6
“หมั่มมี้ดีใจนะ วันนี้ได้ลูกสาวเพิ่มมาอีกหนึ่งคน ขอให้ลูกทั้งสองรักกันดูแลกัน ให้เกียรติกัน ใช้ชีวิตคู่อย่างมีความสุขตลอดไปจ้ะ”
ไรยาก้มลงกราบแทบเท้าชากิร่าได้อย่างไม่ตะขิดตะขวงใจใดๆ เพราะสัมผัสได้จากคำพูด สีหน้าและแววตา ว่ามาจากใจจริง ชากิร่าเอามือเธอไปกุมไว้แล้วยิ้มให้ ก่อนจะหันไปหาสามีแล้วได้รับการพยักหน้าให้
“เครื่องเพชรที่หนูใส่ เป็นของขวัญสำหรับลูกสาวหมั่มมี้นะ รักษาไว้ให้ดี เพราะมันถูกทำขึ้นมาด้วยความรักของแดดดี๊ที่มีต่อหมั่มมี้”
ไรยาตกใจไม่น้อย กำลังจะเอ่ยปากค้าน แต่ชากิร่าก็บีบมือเบาๆ พร้อมกับส่ายหน้าน้อยๆ ให้ พอหันไปหาเจ้าบ่าวก็เห็นพยักหน้าให้เป็นสัญญาณ ว่าไม่ควรปฏิเสธ เลยก้มลงกราบแทบเท้าชากิร่าอีกรอบ
พลันก็มีใบหน้าแม่ลอยเด่นขึ้นมาในความทรงจำ น้ำตาก็ไหลอาบแก้มเพราะความตื้นตันใจ เรื่องได้ของล้ำค่าราคาสูงลิบลับนั้นก็เป็นเหตุผลหนึ่ง แต่เหนือสิ่งอื่นใด เธอไม่คาดคิดว่าจะได้รับสิ่งดีๆ จากผู้หญิงที่เพิ่งเห็นหน้าแค่วันแรกเลย
“พ่อเองก็ดีใจที่ได้หนูมาเป็นลูกสาวเพิ่มอีกคน ฮั้นท์จะต้องดูแลลูกสาวคนนี้ของพ่อให้ดีและตลอดไปนะ เมื่อลูกทั้งสองคนตกลงปลงใจจะใช้ชีวิตคู่ร่วมกันแล้ว ก็หมายถึงลูกพร้อมจะเดินทางไปด้วยกันทุกหนทุกแห่ง สิ่งสำคัญที่ลูกจะต้องนำติดตัวไปด้วยตลอดเวลา นั่นก็คือการให้อภัย”
อัฟแนนมองคนที่เขาเพิ่งรับเป็นลูกสาวแล้วยิ้มน้อยๆ จากนั้นก็มองลูกชายด้วยสายตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก ส่วนคนเป็นลูกชายกลับรีบก้มลงกราบแทบเท้าของเขาแทน เขาได้แต่ลอบถอนหายใจเบาๆ
แล้วโน้มกายสูงใหญ่ลง ใช้มือทั้งสองข้าง แตะไหล่ของลูกทั้งสองเบาๆ พอเห็นทีมจัดงานที่ยืนอยู่นอกประตูห้องหอส่งสัญญาณให้ เขาก็ลุกขึ้นยื่นแขนให้ภรรยาเกาะ แล้วเดินออกไป
ปิยะกำลังจะเข็นรถวีลแชร์ออกไปเช่นกัน แต่ทีมงานก็รีบเข้ามาช่วย ทำให้เขาได้มีเวลามองหน้าลูกอย่างเต็มตาและด้วยความห่วงใยไม่น้อย ทั้งที่คนเป็นเขยก็ดูจะเทคแคร์ลูกเขาอย่างดี คนในครอบครัวเขย ก็เหมือนจะรับลูกเขาเข้าบ้านอย่างเต็มอกเต็มใจ ถึงขนาดยกเครื่องเพชรที่เขาเดาได้ว่าราคาหลายสิบล้านให้
แต่มันเหมือนมีอะไรค้างๆ คาๆ หลุดๆ ข้ามๆ อยู่ ทำให้ยังไม่สนิทใจสักเท่าไหร่ ก็ได้แต่หวังว่า ลางสังหรณ์ของเขาจะผิดไป หรือเขาจะมองในด้านลบไปเองเท่านั้น
ไรยามองเจ้าบ่าวเดินไปส่งผู้ใหญ่ตรงประตูห้อง ขณะตัวเองนั่งอยู่เดย์เบดตรงปลายเตียงด้วยอาการอ่อนล้า ถ้าได้อาบน้ำ เปลี่ยนชุด คงจะดีไม่น้อย แต่ก็ยังไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร ของใช้ส่วนตัวอยู่ไหน
เมื่อวานตอนออกบ้านไปนอนโรงแรม ก็มีกระเป๋าเดินทางแค่สองใบ หนึ่งคือข้าวของเครื่องใช้ที่จะเอาขึ้นห้องพัก อีกใบคือเสื้อผ้าจะเอามาใช้ที่บ้านใหม่ ไว้มีอะไรขาดเหลือค่อยกลับไปเอาอีกที
เธอมองเขาถอดสูทโยนลงเตียง ท่าทีเหมือนหงุดหงิด หรืออาจจะเหนื่อย คงเดินทางกลับจากต่างประเทศ ยังไม่ได้พัก ส่วนเธอก็อยากพักเช่นกัน จะถามหากระเป๋าก็เหมือนเขาไม่อยากคุยด้วย เลยนั่งรอสักพัก
แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เห็นเขาเดินไปคว้าแก้วกับเหล้าจากตู้ข้างผนัง ไปนั่งอยู่โซฟายาว ตรงหน้าต่างบานใหญ่ มันยาวตั้งแต่ผนังฟากหนึ่งไปอีกฟากหนึ่ง จนอดสงสัยไม่ได้ ว่าเขาใช้ห้องนี้รองรับแขกหรือไง
“อยากอาบน้ำจังค่ะ”
เห็นเขารินเหล้าแล้วกระดกรวดเดียวแบบไม่สนใจเธอ เลยตัดสินใจเอ่ยเบาๆ
“โน่นไงห้องน้ำ ไม่เห็นเหรอครับคุณหนูย้า”
แต่เสียงเขาดันหนัก ดัง สายตาก็เหมือนจะต่างจากตอนอยู่ในงาน
“เห็นค่ะ แต่อยากได้กระเป๋าเสื้อผ้า ทีมงานบอกว่าจะยกมาไว้ให้นี่คะ ไม่เห็นมีเลย หรือว่าจะอยู่ในตู้”
พยายามควบคุมอารมณ์แล้วตอบออกไปด้วยน้ำเสียงปกติสุดๆ ตาก็มองกวาดหาตู้ แต่ในห้องโล่งโจ้ง นอกจากห้องน้ำกับเห็นประตูอีกบาน
“นั่นห้องของคุณ ของทุกอย่างอยู่ในนั้น”
เขาส่งเสียงห้วนๆ มือชี้ไปยังประตูที่เธอเพิ่งมองไปเมื่อกี้นี้ ความไม่เข้าใจในหลายเรื่องทำให้ต้องมองเขานิ่งๆ
“คุณหวังอะไรจากการแต่ง วาดฝันว่าเราจะเอากันสนั่นเตียง เหมือนคู่รักอื่นๆ งั้นเหรอครับคุณหนูย้า”
อารมณ์ปี๊ดขึ้นทันที เมื่อเจอยิ้มเยาะเย้ยของเขา
“ฉันไม่ได้หวังเรื่องนั้นหรอกค่ะ แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมเราถึงแต่งงานกัน”
“พวกคุณจะถูกฟ้องล้มละลายอยู่แล้ว นั่นคือเหตุผล หรือคุณหวังสูงกว่านั้น”
“บอกแล้วไงคะว่าฉันไม่ได้หวังอะไร ก็แค่ไม่รู้ว่าจะทำตัวยังไง ในฐานะภรรยาของคุณ มีอะไรก็บอกมาตรงๆ นะคะ ฉันจะได้ทำตัวถูก”
“ไม่เห็นต้องทำอะไรนี่ครับ ให้รู้ไว้แล้วกัน ว่าผมไม่ชอบกินของเก่า ของเหลือเดนใคร ที่แต่ง ก็เพราะอยากได้หุ้น เรื่องอื่นผมถือว่าเป็นของแถม เข้าใจตรงกันนะครับคุณหนูย้า ทีนี้ก็เชิญไปได้แล้ว ผมจะได้พักบ้าง เหนื่อยจากการเล่นละครมาตั้งแต่เช้าละ หรือคุณไม่เหนื่อย”
อาการเหนื่อยเมื่อครู่หายเป็นปลิดทิ้ง ไรยาเลยลุกพรวดเดินไปหาประตูอีกบานทันที
“เดี๋ยวก่อนสิครับคุณหนูย้า”
มือกำลังจับลูกบิดชะงัก
“อะไร”
เลยหันไปส่งเสียงห้วนๆ ใส่
“จะไม่ขอบคุณสักหน่อยเหรอครับ ผมอุตส่าห์กู้หน้าให้ด้วยการจัดงานแต่งซะใหญ่โต ข่มงานผัวเก้า เอ๊ย แฟนเก่าคุณ แล้วไหนจะทุ่มเงินเป็นร้อยๆ ล้าน มาพยุงบริษัทที่มีแต่หนี้อีก ไม่รู้จักกตัญญู มันจะไม่เจริญเอานะครับคุณหนูย้า”
“ฉันไม่ได้ขอให้คุณมาแต่งงานด้วย ไม่ได้ขอให้คุณจัดงานใหญ่โต ไม่ได้ขอให้คุณมาหุ้นด้วย คุณอยากได้เอง เลยไม่จำเป็นต้องขอบคุณ แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว งั้นก็ขอบคุณนะคะ ที่...”