บทนำ
มหาลัยประจำนานาชาติ QW
อาคารกิจกรรม การดนตรี….
พรึบ
“ไอ้ไดร์ฟ!”เสียงเข้มตึงของผู้ชายวัยรุ่นที่อยู่ในชุดกีฬาพร้อมทำกิจกรรมเอ่ยเรียกผู้ชายวัยรุ่นอีกคนที่เขาตั้งหน้าตั้งตาจดโน้ตเพลงและเเต่งเนื้อเพลงรวมไปถึงทำนองด้วยสีหน้ามุ่งมั่นและตั้งใจ
“ว่า?”ไดร์ฟเด็กหนุ่มวัยยี่สิบปีเศษเรือนผมสีน้ำตาลเข้มใบหน้าเรียวไข่ได้รูปผิวขาวใสริมฝีปากสีชมพูสดดวงตาชั้นเดียวเงยหน้าขึ้นไปมองเพื่อนสนิทที่เป็นรูมเมทของเขาอย่างสงสัยที่เห็นเพื่อนวิ่งหน้าตาตื่นตะหนกมาแบบนั้น
“มีโทรศัพท์เข้ามาหามึง”ชาญเอ่ยบอกไดร์ฟเพื่อนสนิทของเขาไป ไดร์ฟก็ขมวดคิ้วหนาเข้าหากันอย่างงุนงงว่าใครกันที่โทรมาหาเขา
“ใครวะ?”
“ไม่รู้….รู้แต่ว่าเรื่องสำคัญ…”ชาญทำสีหน้าจริงจังพร้อมกับทิ้งตัวลงนั่งเก้าอี้ตัวยาวตัวเดียวกันกับไดร์ฟเพื่อนของเขาด้วยท่าทางเหนื่อยหอบจากการวิ่งมาด้วยระยะทางที่ไกลพอสมควร
“อ่า…เคๆชอบใจมาก…”ไดร์ฟยื่นมือไปตบไหล่ชาญพร้อมกับเอ่ยขอบคุณและเริ่มเก็บของของเขาลงในกระเป๋าเป้เพื่อจะไปยังห้องพักของอาจารย์ที่นั่นเป็นที่ให้นักศึกษาได้ใช้โทรศัพท์สนทนากับทางบ้านได้ ไดร์ฟก็แอบแปลกใจว่าทำไมคนนั้นไม่โทรเข้าเบอร์มือถือของเขาล่ะ
“ดรัณภพครับ….”ไดร์ฟเอ่ยขึ้นในขณะที่เขาเดินมาถึงห้องพักของอาจารย์แล้ว
“อ่ะ…สายของเธอจ้ะ…”
“ขอบคุณครับ…อาจารย์^_^”ไดร์ฟเอ่ยพร้อมคลี่ยิ้มอย่างสดใสขอบคุณอาจารย์ที่ทำหน้าที่เฝ้าห้องนี้ไปพร้อมกับเดินไปนั่งที่โต๊ะและหยิบโทรศัพท์ของมหาลัยขึ้นมาพูดใส่ปลายสายไป
“ฮัลโหล…สวัสดีครับ..ผมไดร์ฟพูดสายอยู่ครับ”ไดร์ฟเอาโทรศัพท์แนบหูและเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงสุภาพ ปลายสายที่เงียบเพื่อรอการตอบรับก็เอ่ยตอบกลับมาทันทีที่ได้ยินเสียงของไดร์ฟ
(ไดร์ฟ!…นี่ป้าพร…ป้าข้างบ้านของไดร์ฟนะ)ปลายสายร้อนรนเอ่ยพูดออกมาจนรัวเร็ว ทำให้ไดร์ฟรู้สึกงุนงงและสงสัยว่าป้าพรป้าข้างบ้านที่อาศัยอยู่ติดกับบ้านของเขาโทรมามีธุระด่วนอะไร
“ครับ…ป้าพรสวัสดีครับ…”
(ไดร์ฟ…ทำใจดีๆไว้นะลูก…)
(แม่ของไดร์ฟ…ผูกคอตายแล้ว….)
ตุ๊บ
ไดร์ฟตกตะลึงเผลอปล่อยโทรศัพท์ของทางมหาลัยหลุดมือ เขากำลังอยู่ในอาการช็อคสุดขีด ทันทีที่เขาได้ยินว่าแม่ของเขาผูกคอตายเหมือนโลกทั้งใบในตอนนี้หยุดหมุนและพังทลายลงเพราะเขารู้ดีว่าแม่ของเขา ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าขั้นรุนแรงแล้ว แต่ในการเสียใจในครั้งนี้ทำให้ไดร์ฟกำหมัดแน่นแววตาดุดันอย่างโกรธจัดน้ำตาสีใสเอ่อคลอรอบดวงตาคู่สวย เขาขบกรามแน่นนึกโกรธคนเป็นพ่อที่รู้ว่าแม่ของเขาป่วย แต่กลับไม่พาไปรักษาแถมยังให้เขากลับมาอยู่ที่มหาลัยประจำอีก เขาจะกลับบ้านไปหาแม่ของเขาได้ก็ต่อเมื่อมหลาลัยปิดเทอมหรือมีวันหยุดเยอะๆ
งานศพของแม่ไดร์ฟ……
“แม่…แม่ครับ…หลับให้สบายนะครับ…”ไดร์ฟพยายามกลั้นน้ำตาที่มันไหลอยู่เต็มด้านในอกของตัวเองไว้ในวันสุดท้ายที่เขาจะส่งแม่ของเขาไปสวรรค์โดยที่ไร้เงาของผู้ชายที่แม่ของเขารักนักรักหนา
“วันสุดท้ายของแม่แล้วแท้ๆ…แต่เขาก็ยังไม่มา….”ไดร์ฟเอ่ยขึ้นพร้อมกับความคับแค้นที่อยู่ในใจ เมื่อนึกถึงหน้าของผู้ชายคนนั้นที่ยังคงออกโทรทัศน์ด้วยใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้มไม่สะทกสะท้านกับการจากไปของแม่เขาเลยสักนิด
“เราจะกลับมาอยู่ที่นี้เลยหรือเปล่าล่ะไดร์ฟ…?”เสียงอบอุ่นจากป้าพรเพื่อนข้างบ้านเอ่ยถามไดร์ฟที่เขายืนเกาะอยู่ข้างโลงศพของเขาแม่เขาอยู่จึงต้องค่อยๆละใบหน้าหล่อไปมองหน้าของป้าพร คนเดียวที่มางานศพของแม่เขา
“ครับ….ผมคงไม่กลับไปเรียนแล้ว….”
“ทำไมล่ะไดร์ฟ…”
“ป้าว่าแม่ของไดร์ฟไม่อยากให้ไดร์ฟหยุดเรียนนะ…”
“ครับ….ถ้าผมไม่หยุดเรียนก็คงกลับมาอยู่บ้านนะครับ…และหางามเสริมทำเอา…”
“อืม…ป้าก็เห็นด้วยนะ….”
“อยู่ให้ได้นะ….”
“ขอบคุณครับ…ป้าพร…”ไดร์ฟยกมือไหว้ป้าพรไปอย่างเคารพ เพราะเขาอยู่กับแม่เขามาแค่สองคนตลอดเวลา โดยแม่ของเขาทำงานอย่างหนักเพื่อส่งเสียเขาเรียนจนพักหลังๆมา แม่ของเขามีอาการโรคซึมเศร้าทำให้แม่ของเขาต้องหยุดทำงานและรักษาตัวอยู่ที่บ้าน โดยตลอดเวลาคนที่ขึ้นชื่อว่าพ่อของเขากลับไม่เคยมาเยี่ยม เพียงแค่ส่งเงินมาให้เขากับแม่แค่นั้นเอง โดยที่เขาก็แทบจะจำหน้าพ่อตัวเองไม่ได้แล้ว….ถ้าไม่เห็นทางโทรทัศน์นั้น
เคยไหมครับ…?
อยู่ดีๆก็นึกเบื่อ…?
เบื่อโลก….
เบื่อคนรอบตัว….
เบื่อตัวเอง….
เหนื่อย…และล้ากับการ…ที่จะหายใจ
เบื่อแม้กระทั่งที่จะมีชีวิตอยู่บนโลกที่เงียบเหงาเช่นนี้….
เหมือนตัวคนเดียวทั้งๆที่มีผู้คนมากมายรายล้อมรอบๆตัว…