บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 1 คลานเข่า

ตอนที่ 1 คลานเข่า

ณ สถานีตำรวจ

หน้าสถานีตำรวจแห่งหนึ่ง หญิงสาวหลุบสายตามองเอกสารที่ถืออยู่ในมืออีกครั้งด้วยสายตามุ่งมั่น จากนั้นจึงก้าวเข้าไปภายในสถานีตำรวจด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความหวัง และเดินตรงเข้าไปยังโต๊ะร้อยเวรที่ทำหน้าที่รับแจ้งความทันที ครั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าเวรวันนี้เห็นก็ทักทายด้วยความยิ้มแย้ม พร้อมผายมือให้เธอนั่งลงบนเก้าอี้ตรงข้ามเขา

“สวัสดีครับ ติดต่อธุระเรื่องอะไรครับ” เขาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ในขณะที่สายตามองหน้าจอคอมสลับกับหน้าของหญิงสาว

“คือว่า... ฉันมาแจ้งความคนหายค่ะ” เม็ดทรายเอ่ยพร้อมกับแสดงสีหน้าเศร้าใจ ก่อนหน้านี้เธอพยายามตามหาพ่อมาตลอดหลายวัน เธอไปตามทุกที่ที่คิดว่าพ่อเธอจะไป แต่ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนก็ไม่เจอ สุดท้ายเธอจึงเห็นว่าตำรวจคงจะเป็นที่พึ่งสุดท้ายที่จะทำให้เธอได้เจอกับพ่อ

“พอจะมีรูปถ่ายหรืออะไรที่แสดงตัวตนของคนที่หายรึเปล่าครับ แล้วเขาเป็นอะไรกับคุณ” ตำรวจนายนั้นเอ่ยจบ เม็ดทรายจึงหยิบเอกสารในกระเป๋ายื่นให้เขา ภายในเอกสารมีทั้งรูปถ่ายและข้อมูลส่วนตัวพ่อของเธอทุกอย่าง

“เขาเป็นพ่อของฉันเองค่ะ” เธอเอ่ยตอบ ในขณะที่ตำรวจนายนั้นเปิดเอกสารตรวจดู

“คุณคิดว่า สถานที่สุดท้ายที่เขาไปคือที่ไหนครับ พอจะมีข้อมูลอะไรแบบนี้ไหม เพราะในการตามหาคนหาย แค่รูปถ่ายกับประวัติมันยังไม่เพียงพอครับ ทางเราจำเป็นต้องมีเบาะแสอื่น ๆ ประกอบด้วย อย่างเช่นสถานที่ที่ไปบ่อย หรือสิ่งที่ชอบทำ” นายตำรวจเอ่ยถามเม็ดทรายอีกครั้ง

คำถามนั้นทำเอาเม็ดทรายนิ่งคิดชั่วครู่ หากถามว่าเธอมีสถานที่ที่สงสัยหรือไม่ แน่นอนว่ามี และเธอพยายามจะเข้าไปที่นั่นแล้ว แต่เธอไม่สามารถเข้าได้ และเธอคิดว่าพ่อเธอต้องหายไปจากที่นั่นแน่ ๆ

“มีค่ะ” เธอกำมือแน่นก่อนจะเล่าสิ่งที่สงสัยให้ตำรวจนายนั้นฟัง

“คืออย่างนี้ค่ะคุณตำรวจ ปกติแล้วพ่อของฉันท่านชอบเข้าบ่อนและเล่นพนันมากค่ะ แต่มาช่วงหลัง ๆ หลายครั้งท่านกลับบ้านมาพร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยฟกช้ำราวกับมีคนทำร้ายมา พอฉันเค้นถาม ท่านก็บอกว่า โดนเจ้าหนี้ที่บ่อนทวงเงิน ฉันพยายามเตือนท่านเรื่องเข้าบ่อนหลายครั้ง แต่ท่านก็ไม่ฟัง จนมาเกิดเรื่องหายตัวไปนี่ละค่ะ” เม็ดทรายเอ่ยจบ ตำรวจนายนั้นก็จับปลายคางครุ่นคิด คดีแบบนี้มีมาให้เห็นบ่อย ๆ เพราะส่วนมากพวกนักพนันมักจะกู้ยืมเงินมาเล่น พอไม่มีคืนก็มักจะถูกทำร้ายบ้าง ถูกข่มขู่บ้าง บางรายก็อาจโชคร้ายถึงกับเสียชีวิตก็มีให้เห็นมาเยอะแล้ว

“แล้วบ่อนที่พ่อคุณไปเล่นชื่ออะไรครับ หรือชื่อเจ้าของบ่อนก็ได้ครับ?” นายตำรวจมองเม็ดทรายหลังจากเอ่ยถาม เธอนิ่งคิดไปชั่วครู่อย่างชั่งใจ หลายวันนี้เธอแอบตามสืบเรื่องราวของบ่อนนั้นรวมถึงเจ้าของบ่อนนั่นด้วย แต่ข้อมูลที่เธอมีก็ไม่ได้มากพออะไร เธอถึงต้องมาพึ่งตำรวจแบบนี้

“แอลฟ่า ค่ะ แอลฟ่าจาก KD818” สิ้นคำตอบของเม็ดทราย สีหน้าของตำรวจนายนั้นก็ดูเปลี่ยนไปทันที

“เรื่องนี้ผมคงช่วยคุณไม่ได้จริง ๆ คุณกลับไปเถอะ” 


จู่ ๆ ตำรวจนายนั้นก็เอ่ยปัดความช่วยเหลือ ทั้งที่นี่เป็นหน้าที่ของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ราวกับว่ากำลังกลัวอะไรบางอย่าง

“นี่คุณเป็นตำรวจนะ ฉันมาแจ้งความ แต่กลับปัดความรับผิดชอบแบบนี้น่ะเหรอ นี่เหรอที่เขาบอกว่าตำรวจเป็นที่พึ่งของประชาชน หึ”

“ระวังจะโดนข้อหาหมิ่นประมาทเจ้าหน้าที่นะหนู อีกอย่างเรื่องนี้ตำรวจเข้าไปยุ่งไม่ได้หรอก พ่อหนูเดินเข้าบ่อนไปเล่นพนันเองนะ หนูน่ะกลับไปตั้งใจเรียนและใช้ชีวิตของตัวเองให้ดีจะดีกว่า อย่าเอาตัวเองไปพัวพันกับเรื่องแบบนี้เลย บางทีตอนนี้พ่อหนูอาจจะรออยู่ที่บ้านแล้วก็ได้” ตำรวจนายนั้นพูดอย่างเป็นกลาง แม้จะคิดอยู่ว่าที่พ่อของเด็กสาวตรงหน้าหายไปบางทีอาจจะถูกเจ้าของบ่อนสั่งเก็บไปแล้วก็ได้ หรือไม่บางทีที่พ่อของเด็กสาวหายไป อาจจะแค่เล่นเพลินเพราะมือขึ้น เลยไม่กลับบ้านกลับช่อง อะไรมันก็เป็นไปได้ทั้งหมด

และที่สำคัญมีคำสั่งไม่ให้ตำรวจอย่างพวกเขายื่นมือเข้าไปยุ่งกับแอลฟ่าเด็ดขาด เพราะใครต่างก็รู้ดีว่าชื่อนี้มีอิทธิพลมากแค่ไหน

“ไม่ได้นะคะ เขาเป็นพ่อฉัน... คุณตำรวจได้โปรดช่วยฉันหน่อยเถอะนะคะ ขอร้องละค่ะคุณตำรวจ” เม็ดทรายเอ่ยวิงวอนน้ำเสียงสั่นเครือ ทว่าตำรวจนายนั้นก็ยังคงปฏิเสธและไม่รับคำร้องแจ้งความของเธออยู่ดี

“ผมขอตัวก่อน” นายตำรวจเอ่ยพลางลุกจากโต๊ะ

“เดี๋ยวค่ะ ๆ เดี๋ยวสิ” ตำรวจนายนั้นหยุดแล้วหันมามองเธอตามเสียงเรียกรั้งนั้นอีกครั้ง เพื่อรอฟังในสิ่งที่เด็กสาวตรงหน้าจะพูด

“ฉันขอถามหน่อยได้ไหมคะว่า ฉันจะเจอคนที่ชื่อแอลฟ่าได้ที่ไหน ฉันจะไปตามหาพ่อของฉันเอง” น้ำเสียงของเม็ดทรายสั่นเครือ เธอเข้าใจที่ตำรวจจะไม่ช่วยตามหาแม้จะเสียใจอยู่ลึก ๆ ก็ตาม 


แต่ข้อมูลเพียงแค่นี้ตำรวจน่าจะบอกเธอได้

ขณะเดียวกันตำรวจนายนั้นที่แม้จะไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยว 


แต่ก็รู้สึกสงสารเธออยู่ไม่น้อย ก่อนจะตอบออกไปพร้อมกับสีหน้าลำบากใจเล็กน้อย แล้วเดินออกไปทันที

“ผับ KD818 แต่ทางที่ดีหนูอย่าไปที่นั่นจะดีกว่านะ!”

ณ ผับ KD818

เวลาสี่ทุ่มตรง

“ถึงแล้วหนู สองร้อยเจ็ดบาท” รถแท็กซี่สีเหลืองเขียวขับแล่นมาจอดหน้าผับขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในยามดึก เสียงเพลงจากด้านในดังสนั่นเล็ดลอดออกมาจนแทบจะถึงถนนภายนอก หน้าประตูมีการ์ดสวมสูทดำยืนอยู่กว่าสิบคน เม็ดทรายหันไปมองคนเหล่านั้นผ่านกระจกรถแท็กซี่ก่อนจะรีบล้วงหยิบเงินให้ลุงคนขับ แล้วลงจากรถเดินตรงไปที่ประตู

แต่ในตอนที่เธอกำลังเดินตรงผ่านประตูเข้าไปผ่านในผับนั้น

“เดี๋ยว... บัตร” การ์ดคนหนึ่งเอ่ยพร้อมกับยกมือขวางจนเม็ดทรายต้องหยุด

“คะ?”

“บัตรประชาชน อยู่ไหน?” การ์ดคนหนึ่งเอาไฟฉายส่องหน้าของเธอพร้อมเอ่ยถามเสียงเข้ม เม็ดทรายจึงล้วงบัตรประชาชนในกระเป๋ายื่นส่งไปให้เขาตรวจดู

“ถ้าอายุไม่ถึง 18 เข้าไม่ได้เชิญ” การ์ดหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงเข้มขรึม มันเป็นกฎพื้นฐานอยู่แล้ว และพวกเขาก็ไม่อาจปล่อยผ่านเข้าไปได้ ก่อนจะยื่นบัตรคืนให้กับเม็ดทราย

“คะ คือ... ฉันมาหาคุณแอลฟ่าค่ะ” ทันทีที่เม็ดทรายเอ่ยชื่อของเขาคนนั้น การ์ดทั้งสองคนก็มีสีหน้าก็เปลี่ยนไป อีกทั้งยังเอามือที่ขวางเธอออก

“พาเข้าไปให้นาย” การ์ดคนนั้นหันไปเอ่ยกับเพื่อนอีกคนที่ยืนอยู่

“ตามมาสาวน้อย” เขาเอ่ยพร้อมกับเดินนำเม็ดทรายเข้าไปภายใน เสียงเพลงของที่นี่ดังมาก จนเม็ดทรายแทบจะไม่ได้ยินอะไร เธอรีบสาวเท้าเดินตามการ์ดคนนั้น ซึ่งเดินนำเธอขึ้นไปยังชั้นสามของตัวผับ

กระทั่งพวกเขาเดินมาจนถึงห้องห้องหนึ่ง ประตูก็เปิดให้เม็ดทรายเข้าไป หญิงสาวกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ซึ่งภายในห้องนี้ตรงหน้าเธอเป็นโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ ด้านข้างมีโต๊ะสนุกเกอร์ โซฟายาวสีแดงสด ส่วนอีกฝั่งมีเตียงนอนขนาดคิงไซซ์ ดูเหมือนจะเป็นห้องพักของเจ้าของผับอะไรทำนองนั้น

“นั่งรอตรงนี้ก่อน” การ์ดคนนั้นเอ่ยบอกเม็ดทรายสั้น ๆ 


แล้วเดินกลับออกไปจากห้อง ปล่อยให้เธอนั่งอยู่ในห้องกว้างเงียบ ๆ เพียงลำพัง สายตาคู่สวยหันมองบรรยากาศโดยรอบห้องทำงานอีกครั้ง ก่อนที่เธอจะลุกเดินตรงไปยังโต๊ะสนุ๊ก พลางใช้มือแตะสัมผัสขอบโต๊ะเบา ๆ เพราะรู้สึกเบื่อที่จะนั่งรอเงียบ ๆ

“ฉันไม่ชอบให้ใครมาแตะต้องของของฉันก่อนได้รับอนุญาต” เสียงพูดจากทางด้านหลัง ทำให้เม็ดทรายสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ เพราะเธอไม่ได้ยินเสียงเปิดประตูห้อง จึงไม่รู้ว่าเขาเข้ามาตอนไหน

“ขอโทษด้วยค่ะ” เธอรีบดึงมือกลับก่อนจะเดินกลับไปนั่งลงบนโซฟา โดยไม่กล้าที่จะมองหน้าเจ้าของน้ำเสียงหนาเมื่อครู่

“มาถึงเร็วดีนี่” คำพูดของแอลฟ่าทำให้เม็ดทรายงุนงงในความหมายอยู่ไม่น้อย แต่เธอก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร

“ค่ะ” เธอตอบสั้นๆ นั่นยิ่งทำให้แอลฟ่าเข้าใจผิด เขาเดินเข้าไปหาเม็ดทราย พร้อมกับใช้ปลายนิ้วแตะปลายคางเธอเงยหน้าขึ้นเพื่อมองสำรวจ

“หน้าตาไม่เลว” แอลฟ่าดูพึงพอใจกับใบหน้าเม็ดทรายไม่น้อย เพราะพวกสาวไซด์ไลน์ที่พามาก่อนหน้านี้หน้าตาก็ไม่ได้ดีอะไรมากหากเทียบกับเม็ดทราย

“รีบทำงานของเธอให้เสร็จ ๆ ซะสิ” แอลฟ่าเอ่ยพลางงอปลายนิ้วกระดิกเรียกเธอให้เดินเข้าไปหา พร้อมกับนั่งลงบนเก้าอี้ตรงโต๊ะทำงานแถมยังอ้าขากว้าง

“งาน?” เม็ดทรายขมวดคิ้วมองอย่างไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาพูด

“เร็วสิ ฉันไม่ได้มีเวลานั่งรอเธอทั้งคืนหรอกนะ” แอลฟ่าเอ่ยถามพร้อมกับจะลุกเดินเข้าไปหาเม็ดทราย จนเธอขยับตัวจนติดผนังโซฟา

“คุณจะทำอะไรคะ” เม็ดทรายเอ่ยถามเสียงสั่น เมื่อเห็น


แอลฟ่ารูดซิปกางเกงของตัวเองต่อหน้าเธอ

“หยุดเล่นบทใสซื่อเถอะน่า คลานมาอมให้มันจบ ๆ ไปสิ” 


เมื่อได้ยินแบบนั้นเม็ดทรายยิ่งงุนงงเข้าไปใหญ่

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel