บทที่ ๑ ‘หญิงสาวอัปลักษณ์’
ใบบัวนั่งกอดเข่าอยู่ในมุมเล็ก ๆ ของกระท่อม ผู้ชายที่พาเธอเข้ามาในนี้จากไปแล้ว ทิ้งไว้แต่เพียงความมืดมิด และอากาศที่เย็นยะเยือกเพราะฝนเริ่มโปรยปรายลงมา
ในช่วงเวลาที่ยังไม่รู้ชะตาชีวิต ใบบัวในวัยสิบแปดปีก็อดคิดถึงพ่อแท้ ๆ ไม่ได้ ความทรงจำเมื่อตอนอายุห้าขวบเลือนลางแต่กลับเต็มไปด้วยความสุข พ่อมักจะกอดเธอเสมอ แม้แต่วันที่หมดลมหายใจ พ่อก็ยังตระกองกอดเธอไว้ในอ้อมแขนไม่ยอมปล่อย
ถ้าพ่อยังอยู่ เธอคงไม่ต้องมาเจอกับเรื่องราวเลวร้ายแบบนี้ เพราะพ่อจะปกป้องเธอเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะทำได้
เหตุใดพ่อถึงได้ทิ้งใบบัวไปเร็วนัก
“พ่อจ๋า เดี๋ยวใบบัวก็จะได้ไปหาพ่อแล้วนะ”
ใบบัวสะอื้นไห้ กอดตัวเองแน่นขึ้นเพราะความหนาวเหน็บ เธอสวมผ้าถุงเพียงตัวเดียว เนื้อตัวเย็นเฉียบและสั่นระริก
แกร๊ก..
แสงไฟสลัวจากด้านนอกสาดส่องเข้ามาเมื่อบานประตูไม้ไผ่เปิดออก หญิงสาวลืมตาขึ้นมอง เธอไม่เห็นอะไรนอกจากเงาทะมึนที่ใหญ่โตสูงเท่ากรอบประตู ยืนจังก้าอยู่ตรงหน้า
“คะ ใคร.. พี่เป็นใครหรือจ๊ะ”
ปัง!
เจ้าของเงาดำไม่ตอบ แต่กลับปิดประตูเสียงดังจนกระท่อมสะเทือน สาวน้อยผวาเฮือก ตัวสั่นเทาเพราะความหวาดกลัวจับใจ
หรือว่าคน ๆ จะเป็นราชัน ผู้ชายที่ต้องการแก้แค้นกำนันมิ่ง
เวลาตายของเธอมาถึงแล้วหรือ...
“พะ.. พี่”
“อย่าสะเออะมาเรียกกู!”
เสียงทุ้มดุดันจนใบบัวต้องรีบปิดปากเงียบ ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง ๆ ด้วยความหวาดกลัว ดวงตากวางมองเงาตะคุ่มที่ค่อย ๆ เดินเข้ามาใกล้
“อ๊ะ!”
ร่างอวบอิ่มถูกมือหนากระชากให้ลุกขึ้นยืนอย่างแรง ใบบัวเผลอร้องอุทาน ก่อนจะรีบงับริมฝีปากที่สั่นระริกเอาไว้
“ตัวมึงหอม” เสียงดุแหบพร่ากระซิบชิดใบหูเล็ก “คืนนี้กูจะเอาจนมึงลืมไม่ลงเลยทีเดียว อีลูกจันทร์!”
“มะ ไม่”
จอมโจรเหวี่ยงร่างอิ่มไปที่เตียงไม้ไผ่แข็ง ๆ แรงมีเท่าไรราชันใส่ไปจนหมด ไม่คิดถนอมเพราะทั้งโกรธและเกลียดพ่อของผู้หญิงคนนี้จับใจ
เกลียดจนต้องกินยาดองผสมยาปลุกกำหนัดก่อนเข้ามาในกระท่อมหลังนี้ เพราะราชันไม่มีอารมณ์กับลูกศัตรู
จอมโจรกระชากผ้านุ่งออก ท่อนลำกลางกายตั้งตระหง่านชูชันอวดความน่าเกรงขามในความมืด ใบบัวผวาถอยหนี สาวน้อยไม่ได้ไร้เดียงสาจนไม่รู้ว่าสิ่งนั้นคืออะไร ทำอะไรได้บ้าง แต่มันใหญ่ และน่ากลัวเหลือเกิน..
“กลัวกูหรือ?”
ราชันแสยะยิ้ม เอื้อมมือลงไปรูดรั้งท่อนลำใหญ่ยาวเนิบ ๆ
“ที่มึงเคยเจอมีแต่เล็ก ๆ หรืออย่างไร”
ลูกจันทร์ ลูกสาวคนเดียวของไอ้มิ่งมันไม่ได้สดซิงอะไร มันมีผัวแล้ว แถมยังมีหลายคนเสียด้วย เรื่องนี้ราชันรู้ดี เพราะหน้าตาสะสวยของมัน หุ่นอ้อนแอ้นบอบบาง รวมถึงผิวพรรณที่ขาวจัดผิดแปลกจากชาวบ้านที่ต้องทำงานตากแดดตากลม ทำให้มีหนุ่มมาติดมันตรึม และมันก็รับน้ำใจผู้ชายพวกนั้นทุกคน ราชันรู้แม้กระทั่งเด็กใจแตกคนนี้เคยหลับนอนกับผู้ชายหลายคนในคราวเดียวกัน ผู้หญิงร่านราคะ ขี้คร้านถูกจับมาแบบนี้จะชอบใจจนไม่อยากกลับด้วยซ้ำ
ส่วนไอ้มิ่งนั้นเป็นไม้เบื่อไม้เมากับราชันมานานนม ด้วยอายุที่ห่างกันแค่สิบปี แต่เส้นทางที่แตกต่างทำให้ไม่ลงรอยกันเท่าไหร่นัก ทว่าก็ไม่เคยถึงขั้นทะเลาะเบาะแว้งกัน ต่างคนต่างอยู่ ราชันไม่ใส่ใจแม้จะรู้ว่าไอ้มิ่งหาทางกำจัดตนเองตลอดเวลา จนกระทั่งมันจับเอามะลิ เมียสาวคนสวยของจอมโจรไปข่มเหง
คล้ายถูกเหยียบหน้า ราชันไม่อาจนิ่งเฉยได้อีกต่อไป
ดังนั้นการเอาคืนไอ้มิ่งด้วยการจับลูกสาวมันมาข่มเหงเช่นเดียวกัน นับเป็นการเอาคืนที่เจ็บแสบที่สุด ไอ้มิ่งเกลียดราชันมาก พยายามหาทางเอาเข้าตะรางหลายครั้งแต่ก็ทำไม่ได้ สุดท้ายก็ใช้วิธีโสมม ทำร้ายผู้หญิงที่ไม่มีทางสู้ ในเมื่อมันกล้าทำขนาดนี้ราชันก็จะตอบกลับด้วยวิธีเดียวกัน แต่มันต้องเจ็บแสบยิ่งกว่า
“พี่จ๋า”
เสียงหวาน ๆ ดึงความคิดของราชันกลับมา เขาเพ่งมองเงาเลือนลาง เห็นลูกสาวที่ทะนงว่าตัวเองอยู่เหนือกว่าใครของไอ้มิ่งยกมือขึ้นไหว้เขาปลก ๆ
จอมโจรแสยะยิ้ม สะใจที่ได้เห็นคนที่คิดว่าตัวเองสูงส่งนักหนา ยกมือไหว้โจรอย่างเขาแบบนี้
“ยะ อย่าทำฉันเลยนะจ๊ะ ฉันขอร้อง”
“คนอย่างมึงขอร้องใครเป็นด้วยหรืออีจันทร์”
“ไม่ ฉันไม่ใช่..”
“มึงชอบนักไม่ใช่หรือ นอนแหกขาให้ผู้ชายเอาน่ะ”
“มะ.. ไม่ใช่นะจ๊ะ!”
“เลิกตอแหลได้แล้วอีจันทร์! กูไม่ใจอ่อนเพราะกูไม่ได้โง่ วันนี้กูจะเอามึง แล้วส่งมึงให้ลูกน้องของกูเอาต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่ามึงจะท้อง ถึงวันนั้นกูจะส่งมึงกลับไปให้พ่อของมึง กูล่ะอยากรู้นักว่าไอ้มิ่งจะกระอักแค่ไหนที่รู้ว่าลูกรักของมันถูกโจรอย่างพวกกูข่มเหงจนย่อยยับ”
“ไม่นะจ๊ะ!”
ใบบัวเสียงสั่นเครือ ไม่คิดว่าความแค้นของเขาจะรุนแรงถึงเพียงนี้ หากทำกันขนาดนี้ไม่สู้ฆ่าเธอให้ตายไปไม่ดีกว่าหรือ
“อย่างน้อย ๆ เด็กก็ไม่เกี่ยว อย่าทำแบบนี้เลยนะจ๊ะพี่”
“กูหูฝาดหรือวะที่ได้ยินมึงพูดแบบนี้” ราชันเหยียดยิ้มในความมืด “ผู้หญิงสำส่อนที่ท้องไม่มีพ่อจนต้องเอาออกนับครั้งไม่ถ้วนอย่างมึงห่วงเด็กเป็นด้วยหรือ ถุย! เล่นละครเก่งนักนะมึง ไม่ไปเป็นดาราในโทรทัศน์เลยล่ะ อ้อ.. คงไม่ได้สินะ เพราะเป็นดาราคงทำตัวร่านไม่ได้!”
“พี่...”
ใบบัวสะเทือนใจนัก แม้รู้ว่าราชันไม่ได้หมายถึงตัวเอง แต่คนที่ต้องฟังคำหยาบคายในตอนนี้คือเธอ.. ไม่ใช่ลูกจันทร์ และเธอก็ไม่ได้แข็งแกร่งจนไม่รู้สึกอะไรกับคำด่าทอพวกนั้น
“โอ๊ย!!”
เสียงหวานร้องลั่นเมื่อขาถูกดึงกระชาก กายน้อยครูดไปกับไม้ไผ่ แผ่นหลังส่วนที่ไม่มีผ้าปกคลุมแสบร้อนจากการเสียดสี ราชันไม่รอให้สาวน้อยได้พูดมากอีก มือใหญ่จับขาเรียวแยกออกกว้าง แล้วถลกผ้าถุงขึ้นไปกองที่หน้าท้องแบนราบ
“ขาวแบบนี้สินะผู้ชายถึงได้เดินตามมึงต้อย ๆ”
ถึงจะเกลียดแสนเกลียดแต่ราชันก็ยอมรับว่าลูกจันทร์มีผิวกายที่ขาวสะอาด มันผุดผาดจนมองเห็นความขาวแม้จะอยู่ในคืนเดือนดับ
“พี่ ฉันไม่ใช่ลูกจันทร์! ฉันไม่ใช่ลูกจันทร์นะ!”
ใบบัวรีบละล่ำละลักบอก เธอขวัญผวาและหวาดกลัว เพราะหลังจากสวมใส่บางอย่างเรียบร้อยแล้ว ราชันก็จับสิ่งใหญ่โตนั้นเข้ามาใกล้เนินสาวที่ไม่เคยถูกชายใดแตะต้อง
มันใหญ่มาก ใหญ่เกือบเท่าท่อนแขนเธอเลยทีเดียว ถ้ามันเข้ามาในตัว ส่วนนั้นของเธอคงฉีกขาดจนจำรูปเดิมไม่ได้
“ตอแหล!”
ราชันไม่สนใจฟังความจริง แขนแกร่งจับขาขาวพาดบ่า จ่อหัวบานใหญ่กับเนื้อนุ่มที่แห้งผาก
“ไม่ต้องเล้าโลมหรอก อย่างมึงคงหลวมโพรกหมดแล้ว”
“ไม่นะจ๊ะ! อย่า อ๊ะ! โอ้ย!!”
ใบบัวดิ้นพล่านทันทีที่ส่วนหัวถูกดันเข้ามาเพียงเล็กน้อย เธอดิ้นจนมันหลุดออก ในตอนนั้นเองที่ราชันรู้สึกแปลกใจ
เท่าที่สัมผัส ร่างกายของผู้หญิงคนนี้เต็มไม้เต็มมือต่างจากลูกจันทร์ที่ราชันเคยเห็น ลูกสาวไอ้มิ่งมีรูปร่างผอมบางเหมือนไม้กระดาน ไม่ได้เต็มแน่นแบบนี้
และที่สำคัญ..
ราชันยัดไม่เข้า
เป็นไปไม่ได้ที่ผู้หญิงอย่างอีจันทร์จะรับของเขาไม่ได้ เมื่อวานตอนไปดูลาดเลา ราชันยังเห็นว่ามันกำลังเริงสวาทกับท่อนเอ็นของไอ้หนุ่ม ลูกชายผู้ใหญ่สิงห์ในยุ้งข้าวอยู่เลย
คิดได้ดังนั้นราชันก็ลุกพรวดขึ้น จอมโจรจุดไฟตะเกียงจนสว่าง แล้วส่องเข้าที่ใบหน้าของผู้หญิงที่จับตัวมา
“เฮ้ย!”
ร่างใหญ่เผลอก้าวถอยหลังด้วยความตกใจ เพราะผู้หญิงที่คิดว่าเป็นลูกสาวของศัตรูกลับไม่ใช่ หนำซ้ำยัง..
มีใบหน้าที่อัปลักษณ์ แตกต่างจากลูกจันทร์อย่างสิ้นเชิง