บทที่2.การเดินทางไกลครั้งแรกของนิรดา....
มีคนของสวนมาโค มารอรับพร้อมกับรถบรรทุกคันใหญ่ที่ผู้โดยสารทั้งหมดสามารถเดินทางไปพร้อมกันได้
สัมภาระถูกทยอยนำขึ้นไปเก็บบนรถ นิรดาพยายามเดินเกาะกลุ่ม ถึงเธอจะสื่อสารกับคนท้องถิ่นได้ แต่เธอก็ไม่อยากหลงทางตั้งแต่วันแรกที่เดินทางมาถึง...
หญิงสาวง่วงจนตาจะปิด แต่ก็พยายามถ่างตาไว้ อยากมองทุกอย่างรอบตัว และเก็บไปเล่าให้เพชรชมพูกับยายฟัง
มันคงเป็นฤดูใบไม้ผลิอย่างที่เขาบอกจริงๆ ต้นไม้ที่ยืนต้นริมถนน ออกใบเขียวขจี มีทั้งดอกและผลมองดูน่าสดชื่น
ผิวแก้มเธอเริ่มชา เพราะปล่อยให้สายลมพัดใส่หน้า เมื่ออยากรู้อยากเห็นไปซะหมดทุกอย่าง ผิดกับคนงานคนอื่นที่มีประสบการณ์แล้ว ต่างพากันหลับใหล ตลอดช่วงการเดินทาง
Mako Park
ป้ายขนาดใหญ่ตั้งเด่นอยู่เหนือประตูทางเข้า กับแนวต้นเชอรี่ที่เห็นอยู่ไกลลิบๆ ตา
หญิงสาวอมยิ้มกับการเริ่มต้นที่เต็มไปด้วยความหวัง
ยาคอบเป็นหัวหน้าคนงาน เขาเป็นผู้ชายร่างใหญ่ ผมทองตาสีเทา อายุราว40ปีขึ้นไป เสียงห้าวทรงพลัง แต่ก็แฝงความใจดี ในฐานะหัวหน้าคนงานยาคอบเอ่ยต้อนรับคนงานใหม่ทั้งหมด เขาอธิบายคร่าวๆ เกี่ยวกับสวนแห่งนี้ พร้อมทั้งคัดแยกคนงาน เพื่อให้เหมาะกับตำแหน่งงาน จนมาหยุดที่นิรดาที่ดูจะตัวเล็ก และเด็กกว่าทุกคนในกลุ่ม
ชายร่างใหญ่ขมวดคิ้ว
“แน่ใจนะว่าทำไหว งานสวนงานไร่มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยนะ” ยาคอบเปรย เขาไม่รู้ว่านิรดาฟังออก เมื่อคนงานมาใหม่ส่วนใหญ่ กว่าจะสื่อสารกันได้ต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง
“ไหวค่ะ หนูไหว” หญิงสาวตอบเป็นภาษาเดียวกันกับที่ยาคอบใช้สื่อสาร
หัวหน้าคนงานเลิกหัวคิ้วขึ้นสูง “เธอพูดภาษาของเราได้”
สาวตัวเล็กยิ้มตอบ “ค่ะ พอฟังได้ อ่านออก แต่ยังต้องฝึกอีกเยอะค่ะ” นิรดาออกตัวแม้เธอจะฟังรู้เรื่องแต่หากอีกฝ่ายพูดเร็วเธอก็ฟังไม่ทันเหมือนกัน
“อืมดี...จะได้ช่วยอธิบายให้คนพวกนั้นรู้ด้วย”
ครั้งแรกยาคอบไม่เห็นด้วยที่จะให้นิรดาทำงานในสวน แต่เมื่อเจ้าหล่อนพูดได้ ฟังออก เขาเลยจำใจเก็บหล่อนไว้ เพื่อใช้เป็นล่ามสื่อสารกับคนที่เหลือ
“แยกย้ายกันไปพักได้แล้ว...แบ่งห้องกันเองนะ ห้องละ2คน” ยาคอบพามาส่งที่หน้าห้องแถว ใช้สำหรับให้คนงานพัก ก่อนจะเดินกลับไปทางเดิม
นิรดาละล้าละลัง เธอรอจนคนงานคนอื่นเลือกที่พักให้ตัวเองได้ เธอได้พักกับคนงานสาวคนหนึ่งที่มาจากเวียดนาม...ชื่อของเธอ เจิ่นมุยหวา อายุ25ปีผิวขาวและรูปร่างอวบอัด
หญิงสาวทิ้งตัวนอนแผ่บนที่นอนเก่าๆ ชิดพนังห้องฝั่งหนึ่ง โดยที่เพื่อนร่วมห้องไม่ได้สนใจมากกว่าพยักหน้าให้ครั้งเดียวตอนที่เธอเดินผ่านประตูเข้ามา ความอ่อนเพลียเพราะการเดินทางทำให้นิรดานอนหลับไปหลังจากนั้นไม่กี่นาที และนี่เป็นครั้งแรกที่เธอนอนหลับบนพื้นดินของชนชาติอื่น...และจะตื่นขึ้นมาเริ่มทำงานด้วยความกระฉับกระเฉง
บทที่3.เจ้าของสวนเชอรี่สุดหล่อ
มาโค วาน ฮัสเซลท์ “marco van Hasselt” ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ สไตล์คนยุโรป เส้นผมสีดำแซมด้วยสีขาวปละปลาย เมื่อมาโคใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ท่ามกลางแสงแดด เขาลงลุยงานเต็มตัว โดยไม่เกี่ยงว่าตัวเองเป็นเจ้านาย หากคนงานตัดหญ้า เขาก็ร่วมลงแรงด้วย หากคนงานแบกปุ๋ย มาโคคือหนึ่งในคนงานเหล่านั้น เขาสนุกกับการทำงาน เมื่อมันคือจิตวิญญาณของเขา
พี่ น้อง ส่วนใหญ่ของเขา ไม่เคยลงมาคลุกคลี ซึ่งมาโคก็ไม่ได้ว่าอะไร ใครถนัดแบบไหน ก็ให้ทำแบบนั้น หลายๆ ครั้งที่มีคนสำคัญระดับประเทศมาเยือน มาโคถูกเข้าใจผิดว่าเป็นแค่คนงาน ซึ่งเขาก็ไม่เดือดร้อน ชายหนุ่มปล่อยให้ มาริโอน้องชาย ที่ถือตำแหน่งรองประธานเป็นคนรับหน้า ถ้าไม่ได้มีอะไรเร่งด่วนจริงๆ
แต่หากวันไหนที่มาโคต้องไปยืนแถวหน้า ก็หาคนในตระกูลข่มเขาลงได้ ในวันที่ต้องเป็นผู้นำ มาโคก็ทำหน้าที่ได้ดีไม่แพ้กับการคลุกคลีอยู่กับคนงานในสวน
วันนี้เป็นวันแรกที่มีคนงานใหม่เข้ามาเริ่มงาน คนงานเหล่านั้นเดินทางมาถึงตั้งแต่เมื่อวันก่อน เขาปล่อยให้ยาคอบที่เป็นหัวหน้าคนงานอบรมเรื่องกฎระเบียบ ก่อนจะเริ่มปล่อยให้คนงานได้ทำหน้าที่ที่ได้รับหมอบหมาย