บท
ตั้งค่า

1

“โอ๊ย...สาย สาย สาย สาย สาย แน่ๆ ตรีทิพย์ สายครั้งแรกในรอบสองปี นี่ฉันจะโดนคุณเอกกินเข้าไปไหมนะ แง้ๆ ไม่น่าทิ้งรายงานการประชุมไว้ที่ออฟฟิศเลย ฮือๆ”

หญิงสาวร่างเล็ก ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวแขนยาว กระโปรงสีน้ำเงินลายทางยาวเสมอเข่า มีรอยผ่าสูงขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้เดินสะดวก สวมรองเท้าคัชชูสูงสองนิ้วสีดำ สะพายกระเป๋าหนังใบใหญ่ที่ดูจะยิ่งข่มให้ร่างของเธอดูเล็กบางลงไปอีก เธอยืนอยู่ข้างรถยนต์สีขาว ซึ่งไฟท้ายเปิดสัญญาณบอกว่ากำลังจอดเสียอยู่ กำลังบ่นพึมพำกับตนเอง พลางมองนาฬิกาไปพลาง แล้วมองหาแท็กซี่ว่างไปด้วย

เข็มนาฬิกาบนข้อมือ ยิ่งเดินหน้าไปเท่าไหร่ มันก็ยิ่งทำให้กระวนกระวายมากขึ้นเท่านั้น หน้าของเธอกำลังงอน้อยๆ ใจคิดโมโหพี่ชายคนรอง ที่เคี่ยวเข็ญให้ชิมไวน์จากไร่ของพี่ชายคนโต ชิมแล้วชิมอีก ชิมไปชิมมาก็เพลิน จากขวดก็กลายเป็นสองขวด แล้วเธอก็หลับลึกกองอยู่ตรงโซฟาห้องนั่งเล่นของบ้านนั่นเอง ตื่นสายไม่พอ รถเจ้ากรรมของเธอก็มาเสียอีก เสียที่ไหนไม่เสีย มาเสียบนทางด่วน ซึ่งหาบริการรถสาธารณะได้ยากสุดๆ

ตรีทิพย์ การุณการ อายุยี่สิบเจ็ดปีบริบูรณ์ไปหมาดๆ เมื่อสองวันก่อน ไม่เคยไปทำงานสายมาก่อน ตั้งแต่ทำงานกับเอกรินทร์ เจ้านายของเธอ ซึ่งเป็นคนเฮี้ยบระดับห้าดาว กฎเป็นกฎ ถ้าผิดกฎขึ้นมาล่ะก็...อูย เธอไม่อยากจะคิด ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นเพื่อนรักกับพี่ชายเธอตามที

ใครว่าเป็นเลขานุการของเพื่อนซี้พี่ชายจะสบาย ก็มีแต่เธอนี่แหละ ที่อภิสิทธิ์ใดๆ ไม่มีผลเลยสักกะจี๊ด มีแต่จัดหนักจัดเต็ม งานท่วมหัวทุกวัน เขาใช้เธอคุ้มกับเงินเดือนมาก มากจนเธอต้องอดทนไม่ไหว ไปบ่นให้มารดาฟังซึ่งท่านก็ได้แต่ขำ แล้วก็ชักชวนให้เธอไปทำงานสปาด้วยกันเป็นการตัดปัญหาเรื่องการบ่นของลูกสาวคนเล็กเสียเลย

ถึงจะเหนื่อย ถึงจะหนัก แต่ก็ต้องอดทนล่ะ เธอภูมิใจกับงานของตนเองมาก เพราะเป็นงานที่เธอหาได้แบบไม่ใช้เส้นสายใดๆ เอกรินทร์เพิ่งจะมารู้ว่าเธอเป็นน้องสาวเพื่อนเขา ก็ในวันที่เจอหน้ากันวันแรกนั่นแหละ เธอฝ่าด่านฝ่ายสัมภาษณ์งานสุดหินของบริษัทของเขาเข้ามาได้ด้วยความรู้และไหวพริบล้วนๆ

แต่ถ้ารู้ว่าเป็นบริษัทของเขา เธอก็คงจะ...

ก็คงจะมาทำอยู่ดี

ถามเองตอบเองเสร็จ พลางย่นจมูกน้อยๆ แก้มสาวแดงเรื่อขึ้นอย่างไม่รู้ตัว ใบหน้าคมเข้มของใครบางคน ล่องลอยมาในห้วงภวังค์

ใบหน้าคมเข้ม ประกอบไปด้วย คิ้วหนาดำสนิทยาวจรดหางตา นัยน์ตาคมกริบสีนิล นิ่งสงบยากจะหยั่งอารมณ์ จมูกโด่งปลายงุ้มเล็กน้อย ริมฝีปากหยักลึกสีสด ปากของเขาสวยยิ่งกว่าปากของผู้หญิงเสียอีก คางบุ๋มเล็กน้อย เป็นจุดเด่นให้สะดุดตา เรือนผมตัดสั้นได้รูป ตกแต่งไว้แทบไม่กระดิก เธอไม่เคยเห็นเอกรินทร์ผมยุ่งเลยสักวัน สวมเสื้อเชิ้ตติดกระดุมถึงคอ ผูกเนคไทสีสุภาพ มักจะมีสีที่เขาใช้บ่อยคือ น้ำเงิน ฟ้า เทา และดำ กางเกงสแล็กรีดเรียบ ส่วนใหญ่เขามักจะสวมสูท ซึ่งก็มีสีเอกอยู่สามสีเช่นกัน คือ น้ำเงิน เทา ดำ รองเท้าขัดจนมันปลาบ แทบจะส่องสะท้อนให้เห็นหน้าของเธอบนนั้นได้

ทำไมถึงจำรายละเอียดของเจ้านายได้เป็นอย่างดีขนาดนี้กันนะเรา หญิงสาวถอนใจ พลางสั่นหน้าน้อยๆ เอกรินทร์มักจะทำอะไรเป็นตาราง เป็นระบบประจำ และเป๊ะทุกหน แทบจะไม่มีผิดกันเลยทีเดียว วันนี้วันจันทร์ ฉะนั้น เจ้านายของเธอควรจะสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวนวล เนคไทคสีดำ สูทสีดำ แล้วกำลังนั่งหน้าบูด ไม่สิ...หน้าตาของเอกรินทร์ ไม่ค่อยจะมีอารมณ์ใดๆ นอกจากสายตาพิฆาตของเขาเท่านั้นที่จะมองส่งบอกมาว่า กำลังรู้สึกอะไร นั่นแหละ สิ่งที่ทำให้เธอกลัวที่สุดล่ะตอนนี้ ฮือ...

แท็กซี่คันแล้วคันเล่าที่แล่นฉิวผ่านเธอไป ตรีทิพย์ตอนนี้เครียดจนอยากจะหัวเราะแล้วเต้นชะ ชะ ช่า ริมถนน ข้างรถที่กำลังจอดเสียของตัวเองให้รู้แล้วรู้รอด เธอไม่รู้จะทำอะไรดีแล้วตอนนี้เลยกดโทรศัพท์หาตัวการที่ทำให้เธอต้องตื่นสาย แล้วก็เริ่มบ่นๆๆๆ เมื่อทางนั้นงัวเงียรับสาย

“พี่รอง พี่รองต้องรับผิดชอบชีวิตเล็กด้วย ถ้าเกิดวันนี้เล็กโดนฮิตเลอร์จกตาตาย พี่รองจะต้องหางานใหม่ให้เล็ก ฮือๆ มาชวนเล็กดื่มไวน์ทำไม รู้อยู่ว่าแพ้”

“อ้าวๆ อะไรกันนี่ ใจเย็นๆ น้องเล็ก ไอ้เอกมันทำอะไรล่ะนั่น”

ปลายสายตื่นเต็มตาเพราะเสียงวี้ดๆ ของน้องสาว ตรีทิพย์ ถอนใจเฮือกใหญ่ เอนตัวพิงกับรถอย่างหมดหวังที่จะไปทันเวลาทำงาน

“ยังไม่ทันทำอะไรล่ะค่ะ คุณเอกน่ะ แต่ต้องมีแน่นอน เพราะเล็กยังทำรายงานการประชุมไม่เสร็จ ยังค้างอยู่เลย ต้องส่งก่อนเที่ยงนี้ จริงๆ เล็กควรจะถึงออฟฟิศตั้งแต่เจ็ดโมงเช้า แต่นี่...ป่านนี้ เล็กยังยืนสวยอยู่ตรงทางด่วนเอกมัย รามอินทรา”

“แล้วไปทำอะไรตรงนั้นเล่าน้องรัก”

“รถเสียน่ะสิคะพี่รอง ตายสนิท แล้วตายบนนี้ แท็กซี่จะมีไหมนั่น”

“น้องพี่เอย...”

ตรีศรอดขำน้องรักไม่ได้ เจ้าตัวคงจะเครียดหนัก แล้วทำอะไรไม่ถูกจริงๆ ถึงได้หมดทางได้ขนาดนี้ เมื่อคืนเขาชวนเธอดื่มจริงๆ นั่นแหละ แล้วก็รู้ด้วยว่าตรีทิพย์แพ้ไวน์ แพ้ที่ว่าคือ ดื่มแล้วหยุดไม่ได้ แม่น้องรักตัวแสบโทษเขาเสียเต็มที่แบบนี้ คนเป็นพี่จะทำอะไรได้ นอกจากช่วยเหลือ

“อย่ามาเอยสิคะพี่รอง เครียดจริงๆ นะนี่”

“แล้วทำไมไม่โทรเรียกแท็กซี่เอา ยืนโบกตรงนั้นบ่ายสองจะได้รึเปล่า แล้วโทรหาอู่หรือยังจ๊ะ”

“เอ...จริงสินะคะ เล็กมัวแต่วุ่นวาย คิดอย่างเดียวเลยคือต้องตายแน่ๆ ถ้าไปทำงานไม่ทัน โอ๊ย...นั่นสินะ ทำไมไม่โทรศัพท์เอาล่ะฉัน ง่ายจะตายไป”

“เอางี้ เดี๋ยวพี่จะไถ่โทษ ช่วยจัดการให้ ในฐานะที่ดันไปชวนน้องสาวเสียคนเมื่อคืน เราอยู่ตรงนั้นนั่นแหละ เดี๋ยวพี่จะไปรับไปทำงานด้วยตัวเอง ไอ้เอกมันคงไม่ว่าอะไรเอาหนักหนาหรอกน่าแล้วพี่จะโทรบอกอู่ให้ไปช่วยลากรถเราให้”

“ขอบคุณค่ะพี่รอง”

เธอพอจะยิ้มออกมาได้บ้าง เมื่อพี่ชายอาสาแบบนั้น เรื่องเข้างานสายทำงานไม่ทันหนนี้ น่าจะ...จะได้รับการงดเว้นหรือเปล่าหนอ เธอมองนาฬิกาอีกหน ป่านนี้เจ้านายของเธอคงจะรอเรียบร้อยแล้ว...เอาละหนอ...เธอควรจะบอกกล่าวเขาเสียหน่อย

มือน้อยสั่นทันทีเมื่อกดหมายเลขของที่ทำงาน ใจเต้นระทึกเมื่อมีเสียงโอเปอเรเตอร์รับสาย แล้วเต้นตึกตักหนักขึ้น เมื่อทางนั้นบอกให้รอสักครู่ แล้วกดต่อสายให้เธอกับเจ้านาย

ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก

อีหัวใจบ้า ทำไมจะต้องตื่นเต้นขนาดนี้กันนะเนี่ย มือของตรีทิพย์ถึงกับชื้นเหงื่อ ขณะที่รอคู่สนทนา หัวใจของเธอก็เต้นดังขึ้นเรื่อยๆ เรื่อยๆ

“สวัสดีครับ เอกรินทร์ พูดสายครับ มีอะไรหรือเปล่า ตรีทิพย์”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel