บท
ตั้งค่า

5 - ทะ ท้อง

ฉันไม่ได้กินก๋วยเตี๋ยว หลังจากอ้วกเสร็จก็ขอพี่เอ็มกลับมาที่บริษัทเลย เมื่อมาถึงโต๊ะทำงานฉันก็ฟุบหน้าหลับที่โต๊ะเพราะรู้สึกเพลียเอามากๆ

นอนหลับไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ฉันต้องสะดุ้งตื่นเพราะมีคนมาสะกิด ฉันค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองเห็นว่าเป็นพี่เอ็ม และในตอนนี้พนักงานคนอื่นๆ ก็มานั่งประจำที่ที่โต๊ะทำงานกันหมดแล้ว

“อะ อลิชขอโทษค่ะ” ฉันรีบก้มหน้าขอโทษพี่เอ็มเพราะรู้สึกผิดที่ตัวเองนอนหลับ ไม่ได้ตั้งใจทำงาน

“พี่ไม่ได้ว่าอะไร ลางานครึ่งวันไหมตอนนี้หน้าอลิชซีดมากเลยนะ”

“ไม่เป็นไรค่ะอลิชไหว”

“ตอนเที่ยงอ้วกขนาดนั้นจะไหวได้ยังไง กลับบ้านก่อนพี่อนุญาตให้ลาหยุดพรุ่งนี้ด้วย”

“แต่อลิช…”

“อย่าฝืนร่างกายตัวเองสิอลิช พี่เป็นห่วง” สายตาของพี่เอ็มที่มองอยู่มันทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่นเอามากๆ

“ขอบคุณค่ะ ถ้าอลิชหายดีแล้วจะรีบกลับมาทำงานนะคะ ^_^”

“รีบๆ หายล่ะ ไม่เจอหน้าอลิชพี่คงเหงาแย่”

“พี่เอ็มก็ชอบพูดเล่นอยู่เรื่อยเลยนะคะ”

“พี่พูดจริงๆ นะครับ”

ฉันนิ่งไปเมื่อได้เห็นสีหน้าที่จริงจังของพี่เอ็ม จู่ๆ มันก็รู้สึกมือไม้สั่นทำอะไรไม่ถูก

“งะ งั้นอลิชกลับบ้านก่อนนะคะ”

“เดี๋ยวพี่เดินไปส่งที่รถ”

“มะ ไม่เป็นไรค่ะ”

ฉันหยิบกระเป๋าสะพายของตัวเองขึ้นมาแล้วรีบก้มหน้าก้มตาเดินออกมาจากบริษัท มันรู้สึกเขินพี่เอ็มเอามากๆ จนทำตัวไม่ถูก

#บ้าน

วันนี้พ่อออกไปธุระข้างนอกกว่าจะกลับก็คงจะเย็นๆ ส่วนฉันพอมาถึงที่บ้านก็นอนหลับไปเลย มันเพลียแล้วก็รู้สึกขี้เกียจเอามากๆ

รู้สึกตัวขึ้นมาอีกทีช่วงเย็นๆ ฉันตื่นขึ้นมาพร้อมกับความหิว จึงลุกขึ้นจากเตียงเดินไปหาอะไรกินที่ครัว

แต่!! พอเปิดตู้กับข้าวออกเท่านั้นแหละ พวกกลิ่นอาหารมันตีเข้าจมูก ทำให้ฉันต้องยกมือขึ้นมาปิดปากพร้อมกับอาการคลื่นไส้จากนั้นจึงรีบวิ่งไปอ้วกที่ระเบียง เพราะคิดว่าถ้าให้วิ่งไปห้องน้ำคงไม่ทันแน่ๆ

ฉันป่วยเป็นโรคร้ายอะไรหรือเปล่า ทำไมท้องมันรู้สึกหิวแต่กินอะไรไม่ได้เลย แค่ได้กลิ่นก็เวียนหัวจะอ้วก

“ลุงปลูกจะไปไหนหรอคะ” ฉันกำลังเดินลงจากบ้านเพื่อมาสูดอากาศบริสุทธิ์ เห็นลุงปลูกคนงานเก่าแก่ของบ้านเดินผ่านพอดี

“พ่อกำนันให้ลุงไปยกทุเรียนในสวนน่ะครับคุณหนู” ลุงปลูกจะเรียกฉันว่าคุณหนูตั้งแต่ฉันเด็กๆ ที่บ้านฉันมีสวนผลไม้ด้วยคนงานทุกคนก็จะเรียกฉันว่าคุณหนูตามลุงปลูกกันหมด

พอฉันได้ยินคำว่าทุเรียนมันก็รู้สึกอยากกินเอามากๆ

“อลิชอยากกินทุเรียนจังเลยค่ะ ลุงปลูกแกะให้อลิชหน่อยได้ไหมคะ”

พอฉันพูดแบบนั้นลุงปลูกก็ขมวดคิ้วมองฉันแบบแปลกใจทันที “คุณหนูจะกินทุเรียนหรอครับ”

มันก็ไม่แปลกที่ฉันจะถูกถามแบบนี้ เพราะตั้งแต่เด็กจนโตผลไม้ที่ฉันไม่ชอบที่สุดก็คือทุเรียน ฉันไม่ชอบกลิ่นและไม่เคยเดินเข้าไปใกล้ๆ ลูกทุเรียนเลยด้วยซ้ำ หากเห็นว่าตรงหน้ามีทุเรียนวางอยู่ฉันก็จะเดินเลี่ยง

“ค่ะ อลิชรู้สึกอยากกินมากๆ ลุงปลูกเอามาให้อลิชบนบ้านด้วยนะคะ ตอนนี้เลยนะคะ”

“ค…ครับคุณหนู เดี๋ยวลุงจะรีบเอามาให้ตอนนี้เลย”

ฉันฉีกยิ้มหวานให้ลุงปลูกจากนั้นก็ขึ้นบ้านมาดูทีวีรอ ไม่นานเท่าไหร่ลุงปลูกก็เอาทุเรียนมาให้

ฉันหยิบจานขึ้นมาดมกลิ่นมันหอมมาก หอมแบบที่ฉันไม่เคยรู้สึกว่าทุเรียนหอมขนาดนี้มาก่อน เมื่อดมกลิ่นจนพอใจแล้วฉันก็วางจานลงแล้วหยิบขึ้นมากิน เป็นจังหวะเดียวกับที่พ่อเดินเข้ามาในบ้านพอดี

พอหยุดเดินแล้วมองฉันเหมือนตกใจที่เห็นว่าฉันกำลังนั่งกินทุเรียนอยู่

“กินไหมคะพ่อ ^_^” พอฉันถามก็เหมือนว่าพ่อได้สติเดินมานั่งลงข้างๆ กับฉัน

“ลูกไม่ชอบกินทุเรียนไม่ใช่หรือไง”

“อลิชอยากลองกินดูค่ะ มันก็อร่อยดี ไม่สิอร่อยมากๆ เลยต่างหาก ^_^” คำตอบของฉันเหมือนยิ่งทำให้พ่ออึ้งมากกว่าเดิมอีก

“เดี๋ยวพ่อไปอาบน้ำก่อนแล้วกัน วันนี้ลูกอยากกินอะไรพ่อจะได้ทำให้”

“อลิชอยากกินแกงฟักทองค่ะ”

“ลูกไม่ชอบกินแกงฟักทองไม่ใช่หรือไง”

นั่นสิ! ฉันไม่ชอบกินแกงฟักทองแล้วทำไมถึงรู้สึกอยากกินแบบนี้นะ วันนี้อยากกินแต่ของที่ตัวเองไม่ชอบทั้งนั้นเลย

“เดี๋ยวพ่อจะทำให้กินก็แล้วกัน” พ่อเห็นว่าฉันเงียบจึงไม่ได้ถามอะไรต่อ พูดจบก็เดินแยกตัวขึ้นห้องไป

พอถึงมื้ออาหารเย็นจากที่ฉันเหม็นอาหารแน่พอวันนี้เห็นแกงฟักทองฉันก็กินข้าวหมดไปตั้งสามจานแหนะ ปกติฉันไม่ใช่คนกินข้าวเยอะ ครั้งนี้ฉันกินเยอะจนพ่อตกใจ อย่าว่าแต่พ่อตกใจเลยฉันก็ตกใจตัวเองเหมือนกันที่กินเยอะขนาดนี้น่ะ

หนึ่งอาทิตย์ผ่านไป ฉันไปทำงานแบบไปวันหยุดสองวันเลยก็ว่าได้ เพราะมันเพลียตอนเที่ยงจะกินอะไรก็ไม่ได้อ้วกออกมาหมด ที่ผ่านมาฉันต้องอ้อนให้พ่อทำแกงฟักทองให้กินทุกวันถึงจะกินข้าวได้ อาหารอย่างอื่นแทบแตะไม่ได้เลย

โชคดีที่พี่เอ็มเข้าใจ ฉันหยุดงานบ่อยก็ไม่ถูกบ่นแถมพี่เอ็มยังอาสาจะพาฉันไปหาหมออีกต่างหาก แต่ฉันก็ปฏิเสธไปแล้ว เดี๋ยวก็คงหายฉันคิดแบบนั้น แต่เปล่าเลยยิ่งเวลาผ่านไปร่างกายของฉันมันก็เริ่มรู้สึกไม่ปกติ ฉันเพลียและง่วงนอนแทบจะตลอดเวลา

วันนี้ฉันพักอยู่บ้านเพราะอ้วกแทบทั้งคืนไม่ได้นอนและไปทำงานไม่ไหว ส่วนพ่อก็ออกไปธุระข้างนอกเหมือนเคย ปกติพ่อไม่เคยอยู่บ้านหรอก ทำงานทุก

ว่างๆ ไม่มีอะไรทำฉันก็เลยโทรไปเล่นกับแพร

( ว่าไงแก คิดถึงฉันล่ะสิ ) แพรถามฉัน

( ใช่นะสิ เหงามากเลย )

( แล้วนี่แกไม่ไปทำงานหรือไงถึงโทรมาได้ )

( ไม่ได้ไป ช่วงนี้ฉันขาดงานบ่อยมาก )

( ทำไมล่ะ แกป่วยหรอ )

( ก็ประมาณนั้น ช่วงนี้ฉันกินอะไรไม่ค่อยได้ กินก็อ้วกออกมาหมด เหม็นอาหาร แต่แปลกฉันไม่ชอบกินทุเรียน ไม่ชอบกินแกงฟังทอง แต่ตอนนี้ทุเรียนกับแกงฟักทองกลายเป็นของโปรดฉันไปแล้ว )

( แล้วนี่แกไปหาหมอหรือยังอลิช )

( ยังเลยแก )

( รีบๆ ไปหาเลยนะ เป็นอะไรจะได้รีบรักษา )

( ฉันว่าจะไปพรุ่งนี้ )

( นี่ถ้าแกมีแฟนฉันคงคิดว่าแกท้องไปแล้วนะเนี่ย )

คำพูดของแพรทำให้ฉันสะตั้นไปชั่วขณะ ทะ ท้องอย่างนั้นหรอ

เหตุการณ์ในวันนั้นเริ่มผุดเข้ามาในหัวของฉัน และฉันก็จำไม่ได้ว่าคุณคานส์เขาได้ป้องกันหรือเปล่า ถ้าจะให้ถามเขาก็คงจะไม่ได้อีก

( คะ คนท้องอาการแบบนี้หรือไง ) ฉันถามแพร

( ฉันดูในละครก็เป็นแบบแกเลยนะ คลื่นไส้เหม็นอาหาร ประจำเดือนไม่มา แต่ดีหน่อยที่แกยังโสดและซิงสบายใจได้ แกไม่ท้องหรอก )

ประจำเดือนไม่มาอย่างนั้นหรอ…

( แค่นี้ก่อนนะแพร )

ฉันกดวางสายแล้วรีบไปเปิดดูผ้าอนามัยในลิ้นชัก และก็ต้องตกใจเมื่อผ้าอนามัยไม่มีรอยแกะเลย นั่นหมายความว่าฉันไม่เป็นประจำเดือนเดือนที่แล้ว และเดือนนี้ก็ยังไม่มา

ตึกตัก! ตึกตัก! หัวใจดวงน้อยของฉันมันกำลังเต้นแรงเอามากๆ

ฉันกดโทรศัพท์พิมพ์เข้าดูเกิ้ลว่าอาการของคนท้องเป็นอย่างไรด้วยมือที่สั่นเทา และพอได้อ่านกระทู้หลายๆ กระทู้ฉันก็เริ่มคิดไม่ตก

มีกระทู้หนึ่งแนะนำให้ไปตรวจที่โรงพยาบาล หรือ ซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจเอง

ฉันกดปิดจอโทรศัพท์แล้วหยิบกุญแจรถขับออกมาจากบ้านทันที ฉันไม่ลังเลที่จะหาซื้อที่ตรวจครรภ์มาลองตรวจดู เพราะไม่อยากอยู่แบบค้างคาใจ แต่ต้องเลือกร้านที่อยู่ไกลบ้านพอสมควรเพราะพ่อเป็นกำนันคนหลายตำบลรู้จัก หากฉันซื้อที่ตรวจครรภ์ใกล้ๆ บ้านเรื่องนี้อาจจะถึงหูพ่อ

หลังจากหาซื้อที่ตรวจได้แล้วฉันก็รีบขับรถกลับมาที่บ้าน รีบเข้ามาในห้องนั่งลงที่เตียงอ่านรายละเอียดที่กล่อง

ฉันซื้อที่ตรวจมาสามกล่องนะ เพราะกลัวว่าผลตรวจจะผิดเพี้ยน

เมื่ออ่านคำแนะนำที่กล่องเข้าใจแล้วก็เข้าห้องน้ำไปจัดการฉี่ใส่ถาดรองเล็กๆ ที่แถมมาให้กับกล่อง เสร็จแล้วก็เอาที่ตรวจครรภ์จุ่มลง

ฉันถือที่ตรวจทั้งสามอันออกมาจากห้องน้ำ กลับมานั่งที่เตียงเหมือนเดิม จากนั้นก็ค่อยๆ ยกที่ตรวจทั้งสามอันขึ้นมามองว่าขึ้นกี่ขีด

“สะ สองขีดงั้นหรอ” ฉันขมวดคิ้วเป็นปมเมื่อเห็นที่ตรวจในมือทั้งสามอันขึ้นสองขีดทั้งหมด ก่อนจะหยิบกล่องขึ้นมาอีกครั้งแล้วดูให้แน่ใจว่าขึ้นสองขีดแปลว่าอะไร และฉันก็ต้องตกใจสุดขีดเมื่อขึ้นสองขีดแบบนี้แปลว่า

“ฉะ ฉันท้อง…”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel