกคนตัวใหญ่ใช้นิ้วรบกวนอย่างซุกซน

เนินเนื้อกายสาวถูกบดขยี้ด้วยปลายนิ้วเป็นจังหวะลึกล้ำ ณภัทรตัวอ่อนระทวยอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เธอไม่เพียงจูบตอบ แต่ถึงขั้นเอื้อมแขนข้างหนึ่งขึ้นโอบรอบลำคอของเขา มืออีกข้างยังล้วงเข้าไปในเสื้อยืดของเขา

การเริ่มเปิดฉากมีเซ็กส์แบบนี้ใช่ว่าเธอจะไม่ชอบ แต่ไม่กล้าบอกว่าจริงๆ เธอแล้วชอบมาก เพราะมันช่างตื่นเต้นเร้าใจ เสียวสุดจนอยากข้ามขั้นมีเซ็กส์สนุกๆ ในรอบถัดไป

อีกฝ่ายจึงถอนจูบออกเพื่อเว้นระยะช่วงแผงอกแล้วเคลื่อนใบหน้าลงต่ำไปที่หน้าอกอวบนุ่มหอมกรุ่น กระดุมสามเม็ดถูกสะกิดปลดออกจนเสื้อปริเปิดกว้าง จมูกโด่งสันซุกซบฟอนเฟ้นบนเนินขาวที่มีบราตัวเล็กโอบอุ้มและกั้นไว้แบบหมิ่นเหม่ ไม่นานมันก็ถูกรั้งลงจนเผยทรวงอกนูนเด่น ยอดถันสีชมพูแข็งเป็นไตชูชันล้อสายตา

เขาตรงเข้ามาที่หน้าอก จู่โจมทั้งจับ ขยำ คลึงเคล้าสองเต้า เล่นลิ้นเคล้นคลึงกับปทุมถันอย่างเมามัน จนสาวน้อยสะท้านทรวงและเผลอเปล่งเสียงครางเบา ๆ ออกมา

ณภัทรแหงนหน้าแอ่นกายยกเนินอกขึ้นเพื่อรับปลายจมูกคมสันโดยไม่รู้ตัว ร่างกายของเธอตอบสนองเขาอย่างเป็นธรรมชาติ

เขากดสะโพกแกร่งเข้าหาเธอเพื่อให้รู้สึกถึงบางอย่างที่กำลังเปลี่ยนแปลงอยู่ในขณะนี้ และเธอก็รับรู้ได้เป็นอย่างดี

เขากำลังเหยียดขยายอย่างทรมานและต้องการเธอ

ณภัทรเอื้อมมือหนึ่งยังลูบไล้แผงอกตึงแน่นของเขาครู่ใหญ่ ก่อนจะลากมือลงต่ำผ่านกล้ามหน้าท้องที่เป็นลอนแน่นเปรี๊ยะเข้าไปในขอบกางเกงผ้าขายาว เพื่อจับจองก่อนจะครอบครองสิ่งที่กำลังแข็งขึงคับพองตรงบ๊อกเซอร์ตัวบางของเขา

เธอกัดปากกลั้นเสียงครางพลางงัดแท่งร้อนนั้นออกมาอย่างไม่เกรงใจ ในขณะที่อีกคนก็ดึงกางเกงชั้นในของเธอลง

ณภัทรรู้สึกร้อนวูบวาบขนลุกเกรียวไปทั้งตัว ผิวเนื้อที่ไวต่อสัมผัสรู้สึกถึงกระแสไฟแปลบปลาบแล่นปราดไปทั่ว สุดท้ายยังกระจุกจนปวดมวนอยู่ตรงท้องน้อย ในส่วนเร้นลับแห่งความสาว

ภาพวาบหวิวยามสองกายสอดประสานเป็นจังหวะเร้าใจบังเกิดขึ้นอยู่เต็มสมอง เธออยากลอง อยากสัมผัสและลิ้มรสกระสัน

แต่ก่อนที่ความซาบซ่านร้อนเร่าเต็มอารมณ์จะเกิดขึ้นตามจินตนาการแห่งวัยสาว ชายตรงหน้ากลับหยุดมือ ไม่ยอมสอดแทรกแก่นกายแข็งร้อนเข้าหาอย่างที่ควร

เมื่อพายุอารมณ์หยุดกะทันหัน เธอพลันชะงักแล้วเอียงคอเงยหน้ามอง จึงสบเข้าไปในดวงตาคมกล้าใต้คิ้วหนาที่ขมวดแน่น

ชั่วเวลานี้แม้อยากหลบมากแค่ไหนก็หลบไม่ทันแล้ว

เธอพลันนึกถึงการแนบชิดอย่างไม่คาดฝันในคืนนั้น

หลังจากหลบหน้าหลบตาเขาอยู่หลายวัน ในที่สุดก็ทำตัวคล้ายว่าไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้นได้สำเร็จ อยู่ร่วมกันได้อย่างแนบเนียน แต่กลับเป็นเขาที่ไม่ยอมปล่อยผ่าน

บ้านนี้หากไม่นับพวกแม่บ้านและคนสวนก็มีกันอยู่แค่สี่คนเท่านั้นที่เป็นสมาชิกของครอบครัวคือ วิชัย ลินดา ณภัทรและคุณหนูเจ้าของฉายาจอมเย่อหยิ่งถือตัวประจำบ้านผู้เป็นพี่ชาย

ในเมื่อแม่กับพ่อเลี้ยงยังนั่งพักผ่อนดูทีวีอยู่ในห้องข้างล่าง คนตรงหน้าณภัทรเวลานี้จะเป็นใครไปได้ หากไม่ใช่พี่ชายสุดหล่อจอมหยิ่งคนนั้น

นิรัช…

“เอาไง จะให้พี่ไปส่งดี ๆ หรือจะให้พี่ทำตัวมีพิรุธจนพ่อกับแม่เธอสงสัย พี่จะได้บอกเรื่องของเราไปเลยว่า...”

ยังพูดไม่จบริมฝีปากบางเฉียบพลันถูกมือเล็กยกขึ้นปิด

ณภัทรรีบกระซิบตอบอย่างเคร่งเครียด “ก็ได้ๆ ภัทรยอมให้พี่รัชไปส่งก็ได้ แต่พี่ห้ามให้ใครรู้เรื่องของเราเด็ดขาดนะ”

ไม่อย่างนั้น บ้านแตกแน่!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel