บท
ตั้งค่า

บทที่ 8

หลายวันที่ผ่านมาอากาศร้อนกว่าปกติค่อนข้างมาก และนั่นคือสาเหตุสำคัญที่ทำให้คุณชายเจ้าของแปลงผักหลวงมิได้ย่างกรายออกจากบ้านเลยแม้เพียงครึ่งก้าว ทว่าพออากาศเริ่มเย็นลงหน่อย โจวเล่อเทียนก็มิรอช้า เร่งสวมหมวกใบกว้างเพื่อซ่อนใบหน้าจากแสงแดด รีบออกไปเสวนากับสตรีนิสัยประหลาดทันที

หัวขโมยแปลงผักขยันและตั้งใจทำงานมากกว่าที่เขาคาดการณ์เอาไว้มาก นางลื่นล้มอยู่บ่อยครั้ง จนร่างกายเปรอะเปื้อนทั่วทั้งตัว ใบหน้าดูมอมแมมไม่ต่างจากลูกหมาตกโคลน ทว่าโจวเล่อเทียนไม่สนใจ เพราะอยากจะแกล้งนางให้สมกับความหมั่นไส้เสียมากกว่า

“เหตุใดจึงไม่รู้จักล้างหน้าล้างตา สกปรกไปหมดแล้ว”

โจวเล่อเทียนพบว่าเสื้อผ้าที่นางสวมใส่นั้นทะมัดทะแมงเหมาะกับการทำสวนอย่างมาก ทั้งยังดูคุ้นตาอยู่ประมาณหนึ่ง ทว่านึกอย่างไรก็นึกไม่ออก และหน้าตามอมแมมนั่นก็ดึงความสนใจของเขาเสียจนอยู่หมัด

“ล้างตอนนี้ก็เสียเวลาเปล่าเจ้าค่ะ เอาไว้เลิกงานแล้วค่อยจัดการตัวเองทีเดียวจะดีกว่า” หลี่ซินเหมยเร่งมือพรวนดิน เตรียมพร้อมสำหรับการปลูกผักในอีกสองสามวันข้างหน้า

“ดูงานของเจ้าจะสบายไม่น้อย คงอาศัยความเป็นสตรี ขอความช่วยเหลือจากเหล่าคนสวนเสียละกระมัง” ริมฝีปากหยักได้รูปแสร้งกล่าวกระทบ ส่วนมือเรียวขาวซีดจับหมวกแน่น ราวกับกลัวว่ามันจะหลุดออกจากศีรษะของตน

“หากคุณชายออกมาควบคุมงานเองบ้าง ก็จะเห็นว่าข้ามิใช่คนขี้เกียจ และทำทุกอย่างเต็มความสามารถแล้ว”

หลี่ซินเหมยอดเสียดสีคุณชายที่เก่งแค่ปากมิได้ นิ้วมือของนางแตกร้าว ผิวกายที่โผล่ออกมานอกเสื้อผ้าหรือก็ทั้งแดงและแสบ ทว่ายามกลับบ้านไปแล้วกลับบ่นอะไรมิได้

นางเกรงว่าท่านย่าจะไม่สบายใจ

“ซินเหมยอยู่นี่เอง ตามหาเสียตั้งนาน!” อาเหยียนวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาหาสหายต่างวัย เขาทำความเคารพคุณชายเจ้าของบ้าน ก่อนจะยื่นตลับเล็ก ๆ ให้กับสตรีที่กำลังนั่งพรวนดินอยู่

“นี่ตลับอะไรกัน”

“ตลับยา เอาไว้ทายามรู้สึกแสบร้อนบนผิวของเจ้า”

หัวหน้าคนสวนกล่าวต่อไปอีกว่า สามารถใช้ทาบนใบหน้าได้ด้วย แต่ดูท่าความเป็นห่วงของเขาจะทำให้คุณชายเจ้าของแปลงผักมิค่อยพอใจนัก

“ห่วงกันจนไม่ได้ทำการทำงานแล้วกระมัง”

“ซินเหมยทำงานหนักมากขอรับ บอกให้พักสักหน่อยก็ไม่ค่อยจะฟัง นี่คนงานในสวนก็แทบจะไม่มีอะไรเหลือให้ทำแล้ว”

อาเหยียนกล่าวพลางหัวเราะ น้องสาวตัวน้อยของเขาขยันจริง ๆ แต่ยังไม่ทันได้อยู่คุยอันใดต่อ คนสวนก็ตะโกนเรียกเขาเสียงดังลั่น ทำให้เจ้าของร่างกำยำ จำต้องเดินออกห่างจากสมาชิกใหม่ของแปลงผักหลวงไปอย่างไม่เต็มใจนัก

“ทำเท่าที่จะทำไหวเท่านั้น” หลี่ซินเหมยก้มหน้าพรวนดินต่อ ถึงแม้แดดจะมิค่อยแรงมาก ทว่าการทำงานกลางแจ้งหลายวันก็ทำให้นางรู้สึกมิค่อยสบายตัว ทั้งยังรู้สึกคล้ายจะเป็นลมอยู่เรื่อย ๆ

การทำสวนปลูกผักลำบากดั่งที่คุณชายโจวว่าไว้ไม่มีผิด

“ซินเหมย เจ้าหยุดทำงานแล้วมากับข้า”

คุณชายผู้ชื่นชอบในการกลั่นแกล้งผู้อื่นทำหน้าจริงจัง ทว่านั่นก็ไม่ได้มีประโยชน์อันใด เพราะหลี่ซินเหมยยังคงไม่ยอมเงยหน้ามาสบตากัน

“ถึงเวลาพักแล้ว เอาไว้สนทนากันในภายหลังเถิดเจ้าค่ะ”

เสียงระฆังบอกเวลาพักดังขึ้นพอดี คนสวนจำเป็นจึงวางมือจากงานและเดินไปยังบ่อน้ำ ตั้งใจว่าจะล้างมือไม้ให้สะอาด พร้อมสำหรับรับประทานอาหารกลางวัน

หลี่ซินเหมยแสดงสีหน้าเหยเกยามล้างมือ และนั่นทำให้คนมองอารมณ์เสียหนักกว่าเดิมมาก

“ถ้าไม่ตามมา ข้าจะโกรธเจ้ามาก!” โจวเล่อเทียนตวาดเสียงดัง ทำตัวเอาแต่ใจสมคำร่ำลือ

“เอาแต่ใจตัวเองยิ่งนัก เดินนำไปสิเจ้าคะ ข้าจะได้เดินตาม” หลี่ซินเหมยเหนื่อยเกินกว่าจะโต้แย้ง หากนางทำตามคำสั่งเสียตั้งแต่ตอนนี้ เวลาพักกลางวันก็คงจะพอเหลืออยู่บ้าง

คุณชายเจ้าสำอางถึงกับส่ายหน้า เพราะไม่เข้าใจว่าเหตุใดสตรีนางนี้จึงอารมณ์เสียง่าย ยังมิทันจะเริ่มสนทนาอย่างเป็นกิจจะลักษณะ นางก็ทำหน้าตาหงิกงอ อารมณ์บูดใส่กันเสียแล้ว

“ต้องการอะไรหรือเจ้าคะ”

หลี่ซินเหมยถามทันทีที่เข้ามาในตัวบ้าน หงุดหงิดใจนักที่คุณชายหลบลมร้อนอยู่ในบ้านอย่างสบาย ต่างจากคนงานที่อยู่ข้างนอก รวมถึงตัวนางราวฟ้ากับเหว

แต่หากท่านพ่อยังอยู่...หลี่ซินเหมยก็คงมิตกระกำลำบาก นั่งนอนสบายอยู่ในบ้านไม่ต่างกัน

“ไปนั่งรอตรงนู้นก่อน”

โจวเล่อเทียนพยักพเยิดไปยังเก้าอี้ตรงมุมห้อง ก่อนจะใช้มือขาวจัดปลดหมวกใบกว้าง และใช้ผ้าผืนเล็กซับเหงื่อที่ลำคอของตนเองเบา ๆ พอแล้วเสร็จก็หายตัวไปชั่วอึดใจหนึ่ง

เขากลับมาพร้อมกับอ่างน้ำเล็ก ๆ และอุปกรณ์ทำแผล

“บอกให้ทำงานเบา ๆ เหตุใดจึงไม่ยอมเชื่อฟังกัน เอามือมานี่” เขาทำหน้ามิค่อยพอใจ

ทว่านั่นมิใช่สิ่งที่ทำให้หลี่ซินเหมยยอมยื่นมือให้แต่โดยดี

ความงามของเขาต่างหากที่ทำให้นางลืมเลือนความน้อยใจในวาสนาไปชั่วขณะ คุณชายเจ้าสำอางมีรูปร่างสูงโปร่ง ทว่าผอมบางกว่าหัวหน้าคนสวนเกือบครึ่ง ผิวของเขาขาวราวกับน้ำนม ทว่าดวงหน้ากลับปรากฏสีชมพูแต้มแต่งเพราะความร้อน มองดูแล้วน่าชมอย่างมาก

“อาจจะแสบมากสักหน่อย” เขากล่าวเตือนขณะล้างมือให้กับหลี่ซินเหมย

เดิมทีก็ตั้งใจว่าจะแกล้งลูกจ้างคนใหม่ให้หายโมโห แต่พอเห็นหัวขโมยแปลงผักทำงานหนักดังปากว่า โจวเล่อเทียนก็เริ่มรู้สึกผิดที่บังคับนางให้ทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ

หากอยากมีสหาย เขาก็ควรทำตัวให้สมกับเป็นสหาย มิใช่บังคับขู่เข็ญเอาอย่างที่นางกล่าวหา

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel