เมียสวมสิมทธิ์

286.0K · จบแล้ว
พราวนภา
88
บท
41.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

ปีเตอร์ เจย์ลาสโคนี เจ้าพ่อค้าเพชรผู้ยิ่งใหญ่ของโลก แทบจะกลายร่างเป็นมังกรพ่นไฟ เพราะถูกลูบคมจากลูกหนี้ตัวแสบ อยากได้พี่สาวมาทำเมียแต่อีกฝ่ายกลับหัวหมอ ‘ยัดเยียด’ น้องสาวมาจดทะเบียนสมรสแทน แถมยัยสาวปากกล้าอย่างแม่ ‘เมียสวมสิทธิ์’ ยังมีประวัติร่านร้อนเหม็นเน่าคาวคลุ้งไปทั่วทั้งสวีเดน จนได้ฉายาว่า ‘แม่สาวน้อยร้อยเตียง’ แล้วอย่างนี้จะให้เขาเอาทำเมียและแม่ของลูกได้อย่างไรไหว อย่างมากเธอก็เป็นได้แค่ ‘ทาสบำเรอ’ บนเตียง! มีหน้าที่ ‘ดีดดิ้น’ และ ‘แอ่นหยัด’ ให้เขาหายอยาก!วาเนสซ่า ปิเอโร่ สาวสวยเซ็กซี่ขยี้ใจที่ผู้ชายทั้งโลกอยากจับขึ้นเตียง เธอไม่นึกเลยว่าชั่วชีวิตนี้จะต้องมาสวมบท ‘แม่สาวยั่วสวาท’ กับสามีที่ได้มาจากการ ‘แต่งงานล้างหนี้’ ทั้งที่อายจนแทบจะแทรกแผ่นดินหนี แต่เพราะอยากได้ทรัพย์สมบัติที่เป็นของตระกูลปิเอโร่คืน ทำให้เธอจำต้องเหยียบความอายให้จมดินมลายสิ้นไปกับปฐพี แล้วปฏิบัติการ ‘ยั่วแบบไร้ขีดจำกัด’ เพื่อลากสามีจอมโอหังและมีวาจาเป็นอาวุธขึ้นเตียงทำลูก!“จะมายืนเซ่อปั้นหน้าเอ๋ออยู่ทำไม อยากให้ฉัน ‘ฟาด’ มากนักหรือไง” ถ้อยคำแสนหยาบคายผสานกับนัยน์ตาดูหมิ่น ทำให้วาเนสซ่าหลุดออกจากภวังค์หวามได้อย่างชะงัด“หยาบคาย ผู้ชายปากร้าย!” เจ้าของใบหน้าเห่อร้อนตวาดแว้ดด้วยความขุ่นใจระคนอับอาย ก่อนที่รังสีความร้อนเหล่านั้นจะลามเลียไปถึงใบหูน้อยทั้งสองข้าง‘ผู้ชายอะไร พูดจาหยาบโลนมาได้ไม่อายปาก ไม่สมกับที่เป็นผู้ดีตระกูลดังเลยสักนิด’ หญิงสาวแอบค่อนขอดในใจด้วยความหมั่นไส้“ถ้าด่าฉันกลบเกลื่อนความอายเสร็จแล้ว…ก็ไสหัวไปซะ และถ้าเธอ ‘อยาก’ มากนักก็รอให้ฉันมีอารมณ์ก่อนก็แล้วกัน เพราะถ้าถึงเวลานั้น ฉันจะสงเคราะห์แม่สาวล่าเซ็กส์อย่างเธอให้ค้างอยู่บนสวรรค์ชั้นฟ้าจนหาทางลงไม่เจอ สักเจ็ดวันเจ็ดคืนเชียวละ” หลังจากฉุนกึกปีเตอร์ก็เค้นเสียงกระด้างใส่หน้าสวยเฉี่ยว คำพูดหยามหมิ่นทำให้วาเนสซ่าอยากจะกรี๊ดออกมาดังๆ ทว่าทำอย่างนั้นเขาก็ยิ่งจะได้ใจ แบบนี้มันต้องตาต่อตาฟันต่อฟัน“วู้…แค่คิด เมียก็ตื่นเต้นจนตัวสั่นแล้วคุณสามีขา…” แม่เจ้าประคุณแสร้งเผยอริมฝีปากน่าจูบลากเสียงยาวทิ้งท้าย พร้อมจงใจเดินนวยนาดเข้าไปเบียดกระแซะกับแผ่นอกกว้าง ทำเอาเลือดในกายหนุ่มร้อนฉ่า คล้ายปฏิกิริยาเคมีตรงกัน ก่อนที่ปีเตอร์จะยกฝ่ามือใหญ่ผลักร่างบางออกห่างราวกับรังเกียจเสียเต็มประดา“ออกไป๊!” เสียงห้าวกระด้างไล่ตะเพิดพลางชี้นิ้วไปที่ประตูห้องน้ำ ใบหน้าหล่อลากไส้แดงเถือก จนคนตัวเล็กเกือบหลุดหัวเราะออกมาด้วยความชอบใจ“แหม…แค่ยั่วให้ ‘อยาก’ นิดๆ หน่อยๆ ก็ของขึ้นเสียแล้ว สามีว่านนี่ ‘ขึ้น’ เร็วจริงๆ เลยนะคะ ยังไม่ทันได้เปลื้องผ้าหมดก็ขึ้นซะแล้ว” ลอยหน้ายวนยั่วอารมณ์ได้อย่างน่ามันเขี้ยวสุดๆ“อุ๊ย!” เสียงหวานหลุดอุทานเบาๆ เมื่ออยู่ๆ แข้งขาก็เกิดอ่อนเปลี้ยต่อหน้าเขาเสียอย่างนั้น และนั่นก็ถึงเวลาเอาคืนของเจ้าพ่อค้าเพชร“ฮึ…กอดจูบลูบคลำแค่นี้ ก็ทำเป็นเข่าอ่อน ถ้าฉัน ‘ฟาด’ เธอทั้งคืน จะไม่คลานสี่ขาเหมือนหมาข้างถนนหรืออย่างไรกันแม่คุณ” น้ำเสียงเยาะหยันถูกเค้นออกมาจากปากโอหังของคนที่กำลังกอดอกเชิดหน้า ทำให้วาเนสซ่าอยากจะกรี๊ดให้เขาแก้วหูแตกนัก

นิยายรักโรแมนติก

รอยอดีต (30%)

สี่ปีที่แล้ว

แม้จะก้าวขาเรียวสวยเข้ามาโดยสารในลิฟต์ตัวใหญ่ น้ำตาก็ยังไม่เหือดแห้งไปจากร่องแก้มอิ่มของวาเนสซ่า ปิเอโร่ เจ้าของร่างเซ็กซี่ในชุดเดรสสีแดงเพลิงยี่ห้อหรู ที่สั่งตรงมาจากห้องเสื้อดังของปารีส เอาแต่ร้องไห้สะอึกสะอื้นจนลืมสนใจสิ่งรอบข้าง แล้วจู่ๆ ก็มีใครบางคนยื่นผ้าเช็ดหน้ามาตรงหน้า ทำให้คนที่กำลังก้มหน้าก้มตาร้องไห้อย่างไม่อายใคร เพราะคิดว่าตัวเองอยู่ในลิฟต์เพียงลำพัง ถึงกับผงะถอยหลังมาหนึ่งก้าว แล้วแหงนหน้าขึ้นมองเจ้าของผ้าเช็ดหน้าสีขาวที่ปักตัวอักษรภาษาอังกฤษคำว่า ‘PJ’ ไว้ตรงมุมขวาอย่างประณีต ก่อนจะเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม

“ผ้าเช็ดหน้า ซับน้ำตาเสีย เดี๋ยวหน้าสวยๆ ก็เปื้อนคราบเครื่องสำอางหมดหรอก” เจ้าของใบหน้าสวยหากแต่เลอะไปด้วยคราบน้ำตา ยกแขนเรียวเสลาขึ้นกอดอกเชิดหน้าทำท่าเมินผ้าเช็ดหน้าที่มีผู้หวังดีหยิบยื่นให้ วาเนสซ่าก็เป็นอย่างนี้ หากไม่ใช่คนรู้จักและสนิทสนมเธอก็จะค่อนข้างถือตัว

เห็นท่าทางอวดดี ชายหนุ่มก็แกล้งยื่นผ้าเช็ดหน้าเจ้าปัญหาไปให้หญิงสาวตรงหน้าแรงๆ ทำเอาร่างระหงผงะจนเกือบหงายหลัง ยังดีที่ขาเรียวบนรองเท้าส้นสูงคู่สวยทรงตัวไว้ได้ทัน

“เก็บผ้าเช็ดหน้าของคุณไว้เถอะ ฉันไม่ต้องการ” หญิงสาวสะบัดเสียงใส่อย่างไม่แยแส

คำพูดตัดรอนที่หลุดออกมาจากกลีบปากเย้ายวน ทำให้หนุ่มหล่อมาดเท่ถึงกับสะอึก ก่อนเปลี่ยนความตกตะลึงด้วยคาดไม่ถึงเป็นหงุดหงิดอารมณ์เสีย เนื่องจากไม่เคยมีผู้หญิงหน้าไหนกล้าปริปากปฏิเสธไมตรีจิต จากปีเตอร์ เจย์ลาสโคนี มาก่อน จะว่าไปแล้ว เขาก็ไม่ได้มีโอกาสบ่อยนักหรอกที่จะทำเรื่องแบบนี้ แต่เห็นท่าทางสาวสวยตรงหน้าร้องไห้สะอึกสะอื้นราวกับเด็ก ก็นึกเวทนา

“รับไปเถอะน่า ไม่ต้องเกรงใจหรอก ผมมีหลายผืน” ยิ่งเห็นเธอออกอาการพยศถือดี เขาก็ยิ่งคะยั้นคะยอเพราะอยากเอาชนะ และความทู่ซี้ของเขา ก็สร้างความหงุดหงิดให้วาเนสซ่าอยู่ไม่น้อย คนเอาแต่ใจและไม่เคยโดนใครขัดใจมาก่อน เริ่มหน้าหงิกงอ

“อย่ามายุ่งกับฉัน!” ป้ายน้ำตาออกจากดวงหน้าพริ้มเพราอย่างลวกๆ สูดลมหายใจเข้าปอดลึก แล้วเค้นเสียงห้วนออกมาจากลำคอแห้งผาก ไล่ตะเพิดชายแปลกหน้าทว่าหล่อบาดใจ ก่อนจะสะบัดหน้าแรงๆ เมินไปอีกทาง

วาเนสซ่ายอมรับว่า บุรุษหนุ่มที่เธอกำลังเผชิญหน้า เป็นคนหล่อชนิดหาตัวจับยาก และอาจทำให้ใจสั่นไหวได้ไม่ยาก หากหัวใจเธอไม่มีเพียงมาร์โบโล คอฟอร์ด จนกลายเป็นสาวหม้ายขันหมาก เพราะรักไม่สมหวังดังใจหมายเสียก่อน

ดวงตาสีมรกตมองคนอวดดีอย่างเอาเรื่องแกมหมั่นไส้ คำพูดของเธอมันไม่ต่างอะไรจากการท้าทายอำนาจของเจ้าพ่อค้าเพชรรายใหญ่แห่งเวเนซุเอลา จนเขาอยากกระชากร่างอรชรเข้ามากระหน่ำจูบสั่งสอนให้หนำใจนัก

‘เอ๊ะ…หรือว่าที่แม่คุณทำอย่างนี้ เพราะคิดว่าเราสนใจ ต้องการขึ้นค่าตัวหรืออย่างไรกัน เห็นเราทำท่าสนใจเข้าหน่อยก็ทำเป็นเล่นตัว แต่พอเห็นเงินคงตาลุกวาวและกระโจนเข้าใส่อย่างไม่คิดชีวิต นี่แหละหนาผู้หญิงสมัยนี้ หาดีไม่ได้’ ปีเตอร์แอบบิดปากด้วยความสมเพชหญิงสาว ก่อนจะชักผ้าเช็ดหน้าสีขาวสะอาด กลับมาซุกไว้ในกระเป๋ากางเกงดังเดิม

“ไม่อยากได้ผ้าซับน้ำตา แต่อยากได้จูบซับน้ำตาจากผมหรือไงกันสาวน้อย ถึงได้ทำลีลาท่ามากขนาดนี้” เสียงกระซิบที่ดังข้างหูของเจ้าของแผงอกกำยำที่ยืนอยู่ใกล้แค่คืบ ทำเอาใจของวาเนสซ่า ปิเอโร่ เต้นไม่เป็นส่ำ แต่สรรพนามท้ายประโยค ทำให้คนที่ไม่ยอมรับว่าตัวเองเป็นสาวน้อย เพราะอายุย่างเข้ายี่สิบเอ็ดปีบริบูรณ์ ได้แต่กำหมัดแน่นและนับในใจให้ถึงสิบ เพื่อระงับอารมณ์ที่กำลังเดือดปุดๆ

“ว่าไง เอาไหม จูบซับน้ำตาน่ะ” ปีเตอร์ยังมีแก่ใจลอยหน้ายียวนไม่เลิก

“อย่ามาพูดจาพล่อยๆ นะ คนบ้าพูดจาไม่รู้เรื่องอย่างคุณ ฉันไม่พิสมัยนักหรอก เชิญไปลดแลกแจกแถมจูบ ที่คุณแสนจะภาคภูมิใจให้สาวอื่นเถอะ” คราวนี้สาวสวยถึงกับเลือดขึ้นหน้า ตะเบ็งเสียงตวาดลั่นลิฟต์ ใจจริงคุณหนูเล็กแห่งตระกูลทรงอิทธิพลของสวีเดน อยากจะกรีดร้องออกมาให้เขาหูแตกนัก แต่ก็ทำได้เพียงกำหมัด จนหลังมือขาวเนียนปรากฏรอยเส้นเลือดปูดโปนขึ้นมา

‘ผู้ชายคนนี้เป็นใครกัน ถึงได้บังอาจมาตามตอแยแม่สาวขี้วีนอย่างเรา’

“แล้วอย่ามาหลงเสน่ห์ผมทีหลังก็แล้วกัน” คนมั่นใจในตัวเองสูงไหวไหล่ทรงพลังเบาๆ อย่างไม่แยแสกับคำพูดที่หญิงสาวตอกใส่หน้าด้วยความถือดี

“ชิ…ฝันไปเถอะ แม้แต่หางตาฉันยังไม่อยากแล” หญิงสาวใบหน้าร้อนซู่ รีบสำรวมท่าทีแล้วเชิดหน้าเบ้ปากโต้ตอบอย่างอวดดี ทั้งที่ในใจกำลังเต้นผิดจังหวะ เพียงแค่ได้ชิดใกล้ผู้ชายคนนี้ไม่กี่วินาที

“พูดอะไรให้มันตรงกับใจหน่อยสิคุณ หรือจะเป็นจริงที่เขาว่า ผู้หญิงปากกับใจมักไม่ตรงกัน” ปีเตอร์ทำหน้ามึนตีขลุมเข้าข้างตัวเอง น้ำเสียงเรียบเรื่อยดังอยู่เหนือศีรษะ ที่ปกคลุมด้วยผมยาวสลวย หากแต่แววตาคู่คมกลับแฝงไปด้วยความขบขันเสียเต็มประดา

“ท่าเชิดหน้าคอตั้งแบบนี้ ผมขอซื้อได้ไหม” อยู่ๆ ผู้ชายที่ยืนหายใจรดต้นคอ ก็เปรยขึ้นด้วยเสียงกลั้วหัวเราะ จนหญิงสาวต้องแหงนหน้าขึ้นมองอย่างเดือดจัด

“ฉันจะทำยังไง มันหนักส่วนไหนของคุณไม่ทราบ!” คิ้วเรียวสวยที่บรรจงตกแต่งให้เข้ารูปรับกับดวงตากลมโตสีฟ้าสดใสเลิกขึ้น พร้อมกระแทกเสียงขุ่นเขียวใส่อีกฝ่าย อย่างไม่คิดจะเกรงใจและรักษามารยาท

“ก็ไม่ได้หนักส่วนไหนของผมนักหรอก แต่ผมเป็นห่วง กลัวคอสวยๆ ของคุณจะเคล็ดเสียก่อนมีสามีเป็นตัวเป็นตนเหมือนอย่างชาวบ้านเขา” ปีเตอร์ยักไหล่กว้างเบาๆ อย่างไม่สะทกสะท้านกับวาจาเหน็บแนม ที่สาวสวยตั้งใจกระแทกใส่หน้า ส่วนหญิงสาวก็ได้แต่ค้อนจนตาคว่ำให้คนที่จงใจรวนเธอ

สายตาคมกริบมองท่าทางระงับอารมณ์ของอีกฝ่ายอย่างชอบอกชอบใจ แล้วไหนจะยังกลีบปากสีกุหลาบที่เจ้าตัวเม้มเสียจนเกือบจะเป็นเส้นตรงนั่นอีก มองแล้วชวนให้ง้างมันออกด้วยปากตัวเองยิ่งนัก อยากรู้เหมือนกันว่า ปากที่เอาแต่ด่าเขาฉอดๆ นั้นจะหวานได้ใจพอๆ กับคำพูดเผ็ดร้อนและดุดันไหม การมาสวีเดนของเขาครั้งนี้ ดูไม่น่าเบื่อก็เพราะเธอนี่แหละ ผู้หญิงอะไรสวยเซ็กซี่เสียเปล่า แต่ร้องไห้ได้เป็นวรรคเป็นเวรราวกับเด็กน้อย

ติ๊ง!

ยังไม่ทันที่มหาเศรษฐีหนุ่มหล่อกระชากใจ จะได้ต่อปากต่อคำกับแม่สาวน้อยขี้วีนต่อ เสียงลิฟต์ก็ดังขึ้นมาขัดจังหวะการสร้างความอภิรมย์เสียก่อน ปีเตอร์จึงต้องตัดใจ ยั้งคำพูดที่กำลังจะพรั่งพรูออกมา เงยหน้าขึ้นมองจึงรู้ว่า อีกสองชั้นก็จะถึงที่หมายของเขาแล้ว เนื่องจากชายหนุ่มขึ้นลิฟต์ไปผิดชั้นจึงต้องกลับลงมาใหม่ เพื่อจะได้ไปเยี่ยมคนป่วยหลังจากที่เอ้อระเหยลอยชายมานาน บอกเพื่อนจะมาถึงตั้งแต่แปดโมงเช้า จนป่านนี้ปาเข้าไปสิบโมงก็ยังไปไม่ถึงห้อนคนป่วย

“ถ้าอยากได้จูบซับน้ำตา ก็เอาไว้คราวหน้าแล้วกันนะสาวน้อย วันนี้ผมรีบจริงๆ” คนมาเยี่ยมเพื่อนที่โรงพยาบาลบอกอย่างอารมณ์ดี พลางยกนิ้วเรียวสวยขึ้นเคาะหน้าปัดนาฬิกายืนยันคำพูด ตบท้ายด้วยการขยิบตาให้อย่างกะล่อน

“เอ๊ะ…คุณฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรือไงกัน ฉันบอกว่าไม่ต้องการจูบสับปะรังเคของคุณแม้แต่น้อย ได้ยินไหม!” หญิงสาวขึ้นเสียงใส่อย่างขุ่นเคืองสุดๆ ดวงตากลมโตมองเขาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ แต่ชายหนุ่มกลับไม่แยแส แถมยังลอยหน้ายียวนกวนโมโหไม่เลิก

“จุ๊ๆๆ พูดไม่เพราะแบบนี้ มันน่าจับมาจูบสั่งสอนเสียให้เข็ด” เจ้าพ่อค้าเพชรทำเสียงจิ๊จ๊ะไม่พอใจในลำคอหนา แล้วแกล้งขู่ด้วยท่าทางเอาจริง หากแต่แววตากลับเต็มไปด้วยความขบขัน จนแทบกลั้นเอาไว้ไม่อยู่

“ก็ลองดูสิ จะชกให้ตาเขียวเชียว”