บทที่ 11 ขนาดมองยังไม่มองสักนิด
บทที่ 11 ขนาดมองยังไม่มองสักนิด
มู่จ้านเป่ย มาแล้วจริง ๆ
กู้อานหยานทำไมคิดไม่ถึง กลยุทธ์ชะลอตัวของทหารที่ตัวเองดึงมาใช้เล่น ๆ กลายเป็นจริงขึ้นมาได้
แต่ ตีสองกว่า ๆ เวลานี้เขามาทำอะไร ?
ได้ยินมาว่าคุณชายใหญ่มู่มาแล้ว คฤหาสน์ตระกูลกู้ทุกคนตื่นเต้นขึ้นมาทันใด
กู้หมิงห้าว กับเย่สุ่ยซิงรีบออกไปต้อนรับอย่างไว กู้เวยจือหลังจากจัดการกับหน้าตาของตัวเองแล้ว ก็รีบออกไป
มีเพียงกู้อานหยาน ในใจไม่สบายใจอย่างพูดไม่ออก ขณะทุกคนออกไปต้อนรับกันหมด เขาก็แอบกลับห้อง
ขณะที่มู่จ้านเป่ย ลงมาจากรถ คนคฤหาสน์ตระกูลกู้ ที่ออกไปต้อนรับตกใจกันไปหมด !
เห็นทั้งตัวของเขามีกลิ่นอับ เสื้อเชิ้ตและกางเกงสูทยับยู่ยี่นิดหน่อย ชัดเจนคือเปียก แต่แห้งแล้ว
ผมม้าสั้นที่อยู่ตรงหน้าผากยุ่ง ๆ ไปนิด เหมือนถูกฝนเปียกมา
คุณชายใหญ่มู่ ทำไมโทรมอย่างนี้ล่ะ ?
ที่สำคัญที่สุดก็คือ ถึงแม้ว่าดูแล้วเขาจะโทรมหน่อย แต่ กลิ่นไอของความเป็นผู้สูงส่งยังคงทำให้ผู้หญิงไม่กล้าที่จะขยับสายตา
เกียรติและศักดิ์ศรีเสียไม่ถึงครึ่ง เพราะว่าสภาพที่ยุ่งเหยิง เป็นธรรมดาที่จะต้องมีความลึกลับ
ขนาดผู้ชายที่เห็นแล้ว ยังถูกกลิ่นไอองค์ชายที่ตกลงมาของเขา ตกใจจนไม่กล้าสบตา
แต่ คุณชายใหญ่ทำไมถึงเปียกแบบนี้ล่ะ ? แล้วก็ ทำไมหลังจากเปียกทั้งตัวแล้ว ขนาดเสื้อผ้าก็ไม่เปลี่ยน แล้วก็ดิ่งมาบ้านพวกเขาเลย
“คุณชายใหญ่มู่ ครับ ทำไมจะมาไม่เห็นบอกก่อนสักหน่อย ?”
เห็น ๆ อยู่ว่าคุณชายใหญ่ไม่มีความรู้สึกที่ไม่สุขอะไรทั้งนั้น แต่ กู้หมิงห้าวยังคงกลัวจนสั่น
คงไม่ใช่เพราะเรื่องกู้อานหยานหนีงานแต่งงานหรอกนะ คุณชายใหญ่มู่ถึงมาหาเรื่องรบกวนพวกเขา ?
ยิ่งคิด ยิ่งรู้สึกว่าอาจจะเป็นไปได้ ! เป็นเพราะกู้อานหยานเด็กนั่นทำร้ายมาแน่ !
ขนาดเย่สุ่ยซิงไม่กล้าพูดอะไรสักคำ แค่รู้สึกว่าตัวเองไม่มีคุณสมบัติไปพูดต่อหน้าของคุณชายใหญ่มู่ แต่เขาก็ดันกู้เวยจือตามไปข้างหน้าตลอด อยากให้ลูกสาวมีโอกาสได้สัมผัสกับมู่จ้านเป่ย
กู้เวยจือ เพิ่งจะเริ่มก็ไม่พลาดที่จะแกล้งทำเป็นดี ถูกแม่ดันปุ๊บ ก็รีบแสดงรอยยิ้มที่มีความอ่อนโยนออกมา พูดเสียงเบา ๆ “คุณชายใหญ่มู่ สวัสดีค่ะ ฉันคือกู้เวยจือ เป็นคุณหนูคนที่สองของคฤหาสน์ตระกูลกู้”
เขาเอาหน้าด้านข้างของตัวเองที่สวยไม่มีที่ติแสดงต่อหน้าของเขา แต่ มู่จ้านเป่ยขนาดมองยังไม่มองสักนิด !
กู้เวยจือตะลึงไปแปปนึง หรือว่าที่เมืองเป่ยหลิง ยังมีผู้ชายไม่เคยได้ยินชื่อเสียงโด่งดังของเขา ?
“คุณชายใหญ่มู่...... ”
“ขอถามหน่อยครับ อานหยานกลับมาหรือยังครับ ? ” มู่จ้านเป่ย มองที่กู้หมิงห้าว เสียงที่เบา ๆ สุดท้ายกลับให้ความรู้สึกน่าเกรงขามที่ไม่มีข้อสงสัย
“ อานหยาน อยู่......ก็อยู่ห้องโถง” กู้หมิงห้าวตื่นตกใจ คิดในใจเรื่องร้ายที่จะเกิดขึ้นจากนี้ คุณชายใหญ่มู่มาตรวจสอบความผิดจริง ๆ
“คุณชายใหญ่มู่ ครับ เชิญครับ เชิญนั่งด้านในเลยครับ”
มู่จ้านเป่ยพยัก ๆ หน้า เดินตามเขาเข้าประตูมา
หลีเย่ตามมาทางข้างหลังของมู่จ้านเป่ย ไม่ให้กู้เวยจือมีโอกาสในการได้สัมผัสกับคุณชายใหญ่
คุณชายใหญ่เกลียดผู้หญิงที่ชอบเข้าใกล้ตัวเองที่สุด ในสายตาของเขากู้อานหยานก็ไม่ได้ต่างอะไรกับผู้หญิงหลายใจที่อยากจะเข้าใกล้เหล่านั้น
ที่ห้องโถง จริง ๆ แล้งไม่มีตัวตนของกู้อานหยาน เด็กนี่กล้าที่จะหนีงั้นหรอ !
กู้หมิงห้าวอดกลั้นความโมโหไว้ พูดด้วยเสียงหนัก ๆ “ให้คุณหนูคนที่สามลงมาหน่อย”
แม่บ้านรีบขึ้นตึกไป กู้หมิงห้าว รีบพุ่งไปยิ้มให้มู่จ้านเป่ย พูดว่า “คุณชายใหญ่มู่ เชิญนั่ง”
มู่จ้านเป่ยสูงส่งแต่ง่าย ๆ ขนาดกางเกงยังเปียก เขานั่งอยู่บนโซฟาความรู้สึกที่เป็นกันเอง
ระยะห่างใกล้ ๆ มองเห็นคุณชายใหญ่มู่ ในตำนาน ทั้งตัวนี่เต็มไปด้วยกลิ่นไอของความเป็นองค์ชาย ยิ่งกว่านั้นทำให้กู้เวยจืออดไม่ได้ที่จะหลงใหล
แต่หลาย ๆ ครั้งที่เขาฝ่ายลุก แสดงเจตนาที่ดีก่อน สายตาของมู่จ้านเป่ยยังคงไม่ไปตกที่ตัวของเขา ทำให้คนหมดหวังจริง ๆ
“คุณชายใหญ่ ค่ะ ภรรยาในอนาคตของพี่มาแล้ว” หลีเย่ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ มู่จ้านเป่ย พูดขึ้นทันที
มู่จ้านเป่ยหลี่ ๆ ตา จ้องที่เด็กผู้หญิงที่เดินลงมาจากบันได
สายตาของคนอื่นทุกคน สักพักก็พากันมองไปที่กู้อานหยาน
กู้เวยจือมองเห็นเขา ณ นาทีนั้น ต่อหน้าสว่างขึ้น จิตใจก็สบาย ๆ ทันที !