บท
ตั้งค่า

บทที่ 3

Ep 03

"หึ!" ก๊วยเจ๋งแค่นหัวเราะในลำคออย่างเย้ยหยันก่อนจะดันตัวมิกิออกห่าง เขาจ้องหน้าเธอโดยไม่พูดอะไร แววตาของเด็กน้อยไร้เดียงสาคนนั้นยังคงเหมือนเดิม มิกิไม่เคยเปลี่ยนไปจากเดิมเลย

"กิอยากได้ตรงนี้ เจ๋งให้ได้ไหม" เธอเลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้ๆจนริมฝีปากสัมผัสกับปลายจมูกโด่งคม แล้วเลื่อนริมฝีปากลงไปจูบกลีบปากหนาอีกครั้งโดยที่ก๊วยเจ๋งไม่ผลักเธอออกอีกเหมือนครั้งก่อน

"ฉันจะคิดเสียว่าการกระทำของเธอวันนี้ มันคือการทักทายของหลานสาวแล้วกันนะ" คำพูดถัดมาของชายหนุ่มทำเอาเด็กสาวเงียบไป เธอแสยะยิ้มมุมปากในนาทีต่อมา แล้วเอนตัวกลับไปนั่งที่ของตัวเองโดยไม่พูดอะไรต่อ จนกระทั่งรถยนต์หรูขับเคลื่อนมาถึงหน้าบ้านของมิกิ

"อย่ามาให้เห็นหน้าอีก" มิกิปรายตามองก๊วยเจ๋งหลังจากพูดจบประโยคนั้น แล้วหยิบสายกระเป๋ามาคล้องบ่า เปิดประตูก้าวลงจากรถไป

"ยัยปีศาจ! ตัวแค่นี้รู้จักเรื่องจงเรื่องจูบแล้วเหรอวะ" ชายหนุ่มสบถคำอย่างหัวเสีย เขาไม่ถือสาคำพูดร้ายกาจของมิกิ แต่กลับมึนงงกับอาการที่เธอเป็นมากกว่า เขาเคยได้ยินจากปากของรุ่นพี่ว่ามิกิเป็นโรคต่อต้านสังคมขั้นรุนแรง ไร้ความรู้สึกสงสารหรือเห็นใจคนอื่น ชอบเก็บตัวอยู่คนเดียวไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวาย และนี่ก็คงเป็นอาการของโรคบ้าๆนั้นที่ทำให้เธอกล้าแสดงออกแบบนี้

"ไปไหนมา ทำไมป๊าโทรหาไม่ยอมรับสาย" เสียงเข้มเจือไปด้วยความเป็นห่วงของนายแพทย์วัยกลางคนเอ่ยถามลูกสาวคนเดียวที่เพิ่งเดินเข้ามาในบ้าน

"..." มิกิหยุดชะงักฝีเท้าแล้วหันไปเผชิญหน้ากับพ่อตรงๆ ก่อนจะตอบกลับไป "ไปเที่ยวกับภารันมาค่ะ ดื่มมานิดหน่อย พอดีรู้สึกเบื่อๆ เลยไม่ได้บอกการ์ดและไม่ได้บอกพ่อก่อนว่าจะไปเที่ยว" เธอตอบทุกอย่างตามความเป็นจริง ก่อนเดินขึ้นไปบนชั้นสอง

"เฮ้อ~ มิกิลูก" ทัดเทพยกมือขึ้นมากุมขมับ มองตามแผ่นหลังขาวเนียนของมิกิด้วยความเป็นห่วง

ปึง!

มิกิแทรกตัวเข้าไปในห้องนอนพร้อมใช้เท้าเขี่ยประตูปิด เธอเดินตรงไปที่เตียงนอนแล้วถอดชุดเดรสสายเดี่ยวออก เหลือเพียงแพนตี้ตัวจิ๋วที่ปกปิดดอกไม้งามที่ไม่เคยมีชายใดได้เชยชม และมีเพียงบราปีกนกสีดำที่ห่อหุ้มหน้าอกอวบใหญ่เกินขนาด

เด็กสาวเขย่งปลายเท้ากรีดกรายเดินไปหน้ากระจกบานใหญ่ มองตัวเองในกระจกเงาก่อนภาพริมฝีปากหนาอมชมพูของก๊วยเจ๋งจะฉายเข้ามาในสมองเธอ

"ทำยังไงถึงจะได้มาครอบครองนะ.." มือเรียวสัมผัสหน้าผากของตัวเอง และหลับตานึกถึงสัมผัสละมุนนั้นและเลื่อนมือลงมาแตะกลีบปากของตัวเองเบาๆ สัมผัสอุ่นๆยังคงตราตรึงอยู่ที่กลีบปาก ก่อนที่เธอจะเดินไปนั่งดื่มไวท์บนโซฟาข้างเตียงนอน

"อยากลองเลี้ยงลูกแมวดูจัง.."

@วันต่อมา มหา'ลัย

"กิ" ภารันกระซิบเรียกมิกิที่นั่งเรียนอยู่ข้างๆ เสียงเบาพลางหันไปมองอาจารย์ด้วย เมื่อมิกิไม่ยอมสนใจเขาจึงยื่นมือไปสะกิดเธออีกครั้ง "เมื่อคืนกลับบ้านยังไงพีเป็นห่วงกินมากนะรู้ไหม" ภารันเอ่ยถามมิกิ

"ผู้ชายไปส่งที่บ้าน ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง" มิกิตอบกลับเสียงเรียบ เธอตวัดสายตามองภารันเมื่ออีกฝ่ายเงียบไปหลังจากที่ได้รับคำตอบจากปากของเธอ แววตาของภารันดูผิดหวังจนเห็นได้ชัด

"ก็ดีแล้ว" มาเฟียหนุ่มหันไปมองอาจารย์ที่กำลังสอนอีกครั้งโดยไม่รู้ตัวว่ามิกิกำลังจ้องมองเขาอยู่ ภารันเป็นเพื่อนรักเธอก็จริง แต่บางทีเธอก็ห่วงว่าเขาจะคิดเกินเลยคำว่าเพื่อน และเธอไม่อยากให้เป็นแบบนั้น เพราะเธอแคร์แค่ความรู้สึกเพื่อนรักเพียงคนเดียว

"วันนี้ไปขับรถเล่นกัน"

"ได้" ภารันตอบกลับอย่างไม่ลังเลก่อนทั้งสองจะตั้งใจเรียนต่อจนจบคลาส

หลายนาทีที่มิกินั่งเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย เธอพ่นลมหายใจหนักๆ ครั้งแล้วครั้งเล่า หางตาคมเหลือบมองนาฬิกาข้อมือไปด้วย

"ไม่สบายใจเรื่องอะไร เล่าให้พีฟังได้นะ"

"เปล่า แค่กำลังคิดหาทางจะเอาของบางอย่างมาครอบครองเฉยๆ" เธอหันไปสบตากับภารันก่อนจะลุกขึ้น ภารันรีบลุกเดินตามมิกิไปอย่างไว แต่ในตอนที่ทั้งสองเดินออกไปมาจากห้องเรียนแล้วก็มีรุ่นพี่กลุ่มหนึ่งยืนดักทางมิกิิอยู่หน้าห้องเรียน และเธอจำได้ดีว่ารุ่นพี่หนึ่งในสามคนคือหญิงสาวที่อยู่กับก๊วยเจ๋งเมื่อคืนนี้

"นึกว่าใคร" มิกิเลิกคิ้วทักทายรุ่นพี่ทั้งสามคนอย่างเย้ยหยัน

"แก! อีบ้า!" แอนชี้หน้ามิกิพร้อมกับปรี่เข้าไปประชิดตัวเด็กสาว แต่มิกิกลับเบี่ยงตัวหลบทันทำให้แอนถลาล้มลงไปด้วยไม่คิดว่ามิกิจะหลบเธอ

"ให้จัดการให้ไหม" ภารันที่ยืนกอดอกพิงกรอบประตูเชิดหน้าขึ้นถามมิกิ แต่คำตอบที่ได้รับคือรอยยิ้มเยือกเย็นของเพื่อนรัก เธอย่อเข่านั่งลงข้างๆ แอนแล้วเชยปลายคางเธอขึ้น

"หน้าสวยๆแบบนี้คงทำมาแพงสินะ..ทำใหม่อีกรอบไหม ฉันว่าหน้าเดิมมันเริ่มด้านแล้วนะ" มิกิหยิบมีดคัตเตอร์ออกมาจากกระเป๋าสะพายแล้วเปิดใบมีดออกมา ทำเอาแอนกรีดร้องสุดเสียงราวกับคนเสียสติ รุ่นพี่ที่มาด้วยกันกับแอนเริ่มหวาดกลัวกับการกระทำของมิกิ แต่พวกเธอกลับจะเข้าไปจับตัวมิกิไว้ แต่ก็ช้าเมื่อภารันคาดโทษพวกเธอโดยการชี้หน้า

"รนหาที่เองนิ คิดว่าคนอื่นจะอ่อนแอเหมือนตัวเองเหรอ กระจอก!"

"กะ..กรี๊ด!!"

"มิกิหยุดนะ!"

"..." เสียงเข้มของใครบางคนดังขึ้นจากทางด้านหลัง ห้ามมิกิไว้ในตอนที่เธอกำลังจะกรีดคมมีดลงบนใบหน้าของแอน เธอหยุดชะงักแล้วเอี้ยวหน้ากลับไปมองเจ้าของเสียงนั้นแม้จะรู้อยู่แล้วว่าคือเสียงของพ่อ

"หนูจะทำอะไร" ทัดเทพรีบเดินตรงไปหาลูกสาวอย่างไว พร้อมกับแย่งมีดคัตเตอร์จากมือเธอมา มิกิปัดมือแล้วกอดอกยืนพิงผนัง มองหน้าแอนด้วยสายตาว่างเปล่า

"อะ..อีกโรคจิต!" แอนกับเพื่อนรีบเดินออกไปทันทีเมื่อได้รับอิสระ สายตาของของเด็กสาวมองตามรุ่นพี่จนพวกเธอเดินหายไปแล้วเธอจึงค่อยดึงสายตากลับมา เธอไม่รู้ว่าพ่อมาที่มหาวิทยาลัยเพราะเรื่องอะไร แต่ที่พ่อเห็นเหตุการณ์เมื่อสักครู่มันคงไม่เป็นผลดีกับเธอแน่นอน

"หนูจะทำอะไนพี่เขา"

"เขามาหาเรื่องกิก่อน เมื่อคืนก็ด่ากิว่าเป็นโรคจิต ด่าว่ากิบ้า เลยจะทำให้หล่อนรู้ว่าคนเป็นโรคจิตกับคนบ้ามันเป็นยังไง" มิกิตอบพ่อไปตามความจริงและบอกในสิ่งที่เธอคิดตอนนี้โดยไม่ปิดบังพ่อ ทัดเทพก็อึ้งไปชั่วขณะเมื่อได้รับคำตอบตรงไปตรงมา เพราะไม่คิดว่าลูกสาวจะกล้าทำแบบนั้นทั้งที่เธอเก็บความรู้สึกเก่ง

"ป๊าเคยบอกแล้วใช่ไหมว่าไม่ให้ใช้ความรุนแรงแก้ปัญหา"

"ป๊าเคยบอกให้กิใช้สติแก้ไขปัญหา แต่ปัญหาบางเรื่องมันก็ต้องใช้แรง กิไม่ได้เถียงแต่อยากให้ป๊ามองอีกมุมบ้าง ถ้ากิผิดกิขอโทษค่ะ"

"กลับบ้านค่อยคุยกันเรื่องนี้ ป๊าไม่โอเคกับเหตุการณ์วันนี้มาก"

"แต่ถ้าป๊าให้กิมีของเล่นสักชิ้น กิจะเป็นเด็กดีให้ก็ได้" มิกิยิ้มมุมปากอย่างมีแผนการทั้งที่พ่อยังไม่ได้ให้คำตอบ ทัดเทพมองหน้าลูกสาวอย่างไม่เข้าใจกับสิ่งที่เธอบอก ก่อนที่มิกิจะเดินออกไป

"ขอโทษคุณอาด้วยนะครับ ผมเองก็ผิดที่ไม่ห้ามปรามมิกิ" ภารันรีบขอโทษทัดเทพก่อนจะวิ่งตามมิกิไปในทันที

"ป๊าจะเอาไงกับหนูดีเนี่ยมิกิ นับวันยิ่งร้ายกาจเข้าไปใหญ่" คนเป็นพ่อหนักใจกับนิสัยของลูกสาวที่นับวันยิ่งแย่ลง ขณะที่สายตาคมกริบมองมีดคัตเตอร์ในมืออย่างใช้ความคิด

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel