ตอนที่ 4 ถูกตบ
ตอนที่ 4 ถูกตบ
จวนตระกูลหยาง
แม่ทัพหยางเฟยฉี นั่งไม่สบอารมณ์ ที่ภรรยาของเขาไม่อ่อนข้อให้แม้แต่น้อย อากาศดี ๆ ยามเช้านางก็ทำให้เสียบรรยากาศหมด
“ท่านแม่ทัพขอรับ คุณหนูไป๋มาขอพบขอรับ” พ่อบ้านรีบเดินเข้ามา เมื่อคุณหนูไป๋สตรีที่ท่านแม่ทัพเอ่ยปากบอกว่ารักนางมาก จนกระทั่งฮูหยินผู้เฒ่าที่จากไปเอ่ยต่อว่าไม่ให้นางแต่งเข้าตระกูลหยางอย่างเด็ดขาด
“อืมข้ารู้แล้ว นางอยู่ไหนมิเห็นตามมา” เขาพยักหน้า แต่ไม่เห็นคนที่มาพบเดินตามหลังพ่อบ้าน
“กำลังคุยกับฮูหยินอยู่ขอรับ” พ่อบ้านก้มหน้าลงเล็กน้อย เขาเอ่ยให้นางเข้ามาด้านในเรือน แต่คุณหนูผู้นี้เมื่อเห็นฮูหยินยืนชมดอกไม้ นางก็ปรี่เข้าไปมิฟังความเขา
“เจ้ากล้าปล่อยไว้ได้อย่างไร ถ้าเกิดเรื่องขึ้นมาเล่า เร็ว” เขาร้อนรนนักกลัวว่าจะเกิดเรื่องขึ้น เขาเป็นห่วงคนท้อง กลัวว่านางจะหงุดหงิดและจะทำให้นางไม่สบายอาจจะกระทบกระเทือนถึงลูกในท้องได้
สวนดอกไม้
อวี้เหยานั่งจิบน้ำส้มคั้นที่สาวใช้คั้นสด ๆ ให้ดื่ม นางรู้สึกสดชื่นนัก นางอยากเก็บความรู้สึกดี ๆ เอาไว้ยามจากไปจะได้ไม่ต้องคิดถึงให้มาก แต่แล้วความสงบก็ถูกทำลายโดยคุณหนูไป๋ที่เข้ามา
“คุณหนูหลิว สบายดีหรือไม่ ท่านไม่เห็นหย่ากับพี่ฉีเสียทีเล่า ท่านแม่ก็จากไปแล้ว ยังจะดื้อดึงอยู่ทำไมกัน หรือท่านต้องการสมบัติของพี่ฉีกันแน่!! จึงไม่หย่า !!ให้เขาเสียที!!” ไป๋จิงชิง ภายนอกน่ารัก อ่อนหวาน อ่อนโยน แต่จิตใจของนางหยาบกระด้างและต่ำช้านัก
นางมีจริตมารยาอย่างสตรีคณิกา จับไม่ได้ไล่ไม่ทัน ท่านแม่ทัพจึงมิได้ทันเล่ห์เหลี่ยมของนาง นางเป็นบุตรีของขุนนางไป๋ นางทำทุกอย่างเพื่อยกฐานะของตนเองให้ดีขึ้น นางเกิดจากฮูหยินรอง และเผอิญพบกับท่านแม่ทัพเข้าโดยบังเอิญ
นางเห็นว่าเขาหล่อเหลา นางจึงได้ดักรอพบหน้า และคอยสืบข่าวว่าเขาจะไปที่ไหนและก็จะเจอนางทุกครั้งไป จนกระทั่งเขาได้หลงรักนาง ด้วยความน่ารักอ่อนหวาน อ่อนโยนและจิตใจดี
“....” อวี้เหยาขี้เกียจจะพูดโต้ตอบปล่อยให้นางได้พูดไป เพราะว่านางไม่เห็นว่าท่านแม่ทัพนั้นยืนเอามือสองข้างไพล่หลังมองดูอยู่ อวี้เหยาเมื่อเห็นเช่นนี้แล้ว นางจึงได้แสยะยิ้มเยาะเย้ย คุณหนูไป๋ นางไม่รู้ตัวว่ามีใครมองนางอย่างไม่พอใจ
“ต้องถามท่านแม่ทัพละมั้งว่า เหตุใดจึงไม่ยอมหย่าให้ข้าเสียที ข้าลงนามขอหย่าให้แล้ว แต่ดูเหมือนว่าเขารักข้า รักข้ามากจึงไม่หย่าตามที่เจ้าเรียกร้องได้ หากอยากเป็นฮูหยินเอกเจ้าฝันไปเถอะ หรือว่าเจ้าจะมาเป็นฮูหยินรองดีเล่า” อวี้เหยาพูดถูกจุดของนาง
สตรีนางนี้อยากได้ตำแหน่งฮูหยินเอกของจวน จนตัวสั่น มีหรือว่านางจะไม่รู้อะไร แม่สามีนั้นเอ่ยบอกนางหมดว่าสตรีผู้นี้ร้ายลึกอีกทั้งมีมารยามากมายนัก
ท่านแม่ทัพอยู่แต่กับเหล่าบุรุษ จึงไม่ทันเหลี่ยมของนางจิ้งจอกตนนี้ แม่สามีของนางจึงได้ขัดขวางเขาเสียเหลือเกิน แต่คราวเคราะห์จึงได้มาตกที่นาง แถมยังตั้งท้องอีก
“เจ้ากล้านัก ปากดีเช่นนี้วันนี้ข้าขอตบสั่งสอนเจ้า” จิงชิงยกมือขึ้นหมายจะฟาดใบหน้าของอีกฝ่ายที่นั่งอยู่ ด้วยความโมโหที่สตรีคนนี้นั้นปากร้ายอีกทั้งยังพูดจาไม่เข้าหูนางอีก
วันนี้นางอยากจะตบหน้าของอวี้เหยาเข้าให้สักฉาดเพื่อเป็นการสั่งสอนอย่าริปากดีให้มากนัก
“หยุดนะ” ท่านแม่ทันตวาดเสียงดัง จนทำให้จิงชิงหยุดและหันกลับไปตามเสียง นางลดมือลงและรีบปรับสีหน้าทันที นางรีบบีบน้ำตา
“พี่ฉี นาง ฮึก ฮึก จะทำร้ายข้า ข้ากลัวเลยจะ...” นางแสร้งร้องไห้ บีบน้ำตาราวกับเล่นงิ้ว ที่ไหนได้ท่านแม่ทัพเห็นตั้งแต่แรกยามที่พ่อบ้านบอกเขาก็รีบทะยานมาทันพอดี
กำลังจะเอ่ยปากชวนนางเข้าไปข้างในแต่แล้วก็ได้ยินสิ่งที่เขาไม่คิดมาก่อนว่า สตรีเช่นนางเป็นคนหน้าไหว้หลังหลอกเช่นนี้ไปได้อย่างไร หรือเขามันโง่งมตามที่มารดาบอกไม่ผิด
“ท่านเชื่อนางหรือไม่เล่า” อวี้เหยาแค่หัวเราะขึ้นอย่างเย้ยหยัน
“อ้อ เมื่อครู่ที่เจ้าถามว่า ข้าไม่หย่ากับเขา ตอนนี้เขาอยู่นี่แล้วก็ถามเสียสิ” อวี้เหยาไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดมือ
“ฮูหยินใจเย็น ๆ กลับไปที่เรือนเถิด” เฟยฉีไม่อยากจะฉีกหน้าของไป๋จิงชิงตรงนี้ จึงอยากให้อวี้เหยากลับไปที่เรือนพักผ่อน เขาจะได้เอ่ยกับนางว่าจะไม่แต่งกับนางแล้ว
เขาอยากจะขอยกเลิกคำสัญญาที่ครั้งหนึ่ง เขามันปากพล่อยเพราะมึนเมา จึงได้ตอบตกลงแต่งงานกับนางในยามนั้น เขาเมามากและเมื่อเห็นคนรักเอ่ยถามเรื่องแต่งงานเขาก็เลยพลาดพลั้งไป
“เดี๋ยวสิ เมื่อครู่นางบอกว่าข้า จะตบนางหรือ” อวี้เหยาเดินลุกขึ้นยืนเต็มความสูงของตนเอง
พลางมองสตรีตีสองหน้าที่เก่งกาจนัก เรียกร้องความสงสารความเห็นใจของเขาได้อย่างดี ทั้ง ๆ ที่เขาเห็นอยู่ว่าสตรีคนนี้ร้ายขนาดไหน เขาไม่ต่อว่ายังกลับนิ่งราวกับรูปปั้น เช่นนั้นนางจะจัดการเอง
เพียะ!! มีหรืออวี้เหยาจะยอมนางยกมือขึ้นฟาดเข้าให้ที่ใบหน้างาม ๆ ของอีกฝ่ายจนสุดแรง ไป๋จิงชิงไม่นึกว่าอวี้เหยาจะกล้าลงมือกระทำเช่นนี้ นางล้มลงโดยไม่ทันได้ตั้งตัว รู้สึกอีกทีก็เจ็บมาก มือเรียวของนางรีบปิดแก้มเอาไว้ รู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างไหลออกมันคือเลือด
“อวี้เหยาเจ้า ทำอะไร” เฟยฉี ร้องถาม เขาไม่ได้ห้ามนางตั้งแต่ทีแรก และไม่นึกว่านางจะทำอีกฝ่ายต่อหน้าเขา ช่างร้ายไม่เบา
“พี่ฉี นางตบข้า เลือด เลือดออกเลยเจ้าค่ะ ท่านต้องจัดการให้ข้านะเจ้าคะ ข้าไม่ยอม” จิงชิงร้องโวยวาย มือเรียวของนางมีเลือดเปรอะเล็กน้อยเท่านั้น
“นี่แค่ตบนะ อย่าให้ข้าถีบก็แล้วกัน ไม่เช่นนั้น จมูกสวย ๆ ของเจ้าคงจะหักเป็นแน่” อวี้เหยายิ้มเยาะอย่างสะใจ
“ฮูหยินพอเถอะนะ กลับเข้าเรือนพักผ่อนมันไม่ดีต่อ..” ต่อลูกในท้อง อวี้เหยารีบถลึงตาใส่เขา เขาจึงได้รีบหุบปากของตนเองอย่างว่องไว เพราะนางไม่พอใจ
“ก็นางบอกว่าข้าตบนางอย่างไร เมื่อครู่ยังไม่ได้ตบ ตอนนี้ข้าตบคนรักของท่านแล้ว” อวี้เหยามองหน้าของสามี
“ชอบหรือไม่เล่าความรู้สึกเช่นนี้ เจ็บหรือไม่เล่าถูกตบจริง ๆ มารยาของเจ้าเอาไปใช้กับคนอื่นเถิด” อวี้เหยาไม่แยแสสักนิด
ไป๋จิงชิงลุกขึ้นกำหมัดแน่นนางลงเล็บจิกเข้าที่ฝ่ามือของตนเอง พลางข่มความโกรธของตนเอง พลางร้องไห้สะอึกสะอื้นราวกับลูกนกถูกรังแก
อวี้เหยา เดินกลับเรือนของนางเพราะหมดอารมณ์สุนทรีแล้ว เหลือแต่ความหงุดหงิดอยู่ในอกของนางเท่านั้น
“พี่ฉีเห็นหรือไม่ ว่านางร้ายขนาดไหน นี่ต่อหน้าท่านนะ นางยังลงมือกับข้าได้ขนาดนี้ แล้วจะให้ข้า...” จิงชิง นางไม่วันที่จะเสียเขาไป เขาเป็นบ่อทรัพย์ของนาง
“เจ้ามาที่นี่มีอะไรหรือไม่” เขานั่งลงและไม่ประคองนาง จิงชิงเกิดสงสัยเหตุใดเขาจึงได้ห่างเหินเช่นนี้
“ท่านพ่อ เอ่ยถามเรื่องของเรา ข้าเลย..” จิงชิงไม่กล้าพูดต่อเมื่อเห็นสีหน้าของอีกฝ่ายราวกับนางพูดคุยผ่านสายลม เฟยฉีนั่งอย่าสบายอารมณ์พลางแคะหูของและเอาออกมาเป่าทิ้ง
“ข้ารู้แล้ว เอาไว้ว่าง ๆ ข้าจะแวะไปหาก็แล้วกัน ช่วงนี้หากไม่มีธุระจำเป็นก็ไม่ต้องมา ข้าเกรงว่าเจ้าจะทำร้ายฮูหยินของข้า” เฟยฉี หมดจะตัดสัมพันธ์ เขาก็ไม่นึกถึงระยะเวลาที่รักชอบกัน นางและเขามีใจให้กันเกือบสองปีเต็ม พอกันทีกับสตรีโกหกหลอกลวง
“พี่ฉี ท่าน ท่านไม่รักข้าแล้วหรือเจ้าคะ” จิงชิงรู้สึกหน้าชานัก นางคิดว่าเขาอาจจะหลงเสน่ห์ภรรยาเข้าให้ จึงได้เมินเฉยนาง
แท้ที่จริงแล้วท่านแม่ทัพตาสว่างเห็นอะไรมากมายอีกทั้งยังมองเรื่องผลประโยชน์ของขุนนางไป๋ หากเขาเป็นเขย ขั้วอำนาจจะเปลี่ยนอีกข้างทันที ฐานของไท่จื่อจะสั่นคลอน
“เจ้าต้องคงกลับไปถามบิดาของเจ้าแล้ว ว่าหากข้าเป็นบุตรเขย เขาจะได้อะไรจากข้า” เฟยฉียามนี้ไม่หลงกลใด ๆ ทั้งสิ้น อีกอย่างเมื่อครู่เขาไม่ชอบใจที่เห็นว่าจิงชิงจะตีภรรยาของเขา
อาเมิ่งสาวใช้ที่ออกไปนอกจวนได้กลับเข้ามาอีกครั้ง พร้อมห่อยาสีน้ำตาลเข้มห่อเล็ก ๆ ได้ยื่นให้ฮูหยินของนาง อวี้เหยายกยิ้มขึ้น เมื่อครู่อารมณ์เสียเพราะสตรีหน้าด้านคนนั้น แต่ตอนนี้อารมณ์ดีแล้ว
“อาเมิ่งเหนื่อยเจ้าแล้ว ออกไปได้เมื่อไหร่ ข้าจะตอบแทนเจ้าอย่างงาม” อวี้เหยาแย้มยิ้มแล้วนั่งลงมองห่อยาในมือ มันคือผงนิทราเรียกได้ว่าใครถูกเข้าไปกว่าจะฟื้นก็คงจะเป็นเช้าวันใหม่เสียแล้ว
“ฮูหยินคืนนี้นะเจ้าคะ ทุกอย่างเตรียมไว้หมดแล้ว” สาวใช้เอ่ยขึ้น ไม่ว่าจะเป็นผู้คุ้มกัน อีกทั้งบรรดาหีบเสื้อผ้า ห่อยา และทรัพย์สินที่เปลี่ยนเป็นตั๋วเงินทั้งหมด เหมาะแก่การพกพา
“ดี”