เมียสารวัตร 2 - แต่งงาน
เรือนหลังใหญ่เกิดความวุ่นวายขึ้นเมื่อลูกสาวคนเล็กหายออกจากบ้านไปทั้งคืนจรดเช้า เท่านั้นไม่พอ คนสนิทของลูกสาวยังคลานเข่าเข้ามาทั้งน้ำตา แล้วสารภาพออกมาตรง ๆ ว่าเมื่อคืนทั้งคู่พากันไปเที่ยวในเมืองโดยที่ไม่ได้บอกกล่าวใคร
และที่เลวร้ายกว่านั้น หนูนาหายตัวไปทั้ง ๆ ที่โดนยาปลุกกำหนัดจนแทบสิ้นสติ
“พ่อราชันจ๋า แม่ใบบัวจ๋า พี่ช้างจ๋า ปื๊ดขอโทษ ฮือ ปื๊ดผิดไปแล้ว ฮึก ปื๊ดพยายามห้ามแล้ว แต่ แต่ว่า ฮึก”
ราชันมองเด็กหนุ่มด้วยความเข้าใจ ลูกของเขา เขาเลี้ยงมากับมือ เหตุใดจึงจะไม่รู้ว่าหนูนานั้นดื้อด้านเพียงใด
หนูนาเป็นเด็กที่ดื้อเกินหญิง เพราะเป็นทั้งลูกสาวและลูกคนเล็กจึงถูกเลี้ยงดูอย่างตามใจทั้งจากแม่และพี่ชาย ไม่ว่าจะอยากได้อะไรก็ต้องได้ ราชันเองก็ไม่กล้าต่อว่าใคร เพราะเขาเองก็ตามใจหนูนาไม่น้อย
“ทำอย่างไรดี”
ใบบัวสะอื้นไห้กับอกผัวโดยที่มีราชันคอยลูบหลังให้กำลังใจ เธอจะไม่กังวลเลยหากหนูนามีสติครบถ้วน เพราะฝีมือการต่อยตีของลูกสาวเป็นรองเพียงลูกชายเท่านั้น แต่ในยามที่ถูกยานรกครอบงำสติ หนูนาไม่มีทางต้านทานมันได้ เธอได้แต่ภาวนาให้ลูกสาวโชคดี ไม่ถูกย่ำยีจนย่อยยับ
หากเป็นเช่นนั้นจริงใบบัวคงโทษตัวเองไปตลอดชีวิต
“แม่จ๋า อย่าร้องไห้เลยนะ” ช้างปลอบแม่อีกคน ในยามนี้ใบบัวอ่อนแอกว่าใคร แต่ไม่ใช่ว่าทั้งราชันและช้างจะไม่กลัว “หนูให้ไอ้ดำกับไอ้แดงออกตามหาแล้ว อีกไม่นานคงเจอ...”
“พี่ช้างงงงงง พี่ช้างงงงง!!!”
ไม่ทันขาดคำ เจ้าแดงและเจ้าดำ ฝาแฝดวัยยี่สิบสองปีลูกน้องคนสนิทของช้างก็วิ่งหน้าตั้งขึ้นเรือนมา
“ว่าอย่างไร” ช้างลุกขึ้นไปหาทั้งคู่ทันที “เจอน้องกูหรือไม่”
“ไม่เจอจ้ะ”
“อะไรนะ!!” ช้างกระทืบเรือนเสียงดัง เพราะเขาตัวใหญ่มาก ทุกคนจึงตกใจกับเสียงดังกัมปนาทนั้น “หากไม่เจอแล้วจะเสนอหน้ากลับมาทำไม!! ไป! ไปตามหาน้องกูให้เจอ!!”
“ใจเย็นก่อนนะพี่ช้าง ฉันไม่เจอหนูนาก็จริง แต่มีชาวบ้านเห็นหญิงลักษณะคล้ายหนูนาที่... ดำมึงบอกพี่ช้างไปสิ” แดงไม่กล้าพูดต่อ มันส่งบทไปให้ฝาแฝดที่หน้าตาตื่น เหงื่อไหลโซมกาย
“ที่ใดไอ้ดำ!!!”
“ที่...” ดำอึกอัก ใบหน้าซีดเผือด “ที่ซ่องจ้ะ”
“ไม่จริง!!”
.
.
มันเป็นเรื่องจริง
ช้างพยายามระงับอารมณ์โทสะไว้อย่างสุดความสามารถ ดวงตาดุเหมือนพ่อมองไปรอบ ๆ เริ่มจากแม่ใบบัวที่กำลังโอบกอดร่างน้อย ๆ ของหนูนาพร้อมกับสะอื้นไห้ มีปื๊ดนั่งร้องไห้ซบหน้ากับตักหนูนาและแม่ใบบัว พ่อราชันที่นิ่งเงียบจนน่ากลัว สารวัตรศิลาที่กำลังใช้น้ำแข็งประคบมุมปาก และหนูนาที่เอาแต่บอกแม่ว่าไม่เป็นไร
“ไม่เป็นไรได้อย่างไร แม่เห็น...”
“แม่จ๋าอย่าพูด” เป็นช้างที่กัดฟันห้ามแม่เสียงเครียด “หนูไม่อยากฟัง ถ้าไม่อยากให้หนูต่อยตำรวจอีกก็อย่าพูด”
“อย่างไรก็ต้องพูด” ทว่า เมื่อราชันยืนยันแบบนั้นช้างที่มีท่าทีไม่พอใจก็จำต้องยอมลง
ในบ้านใบบัวเป็นใหญ่ ส่วนทนายคนเก่งนั้นเป็นเพียงผู้ตามและให้เมียตัดสินใจเรื่องราวต่าง ๆ ก่อนเสมอ แต่เมื่อใดที่ใบบัวต้องการที่พึ่ง ราชันจะไม่ต่างอะไรจากราชสีห์ตัวใหญ่ เขาจะปกป้องและคุ้มครองครัวจากสิ่งเลวร้ายภายนอกด้วยชีวิต ราชันน่ากลัว กลิ่นอายจอมโจรเก่ายังคงอยู่ แม้แต่ช้างที่สนิทกับพ่อมากยังไม่กล้าขัดใจ
“เล่าให้ฉันฟังสารวัตร เมื่อคืนมันเกิดเรื่องอะไรขึ้น”
“เมื่อคืนผมไปเข้าห้องน้ำแล้วเจอหนูนา เธอมีอาการไม่ค่อยดี พยายามลวนลามปลุกปล้ำผม...”
“ไอ้สารวัตรศิลา!!”
“ช้าง ใจเย็นแล้วนั่งลง ส่วนสารวัตรพูดต่อเถิด”
“ครับ เธอพยายามลวนลามผม ผมจะพาเธอไปส่งที่หมู่บ้าน แต่ตอนนั้นทุกอย่างมันไม่เป็นใจ ผมจึงตัดสินใจเช่าห้องของที่นี่ หวังจะรอให้อาการของเธอดีขึ้น แต่เพราะฤทธิ์ยา พวกเราจึง...”
"ที่ฉันรู้มีแค่หนูนาที่โดนยาไม่ใช่หรือ แล้วเหตุใดสารวัตรจึงไม่ขัดขืน" ราชันถามอย่างใจเย็น
"ผมขอโทษครับ ผมผิดเอง"
“พอ! พอกันที!! พ่อ หนูไม่อยากฟังแล้ว แค่นี้น้องก็กลัวจนตัวสั่นแล้วพ่อไม่เห็นหรือ”
หนูนาที่นั่งเงียบมานานเลิกคิ้วขึ้นสูง กลัวจนตัวสั่นอะไรของพี่ช้าง เธอไม่ได้รู้สึกแบบนั้นเลยสักนิด
เรื่องมันผ่านมาแล้วจะให้ฟูมฟายก็ไม่ได้อะไร ไม่ใช่ไม่เสียดายความสาวความบริสุทธิ์ที่สู้ถนอมมายี่สิบปี ทว่าหนูนาไม่คิดว่าเยื่อบาง ๆ นั่นจะสำคัญอะไรกับชีวิตมากมาย
เธอมีเพื่อนเป็นโสเภณี มีเพื่อนที่ออกเรือนตั้งแต่สิบห้าแล้วถูกผัวทิ้ง มีเพื่อนที่ครองพรหมจรรย์จนถึงตอนนี้ แม้จะมีชีวิตที่แตกต่างแต่ก็ไม่ได้ทำให้ใครดูไร้ค่า ทุกคนก็ยังคงเป็นมนุษย์เหมือน ๆ กัน
“แล้วจะทำอย่างไร”
“ผมจะรับผิดชอบครับ ผมยินดีแต่งงาน...”
“ไม่เอา! ไม่แต่ง!” หนูนาลุกขึ้นยืนทันที เรื่องอื่นเธอทนฟังได้ แต่พอตำรวจตรงหน้าเสนอตัวว่าจะรับผิดชอบเธอทนไม่ได้ “เรื่องมันผ่านมาแล้วก็ให้มันแล้วไป”
“ได้อย่างไร!”
“หนูนา ค่อย ๆ คิดนะลูก”
“พ่อตามใจลูก ชีวิตของลูก ลูกเลือกเองได้”
หนูนายิ้มกว้างเมื่อพ่อตามใจ พ่อเป็นคนมีเหตุผล ไม่เคยบังคับลูกหรือเมีย รับฟังทุกคนอย่างใจเย็นเสมอ
อาจจะใจเย็นที่สุดในบ้านด้วยซ้ำ
ดังนั้นเมื่อแม่เล่าให้ฟังว่าพ่อเคยเป็นโจร ใจร้อนเป็นไฟมาก่อน ทั้งยังเคยทำร้ายจิตใจแม่สารพัด หนูนาจึงไม่เคยเชื่อเลยสักครั้ง เพราะตั้งแต่จำความได้เธอเห็นแต่พ่อที่ใจเย็นเป็นน้ำ และรักแม่ยิ่งกว่าอะไร ยุงสักตัวยังไม่ให้กัด แบบนี้จะเคยทำร้ายแม่ได้อย่างไร
“แล้วถ้าเกิดว่าหนูนาท้อง...”
“ท้องงั้นหรือ!” ช้างลุกขึ้นตะโกนเสียงดัง “มึงไม่ได้ป้องกันหรือไอ้สารวัตรศิลา!!”
เสียงที่ดังลั่นเพราะความโกรธเริ่มทำให้คนหันมามองด้วยความสนใจ จากที่ตอนแรกนั่งเงี่ยหูฟังเงียบ ๆ กลายเป็นมองมาตรง ๆ อย่างสอดรู้ และออกความคิดเห็นที่ไม่มีใครต้องการอย่างออกรส
“ท้องหรือ ท้องก่อนแต่งน่าอับอายนัก”
“ลูกทนายท้องก่อนแต่งหรือ”
“แบบนี้พ่อกับแม่จะเอาหน้าไปไว้ที่ใด พ่อเป็นถึงทนาย แม่เป็นถึงหมอยาสมุนไพร แค่มีลูกคนโตเป็นนักเลงก็แย่พอทนแล้ว นี่ลูกคนเล็กยังมาท้องก่อนแต่งอีก”
“ช้าง นั่งลง” ราชันบอกลูกชายเสียงเรียบ ครานี้ช้างยอมทำตามแต่โดยดี เพราะเริ่มรู้แล้วว่าอารมณ์ร้อน ๆ ของตนเองกำลังทำให้เรื่องทุกอย่างมันบานปลายและย่ำแย่ลง “หากท้องก็ไม่เป็นไร หลานฉัน ฉันเลี้ยงได้ สารวัตรไม่ต้องกังวลไป”
“แต่เขาก็เป็นลูกของผมนะครับทนาย ทนายก็มีลูก คงรู้ดีว่าหากถูกพรากลูกไปมันจะเจ็บปวดเพียงใด”
“แต่ลูกสาวฉันไม่อยากแต่งงาน”
“อย่างนั้นหากหนูนาตั้งท้องขึ้นมาจริง ๆ ผมจะต้องได้เป็นพ่อของเด็กตามกฎหมาย และมีสิทธิ์เลี้ยงดูลูกไม่ต่างจากหนูนา ทนายรู้ดีว่าหากฟ้องร้องกันผมก็มีโอกาสชนะสูง” ศิลาไม่ยอมแพ้ เขาสบตาดุที่ลุกเป็นไฟ ทนายราชันภายนอกดูใจเย็น ทว่าภายในกำลังเดือดดาลได้ที่ ไม่มีใครรู้นอกจากเขา
นับว่าควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ดี ราชันไม่แสดงความโกรธเกรี้ยวให้ลูกและภรรยาเห็น แต่จงใจให้ศิลาเห็นเพียงผู้เดียว หวังจะกดข่มคนที่อายุน้อยกว่าให้ยอมศิโรราบ
แต่ราชันคงไม่รู้ว่าศิลาไม่ใช่ลูกไก่ในกำมือใคร หากเขาไม่มีความสามารถจริง ๆ คงไม่ได้เป็นสารวัตรตั้งแต่อายุยังไม่ถึงสามสิบเช่นนี้
ราชันจ้องเข้าไปในดวงตาสีสนิม สารวัตรศิลาไม่มีท่าทีเกรงกลัวเขาแม้แต่น้อย สมแล้วที่ใคร ๆ ต่างก็พากันเกรงกลัวและเคารพทั้ง ๆ ที่เข้ามาทำงานในอำเภอนี้ได้เพียงครึ่งปี
ศิลาเองก็จ้องลึกเข้าไปในดวงตาสีเข้ม ราชันแม้จะอายุใกล้หกสิบแต่ก็ยังเต็มไปด้วยความน่าเกรงขาม ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าในวัยหนุ่มนั้นราชันร้ายกาจเพียงใด แม้จะเกิดไม่ทันแต่ศิลาก็ได้ยินชื่อเสียงสมัยหนุ่ม ๆ ของทนายคนนี้มาบ้าง
จอมโจรที่ไม่เคยมีใครจับได้ ปล้นคนชั่วแจกจ่ายคนจน ติดคุกเพียงสามปีก็พ้นโทษเพราะเป็นนักโทษชั้นดี เรียนจบปริญญาโท เป็นทนายอาสาไม่รับเงินแม้แต่แดงเดียว
น่านับถือ
“หนูนาอาจจะไม่ท้องก็ได้” ใบบัวเอ่ยขึ้นบ้าง หลังจากปล่อยให้สองหนุ่มฟาดฟันกันทางสายตานานหลายอึดใจ เธอไม่อยากให้ลูกต้องเครียด แค่เรื่องเมื่อคืนก็ทำร้ายจิตใจดวงน้อย ๆ เกินพอแล้ว
“น้องกูไม่อยากแต่ง มึงอย่าคิดเอาเรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง ๆ มาผูกมัดน้องกู”
“ผมไม่ได้ต้องการผูกมัด ผมไม่มีปัญหาหากหนูนาไม่ต้องการแต่งงาน แต่หากตั้งท้องขึ้นมาจริง ๆ ลูกก็ต้องเป็นของผมเหมือนกัน”
“คนนะไม่ใช่สิ่งของ!”
“เพราะไม่ใช่สิ่งของผมจึงไม่ต้องการทอดทิ้ง คุณเกิดมาในครอบครัวที่มีพ่อแม่พร้อมหน้าย่อมรู้ดีว่าการมีทั้งพ่อทั้งแม่มันอบอุ่นแค่ไหน”
“แต่...”
“ช้าง ให้น้องตัดสินใจเอง” ราชันตัดบท เพราะยิ่งพูด สารวัตรคนนี้ก็ยิ่งมีเหตุผลมารองรับจนเขาจนมุม “หนูนา ไม่ว่าลูกจะตัดสินใจอย่างไรพ่อก็จะอยู่เคียงข้างเสมอ”
“หนูนาอยากคุยกับเขาเพียงลำพัง”
“ได้สิ”
“ให้พี่อยู่เป็นเพื่อนดีกว่าหนูนา หากมันทำอะไรพี่จะได้จัดการให้”
“ไม่เป็นไรพี่ช้าง หนูนาอยู่ได้ แค่เดี๋ยวเดียวเท่านั้น”
“ช้าง หนูนาล้มผู้ชายตัวใหญ่ได้นะลูก เผื่อว่าจะลืม”
ช้างยอมพยักหน้ารับอย่างจำใจ ก็รู้ว่าน้องเก่ง แต่เขาก็ยังเป็นห่วงอยู่ดี
ถึงเก่งแค่ไหนแต่ก็ถูกไอ้ตำรวจหน้าหยกเชยชมมาแล้ว แค่คิดก็เจ็บใจ ช้างอยากจะต่อยศิลาอีกสักสิบครั้งให้หน้ายับจนหมอไม่รับเย็บไปเลย
หลังจากทุกคนทยอยออกไปรอนอกซ่องหนูนาเดินนำศิลากลับเข้าไปในห้อง ประตูปิดลงกั้นคนผู้คนที่สอดรู้สอดเห็นออกไป ดวงตากวางเหมือนแม่มองสภาพที่นอนที่ยับย่น คราบอะไรต่อมิอะไรเต็มไปหมด
เมื่อคืนมันเกิดขึ้นจริง ๆ ไม่ใช่ความฝัน ไม่มีเรื่องหักมุม เพราะเธอยังจำได้อยู่เลยว่ารู้สึกอย่างไรบ้าง
ที่จริงครั้งแรก สอง สาม และสี่ของเธอไม่ได้แย่ ทั้งยังสุขสมดี
หนูนาไม่ได้รังเกียจเลยเพราะเมื่อคืนเธอมีความสุขมาก ติดอย่างเดียวที่คนตรงหน้าเป็นตำรวจ ตำรวจที่เธอเกลียดมาตลอด
เห้อ มีผัวเป็นโจรยังดีเสียกว่า
“ฉันเกลียดตำรวจ ฉันไม่อยากแต่งงานกับนาย”
ศิลาเงียบฟัง เขารู้อยู่แล้วว่าหนูนาเกลียดตำรวจ เพราะเธอชอบหาเรื่องให้ตำรวจปวดหัวเป็นประจำ เขาเองก็เจอฤทธิ์เดชมานับไม่ถ้วน
“ตำรวจมีแต่พวกเห็นแก่ตัว นิสัยไม่ดี ไม่เคยช่วยเหลือประชาชน เป็นหมารับใช้คนใหญ่คนโต น่ารังเกียจ”
“คุณมีอคติเกินไป ไม่ใช่ทุกคนที่เป็นแบบนั้น”
“แต่ก็มีใช่ไหมล่ะ” หนูนาสวนกลับ สารวัตรหนุ่มเงียบไป ไร้ซึ่งคำตอบเพราะมันเป็นเรื่องจริง “หึ เถียงไม่ออกสินะ”
“แต่ผมไม่ได้เป็นแบบที่คุณกล่าวหา”
“แค่พูดใครก็พูดได้”
ศิลาถอนหายใจ เขาเหนื่อยจะแก้ต่าง เพราะคนตรงหน้าไม่คิดจะรับฟังและเปิดใจ
“แต่งก็ได้”
“หืม?” ศิลามองคนตัวเล็กอย่างไม่ไว้ใจ ไม่อยากจะเชื่อว่าหนูนาจะยอมแต่งงานกับเขาง่าย ๆ ไหนว่าเกลียดกันนักหนา
“ฉันจะแต่งงานกับนาย แต่...” ดวงตากวางฉายแววเจ้าเล่ห์ สารวัตรหนุ่มคิดไว้แล้วว่าหนูนาคงไม่ได้ยอมอย่างไม่มีเงื่อนไข “ถ้าฉันไม่ท้อง เราจะต้องหย่ากันทันที”
“การแต่งงานไม่ใช่เรื่องล้อเล่น”
“ฉันก็ไม่ได้ล้อเล่น ที่ฉันยอมแต่งก็เพราะไม่อยากเป็นขี้ปากชาวบ้าน และนายก็กลัวว่าฉันจะท้องเสียเหลือเกิน ดังนั้นถ้าฉันไม่ได้ท้องอย่างที่นายคิดเราก็ต้องหย่าขาดกัน อีกอย่าง เมื่อกี้นายก็เห็นว่าชาวบ้านนินทาพ่อแม่ฉันว่าอะไรบ้าง เพื่อรักษาหน้าตาของพ่อแม่ฉันจะแต่งงานกับนาย แต่แค่ช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น”
ที่แท้ก็ยอมแต่งงานเพื่อล้างมลทินให้ครอบครัว ศิลารู้ว่าตนเองกำลังตกเป็นเครื่องมือให้หนูนาใช้ล้างคำครหาของชาวบ้าน และเมื่อไหร่ที่หมดประโยชน์เขาก็จะถูกเขี่ยทิ้งทันที
“แล้วถ้าคุณท้อง?”
“ไม่ท้องหรอก” หนูนายกยิ้มเย้ยหยัน “นายไม่ได้น้ำยาดีขนาดนั้น คุณศาลาวัด”