บทที่ 19 หญิงชุดไทยสไบสีไพร
“ฉันพาหลานๆ มาขอพักอาศัยบ้านหลังนี้ เห็นว่าหากได้อยู่แล้วจะอยู่เย็นเป็นสุข มีกินมีใช้มิได้ขาด มีแต่ความเจริญรุ่งเรืองยิ่งๆ ขึ้นไป ฉันขอให้หลานๆ พักอยู่ที่นี่อย่างมีความสุขตลอดไปชั่วลูกชั่วหลานของพวกเขานะจ๊ะ”
“ตึงงงง...”
จิรเมธขอซื้อที่ดินติดกับสวนนวลน้อย การซื้อที่ดินเป็นไปอย่างง่ายดาย คนบอกขายไม่ขัดข้อง ขายที่ดินให้จริเมธ 3 ไร่ ต้นไม้มีพร้อม ปลูกบ้านอยู่ได้เลย มีผลไม้ให้เก็บกินตลอดทุกปี จิรเมธกับบุษบาบอกจิราพรว่าขายบ้านได้แล้ว หล่อนขอเงินทันที
“คุณพ่อส่งเงินมาให้ล้านนึงนะคะ จีจำเป็นต้องใช้ก่อนจบค่ะ”
“ไม่ได้ เงินจะหมดแล้ว พ่อให้จีได้แค่แสนเดียว พ่อจะเอาเงินไปปิดหนี้ธนาคาร ถ้าไม่ปิดหนี้ เราจะถูกฟ้องล้มละลาย จีทนได้หรือเปล่าถ้าพ่อถูกฟ้อง”
“อ๊ายยย เป็นไปไม่ได้ จีไม่เชื่อ จีจะเอาล้านนึง ถ้าไม่ได้ล้านก็ขอห้าแสน แค่นี้นะคะ จีรีบ”
หล่อนวางสายก่อนพ่อ อารมณ์ของหล่อนฉุนเฉียวเพราะคำไม่ได้ของพ่อ หล่อนถูกเลี้ยงมาอย่างคุณหนูจริงๆ ไม่เคยไม่ได้อะไรหากหล่อนต้องการ
“ว่าไงคุณ จะให้ยายจีเท่าไหร่ โอนไปเลย ผมไม่อยากพูดกับมัน”
“ห้าแสนก็ห้าแสน เหลือเงินหมุนบริษัทอีกใช่มั้ยคะ อีกสามเดือนลูกก็จบแล้ว ทนหน่อยนะคะคุณ”
“ผมทนมาตลอดนะคุณ ทำไมอีกแค่สามเดือนจะทนไม่ได้ล่ะ”
หากจิราพรใช้เงินซื้อของไร้สาระต่อไปเรื่อยๆ จำนวนเงินต้องหมดสักวันซึ่งเคยหมดมาแล้วและบริษัทไม่มีลูกค้ามาจ้างต้องวิ่งหาลูกค้า เขาถูกยึดเครดิตไปหลายบริษัทเพราะไม่มีเงินจ่ายค่าสินค้า วันนี้ได้เครดิตกลับมาแต่ลูกค้าหายไปทีละรายสองราย เขาต้องหาลูกค้าใหม่ที่ยังไม่คุ้นเคยและไม่ค่อยมั่นใจเท่าไรกับลูกค้าใหม่
บุษบาโอนเงินข้ามประเทศให้จิราพร หล่อนโทรศัพท์บอกลูกสาวให้เข้าใจสถานะการเงินแต่จิราพรไม่รับรู้ หล่อนต้องการเงินเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
“คุณแม่ไม่ต้องพูด จีไม่เชื่อหรอกค่ะ จะล้มละลายได้ยังไง บริษัทเคยมีเงินหมุนเวียนเดือนละหลายสิบล้าน”
“นั่นมันเมื่อก่อน แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้วนะลูก ช่วยแม่ประหยัดหน่อย ห้าแสนอยู่ให้ได้สามเดือนแล้วรีบกลับมาช่วยพ่อกับแม่ทำงาน”
“ไม่ค่ะ จีไม่ทำ จีจะอยู่เที่ยวกับแฟนจีอีกสักเดือนค่อยกลับค่ะ”
“มีแฟนอีกแล้วหรือจี ทำไมลูกทำตัวแบบนี้ เลิกไปแล้วกี่คน”
“คนนี้รวยมาก จีจะพาไปเมืองไทย ไปรู้จักกับคุณพ่อคุณแม่ด้วยค่ะ แค่นี้ก่อนนะคะ เขามารับจีไปเที่ยวแล้วค่ะ”
“ยายจี เดี๋ยว”
จิราพรวางสายไปก่อนอีกเช่นเคย บุษบาได้แต่นั่งถอนหายใจ ลูกสาวของหล่อนไม่ฟังคำเตือนของพ่อแม่ ไม่สนใจความรู้สึกของแม่ว่าจะเสียใจมากแค่ไหนที่ลูกเปลี่ยนคู่ควงบ่อยและแต่ละคนจิราพรเลือกคนร่ำรวยซึ่งไม่มองเห็นคุณค่าของผู้หญิง พวกเขามองเห็นค่าเพียงคู่นอนเท่านั้น
“ถ้าเขาจริงจังกับแก แม่ก็ดีใจด้วยแต่เขาเบื่อแล้วทิ้งก่อนที่แกจะทิ้งเขาล่ะจี แม่ไม่อยากให้เป็นอย่างนั้นเลยลูก”
สาวใหญ่เก็บความช้ำใจไว้เพียงลำพัง ไม่เล่าให้สามีฟัง กลัวเขาจะบ่นว่าลูกแม้ลับหลังลูก หล่อนก็ไม่อยากได้ยิน
จิราพรใช้ชีวิตตามใจตัวเอง หล่อนนอนกับคนรักใหม่ ไปอยู่กับเขาบ้างแต่ถูกครอบครัวของเขาไม่ต้อนรับเพราะหล่อนไม่สนใจคนในครอบครัว ไม่แคร์ใครสักคน เมื่อถูกมองด้วยสายตาไม่พอใจ หล่อนจึงกลับมาอยู่ห้องพักเช่นเดิม
“จิมมี่ ฉันจะกลับเมืองไทย ไปกับฉันนะ ไปรู้จักพ่อแม่ฉันนะ”
ฝ่ายชายได้แต่ยิ้มกับคำชวนของหล่อน เขาไม่รับคำชวนมีสองความหมาย ไปกับไม่ไป หล่อนหงุดหงิดชวนเขาทะเลาะจนกระทั่งบอกเลิกซึ่งเขาก็พร้อมเดินออกจากชีวิตของหล่อนเช่นกัน ยิ่งสร้างความโกรธให้กับหล่อนเป็นทวีคูณ
“ไอ้บ้า ไอ้ชั่ว เห็นแก่ตัว กูไม่เอาก็ได้วะ”
ความโกรธทำให้หล่อนควบคุมสติไม่อยู่ เอ่ยคำหยาบคายด่าทอเขา นั่นเป็นการขาดสัมพันธ์อย่างไม่เหลือเยื่อไยให้คิดถึงอีกเลย
หญิงสาวเดินทางกลับเมืองไทยเพียงลำพัง บุษบาแอบถอนหายใจ หล่อนไม่พร้อมต้อนรับลูกเขยฝรั่ง จิรเมธคาดหวังให้ลูกสาวช่วยบริหารงานบริษัทแต่จิราพรปฏิเสธเสียงหนักแน่น
“ไม่ค่ะคุณพ่อ จีจะทำงานที่จีชอบเท่านั้น จีจะไปทำงานโรงแรมค่ะ”
“แกเรียนบริหารแกจะไปทำงานโรงแรมได้ยังไง”
“ได้สิคะคุณพ่อ ไปนั่งบริหารไงคะ โรงแรมเพื่อนจีเองค่ะ คุณพ่อเขาต้องการตัวจีค่ะ แต่จีขอพักผ่อนสักสองอาทิตย์นะคะ”
“ตามใจ ระหว่างพักผ่อน ไปบ้านสวนกับพ่อ อีกหน่อยพ่อกับแม่จะไปอยู่บ้านสวน บ้านนี้พ่อจะขาย เอาเงินมาหมุนเวียนในบริษัท ที่ขายบ้านได้ พ่อใช้ไปเกือบหมด แกก็ต้องช่วยพ่อกับแม่ประหยัดบ้าง”
“โอ้ย อะไรๆ ก็ประหยัด เบื่อค่ะ ได้ยินมั้ยคะว่าจีเบื่อ ไปเที่ยวดีกว่า คุณแม่คะ ขอหนึ่งหมื่นค่ะ”
“ยายจี พ่อบอกอยู่นี่ไง ว่าเราต้องประหยัด”
จิรเมธเสียงเข้มแต่จิราพรไม่ฟัง หล่อนเดินออกจากบ้าน ขับรถออกไป คำพูดของพ่อเป็นเพียงลมพัดผ่านเท่านั้น บุษบามองตามลูกสาวพร้อมถอนหายใจยาว จิราพรจะปรับตัวเองได้หรือหากเข้าไปทำงานในโรงแรม ใครจะรับอารมณ์ฉุนเฉียวเอาแต่ใจของหล่อนได้และที่สำคัญ ใครจะรับผู้บริหารที่ไม่เคยผ่านงานมาแม้แต่วันเดียว
“บ้านเสร็จเดือนหน้านี่แหละคุณ เราย้ายกันเลย ยายจีจะไปหรือไม่ไปก็ตามใจ ผมจะไม่ตามใจยายจีอีกแล้ว”
จิรเมธรู้สึกผิดที่เลี้ยงลูกตามใจจนลูกไม่รู้จักสิ่งไหนควรทำและไม่ควรทำ จิราพรทำทุกอย่างที่หล่อนอยากทำและใครก็ห้ามหล่อนไม่ได้ด้วย
รถของจิรเมธกำลังแล่นผ่านหน้าบ้านทรงไทย บุษบาเหลียวไปมองบ้านที่หล่อนเคยอยู่และต้องขายบ้านเพราะทนกับความหลอนไม่ไหว ทันทีที่สายตาเหลือบมองไปบนระเบียงหน้าบ้าน หล่อนก็ต้องเบิกตากว้าง อ้าปากค้างกับสิ่งที่เห็น
หญิงสาวผมยาวแต่งตัวด้วยชุดไทยโบราณ สไบเฉียงสีไพร ผ้าถุงสีฟ้าอ่อน เกาะลูกกรงระเบียงมองมาที่บุษบา ส่งยิ้มให้และพริบตาเรือนร่างหญิงสาวสวยงามนั้นก็เปลี่ยนเป็นหงสาในชุดกางเกงยีนเสื้อยืดคอกลมแขนสั้นอย่างรวดเร็ว
“คุณพระช่วย เป็นไปได้ยังไง คุณคะ ดูสิ นั่นหนูหงส์หรือเปล่าคะ”
บุษบาเรียกสามีให้มองตามหล่อน เขาก้มศีรษะเล็กน้อยมองไปตามมือบุษบา ไม่เห็นอะไร ไม่มีใครยืนอยู่ที่ระเบียง
“ไม่เห็นมีใคร หนูหงส์จะมายืนอยู่บนบ้านเราได้ยังไงล่ะคุณ เอ๊ย ไม่ใช่บ้านเรา บ้านคุณอิน”
“นั่นไงคะ”
บุษบาชี้มือไปที่เดิม จิรเมธจอดรถเลื่อนกระจกข้างที่บุษบานั่งลง ลมพัดเข้ามาในรถ ทั้งสองถึงกับสำลักกลิ่นฉุนมากับลม
“กลิ่นอะไรเนี่ย ทำไมเหม็นขนาดนี้ อะไรตายอยู่แถวนี้หรือเปล่า”
จิรเมธมองหาต้นเหตุของกลิ่นเหม็นเน่าแต่ไม่มีอะไรอยู่บริเวณนั้น บุษบาจ้องร่างหงสา กลิ่นเหม็นที่ยังวนอยู่รอบตัวและร่างหงสาเปลี่ยนเป็นหญิงชุดไทย หล่อนหลับตาแล้วลืมใหม่อีกครั้ง คราวนี้ร่างหงสาหายไปจากระเบียง
“คุณ รีบไปเถอะค่ะ”
“ทำไม มีอะไรหรือคุณ”
“ฉันเห็นหนูหงสาแต่ไม่ใช่ ร่างแกเปลี่ยนเป็นผู้หญิงชุดไทยที่เคยแวบผ่านให้เราเห็นเกือบทุกคืนจนเราอยู่ไม่ได้”
“ทำไมผมไม่เห็นเลยล่ะคุณ”
“รีบไปเถอะค่ะ ฉันไม่อยากอยู่ตรงนี้ กลิ่นเหม็นอะไรก็ไม่รู้”
หล่อนหลับตาแน่น จิรเมธเคลื่อนรถออกจากตรงนั้น กลิ่นเหม็นหายไปอย่างน่าอัศจรรย์ เขาหันมามองหน้าภรรยา
