

ตอนที่ 2 หน้าใสไร้สมอง
ตอนที่ 2 หน้าใสไร้สมอง
“คุณพูดเรื่องบ้าอะไร ฉันไม่ได้มาทำงาน และก็ไม่ได้จะมาอมอะไรด้วย!!” เมื่อได้ยินเม็ดทรายเอ่ยแบบนั้นแอลฟ่าจึงรีบรูดซิปกางเกงตนเอง แล้วยืนกอดอกมองเธอนิ่ง
“แล้วมาทำไม?” สายตาคู่คมมองเม็ดทรายตั้งแต่หัวจรดเท้า เพราะเท่าที่จำได้วันนี้นอกจากสาวไซด์ไลน์ เขาก็ไม่ได้นัดใครอีก
“ฉันมาตามหาพ่อของฉันค่ะ” เม็ดทรายเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ดูเข้มขรึม เธอพยายามแสดงท่าทีจริงจังออกไป แต่มันกลับทำให้แอลฟ่าหัวเราะลั่น
“เธอจะบ้าเหรอ นี่มันผับนะไม่ใช่ศูนย์คนหาย ถ้าไม่ได้จะขาย...ก็ออกไปซะ” แอลฟ่าหลุบสายตามองยังเบื้องล่างของหญิงสาวพร้อมกับเอ่ยออกมาเสียงเรียบ ก่อนจะเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะทำงาน
“ไม่ค่ะ ฉันมาหาพ่อของฉัน พ่อของฉันเขามาเล่นพนันที่ผับของคุณ ถ้าฉันไม่ได้เจอพ่อฉันก็ไม่ไปไหนทั้งนั้น” สายตาคู่คมหันมามองหน้าเม็ดทรายนิ่ง ๆ แต่ก็ไม่ได้คิดจะสนใจคำพูดของเธอแม้แต่น้อย
“แล้วทำไมเธอไม่โทร. หาพ่อเธอล่ะ ในเมื่อเธอบอกว่าพ่อเธอมาเล่นที่นี่ แค่โทร. ก็ได้แล้วมั้ง”
“เพราะพ่อฉันหายไปไง ท่านติดหนี้คุณอยู่”
“ฉันมีลูกหนี้เป็นร้อย ๆ คน จะไปรู้ได้ไงว่าใครเป็นใคร ออกไปได้แล้ว เสียเวลา” แอลฟ่ายังคงเอ่ยเสียงดุ ปนเริ่มรำคาญที่เม็ดทรายยังไม่ยอมออกไปสักที
“พ่อฉันชื่ออนันต์ ได้โปรดเถอะนะคะ บอกฉันมาเถอะนะว่า พ่อฉันอยู่ที่ไหน ตอนนี้ฉันต้องการเจอพ่อมาก ๆ” เม็ดทรายเดินตรงไปหยุดตรงหน้าของเขาและยกมือไหว้ไปพูดไป
“...”
“พ่อฉันท่านป่วยเป็นมะเร็งปอดระยะที่สอง ตอนนี้ท่านขาดการรักษาไปหลายวันแล้ว” เม็ดทรายพูดทั้งน้ำตา เพราะทางโรงพยาบาลเริ่มทวงถามหาแล้ว ซึ่งถ้าพ่อเธอไม่ไปรักษาตามนัด อาการก็จะยิ่งทรุดลงไปเรื่อย ๆ และอาจจะอยู่ได้อีกไม่นาน ทั้ง ๆ ที่ท่านยังมีโอกาสที่จะรักษาให้หายได้
“...”
“ขอร้องนะคะ ปล่อยพ่อเถอะนะ”
“...”
“เรื่องเงินที่พ่อติดคุณไว้ ไม่ต้องห่วงเลย เพราะฉันจะรีบทำงานหาเงินมาใช้ทุกบาททุกสตางค์เลยค่ะ” เม็ดทรายเอ่ยทั้งน้ำตาไม่หยุด เมื่อเห็นอีกฝ่ายเอาแต่นิ่งเงียบไม่ตอบอะไรเธอกลับมาเลย
หลังจากที่ผู้เป็นแม่เสียไปเมื่อหลายปีก่อน นับจากนั้นมาชีวิตของเธอก็เหลือเพียงแค่พ่อคนเดียวแล้วจริง ๆ และเธอคงรับไม่ได้หากต้องมาเสียพ่อไปอีกคน
“เธอรู้ยอดหนี้กับดอกเบี้ยของที่นี่แล้วเหรอ?” แอลฟ่ายกยิ้มหยัน เพราะรู้ว่าคนตรงหน้าคงไม่ได้รู้อะไรสักอย่าง และประโยคที่ว่าจะใช้หนี้ เขาได้ยินมานักต่อนัก ได้แต่คิดในใจ คนเราก่อนจะพูดว่าจะใช้หนี้ ก็ควรต้องรู้ยอดหนี้ทั้งหมดก่อนไม่ใช่รึไง
“ไม่รู้ค่ะ” เม็ดทรายยกมือปาดน้ำตาลวก ๆ
“ใครอยู่ด้านนอกเข้ามาหน่อยสิ” น้ำเสียงดุดันตะโกนเอ่ยเรียกลูกน้องของเพียงไม่นานก็มีผู้ชายสวมสูทสีดำเดินเข้ามาพลางโค้งตัวคำนับให้กับแอลฟ่า
“ครับนาย”
“มึงไปเช็กดูสิว่า ลูกหนี้ของเรามีคนที่ชื่ออนันต์รึเปล่า?”
สิ้นเสียงของแอลฟ่า ลูกน้องคนนั้นก็นึกออกทันทีเมื่อได้ยินชื่อลูกหนี้ เพราะเมื่อหลายวันก่อนอนันต์ติดหนี้บ่อนอยู่สองล้าน อีกทั้งยังคิดจะหนีอีกด้วย
“มีอยู่คนหนึ่งครับนาย มันติดหนี้พนันบอลบ่อนเราอยู่เกือบ ๆ สองล้าน มันตั้งใจเอาเงินปลอมมาหลอกจ่าย และคิดจะชิ่งหนี ตอนนี้คนของเราจับมันไปขังเอาไว้ที่ชั้นใต้ดินครับ” เมื่อแอลฟ่าได้ยินที่ลูกน้องรายงาน เขาจึงหันมามองเม็ดทรายที่ยืนอยู่ด้วยสีหน้าซีดเผือด
“ว่าไง เธอได้ยินที่ลูกน้องฉันบอกแล้วใช่ไหม?” แอลฟ่าไล่สายตามองสำรวจเม็ดทรายตั้งแต่หัวจรดเท้าอีกครั้งพร้อมกับยื่นข้อเสนอออกไปด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์ เพราะรู้ว่ายังไงเธอก็ไม่มีวันทำได้ “ถ้าเธอหาเงินสองล้านมาคืนฉันได้ภายในเจ็ดวันนี้ ฉันจะปล่อยพ่อเธอไป” เมื่อเม็ดทรายได้ยินเธอถึงกับอ่อนแรง เงินมากมายขนาดนั้นเธอจะไปหามาจากไหน อย่าว่าแต่ภายในเจ็ดวันเลย ต่อให้อีกฝ่ายให้เวลาเธอนานเป็นเดือนเป็นปี เธอก็ยังไม่แน่ใจเลยว่าจะหามาได้
“เวลามันน้อยเกินไป ฉันจะไปหาเงินเยอะขนาดนั้นมาจากไหน” เม็ดทรายเอ่ยด้วยน้ำเสียงวิงวอน เพราะเธอตั้งใจว่าจะต้องพาพ่อกลับไปให้ได้ เพื่อให้ท่านได้เข้ารับการรักษาตัวต่อ
ในขณะที่แอลฟ่าครุ่นคิดอยู่นั้น ลูกน้องของเขาได้หันไปมองเม็ดทราย จึงผุดความคิดบางอย่างในหัว
“จริง ๆ หน้าตาเธอก็ไม่ได้ดูแย่นะครับนาย” ลูกน้องของแอลฟ่าเอ่ยเป็นนัย ราวกับว่าอยากจะให้แอลฟ่าได้คล้อยตาม
“งั้นมึงว่า เราควรจะให้ยายนี่ทำงานแบบไหนดีล่ะ?” แอลฟ่าดันร่างของเม็ดทรายที่ยืนหน้าซีดเผือดไปให้กับลูกน้อง
เม็ดทรายมองท่าทางของคนทั้งสองด้วยความงุนงง ไหนจะคำพูดของพวกเขาที่ทำเหมือนเธอเป็นสิ่งของอย่างไรอย่างนั้น
“หน้าตายังดูเด็กอยู่เลย ทำไมนายไม่ลองเปิดประมูลดูล่ะครับ?”
แอลฟ่าไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นกับไอเดียที่ลูกน้องเสนอมา เพราะมันเป็นสิ่งที่เขาเองก็กำลังคิดอยู่เหมือนกัน สายตาคู่คมมองใบหน้าของเม็ดทรายอย่างสำรวจนิ่ง ๆ อยู่แบบนั้น
“นี่พวกคุณกำลังพูดเรื่องอะไรกันอยู่ ฉันไม่เข้าใจ แล้วเรื่องประมูลมันเกี่ยวอะไรกับฉัน?” เม็ดทรายตวัดสายตาดุกลับไปมองทางแอลฟ่า ซึ่งชายหนุ่มเพียงเลิกคิ้วเบา ๆ ขณะที่ยืนกอดอกทิ้งสะโพกลงไปกับโต๊ะทำงาน
“พวกฉันก็กำลังคิดวิธีที่จะปล่อยพ่อเธอออกไปจากที่นี่ ทั้งที่เธอไม่มีเงินสองล้านมาคืนฉันไงล่ะ”
“คุณกำลังจะเสนอข้อแลกเปลี่ยนอย่างนั้นเหรอ” เม็ดทรายถามออกไปอย่างประหม่า
“นับว่ายังฉลาดอยู่ ก็ในเมื่อเธอไม่มีเงินสองล้าน ไม่ใช่สิต้องบอกว่าในเมื่อเธอไม่มีทางหาเงินสองล้านมาคืนฉันได้ เธอก็ต้องทำงานแลก” แอลฟ่ายกยิ้มมุมปาก แววตาเจ้าเล่ห์เผยออกมาอย่างไม่ปิดบัง
“งะ...งานอะไร” คิ้วเรียวสวยค่อย ๆ ขมวดเข้าหากันเมื่อได้ยินสิ่งที่แอลฟ่าพูดออกมา
“หึ งานอะไรงั้นเหรอ งานที่เหมาะกับเธอและฉันได้เงินคืนเร็ว ๆ มันจะมีงานอะไรล่ะ ถ้าไม่ใช่นอนถ่างขาให้ลูกค้าฉันเอาแลกกับเศษเงินในแต่ละครั้ง และเธอต้องรับแขกจนกว่าจะได้เงินครบสองล้านบาท ตอนนั้นเธอถึงจะเป็นอิสระ”
?____________?
