Intro
Hongtae talks.
“กระผมอินทัชขอรับคุณชนฐิดาเป็นภรรยา
และขอสัญญาว่า จะถือซื่อสัตย์ต่อคุณทั้งในยามสุข และยามทุกข์ ทั้งในเวลาป่วยและเวลาสบาย
เพื่อรักและยกย่องให้เกียรติคุณจนกว่าชีวิตจะหาไม่”
“ดิฉันชนฐิดาขอรับคุณอินทัชเป็นสามี
และขอสัญญาว่า จะถือซื่อสัตย์ต่อคุณทั้งในยามสุข และยามทุกข์ ทั้งในเวลาป่วยและเวลาสบาย
เพื่อรักและยกย่องให้เกียรติคุณจนกว่าชีวิตจะหาไม่”
เสียงหวานแหววเอ่ยขึ้นหลังจากที่ผมพูดประโยคเช่นเดียวกันนั้นจบลง
แขกเหรื่อในงานต่างพากันยิ้มหน้าชื่นตาบานไม่เว้นแม้แต่ป๊าและแม่ที่นั่งน้ำตาปริอยู่ในระยะสายตามองเห็น
คงจะมีแต่ผมเท่านั้นที่ได้แต่ยืนฝืนยิ้มอยู่คนเดียว
'ข้าแต่พระบิดา เจ้าผู้ทรงสถิตเหนือฟ้าสวรรค์ ลูกขอสารภาพบาปที่เกิดจากการกระทำผิดของลูกในเวลานี้ ลูกได้เอ่ยคำสัตย์อันเป็นเท็จต่อทุกคนรวมถึงตัวเอง แต่ลูกทำเพื่อความสบายใจและยุติความวุ่นวายทั้งหมด มาเพื่อรับผิดชอบกับสิ่งที่ตัวเองได้กระทำผิดต่อเธอคนนี้ ขอพระเจ้าทรงพระเมตตาอภัยบาปแก่ลูก...'
"พี่ฮ่องเต้ พี่ฮ่องเต้ เฮียเต้!" เสียงของผู้หญิงในชุดเจ้าสาวสีขาวสะอาดเรียกให้ผมหลุดจากความภวังค์ เมื่อถึงพิธีสวมแหวน ยิ่งตอกย้ำว่าความเป็นอิสระของชีวิตผมได้ถูกทำลายลงอย่างเป็นทางการแล้ว
"..."
เราทั้งคู่สลับสวมแหวนขนาดพอดีนิ้วนางข้างซ้ายให้กัน ก่อนที่เสียงปรบมือจากแขกที่มาร่วมแสดงความยินดีจะดังขึ้น
เสียงปรบมือที่ใครๆต่างเห็นเป็นเรื่องน่ายินดีแต่สำหรับผมมันเหมือนเป็นเสียงโห่ร้องที่จะบอกว่ากำลังจะตกลงไปสู่เหวลึกแล้ว
ตั้งแต่นี้ต่อไปผมไม่ใช่ฮ่องเต้คนเดิมอีกแล้วแต่เป็น...ไอ้ฮ่องเต้ที่มีเมียตั้งแต่เรียนปีสอง!!
"ขอบคุณนะเฮียเต้ ชารักเฮียน้า~"
"...อือ"
หลายวันต่อมา
"เฮีย!! ตื่นได้แล้ว ต้องไปช่วยชาเก็บของไปคอนโดนะ!!" เสียงแหลมใสที่ชวนให้หลอนหูดังขึ้นอยู่ปลายเตียงเล่นเอาผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยหัวใจที่เต้นรัวเพราะกำลังหลับสบายอยู่ในห้วงลึก
น่ารำคาญชะมัด
"ถ้าเฮียไม่ลุกขึ้นมาชาจะขึ้นไปนอนด้วยเดี๋ยวนี้เลย"
พรึ่บ!
เป็นคำขู่ที่ได้ผลเมื่อไอ้เด็กข้างบ้านพ่วงฐานะเมียใหม่ป้ายแดงของผมมันทำท่าจะกระโดดขึ้นมาบนเตียงจริงๆ แต่ก่อนที่ยัยกัญชาจะได้ทำอะไรผมก็รีบลุกพรวดขึ้นมาทันที
"เลิกยุ่งกับเฮียได้มั้ยวะ!" ผมขมวดคิ้วยุ่งสะบัดผ้าห่มออกจากตัวแล้วรีบลุกขึ้นจากเตียงไปยืนอยู่ห่างๆ
"ทำไมต้องกลัวชาขนาดนั้นด้วย นี่เมียเฮียนะ"
"เหอะ ฉันไม่ไว้ใจคนที่มันปล้ำฉันตอนเมาแบบเธอหรอก"
เรื่องของเราก่อนแต่งงานมันเป็นความทรงจำอันโหดร้ายมากสำหรับผม และยิ่งหลังแต่งงานก็เหมือนมันจะยิ่งโหดร้ายมากขึ้นกว่าเดิมเป็นร้อนเท่า
"แต่ใบชาเป็นเมียเฮียนี่ ทำไมต้องกลัวด้วย"
"เกลียด ไม่ใช่กลัว"
"ปากร้าย ชาเสียใจนะ"
เหอะ เสียใจเหรอ คนที่เสียใจควรเป็นผมไม่ใช่ยัยนี่! ผู้หญิงที่พรากทุกอย่างไปจากผมแม้กระทั่งความรักที่กำลังหวานชื่นกับน้องเพลง รุ่นน้องที่กำลังจะเข้าไปเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกันและผมมีแผนว่าจะขอเธอเป็นแฟนในอีกไม่ช้า
สุดท้ายต้องมากลายเป็นแบบนี้เพราะพลาด...ท่า ให้ยัยนี่แค่นิดเดียว
"ไปไกลๆปะ ของก็ไปเก็บเองฉันไม่ว่างต้องรีบไปมหาวิทยาลัย" ผมเสยผมที่ยุ่งเหยิงขึ้นไปอย่างลวกๆ โน้มตัวลงไปหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ้นมาเช็คดูความเคลื่อนไหวของเพื่อนและน้องเพลง ผู้หญิงที่คุยกันมานานเกือบปี
แต่ตอนนี้กลับต้องตีตัวออกห่างและไม่กล้าบอกความจริงอันน่าสลดที่ว่า...ผมแต่งงานอย่างถูกต้องกับเด็กรุ่นน้องที่บ้านอยู่ติดกันนี้
"ไม่ได้นะ ชาต้องขนข้องไปคอนโดเฮียแล้วชาจะไปยังไง" คนตรงหน้ายังคงโวยวายไม่เลิก สองสามวันมานี้การตื่นนอนแต่ละเช้ามันช่างเป็นอะไรที่น่าเบื่อเหลือเกิน อยากจะหลับแล้วฝันถึงน้องเพลงไปยาวๆ
"เรื่องของเธอ"
"ได้ ชาจะไปฟ้องพ่อว่าสามีชามันไม่ช่วยอะไรเลย"
"น่ารำคาญ" ผมขมวดคิ้วยุ่งโยนมือถือลงบนเตียงจนมันกระเด็นกระดอนไปอีกสองสามตลบ "จะไปอาบน้ำเก็บของมารอหน้าบ้านเลย"
พูดจบผมก็หันหลังเดินหนียัยนั่นเข้ามาในห้องน้ำทันทีอย่างไม่สนใจปล่อยให้บ้าไปคนเดียวเถอะ
end talks.