ตอนที่ 5 ในรอบ 4 ปีที่ได้เจอ
“อยากเที่ยว” หิรัญเดาถูก
“แล้วเจ้าสัวมากับแม่หรือเปล่าคะ” กวาดสายตามองหาอรุณีในทันทีก็ไร้เงาของคนเป็นมารดา
“แม่เธออยู่บ้าน ฉันแค่-"
“…”
“มีลูกค้าต่างชาติมาเจรจาคุยธุรกิจ ฉันต้องมาต้อนรับและดูแลเป็นพิเศษหน่อย” เป็นแค่คำโกหกเมื่อกลัวว่าอีกฝ่ายจะโทรบอกอรุณีว่าเจอเขาที่นี่ แต่กลับเหมือนอีกคนจะเชื่อและคล้อยตามเพราะจากที่เคยเข้าไปอยู่ในคฤหาสน์หลังจากที่แม่ตกลงปลงใจเป็นสามีภรรยากับคนตรงหน้าจะเห็นว่าเจ้าสัวแทบอยู่ไม่ติดบ้านด้วยเหตุผลของการเดินทางไปต่างประเทศทั้งต้องออกไปต้อนรับคู่ค้าที่มีผลประโยชน์ร่วมกันก็บ่อยครั้ง
“แปลว่าแม่ไม่ได้มาด้วย” พูดจบก็ถอนหายใจแผ่วเบา อัญญาไม่ได้บอกอรุณีถึงการกลับก่อนกำหนด ถ้าหากแม่รู้ว่าแอบเดินทางมาโดยไม่บอกมีหวังถูกตำหนิอย่างแน่นอน รวมทั้งยังกลัวสายตาคู่คมที่จ้องมายังเธอ เจ้าสัวหิรัญไม่ชอบการโกหกเป็นที่สุด
จากเดิมที่ตั้งใจจะกลับเข้าไปนอน อัญญาถูกหมิงซื่อขอร้องให้อยู่เป็นเพื่อนเจ้าสัวสักพัก บรรดาสมุนต่างขอใช้เวลาเบรกส่วนตัวกันคนละชั่วโมงแต่ทว่ามันกลับนานมากกว่าเวลาที่นัดหมายกันไว้ พ่อเลี้ยงและลูกเลี้ยงนั่งอยู่มุมระเบียงด้วยกันตามลำพัง ในขณะที่เจ้าสัวยังยกแก้วน้ำสีอำพันกรอกปากตัวเองคั่นเวลาไปเรื่อยๆ
“เบื่อไหม ต้องมานั่งมองคนแก่แบบฉันดื่ม”
“ไม่หรอกค่ะ เพียงแต่หนูไม่เคยเห็นเจ้าสัวดื่มหนักขนาดนี้” หันมองคนด้านข้างที่อยู่ท่านั่งไขว่ห้างท่าเดิมเป็นชั่วโมง
“อยู่ที่โน่นเป็นยังไง” คราวนี้ถือโอกาสถามสารทุกข์สุขดิบของลูกเลี้ยง
“ก็ดีค่ะ” อัญญาตอบได้เพียงสั้นๆ ค่อนข้างเกร็งกับการนั่งคุยตามลำพังกับเจ้าสัว แม้จะอยู่บ้านหลังเดียวกันมาหลายปี ทว่าหญิงสาวกลับไม่ได้สนิทสนมอะไรกับเจ้าสัว แต่ให้ความเคารพในฐานะสามีแม่และผู้มีบุญคุณแก่เธอเท่านั้น
เสียงข้อความมือถือดังขึ้น เจ้าสัวหยิบมันขึ้นมาจดจ้องดวงตาคู่คมลงบนหน้าจอที่สาดแสงขึ้นผ่าน จากที่นั่งคุยกับด้วยสีหน้าเรียบนิ่งหิรัญกลับมาใบหน้าโทสะขึ้นมาทันตาเห็น ฝ่ามือหนากำมือแน่นคล้ายจะบดให้มันแหลกคอมือ ลมหายใจร้อนตีกระพือหนักทำอัญญาตกใจเพราะกลัวเจ้าสัวจะเกิดความดันขึ้นสูงเนื่องด้วยอายุที่มาก
“เป็นอะไรหรือเปล่าคะ” ยกมือทาบแขนแกร่งด้วยความเป็นห่วง แต่ทว่าอีกฝ่ายมองอัญญาตาขวางอย่างไร้สาเหตุเป็นผลให้อีกฝ่ายทั้งกลัวและงงกับดวงตาที่ฉายแววเกรี้ยวกราดออกมาแบบนั้น
“…” หิรัญวางมือถือที่กำแน่นแล้วคว้ามือบางหนึ่งข้างบีบหนักจนอัญญาอ้าปากร้องด้วยความเจ็บอย่างไม่เข้าใจ
“โอ๊ย เจ้าสัว”
“ทำไม ทำไมถึงทำแบบนี้”
“นะหนูไม่ได้ตั้งใจนะคะ แค่กลับมาก่อนเจ้าสัวโกรธขนาดนี้เลยเหรอ” ยังคิดว่าคนตรงหน้าโกรธที่ไม่ยอมบอกและปิดบังการเดินทางกลับมายังประเทศไทย แต่เรื่องนี้ไม่น่าจะโมโหได้หนักขนาดนี้ อัญญาเบ้ใบหน้าด้วยเจ็บเมื่อถูกหิรัญบีบเรียวมือเล็กจนแทบจะแหลกคามือ
“ฉันเกลียด เกลียด” แค่นเสียงด้วยแรงโทสะนัยน์ตาแดงก่ำแสดงออกชัดเจน ร่างเล็กถูกยื้อจากแรงคนแก่กว่าเหมือนจงใจอยากให้อัญญาเจ็บกับการกระทำ
“เจ้าสัว”
“ทำไมห่ะ”
“เจ้าสัวเป็นอะไร” อัญญาสะบัดข้อมือสุดแรงต้องการให้หลุดจากพันธการอันเจ็บปวด แต่กลับทำให้ตัวเองเสียหลักล้มกวาดเทกระจาดขวดเหล้าและแก้วที่วางบนโต๊ะตกลงพื้น เสียงแก้วแตกกระจายเสียดเข้าซอกรูหูเหมือนตบสติเจ้าสัวว่ากำลังโกรธคนที่ไม่ได้ทำผิดอะไร
"อัญ" เจ้าสัวเรียกเพียงชื่อสั้นๆของอีกฝ่ายด้วยความตกใจ คนตัวเล็กหมอบลงกับพื้นทั้งฝ่ามือถูกเศษแก้วบาดมีเลือดออกเล็ดน้อย
"เลือด"
"เธอเป็นอะไรหรือเปล่า" เข้าประคองอัญญาขึ้นนั่งจากนั้นหยิบทิชชูซับเม็ดเล็ดที่กำลังซึมออกมา
"ไม่เป็นอะไรค่ะ นิดเดียว"
"ฉันไม่ตั้งใจ" เสียงทุ้มต่ำเอ่ยขอโทษอีกฝ่ายที่กระทำรุนแรง ทว่าเขาไม่ได้ตั้งใจให้อีกฝ่ายเจ็บตัว เขาแค่ใช้อารมณ์ลงผิดคน