10.ต้องการมากทีเดียว
มันน่าหงุดหงิดเล็กน้อยตรงที่เธอไม่สามารถซื้อที่ดินตรงท่าเรือได้เหมือนกับที่ตั้งใจเอาไว้ในครั้งแรก โอฟีเลียไม่เข้าใจเหมือนกันว่าความบาดหมางของเธอและกลุ่มการค้าเทอรันมันเริ่มมาจากตรงไหนกันแน่ อาจจะเริ่มมาจากที่เธอแย่งการประมูลที่ดิน ที่มีบ่อเกลือจากเขาไปก็ได้
แน่นอนว่าบ่อเกลือบ่อนั้นมันสามารถทำเงินให้เธอได้อย่างมหาศาล แต่เทอรันเองก็รวยมากอยู่แล้วนี่ เขามีเงินมากกว่าเธออีกไม่ว่าจะเป็นตั้งแต่ครั้งอดีตหรือว่าในตอนนี้ เขามองมองข้ามเธอไปบ้างไม่ได้รึอย่างไรกัน ถึงได้ตั้งตนเป็นปรปักษ์ขนาดนั้น
“วันนี้ในยามที่คุณหนูเดินทางออกไปจากคฤหาสน์ ท่านบารอนคอนเนอร์มาที่นี่ด้วยครับ ท่านบารอนกล่าวว่า แกรนด์ดัชเชสได้ไหว้วานให้ท่านบารอนเข้าร่วมงานเลี้ยงพิธีบรรลุนิติภาวะในฐานะคู่ควงของคุณหนู..”
โอฟีเลียขมวดคิ้วในทันที อันที่จริงเธอไม่ได้อยากจะเข้าร่วมงานเลี้ยงอะไรนั่นมากมายเท่าไหร่นัก แต่เธอไม่อยากจะขัดใจพี่ชายและท่านป้าที่หวังดี
แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะหวังดีมากเกินจนล้ำเส้นของเธอไปมากทีเดียว เธอไม่ได้ต้องการคู่ควงอะไรแบบนั้นสักหน่อย
และหากว่าท่านแม่รู้เรื่องนี้ แน่นอนว่าท่านแม่จะต้องไม่พอใจอย่างแน่นอน
“ปฏิเสธไปซะ..ข้าไม่ต้องคู่ควงหรืออะไรแบบนั้น”
พ่อบ้านวัยชรายกมือขึ้นมาเช็ดเหงื่อที่ชุ่มอยู่บนหน้าผาก
“ปฏิเสธไปแล้วครับ ท่านดัชเชสสั่งให้ข้าเขียนจดหมายปฏิเสธท่านบารอนไปเมื่อช่วงเย็นแล้วครับ”
ฉันพยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้งเพื่อมองหน้าพ่อบ้านด้วยความตกใจ
“นี่ท่านแม่รู้เรื่องที่ข้าจะไปร่วมงานเลี้ยงอย่างนั้นหรือ? ให้ตายเถอะ แล้วท่านคงไม่ได้ทำอะไรแปลกๆ ใช่ไหม”
คำถามของคุณหนู พ่อบ้านเองก็ไม่รู้ว่าจะต้องตอบเช่นไรเหมือนกัน
“อะไรแปลกๆ ที่คุณหนูว่า มันรวมไปถึงการที่ท่านดัชเชสสั่งให้คาเซลไปร่วมงานเลี้ยงในฐานะของคู่หมั้นคุณหนูด้วยรึเปล่าครับ..”
โอฟีเลียอ้าปากออกมาด้วยความรู้สึกตกใจมากกว่าเก่า และยังไม่ทันที่เธอจะได้กล่าวคำใดออกมาท่านแม่ก็เดินเข้ามาในห้องทำงานของเธอพร้อมกับคาเซลที่เดินอยู่ด้านหลังท่านแม่
“เรื่องที่แม่ทำมันไม่ใช่เรื่องแปลกสักหน่อย แม่เป็นห่วงลูกก็ผิดอย่างนั้นหรือโอฟีเลีย”
ตั้งแต่ที่ฉันเข้ามาสวมร่างของโอฟีเลีย ฉันมั่นใจในความเก่งกาจของตัวเองเป็นอย่างมาก เพียงแต่กับท่านแม่..ฉันไม่มีความกล้ามากพอที่จะขัดใจท่าน
“ท่านแม่คะ ลูกรู้ดีว่าการเข้าร่วมงานเลี้ยงนั้นมันคือการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในแวดวงสังคม และลูกไปที่นั่นเพราะลูกต้องการให้ทุกคนล่วงรู้ว่าลูกคือเลดี้แห่งแอเรียนา ลูกอยากจะลุยงานเรื่องการทำธุรกิจอย่างเต็มตัวหลังจากที่กลับมาจากงานเลี้ยง ไม่มีเรื่องแบบที่ท่านแม่ห่วงหรอกค่ะ ท่านวางใจได้เลยลูกจะไม่เต้นรำกับใครทั้งนั้น..”
ดัชเชสเอวานส่ายหน้าเบาๆ
“แม่รู้ดีว่าต่อให้ลูกตั้งใจเช่นนั้น แต่บุรุษเหล่านั้นจะฟังลูกที่ไหนกัน พาคาเซลไปด้วย เขาคือคนเดียวเท่านั้นที่แม่ไว้ใจให้อยู่เคียงข้างลูกสาวผู้แสนล้ำค่าของแม่”
แม่คะ..แต่คนที่แม่มองว่าเขาเป็นคนดี เขาคือตัวร้ายที่ฆ่าคนได้แบบเลือดเย็นแถมยังมีความเจ้าเล่ห์แบบสุดๆ ไปเลยนะคะ
โอฟีเลียยกยิ้มแห้งๆ ขึ้นมาที่มุมปาก
“แต่ท่านแม่คะ..”
“โอฟีเลีย ลูกไม่เชื่อแม่แล้วใช่ไหม ชีวิตของแม่ไม่เหลืออะไรแล้ว แม่เหลือเพียงแค่ลูกคนเดียวเท่านั้นนะ แม่ผ่านการเข้าร่วมสังคมชนชั้นสูงมาก่อน ทำไมแม่จะไม่รู้ว่าทุกคนจะมองมาที่ลูกในสายตาแบบไหน แม่คือสตรีคนแรกของจักรวรรดิที่หย่ากับสามี อีกทั้งฐานะของแม่ในตอนที่หย่าคือดัชเชสด้วยนะ ไม่เคยมีเรื่องเช่นนั้นมาก่อนในจักรวรรดิ สายตาของชนชั้นสูงเหล่านั้นจะมองมาที่ลูกด้วยสายตาดูแคลน มันคือความผิดของแม่เองโอฟีเลีย เพราะอย่างนั้นเพื่อความสบายใจของแม่ พาคาเซลไปด้วยเถอะนะ เขาจะปกป้องลูกจากสายตาของคนพวกนั้นเอง”
พอได้ยินคำกล่าวมากมายที่ท่านแม่กล่าวออกมา มันทำให้โอฟีเลียรู้สึกราวกับมีก้อนสะอื้นจุกอยู่ตรงคอ เธอส่งยิ้มให้กับท่านแม่..มันคือรอยยิ้มละมุนละไมชวนให้หัวใจอบอุ่น
“ลูกทราบแล้วค่ะท่านแม่ ลูกจะไปร่วมงานเลี้ยงกับคาเซลเอง ส่วนท่านแม่ช่วงนี้อยากไปเที่ยวที่ไหนไหมคะ เรือสำเภาของเรากำลังจะเดินทางออกไปส่งสินค้า หากท่านแม่อยากจะไปนั่งเรือเล่นเพื่อชมบรรยากาศของทะเล ลูกจะได้ให้คนของเราจัดเตรียมห้องพักเอาไว้”
แววตาของดัชเชสเบิกกว้างด้วยความยินดี
“คราวนี้จะไปที่ไหนกันโอฟีเลีย เดินทางไปทางใต้รึเปล่า”
โอฟีเลียพยักหน้า
“ไปทางใต้ของจักรวรรดิค่ะ เรือจะจอดอยู่ที่แดนใต้ประมาณ 15 วันแล้วถึงจะเดินทางกลับมา”
“ไปสิโอฟีเลีย แม่ชอบดินแดนทางใต้มากที่สุดเลย ที่นั่นมีดอกไม้งามมากมาย แล้วเนื้อย่างที่นั่นก็อร่อยมากๆ ..”
ดัชเชสพูดถึงเรื่องเมืองทางใต้อีกยาวเหยียด ดัชเชสเล่าไปตบมือและหัวเราะไปราวกับเด็กๆ คาลอสได้แต่ยืนมองโอฟีเลียที่กำลังยิ้มด้วยความสุขในยามที่มารดาของนางเล่าเรื่องการเดินทางให้ฟัง
เขาเคยได้รับรายงานมาว่าดัชเชสไม่ค่อยปกติเท่าไหร่นัก เพราะผลกระทบจากเรื่องราวในอดีต
สตรีที่เคยงดงามมากที่สุดในจักรวรรดิ กลับยื่นหนังสือเพื่อหย่ากับสามี นางคิดมาตลอดว่าสามีไม่รักนาง แต่ในความเป็นจริงมันเลวร้ายมากกว่านั้นเพราะดยุคใช่แค่ไม่รัก แต่ยังลักลอบเป็นชู้กับคนรักเก่า หัวใจของสตรีผู้หนึ่งมันเลยแตกละเอียดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
นี่คือเหตุผลว่าทำไมโอฟีเลียไม่กล้าขัดใจมารดาของนางเลย และมันถูกต้องที่สุดแล้วที่เขาเข้าทางท่านดัชเชส
หลังจากที่ท่านดัชเชสออกไป คาลอสก็เดินเข้าไปหาโอฟีเลียที่กำลังนั่งอยู่บนโซฟา เขานั่งลงที่พื้นเหมือนกับทุกครั้งแล้วซบใบหน้าลงบนตักของเธอ
“คาเซล..ข้าหวังอย่างยิ่งว่านี่จะไม่ใช่ฝีมือของเจ้าใช่ไหม?”
เขาเงยหน้าขึ้นเพื่อมองสบตากับเจ้าของดวงตาสีอำพัน
“ท่านกำลังกล่าวหาข้าเรื่องใดกันครับ ข้ารอท่านอยู่ที่นี่ตามคำสั่ง ข้าคิดถึงท่านแทบบ้าในช่วงเวลาที่ท่านไม่อยู่..”
โอฟีเลียหรี่ตาลงอย่างจับผิด แต่เธอมองไม่เห็นสิ่งใดบนใบหน้าของเขาเลยนอกจากรอยยิ้มที่เป็นมิตร
เธอคงจะกังวลมากเกินไปหน่อย คาลอสถูกล้างสมองอยู่นี่ และตอนนี้เขาคือคาเซลผู้ใสซื่อ
“เจ้าออกไปก่อนเถอะ ข้าจะนอนแล้ว..”
เขาส่งยิ้มให้เธอแต่กลับไม่ยินยอมลุกไปไหน
“ท่านดัชเชสสั่งให้ข้าอยู่กับคุณหนูตลอดเวลาเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นในยามที่ท่านตื่นหรือยามนอน ข้าจะต้องปกป้องและคุ้มครองท่านให้ปลอดภัย..”
โอฟีเลียมองหน้าเขาอีกครั้ง หากจะมีใครที่มาทำร้ายเธอในยามนี้ล่ะก็ คนผู้นั้นก็คือคาเซลผู้นี้นี่แหละ
“ข้าไม่ได้ต้องการ..”
เขาลุกขึ้นก่อนจะจับเข้าที่ไหล่ของเธอเพื่อให้โอฟีเลียเอนหลังพิงโซฟา คาลอสกางขาของเธอออกแล้วแทรกตัวเข้าไปใกล้เธอเพื่อไม่ให้มีช่องว่างระหว่างเราแม้แต่นิดเดียว
“แต่ข้าต้องการนะครับคุณหนู.. ต้องการมากทีเดียว”