ชะตาพลิกผัน (30%)
ดอยแม่สลอง จังหวัดเชียงราย
ในปลายเดือนธันวาคมที่อยู่ในช่วงฤดูหนาวเช่นนี้ หากคนขี้หนาวก็คงบอกว่าหนาวจับขั้วหัวใจ แต่ถึงแม้จะหนาวเหน็บสักเพียงใด ลักษณ์ณารา สุขวิมล สาวน้อยโฉมสะคราญวัยยี่สิบสามปีก็ยังเดินทางออกมาจากรีสอร์ตที่พักในช่วงเวลาเช้าตรู่ ขับรถคันเล็กกะทัดรัดจากค่ายรถยอดนิยมสัญชาติญี่ปุ่นที่ไปหาเช่ามาใช้ในช่วงที่อยู่เชียงราย ขึ้นเขาทางลาดชันอย่างระมัดระวังมาเพื่อทำงาน หลังจากแหกขี้ตาตื่นและล้างหน้าล้างตา แต่งตัวในชุดรัดกุมต้านลมหนาวเรียบร้อยแล้ว ดีที่ที่พักของเธออยู่ไม่ไกลจากทุ่งดอกซากุระเมืองไทยหรือดอกนางพญาเสือโคร่งซึ่งกำลังออกดอกบานสะพรั่ง เพราะถ้าหากขับรถมาในเวลาเช้ามืดที่มีหมอกลงจัดจนทำให้ทัศนวิสัยไม่กระจ่างตา ก็อาจจะเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้
ลักษณ์ณาราเป็นจิตรกร หญิงสาวเรียนมาทางวาดภาพจากมหาวิทยาลัยชื่อดังของประเทศไทย ด้วยใจรักจึงเลือกที่จะเรียนสาขาวิชาที่มีความเสี่ยงต่อการกลายเป็นนักวิจัยฝุ่นเพราะตกงาน ค่อนข้างมีรายได้น้อย หากไม่มีชื่อเสียงหรือฝีมือไม่เข้าขั้น ก็อาจจะต้องผันตัวไปทำงานอื่นที่ไม่ตรงกับสายงานที่ได้ร่ำเรียนมา แต่ยังดีที่ผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างเธอไม่โชคร้ายขนาดนั้น เพราะเมื่อต้นปีที่แล้วเธอได้นำผลงานของตัวเองเข้าประกวดในโครงการเฟ้นหาจิตกรหน้าใหม่จนได้รับรางวัลติดอันดับหนึ่งในห้าของประเทศ หลุดพ้นจากคำว่าศิลปินไส้แห้งที่ใครหลายคนมาพูดจากระทบกระเทียบให้ได้ยินเป็นประจำก่อนหน้านั้น
ลักษณ์ณาราเดินทางขึ้นมาที่เชียงรายเป็นเวลาเกือบเดือนแล้ว เธอไม่ได้มาพักผ่อนหย่อนใจหรือมาเที่ยวเหมือนใครหลายๆ คนที่ต่างพากันแห่แหนขึ้นภาคเหนือเมื่อย่างเข้าสู่ฤดูหนาว แต่เธอมาที่นี่มีจุดประสงค์เพื่อทำงาน โดยได้รับการว่าจ้างด้วยเงินจำนวนไม่น้อยจากแม่เลี้ยงคำหล้า เศรษฐีนีชาวเชียงรายผู้คลั่งไคล้ภาพวาดทั้งบนผืนผ้าใบและฝาผนัง ตอนแรกที่แม่เลี้ยงติดต่อไป ลักษณ์ณารามีความปลาบปลื้มยินดีจนยิ้มแก้มปริ เห็นได้ชัดว่าจากการจัดนิทรรศการจิตกรหน้าใหม่เมื่อสองเดือนที่แล้ว ชื่อเสียงของเธอก็พอเป็นที่รู้จักในแวดวงงานศิลป์ ถึงแม้จะไม่ได้ดังเปรี้ยงปร้างราวกับพลุแตก แต่มันก็สามารถให้เธอทำมาหาเลี้ยงชีพได้ด้วยมันสมองและสองมือของตัวเองอย่างเต็มภาคภูมิ
จะว่าไปเธอก็ไม่ได้แบมือขอเงินจากใครมานานแล้ว ตั้งแต่แม่และพ่อเลี้ยงได้จากไปเพราะอุบัติเหตุในครั้งนั้น ทำให้เธอเสียบุคคลอันเป็นที่รักทั้งสองตั้งแต่เรียนปริญญาตรีปีสุดท้าย ถึงแม้จะหลงเหลือพี่ชายต่างมารดาอย่างอธิป สุขวิมล ผู้เปรียบเสมือนญาติเพียงคนเดียวที่ยังหลงเหลืออยู่บนโลกใบนี้ แต่อธิปก็ไม่เคยดูดำดูดีเธอเลยตลอดสองปีหลังจากที่ขาดเสาหลักของครอบครัว
เมื่อบิดาและมารดาเลี้ยงจากไป แรกๆ อธิปก็ดูแลลักษณ์ณารา สาวน้อยน่ารักที่เขารักประดุจดั่งพี่น้องร่วมอุทรที่คลานตามกันมาเป็นอย่างดี หากแต่การดูแลเอาใจใส่จากพี่ชายที่แสนดีกลับแผ่วลงเรื่อยๆ จนสุดท้ายก็หลงเหลือเพียงแค่ความว่างเปล่า เงินที่เคยได้จากพี่ชายที่ไปทำงานไกลถึงสวีเดนทุกเดือนก็กลายเป็นไม่ได้ แถมเขายังไม่เคยโทรกลับมาถามข่าวคราวน้องสาว ที่ต้องอาศัยหอพักของมหาวิทยาลัยเป็นที่ซุกหัวนอน ดีที่เธอยังมีเงินเก็บที่มารดาเอาเข้าบัญชีให้ตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ทำให้การเรียนมหาวิทยาลัยในปีสุดท้ายไม่ลำบากและอัตคัดขัดสนจนเกินไป
เมื่อปลายปีที่แล้วอธิปก็กลับมาอยู่ที่บ้านกับเธอ กลับมาแบบสิ้นเนื้อประดาตัว กลายเป็นว่าเธอต้องหาเลี้ยงพี่ชาย หนำซ้ำเขายังกลายเป็นคนติดเหล้า เมาหัวราน้ำแทบทุกวัน และติดการพนัน จนบางทีมีเจ้าหนี้มาตามทวงเงินถึงที่บ้าน เดือดร้อนให้เธอต้องคอยตามล้างตามเช็ด ด้วยความที่พี่ชายกลายเป็นคนไม่เอาถ่าน ทำให้ลักษณ์ณาราต้องลุกขึ้นมาเป็นคนสู้ชีวิต ยืนหยัดด้วยลำแข้งของตัวเอง นอกจากจะวาดภาพตามที่ลูกค้าต้องการแล้ว เธอยังนำภาพวาดไปฝากขายตามร้านต่างๆ อีกด้วย
อากาศบนยอดดอยสูงหนาวจัดจนควันออกปาก ดังคำที่ว่ายิ่งสูงยิ่งหนาว หายใจแต่ละทีก็จะมีควันสีขาวพวยพุ่งออกมา ลักษณ์ณาราวางขาตั้งเฟรมวาดภาพไว้ในตำแหน่งที่คิดว่าเหมาะสม สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์โดยรอบได้ครอบคลุมมากที่สุด ก่อนที่จะลงมือตวัดปลายพู่กันลงบนผืนผ้าใบอย่างชำนาญการ
ติ๊ด…ติ๊ด…ติ๊ด
ยังเอาก้นแตะเก้าอี้นั่งวาดภาพได้ไม่นานก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมารบกวนสมาธิ ทำให้ดวงตาสีนิลเจือไว้ด้วยความหวานซึ้งที่กำลังจับจ้องดอกซากุระสีสวย แข่งกันบานเบ่งอวดความงามอยู่เบื้องหน้าต้องละออกมา วางพู่กันในมือให้จุ่มลงในถังน้ำใบเล็กอยู่ใกล้กับถาดสี แล้วหยิบโทรศัพท์ที่กำลังแผดเสียงไม่หยุดหย่อนขึ้นมากดรับสาย
“ว่าไงคะ พี่อธิป” น้ำเสียงที่ส่งไปทักทายพี่ชายยังคงสดใสดั่งแสงตะวันในยามเช้า แม้จะรู้แก่ใจดีว่าหากอีกฝ่ายโทรหาตนอย่างนี้จะต้องมีเรื่องมารบกวนจิตใจอย่างแน่นอน และถ้าเดาไม่ผิด ก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องเงิน
“แกหายหัวไปไหน ยายน้ำ” เสียงคนโทรมาฟังดูอ้อแอ้ คุกรุ่นไปด้วยความไม่ได้ดั่งใจ แต่ก็ยังนับว่าดีอยู่ที่พี่ชายของเธอไม่ใช้สรรพนามสมัยพ่อขุนรามเรียกขานให้ระคายหู
“น้ำมาทำงานที่เชียงรายค่ะ ต้องขอโทษจริงๆ ที่ไม่ได้บอกพี่อธิป” หญิงสาวยังคงทำใจเย็น ตอบคำถามพี่ชายขี้เมาด้วยถ้อยคำหวานหูดังเดิม
“แล้วแกจะกลับมาเมื่อไหร่” น้ำเสียงยานคางของคนโทรมาบ่งบอกได้ชัดว่ามีระดับแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดอยู่ไม่น้อย ซึ่งลักษณ์ณาราก็ทำได้เพียงถอนหายใจยาวๆ และส่ายหน้าอย่างปลงๆ ไม่อยากจะกล่าวตักเตือนพี่ชายให้ต้องโดนเอ็ดตะโรเหมือนเช่นทุกครั้งที่เธอเอ่ยปากบอกให้เขาเพลาๆ ลงทั้งเรื่องเหล้าและการพนัน
“คงอีกประมาณสักสองอาทิตย์ล่ะค่ะ เพราะงานน้ำยังไม่เสร็จเลย” สาวน้อยตอบพี่ชายตามสภาพหน้างาน เพราะแม่เลี้ยงคำหล้าไม่เพียงว่าจ้างให้เธอวาดภาพลงบนผืนผ้าใบอย่างเดียวเท่านั้น นางยังจ้างให้วาดภาพบนฝาผนังบ้านหลังใหม่ที่เพิ่งสร้างเสร็จเมื่อปลายเดือนที่แล้ว
“นานขนาดนั้นเลยเหรอวะ” พอได้รับรู้ถึงกำหนดกลับของน้องสาว อธิปก็ส่อแววกระวนกระวายในน้ำเสียงที่ส่งมาตามสายโทรศัพท์ ซึ่งคนฟังก็ช่างสังเกตจึงจับพิรุธความผิดปกติได้ไม่ยาก
“พี่อธิปมีอะไรหรือเปล่าคะ” ถามคล้ายกับจะชักนำพี่ชายเข้าเรื่อง เพราะคนอย่างอธิปคงไม่แค่โทรมาถามเฉยๆ ว่าเธออยู่ไหน ทำอะไรอยู่เป็นแน่แท้ พี่ชายของเธอเปลี่ยนไปเป็นคนใหม่แล้ว คนใหม่ที่ไร้ความรู้สึกห่วงใยน้องสาวดังเดิม และดูท่าว่าคนเก่าจะกลับมายากเสียเหลือเกิน
“พี่อยากได้เงินซักห้าหมื่น” เป็นอย่างที่หญิงสาวคิดไว้ไม่มีผิด อธิปโทรมาคงไม่พ้นเรื่องเงิน หากแต่จำนวนตัวเลขมหาศาลก็ทำให้ลักษณ์ณาราอ้าปากค้างได้เหมือนกัน
“ห้าหมื่น!” เจ้าของร่างบอบบางน่ารักทำตาโต อุทานเสียงดัง ดูเหมือนจำนาวนเงินที่พี่ชายขอมาจะเพิ่มระดับขึ้นตามจำนวนครั้งเสียแล้ว
“พี่จะเอาเงินไปทำอะไรตั้งเยอะแยะ” ลักษณ์ณาราซักไซ้อีกฝ่ายเสียงแข็ง หัวอกแทบมอดไหม้กับความหายนะที่กำลังจะเกิดขึ้น
“พี่จะเอาไปจ่ายหนี้พนันที่ค้างเขาไว้” อธิปสวนกลับอย่างไม่รู้สำนึกที่เอาเงินน้องสาวไปผลาญให้กับอบายมุข ลักษณ์ณาราอยากจะกู่ก้องร้องตะโกนให้สมกับความคับข้องใจนัก
“อีกแล้วเหรอคะ พี่อธิป เมื่อไหร่พี่จะเลิกเล่นการพนันสักที”
หญิงสาวขึ้นเสียงบ่นอย่างไม่พอใจ หากพี่ชายขอเงินไปทำอย่างอื่นเธอคงไม่ว่า แต่นี่ก็รู้ๆ กันอยู่ว่าการพนันไม่เคยทำให้ใครร่ำรวย ถึงแม้จะมือขึ้นในแรกเริ่มประเดิม แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่กลยุทธ์ที่ทางเจ้ามือวางเอาไว้ล่อให้พวกนักพนันหน้าใหม่ตายใจ หลอกล่อให้ลูกค้าติด เมื่อผีพนันเข้าสิงอย่างเต็มตัว เงินที่เคยได้ไปจากการเล่นในคราแรกก็จะกลับคืนมาหาเจ้ามือดังเดิม แถมคนเล่นพนันบางรายยังต้องขายทรัพย์สินที่มีมาทุ่มลงในวงพนันเพื่อหวังจะถอนทุนคืน แต่ทุกอย่างก็สูญเปล่า ยิ่งเล่นก็ยิ่งล่มจม จนบางรายสิ้นเนื้อประดาตัว ซึ่งลักษณ์ณาราไม่อยากให้พี่ชายเป็นอย่างหนึ่งในหลายๆ ตัวอย่างที่เธอเคยได้ยินได้ฟังมา
“อย่ามาขึ้นเสียงใส่ฉันนะ แกเป็นน้อง ไม่ใช่แม่” อธิปเริ่มของขึ้นจึงตะคอกใส่น้องสาวด้วยน้ำเสียงกร้าวกระด้าง พร้อมกันนั้นไฟโทสะก็แล่นมาเป็นริ้วๆ
“น้ำรู้ค่ะว่าพี่อธิปเป็นพี่ชายของน้ำ” หญิงสาวสวนกลับทันควัน ความไม่พอใจเริ่มกรุ่นอยู่ในหัวอก ทำไมพี่ชายของเธอจึงได้กลายเป็นคนกระด้างได้ถึงเพียงนี้นะ
“รู้ก็ดี แล้วก็รีบโอนเงินมาให้ฉันด้วยล่ะ” น้ำเสียงพอฟังกว่าเมื่อสักครู่ เมื่อรับรู้ได้จากคำพูดว่าน้องสาวว่าเธอกำลังจะใจอ่อน หากไม่เอาเงินไปจ่ายภายในสามวันนี้ ลูกน้องเสี่ยวันชัยคงตามมากระทืบเขาถึงบ้านแน่ๆ ทีนี้ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โต หรือไม่ก็อาจจะถึงขั้นสิ้นชื่ออธิป สุขวิมลไปเลยก็ได้
“วันนี้คงจะไม่ได้หรอกค่ะ เพราะน้ำอยู่บนดอย ที่นี่ไม่มีตู้เอทีเอ็ม” ถึงแม้จะขึ้นเสียงทำท่าไม่พอใจให้อีกฝ่าย แต่เธอก็ยอมโอนเงินไปให้ตามที่พี่ชายต้องการ เพราะไม่รู้ว่าหากอธิปไม่นำเงินไปใช้หนี้จะเกิดอะไรขึ้น พวกเจ้าของบ่อนยิ่งขึ้นชื่อเรื่องความโหดและหน้าเลือดอยู่
“เออ…วันหลังก็ได้ แต่อย่าให้เกินสามวันก็แล้วกัน” เมื่อรู้แน่แล้วว่าตนจะได้เงินจากน้องสาวอธิปก็ปั้นน้ำเสียงให้ดูน่าฟังมากยิ่งขึ้น ใบหน้าเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสมใจหมายปอง
“นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วนะคะ ที่น้ำจะช่วยพี่ใช้หนี้พนัน”
ลักษณ์ณาราย้ำชัดในน้ำเสียงว่าเธอจะไม่ยอมให้พี่ชายเอาเงินไปละลายในบ่อนอีกแล้ว เงินทุกบาททุกสตางค์เธอหามันมาด้วยความยากลำบาก เพราะฉะนั้นก็ควรจะใช้จ่ายอย่างคุ้มค่าและประหยัด ซื้อในสิ่งที่จำเป็นและควรค่าแก่การใช้สอย จะใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายมือเติบอย่างพวกเศรษฐี ผู้ดี ไฮโซ คงจะไม่ได้ เพราะไม่อาจล่วงรู้ได้เลยว่าในอนาคตภายภาคหน้าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับครอบครัวเล็กๆ ของเธอกับพี่ชายบ้าง ทุกอย่างไม่อาจกำหนดให้ตายตัวได้
“เออ…ยังไงก็ได้ ขอให้แกส่งเงินห้าหมื่นมาให้ฉันก่อน แค่นั้นก็เพียงพอ” แม้จะไม่พอใจอยู่มาก แต่อธิปก็ยังฉลาดพอที่จะทำใจเย็น ตกปากรับคำไปส่งเดชเสียก่อน เพราะถ้าหากโวยวายไปมากกว่านี้ก็เกรงว่าน้องสาวจะเปลี่ยนใจไม่ให้เงินตามที่ขอ
เมื่อจบบทสนทนาลงด้วยเรื่องชวนให้ปวดหัว ลักษณ์ณาราก็ระบายลมหายใจออกมาอย่างยืดยาว ดึงสายตาว่างเปล่าที่มองไปเบื้องหน้าอย่างไร้จุดหมายเมื่อสักครู่เบือนกลับมายังภาพที่วาดค้างคาไว้บนผืนผ้าใบ กระแทกสะโพกงามงอนหย่อนลงยังเก้าอี้ตัวเดิม แล้วฉวยกระบอกน้ำร้อนออกมาเทใส่แก้วใบเล็ก
“ขอให้มันเป็นครั้งสุดท้ายทีเถอะ พี่อธิป แล้วน้ำจะไม่เสียดายเงินที่ให้พี่ในครั้งนี้เลย” รำพึงกับตัวเองด้วยความหนักใจไปพร้อมกับภาวนาว่าพี่ชายจะเลิกการพนันได้อย่างเด็ดขาด เพราะด้วยกำลังของผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างเธอ คงไม่สามารถที่จะหาเงินมาใช้หนี้พนันให้เขาได้ตลอดไป