บทที่ 10 เธอรักได้เพียงแค่ฉัน
“ท่านประธาน เธอไม่เป็นอะไรนะครับ?”
เมื่อเห็นเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนในสภาพสมบูรณ์ นัยน์ตาโอเล่ย์ก็มีประกายยินดีพาดผ่าน ไม่ถูกจระเข้กินก็ดีแล้ว
“ไม่ตายหรอก” น้ำเสียงของเซียวเซิ่งราบเรียบ
แต่หัวใจสวี่เจียนกลับเจ็บจนแตกเป็นเสี่ยงๆ ไข่มุกที่ตัวเองปกป้องอย่างพิถีพิถันมาตลอดสี่ปีกลับถูกทรมานจนมีสภาพแบบนี้ในวันเดียว!
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนดูแล้วสภาพแย่มาก ทั่วทั้งร่างไร้คลื่นพลังชีวิต ศีรษะหงายไปด้านหลัง เสื้อผ้าบนร่างปิดสนิท สามารถมองเห็นบาดแผลได้อย่างเลือนราง ชวนให้สยดสยอง
“เซียวเซิ่ง คุณปล่อยเธอนะ!”
สวี่เจียนตวาดเสียงเฉียบขาด พุ่งไปทางเซียวเซิ่งอย่างดุร้าย จนปัญญาที่โอเล่ย์ขัดขวางอยู่ข้างหลัง เขาเดือดดาลจึงปล่อยหมัดกระแทกทรวงอกโอเล่ย์อย่างแรง โดยไม่เหลือทางให้ถอย
“อุก!” โอเล่ย์รีบถอย และถูกคนยันเอาไว้จากด้านหลังจึงฝืนให้ไม่ล้มลงได้
เขาพยายามหลืนกลิ่นคาวเลือดที่อยู่ในลำคอ โบกมือสั่งบอดี้การ์ดให้ล้อมสวี่เจียนเอาไว้ ทุกคนคิดไม่ถึงว่าความสามารถที่แท้จริงของสวี่เจียนจะสูงขนาดนี้ จึงไม่กล้าประมาทเลินเล่อ ล้วนนำความสามารถที่แท้จริงออกมาใช้ทั้งหมด
สวี่เจียนยอมแพ้การต่อสู้ นัยน์ตาเย็นเยียบกดดันผู้คน “เซียวเซิ่ง นี่คุณมีความผิดฐานตั้งใจทำร้ายผู้อื่น! ตอนนี้ผมสามารถจับคุณได้แล้ว!”
“ผู้บัญชาสวี่ คุณมองให้ชัดเจนสิครับ” โอเล่ย์ยกมือชี้ไป พลางเอ่ยอย่างมีนัยยะลึกซึ้งว่า “บนร่างของเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนสวมชุดแต่งงาน! เพื่อที่จะแต่งเข้าตระกูลไฮโซ เธอไม่เสียดายที่จะต้องใช้ชีวิตเข้าแลก คุณจะแข็งใจทำมันพังได้ยังไง”
“เธอถูกใส่ร้าย ผมจะสืบให้ชัดเจน!”
“เธอเป็นคนวางแผนหรือว่าถูกใส่ร้าย พวกเราไม่สนใจ! แต่สะใภ้ที่เพิ่งแต่งเข้ามาใหม่ หรือเด็กที่เพิ่งจะเกิดมา สั่งสอนสักหน่อยก็เป็นเรื่องปกติ ไม่ได้เป็นปัญหาเรื่องตั้งใจทำร้าย
“วี๊ด...” สวี่เจียนโมโหสุดๆ เป็นครั้งแรกในชีวิตที่สูญสิ้นสติสัมปชัญญะ ลำคอขยับขึ้นลง ส่งเสียงผิวปาก
กองกำลังสนับสนุนมาถึงทันที เหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาบุกเข้าวิลล่าตระกูลเซียวโดยไม่สนใจสิ่งใด ทั้งสองฝ่ายวิวาทกันขึ้นมา ชุลมุนวุ่นวายมาก
เซียวเซิ่งไม่ได้รับผลกระทบใดๆจากเหตุการณ์ภายนอกทั้งนั้น เขาวางเสี่ยวเนี่ยนนอนราบบนพื้น แขนสองข้างวางทับกันบริเวณท้องของเธอ บังคับให้เธอสำลักน้ำออกมา
สำลักน้ำเสร็จแล้ว คนยังไม่ฟื้น นิ้วมือเรียวยื่นที่จมูกโด่งของเธอ ก็พบว่าไม่มีลมหายใจแล้ว
ต้องผายปอด?
เงาต้นไม้สะบัดไปมา ก่อให้เกิดเงามืด ลวงใบหน้าของคนทั้งคู่ ทำให้คนมองเห็นไม่ชัด
มือข้างหนึ่งของเซียวเซิ่งอยู่ที่ข้างแก้มของเสี่ยวเนี่ยน ก้มหน้าลง เคลื่อนริมฝีปากเข้าไปใกล้...แต่เมื่อนึกถึงใบหน้าที่แต่งหน้าจัดของเธอก่อนหน้านี้ ก็รู้สึกคลื่นไส้เล็กน้อย
“เซียวเซิ่ง คุณอย่าแตะต้องเธอ ให้ผมทำเอง!” เห็นเซียวเซิ่งจะจูบเด็กสาวของตัวเอง โทสะของสวี่เจียนก็พุ่งขึ้นสูงจนนัยน์ตาแดงก่ำ
คล้ายกับจงใจตั้งตัวเป็นศัตรูกับเขา วินาทีถัดไป เซียวเซิ่งก็หลับตาลงแล้วครอบครองริมฝีปากเย็นชืดของเสี่ยวเนี่ยน
เมื่อเข้าปากก็รู้สึกถึงความอ่อนนุ่มอันน่าประหลาด กลิ่นหอม และความหวานเล็กน้อย ชุ่มชื่นเหมือนกับน้ำตาลข้าวมอลท์ที่ทำจากเมล็ดข้าวฟ่าง ไม่เพียงแต่จะไม่รู้สึกไม่พอใจ กระทั่งรูขุมขนก็รู้สึกสบาย
จูบอีกครู่หนึ่ง หัวใจก็ถูกกระแทก
เมื่อจูบอีก บริเวณที่ริมฝีปากเชื่อมติดกันก็เกิดกระแสอุ่นร้อนรุนแรงทะลักไปทั่วทั้งร่างจนชาวาบไปครึ่งตัว
ผู้หญิงคนนี้...มีเวทย์มนตร์ชวนให้หลงใหล
“เซียวเซิ่ง! ฉันจะฆ่าแก!” หน้าผากสวี่เจียนมีเส้นเอ็นปูดโปนขึ้นมา ลงมือขั้นเด็ดขาดจัดการบอดี้การ์ดคนหนึ่งให้สลบ จากนั้นก็พุ่งไปทางเซียวเซิ่ง แต่ถูกโอเล่ย์ขวางเอาไว้ จึงวิวาทกันขึ้นมาอีกครั้ง
“ท่านประธาน ทำให้เธอมีลมหายใจก่อนค่อยว่ากันครับ!” โอเล่ย์เห็นท่านประธานไม่ได้ทำเรื่องสำคัญ ก็รีบเอ่ยเตือน
เซียวเซิ่งตะลึง ถึงได้เป่าอากาศเข้าไปในปากเธอ ผายปอดด้วยจิตใจแน่วแน่ และถือโอกาสชิมเธอไปด้วย
“ย่าห์!” สวี่เจียนหายใจไม่ออก เสียเปรียบติดต่อกัน และถูกโอเล่ย์ที่ฝีมือด้อยกว่าเขามากโจมตีอย่างแรงอยู่ครู่หนึ่ง
“เสี่ยวเนี่ยน น้องสาว” ทันใดนั้นเสียงเปราะบางก็ดังลอยมา ทำให้คนที่ได้ยินขนลุกขึ้นมา
เอี๋ยนหยู่โรวสวมเสื้อขนมิ้งค์ วิ่งโซเซมาโดยมีคนรับใช้ประคองอยู่ เมื่อเห็นภาพที่คนสองคนประกบปากกัน เธอก็ขาอ่อนจนเกือบจะช็อก
ถ้าหากไม่ได้เห็นเองกับตา ตีให้ตายก็ไม่กล้าเชื่อว่า เซียวเซิ่งจะผายปอดให้ใครด้วยตัวเอง
อยู่ด้วยกันมาสี่ปี เอี๋ยนหยู่โรวไม่เคยได้รับการจูบจากเซียวเซิ่งเลยสักครั้ง
เขาดีกับเธอมาก เสื้อผ้างดงาม อาหารการกินชั้นเลิศ มีคฤหาสน์หรูหราให้เธออยู่ ยอมทุ่มเงินให้กับของขวัญที่มอบให้เธอในเทศกาลปีใหม่ เมื่อจ่ายออกไปก็คืออัญมณี รถหรู เพียงแต่ไม่ยอมใกล้ชิดกันขึ้นไปอีกขั้น
ไม่ว่าเธอจะยั่วยวนยังไง เขาก็สงบนิ่ง ไร้ความรู้สึกหวั่นไหวใดๆ
ไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ เขายังสามารถกอดเธอผ่านเสื้อผ้าได้ วันนี้สามารถมองเธอให้มากขึ้น ก็เป็นความทะนุถนอมอย่างใหญ่หลวงแล้ว...
ท่าทางสุภาพบุรุษที่ไม่ยอมเอาเปรียบผู้หญิงแบบนั้นของเซียวเซิ่ง เคยทำให้เธอเกลียดจนขบเขี้ยเวคี้ยวฟัน จนถึงขั้นสงสัยว่าเขายังใช้การได้ปกติหรือไม่
แต่เขาปฏิบัติต่อเสี่ยวเนี่ยน...
“คุณนายน้อย ฉันว่าสถานการณ์ท่าจะไม่ดีแล้วค่ะ” นัยน์ตาของหงยวี่ซึ่งเป็นหญิงรับใช้มีประกายไม่ค่อยเอาจริงเอาจังพาดผ่าน “ความจริงแล้วคุณชายกำลังจูบเธอค่ะ”
เอี๋ยนหยู่โรวกำมือแน่น พยายามควบคุมความริษยารุนแรงอย่างสุดความสามารถ เธอไม่ได้ตาบอด เธอมองเห็น!
“เสี่ยวเนี่ยน เธอจะเป็นอะไรไปไม่ได้นะ ไม่อย่างนั้นพี่จะบอกกับคุณพ่อว่ายังไง ฮือๆ...”
เธอโผเข้าไปอย่างคิดจะขัด ปากก็แสร้งทำเป็นร้องไห้ แต่ในใจกลับสาปแช่งอย่างร้ายกาจ “เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน นังโสเภณี แกตายเสียเถอะ อย่าได้มีชีวิตเชียวนะ!”
“อืม...” สรุปแล้วเซียวเซิ่งก็มีความสามารถอยู่บ้าง เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนครางเสียงเบา และค่อยๆลืมตา
ตรงหน้าคือใบหน้าที่แปลกหน้าและคุ้นตา เธอนิ่งค้างไปวินาทีหนึ่ง
นี่คือใบหน้าที่หล่อเหลาเกินไปแล้ว จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากบางเย็นเยียบ รวมไปถึงความชั่วร้ายบริเวณมุมปากที่คล้ายมีคล้ายไม่มี เปิดเผยรูปโฉมอันงดงามราวกับเทวดาออกมา
“กรี๊ด!” เป็นเขา ปีศาจคนนั้น!
นัยน์ตาหดวูบ เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนดิ้นรนถอยหลัง ลำคอส่งเสียงกรีดร้องด้วยความหวาดกลัวออกมา “ช่วยด้วย! พี่คะ ช่วยฉันด้วย!”
“เสี่ยวเนี่ยน พี่อยู่นี่!” ถูกเธอตะโกนเรียกแบบนี้ สวี่เจียนก็หุนหันพลันแล่น สู้สุดชีวิต
กระชากปืนจากเอวของผู้ใต้บังคับบัญชาแล้วยิงขึ้นฟ้าหนึ่งนัด “ใครก็ห้ามขยับ ไม่อย่างนั้นจะใช้ความผิดในการลงมือทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจในการพิจารณาโทษ! ดูสิว่าพวกคุณมีความสามารถสูงกว่า หรือว่าห้องคุมขังมีอายุยืนยาววกว่า! ไม่กลัวติดคุดนานก็มา!”
“พอแล้ว หยุดให้หมด” โอเล่ย์ก็ถือโอกาสหาทางลง เอ่ยอย่างเฉยชาว่า “ผู้บัญชาสวี่ กรุณาพาคนของคุณจากไป ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นผู้ต้องสงสัยในการบุกรุกเคหสถานนะครับ”
“ผมจะไป แต่ก่อนอื่นต้องพาผู้ต้องสงสัยหลอกแต่งงานไปด้วย!” เอ่ยจบ ก็ยกเท้าก้าวตรงไปทางเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน
“ช้าก่อน!”
โอเล่ย์ก้าวขึ้นไปข้างหน้าขวางเขาไว้อีกครั้ง น้ำเสียงเน้นหนัก “ผู้กำกับการสวี่ ผมนับถือที่คุณเป็นผู้ชายแข็งแกร่งคนหนึ่ง! เรื่องที่คุณทำลายภาพลักษณ์ตระกูลเซียวในวันนี้ของคุณก็ช่างเถอะ ยังจะพาคุณนายน้อยที่เพิ่งแต่งเข้ามาของพวกเราไปอีก ดูจะรังแกกันเกินไปแล้ว!”
“ฉันไม่ใช่...ไม่ใช่คุณนายน้อย!” เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนชูมือขึ้นอย่างไร้เรี่ยวแรง พลางเอ่ยอย่างอ่อนแรงว่า “พี่คะ คนที่ฉันรักคือพี่ เป็นไปไม่ได้ที่จะแต่งงานกับคนอื่น! พาฉันไป รีบพาฉันไปนะ!”
“เสี่ยวเนี่ยน!” ทรวงอกสวี่เจียนเจ็บปวดรวดร้าว จับข้อมือโอเล่ย์เอาไว้แล้วไพล่ไปด้านหลัง จากนั้นก็บิดอย่างแรง
กร๊อบ! โอเล่ย์ถึงกับไม่ต่อต้าน ถูกบิดจนกระดูกส่งเสียงดังออกมา เข่าข้างหนึ่งงอลง กึ่งคุกเข่าอยู่บนพื้น
ไม่มีบอดี้การ์ดก้าวเข้ามาช่วยสักคน เหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาของสวี่เจียนนึกว่าคนกลุ่มนี้ยอมแพ้แล้วในที่สุด ล้วนไม่ทันสังเกตมุมปากของโอเล่ย์ที่โค้งขึ้นน้อยๆนั้นเจือไปด้วยแผนร้ายและความโหดร้าย
“เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน” เซียวเซิ่งจับมือหญิงสาวเอาไว้ วางลงบนริมฝีปากที่ยิ้มชั่วร้ายทรงเสน่ห์ “ในเมื่อเธอมีความกล้าที่จะไหว้ฟ้าดินกับฉัน เช่นนั้นมีชีวิตอยู่ก็เป็นคนของฉัน ตายไปก็เป็นผีของฉัน รักษาศีลธรรมจรรยาของคนเป็นผู้หญิงหน่อย”
รักสวี่เจียน ไม่ได้เด็ดขาด!
เพราะเขาจะไม่ให้โอกาสนั้น