บทย่อ
Writer: เดย์ไลลา Illust: Pinzco ภาพประกอบ : Gawkung Proofread & Design: เดย์ไลลา / Lalita.S พิมพ์ครั้งที่ 1 : มกราคม 2567 สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติพุทธศักราช 2558 ห้ามดัดแปลงบทความ คัดลอก และนำไปใช้บางส่วนและนำไปเผยแพร่ ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้นโดยไม่ได้รับอนุญาต หากฝ่าฝืนมีบทลงโทษบัญญัติไว้สูงสุดตามกฎหมาย พระราชบัญญัติ 2537 นิยายเรื่องนี้มีการกระทำไม่เหมาะสมเรื่องเพศ คำพูดจาหยาบคาย การใช้ความรุนแรง การกระทำผิดกฎหมาย มีการบรรยายฉาก NC อย่างละเอียด พฤติกรรมที่ไม่ควรลอกเลียนแบบเด็ดขาด เหมาะกับผู้ที่มีอายุ 20 ปี ขึ้นไป เนื้อหาในนิยายเป็นเพียงจินตนาการของนักเขียนเท่านั้น ไม่อิงตามความจริง ไม่ได้มีเจตนาเพื่อยุยง ส่งเสริม ก่อให้เกิดความเสียหาย หรือมีเจตนามุ่งร้ายต่อตัวบุคคลหรือวิชาชีพใด วิชาชีพหนึ่ง สถานที่ของเรื่องก็เป็นแค่สถานที่สมมติเท่านั้น อ่านเพื่อความบันเทิงเท่านั้นนะคะ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน มาถึงเรื่องสุดท้ายของเซตสี่หนุ่มกันแล้วจ้า มาถึงคราวพี่ลีออนที่ทุกคนร่ำร้อง ใครจะเชื่อว่าหนุ่มตัวแสบ เพลย์บอยประจำกลุ่มจะมีความลับน่าเอ็นดูขนาดนี้ซ่อนเอาไว้ ครั้งนี้นางเอกของเราเป็นนักข่าวสาวสุดเย็นชา ซึ่งเธอเองก็มีความลับที่ซุกซ่อนเช่นกัน เรื่องราวแสนโรแมนติกและมีฉากสืบสวนสอบสวนให้คอยลุ้นระลึกตลอดเรื่อง รับรองว่าเรื่องนี้มีครบทุกอารมณ์แน่นอนค่ะ นิยายของไรท์ก็ยังคงคอนเซ็ปต์อ่านง่าน เบาสมอง ไม่เครียดมาก แถมยังสอดแทรกมุกตลกให้นักอ่านได้อมยิ้มกัน หวังว่าทุกคนจะได้รับความสนุกจากผลงานชิ้นนี้ของไรท์นะคะ เดย์ไลลา
Episode 1 นักข่าวไฟแรง
หญิงสาวผมยาวเป็นลอนหยักศกตามธรรมชาติถูกรวบขึ้นเป็นหางม้าไว้ด้านหลัง สวมเสื้อโปโลคอปกสีขาวคู่กับกางเกงยีนขายาวเข้ารูปยืนอออยู่หลังเส้นกั้น ใบหน้าสวยใสกระจ่างโดดเด่นแม้จะไม่มีเครื่องสำอางแต่งแต้ม อีกทั้งยังมีเหงื่อซึมจากหน้าผากเล็กน้อย แต่ก็ไม่อาจลดทอนความสวยเธอได้แม้แต่น้อย นักข่าวสาวและคู่หูรุ่นพี่อย่าง ‘บอล’กำลังเกาะติดสถานการณ์ชายเจ้าของบ้านคลุ้มคลั่ง และยิงทำร้ายสมาชิกครอบครัวตัวเอง ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามเจรจาให้ชายคนดังกล่าวยอมสงบสติอารมณ์และออกมามอบตัว แต่เขาเหมือนจะสติแตกไม่ยอมออกมาเสียที เหล่าทีมนักข่าวหลายสำนักจึงยังปักหลักติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
“เฮ้ออออออ~ มุมนี้ไม่เห็นอะไรเลยว่ะพี่บอล” ไอวี่ระบายลมหายใจออกมา เนื่องจากเขตที่เจ้าหน้าที่กั้นเอาไว้ให้ผู้สื่อข่าวค่อนข้างห่างไกลกับตัวบ้าน
“ทำไงได้วะ คนร้ายยังคลั่งขนาดนั้น เข้าไปใกล้กว่านี้ไม่ได้หรอก”
“แบบนี้จะไปได้ภาพเด็ดๆ ได้ยังไง”
หญิงสาวขมวดคิ้วพลางครุ่นคิดว่าทำอย่างไรพวกเธอจะได้ภาพดีกว่าสำนักข่าวอื่น สายตากลมโตเรียบเฉยกวาดมองไปทั่วบริเวณ ก่อนจะสะกิดคู่หูส่งสายตาสื่อความหมาย ชายหนุ่มร่างท้วมถอนหายใจหนักๆ หลังจากทำงานร่วมกับไอวี่มาร่วมปี ก็พอจะรู้ว่านักข่าวสาวสู้ชีวิตอย่างไอวี่คงกำลังหาเรื่องเสี่ยงอีกแล้ว ทำให้บอลส่ายหน้าปฏิเสธวืด
“ถ้าถูกจับได้จะโดนอะไรบ้าง แกก็น่าจะรู้ดี” ชายหนุ่มกระซิบกลับเสียงเครียดไม่เห็นด้วย
“นิดเดียวเองพี่ พวกตำรวจยังออกันอยู่หน้าบ้าน เราลองอ้อมไปอีกซอย ส่องหลังบ้านหน่อยดีกว่า เผื่อได้ภาพที่ดีกว่านี้”
“เอาอีกแล้วนะวี่ แกนี่มันหาเรื่องให้ฉันซวยไปด้วยจริงๆ”
“เอาน่า ตามมาเถอะพี่ ไปแป๊บเดียว ถ้าดูอันตรายเดี๋ยวเราค่อยแอบหลบกลับมาที่นี่ใหม่”
ในขณะที่พวกเธอกำลังจะแอบย่องหลบจากกลุ่มนักข่าว ‘ฝ้าย’ เพื่อนสาวนักข่าวสายอาชญากรรมต่างสำนักก็หันกลับมามองด้วยความสงสัย
“วี่ แกจะไปไหน?”
“ไปเดินดูรอบๆ หน่อยน่ะ” ไอวี่ตอบกลับหน้าตาย แต่เพื่อนสาวก็หรี่ตาจับผิด เอ่ยถามดักคอขึ้นเสียก่อน
“รอบนี้จะหาเรื่องอะไรอีก เดี๋ยวก็ถูกทางตำรวจหมายหัว ส่งจดหมายไปถึงสถานีอีกหรอก”
“ไม่มีอะไรหรอกน่า อยู่ตรงนี้ไปก็ไม่ได้อะไร ฉันขอเดินวนไปดูจุดอื่นหน่อยดีกว่า”
“ห้ามไม่ได้เลยสินะ” ฝ้ายระบายลมหายใจออกมาแรงๆ พลางส่ายหัวเหนื่อยหน่ายหัวใจ
“แกก็ไม่ได้ต่างกันหรอก เดี๋ยวรีบกลับมา” ไอวี่สนิทกับฝ้ายพอสมควรหยัดยิ้มจางๆ รู้ดีว่าสายเลือดนักข่าวมันทำให้พวกเธอต่างโลภ กระหายอยากจะได้ข่าวไม่ต่างกัน ก่อนจะเลิกคิ้วเอ่ยชวนเพื่อน “ตามมาด้วยกันไหมล่ะ”
“รอบนี้ขอผ่านก่อน ฉันเพิ่งได้จดหมายเตือนมา ไม่อยากหาเรื่องเพิ่ม” เพื่อนสาวร่างเล็กกว่าส่ายหน้า ซึ่งไอวี่ก็ไม่คิดจะเซ้าซี้อะไรต่อ ไหวไหล่น้อยๆ แล้วหมุนกายเดินนำตากล้องคู่หูไป
หญิงสาวในชุดทะมัดทะแมงเดินอ้อมซอยมายังหลังบ้านที่เกิดเหตุ โชคดีที่ไม่มีรั้วกั้น เนื่องจากเป็นบ้านหลังริมสุดของโครงการ แต่พวกเธอก็ต้องฝ่าดงหญ้าและต้นไม้สูงรกทึบเข้าไปแทน แต่ไอวี่ก็ไม่สนใจ ย่อตัวต่ำก้าวย่างอย่างเชื่องช้าด้วยความระมัดระวัง เริ่มมองเห็นตัวบ้านหลังทรุดโทรมที่สุดปลายตาแล้ว
“วี่ กลับไหม ด้านหลังไม่มีตำรวจเลยว่ะ ถ้าคนร้ายมาเจอพวกเรา หรือหนีออกมาทางนี้ยุ่งแน่” บอลถือกล้องตามหลังมาติดๆ หลังจากกวาดสายตาไปทั่วบริเวณแล้วก็เกิดหวั่นใจขึ้นมา
“ด้านหลังมันไม่มีประตู ไอ้นั่นมันไม่ออกทางนี้หรอก แถมต้นไม้ก็หนาขนาดนี้”
“ไม่มีประตูแต่ก็มีหน้าต่างไหมล่ะ! พี่ว่าเรากลับเหอะวี่” บอลพยายามหว่านล้อมคู่หูสาวให้ยอมเปลี่ยนใจ แต่สาวร่างบางใจสู้อย่างไอวี่ก็เลือกที่จะเมินสายตาอ้อนวอนนั้น แล้วหันมายกนิ้วแตะปาก เป็นสัญญาณให้เขาเงียบ
“...”
“...”
ทั้งคู่ยืนหลบอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ ด้านหลังตัวบ้านค่อนข้างเปลี่ยว และรกพอสมควร และนั่นก็ถือว่าดีแล้วที่สองคู่หูนักข่าวและตากล้องจะสามารถแอบซ่อนตัวได้
ดวงตาเย็นเฉียบของสาวลูกครึ่งหรี่ลง ย่อตัวต่ำสืบเท้าไปยังหน้าต่างสีขุ่นมัวบานหนึ่ง หัวใจของชายหนุ่มเต้นระรัว แม้อยากห้ามรุ่นน้อง แต่เขาเองก็อยากจะได้ภาพเด็ดๆ เช่นกัน จึงได้แต่ก้าวตามหลังเธอมา
ไม่มีใครพูดอะไรกันสักคำ แต่ก็รู้ใจกันอย่างดี
เป็นไอวี่ที่ลองชะโงกหัวขึ้นสูง พยายามมองผ่านกระจกเข้าไปด้านในตัวบ้าน ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อยด้วยความตกใจ อกซ้ายบีบรัดรุนแรงเมื่อพบกับภาพน่าสยดสยองของสมาชิกในบ้านนอนตายกันอย่างอเนจอนาถอยู่ภายในห้องนี้ หลังจากกวาดสายตาไปรอบห้องก็คลายกังวลได้เล็กน้อย เนื่องจากไม่เห็นตัวคนร้ายอยู่ด้านใน
หญิงสาวหันมาพยักหน้าส่งสายตาให้คู่หูทำการเก็บภาพแสนหดหู่เหล่านั้นเอาไว้ และเตรียมจะย่องไปยังหน้าต่างอีกบานที่อยู่ห่างกันออกไปเล็กน้อย เพื่อดูความเคลื่อนไหวด้านใน
พรึ่บ
เธอชะงักเท้า หันกลับมานิ่วหน้าใส่รุ่นพี่ เมื่อเขาใช้มือคีบคอเสื้อเธอจากด้านหลัง ส่งสายตาห้ามปรามมาให้ แต่ไอวี่ก็ปัดมือเขาออก ส่ายหัวเบาๆ เป็นสัญญาณบอกกลับว่าไม่เป็นไร และย่อตัวให้ต่ำกว่าขอบหน้าต่าง ก้าวขาเลียบตัวบ้านไปยังหน้าต่างอีกบาน
ใจของหนุ่มท้วมไม่อยู่กับเนื้อกับตัว พยายามไม่มองภาพน่ากลัวของศพผู้เสียชีวิตในห้องแรก หวั่นวิตกไปหมดกับความบ้าระห่ำของคู่หูสาว
ไอวี่โผล่หน้าขึ้นเพียงแค่แวบเดียว ก่อนจะรีบก้มหลบรวดเร็ว ใบหน้าสวยยังคงเรียบเฉยไม่เปลี่ยนแปลง แม้หัวใจจะกระหน่ำรุนแรงก็ตาม หลังจากพบคนร้ายถือปืนเดินกระสับกระส่ายอยู่ในห้องถัดมา กระจกที่มัว และอาการสติแตกทำอะไรไม่ถูก ทำให้คนร้ายไม่รู้ตัวเลยว่าถูกแอบมองจากกระจกด้านหลัง
“ยอมออกมามอบตัวซะ อย่าให้ทุกอย่างแย่ไปมากกว่านี้เลย” เสียงตำรวจตะโกนผ่านโทรโข่ง เจรจาให้คนร้ายยอมมอบตัว แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ช่วยอะไรนอกจากกดดันให้เขาเครียดหนักกว่าเดิม
“อย่าเข้ามานะโว้ย! แม่งเอ๊ย! จะทำยังไงดีวะ!” คนร้ายตะโกนกลับ พลางยกมือขึ้นดึงทึ้งเส้นผมบนศีรษะ สบถลั่น เดินวนรอบห้องคิดไม่ตก
ไอวี่ประเมินสถานการณ์แล้ว คาดว่าคนร้ายคงไม่หันมาสนใจด้านหลังแน่นอนจึงรีบกวักมือเรียกบอลให้มาถ่ายภาพเหตุการณ์สุดลุ้นระทึกเอาไว้ แม้ใจของบอลจะหวาดกลัวกับสถานการณ์โคตรน่าระทึก แต่นิสัยอยากรู้อยากเห็นก็ทำให้เขายอมก้าวไปหาไอวี่อยู่ดี
ชายหนุ่มยกกล้องขึ้นมาบันทึกภาพในห้องได้เพียงแค่ชั่วอึดใจเท่านั้น ตำรวจก็พูดกดดันคนร้ายขึ้นมาอีก
“ใจเย็นๆ ทางตำรวจจะไม่ใช้ความรุนแรงหากยอมออกมาดีๆ วางอาวุธลงซะ! ตอนนี้คุณหนีไปไหนไม่รอดแล้ว!”
ปัง ปัง ปัง
ชายวัยกลางคนเจ้าของบ้านเหมือนจะสติแตกไปแล้ว ใช้อาวุธในมือยิงสวนไปทางหน้าบ้านกะทันหัน ทำให้ทั้งไอวี่และบอลสะดุ้งโหยงรีบย่อตัวหมอบลงกับพื้นทันทีตามสัญชาตญาณเอาตัวรอด
ตากล้องร่างท้วมเหงื่อท่วมหน้าจากความเครียดจัด และความร้อนของแดดยามเที่ยงตรง แม้จะอยู่ใต้ร่มไม้หนาทึบ แต่มันก็อบอ้าวเสียเหลือเกิน เขาเอื้อมมือไปกระตุกแขนหญิงสาวที่หลบอยู่ข้างกาย ส่งสายตากดดันให้รีบออกไปจากสถานที่แห่งนี้ให้เร็วที่สุด ท่ามกลางเสียงปืนดังสนั่นจากทางตำรวจที่ยิงสวนกลับมา
ดวงตาเยือกเย็นมองใบหน้าเคร่งเครียดของบอลสลับกับกระจกสีขุ่น ความอยากรู้ทำให้หญิงสาวลังเลที่จะถอยหลังกลับตอนนี้ แต่ยังไม่ทันจะตัดสินใจใดๆ ก็ได้ยินเสียงสวบสาบดังมาจากพุ่มหญ้ารกด้านหลังเสียแล้ว
“ฉิบหาย” บอลเผลออุทานออกมาเบาๆ เมื่อเห็นกลุ่มตำรวจสวมเสื้อกันกระสุนพร้อมอาวุธครบมือย่องเข้ามาจากทิศทางเดียวกับที่ทั้งคู่เข้ามา
สารวัตรหนุ่มที่เดินนำขมวดคิ้วนิ่วหน้าไม่พอใจสุดขีดเมื่อเห็นผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าใกล้สถานที่เกิดเหตุ แถมผู้ไม่เกี่ยวข้องคนดังกล่าวยังเป็นนักข่าวสาวหน้าคุ้นที่พบเจอกันบ่อยยามทำคดีซะด้วย
เขาไม่รีรอที่จะตรงปรี่เข้ามาหาคนทั้งคู่ และฉุดแขนไอวี่ขึ้นเพื่อลากให้ออกห่างจากตัวบ้านโดยเร็ว บอลเองก็ถูกสายตาดุดันของสารวัตรหนุ่มตวัดมอง ก็ได้แต่คอตกเตรียมใจรับคำตำหนิแล้วลุกตามทั้งคู่ไป ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วมาก ขณะพวกเธอถูกกันตัวไปหลบหลังต้นไม้ใหญ่ เหล่าตำรวจที่เดินทางมาพร้อมสารวัตรชินก็กระจายกำลังล้อมตัวบ้านรวดเร็ว
“ทำไมคุณมาอยู่ที่นี่!” สารวัตรดุหญิงสาวเสียงเข้ม มองใบหน้าสวยจัดไร้อารมณ์ที่จนบัดนี้ก็ไม่มีแววรู้สึกผิดแต่อย่างใด
“คนร้ายอยู่ในห้องนั้น ส่วนอีกห้องมีศพของสมาชิกในบ้านอยู่” เธอไม่ตอบคำถาม เลือกที่จะเบี่ยงความสนใจของสารวัตรโดยการบอกข้อมูลแทน ทำคนฟังได้แต่ระบายลมหายใจหนักๆ
“ไอวี่ นี่มันอันตรายนะ เรากันพื้นที่สื่อเอาไว้ให้แล้ว คุณรู้ดีว่าไม่มีสิทธิ์เข้าใกล้ที่เกิดเหตุขนาดนี้ ถ้าถูกลูกหลงขึ้นมา ผมต้องรับผิดชอบเรื่องนี้นะ!”
“...”
"ไอวี่! ฟังอยู่หรือเปล่า อย่าให้ผมต้องรายงานเรื่องนี้กับสถานีคุณนะ!" สารวัตรชินเรียกชื่อหญิงสาวหน้านิ่งเสียงเข้มขึ้นเมื่อเธอเบนหน้าหนี
“ขอโทษก็ได้ แต่คุณก็รู้ว่าฉันเอาตัวรอดเก่ง”
“แต่มันผิดกฎหมาย! คุณรีบกลับไปด้านหน้าเลยดีกว่า เสร็จเรื่องผมจะคุยกับคุณอีกที” ชายหนุ่มเริ่มหงุดหงิดฉุนเฉียวขึ้นบ้างหลังจากไอวี่เหมือนจะไม่ได้สนใจคำเตือนของเขาเลย
“ขอยืนสังเกตการณ์ตรงนี้ได้ไหม สัญญาจะไม่เข้าใกล้ตัวบ้าน หรือรบกวนการทำงานของพวกคุณเลย”
ร่างสูงยกมือขึ้นนวดขมับกับความดื้อรั้นของคนตรงหน้า และเมื่อมองเข้าไปในดวงตามุ่งมั่นจริงจังของเธอก็ต้องทำให้ชินใจอ่อนอย่างไร้สาเหตุ พ่นลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่ กำชับเธอเสียงเข้มอีกครั้ง
“อยู่แค่ตรงนี้เท่านั้น!”
“ดีล...พี่บอล ถ่ายการทำงานตำรวจเอาไว้ด้วย”
สารวัตรชินหมดคำพูดกับคนตรงหน้าจริงๆ เพราะหลังจากไอวี่ตกลงรับคำ ก็หันไปเรียกคู่หูให้สแตนด์บายเตรียมทำหน้าที่ ร่างสูงส่ายหัวระอา ทิ้งสายตาคาดโทษเธออีกครั้ง ก่อนจะเดินกลับไปรวมตัวกับกลุ่มลูกน้องเพื่อฟังรายงานสถานการณ์ภายในตัวบ้าน
ไอวี่และบอลยืนห่างจากตัวบ้านมาพอสมควร หลบอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ มีเพียงกล้องราคาแพงที่โผล่ยื่นออกมาเพื่อที่จะได้เก็บภาพทุกอย่างโดยละเอียด หลังจากยืนรอลุ้นอยู่ไม่นาน คนร้ายก็เริ่มยิงปืนอีกครั้ง ไม่มีวี่แววว่าจะยอมสงบออกมามอบตัว
และเหตุการณ์ก็เลยเถิดไปอีก เมื่อคนร้ายคลุ้มคลั่งหันมาเห็นว่าถูกตำรวจล้อมหลังบ้านเอาไว้แล้ว จึงใช้ปืนในมือกราดยิงใส่เหล่าเจ้าหน้าที่ เสียงปืนดังก้องทั่วบริเวณ ไอวี่ยืนตัวแข็ง ได้แต่หลบอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ จนกระทั่งทุกอย่างเงียบสนิท
“เคลียร์!”
เสียงเจ้าหน้าที่ตำรวจร้องขึ้นมา ทำให้หัวใจที่กระเด้งขึ้นสูงเคลื่อนลงอยู่ตำแหน่งเดิม ใบหน้าสวยยังคงไม่มีอารมณ์ใดๆ ปรากฏขึ้นมา เพียงแค่เหลือบมองรุ่นพี่ที่ยืนถือกล้องตัวสั่น พร้อมตบไหล่หนาเบาๆ
“ได้ภาพเรียบร้อยใช่ไหม”
“ไม่เอาแบบนี้แล้วนะโว้ย หัวใจฉันจะวาย!”
“อืม รู้แล้วน่า...” หญิงสาวตอบกลับเสียงเรียบ ถือวิสาสะคว้ากล้องในมือบอลมาดูภาพเหตุการณ์ทั้งหมดที่เธอพลาดไปด้วยใบหน้าเรียบเฉยไม่เปลี่ยนแปลง
ทั้งคู่เดินกลับออกมารวมกับกลุ่มนักข่าวสำนักอื่นยังเขตที่กั้นสำหรับผู้สื่อข่าว เห็นเหล่าตำรวจที่ล้อมบ้านทยอยเดินเข้าไปเคลียร์ด้านใน รถเจ้าหน้าที่กู้ภัยถูกเรียกมาเตรียมรอเอาไว้แล้ว ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคนร้ายถูกวิสามัญไปเรียบร้อย แต่งานของเธอก็ยังไม่จบลงเพียงเท่านั้น เพราะเธอยังต้องไปสัมภาษณ์ผู้เกี่ยวข้อง หรือบ้านข้างเคียงเกี่ยวกับเหตุจูงใจของคนร้ายในครั้งนี้ ซึ่งก็มีแม่บ้านหลายคนมาให้ข่าว คาดเดาไปต่างๆ นานาว่า อาจจะเกี่ยวข้องกับประเด็นความหึงหวง จึงเป็นเหตุให้คนร้ายขาดสติทำร้ายลูกและภรรยาจนเสียชีวิต ทำนักข่าวสาวไฟแรงได้แต่หดหู่หัวใจไม่น้อย
แถมก่อนกลับไอวี่ยังถูกชิน สารวัตรหนุ่มเรียกไปอบรมเพิ่มเติมอีกยกใหญ่ พร้อมขู่ว่าหากเธอยังไม่เคารพกฎ หาเรื่องเสี่ยงอันตรายอีก เขาจะส่งจดหมายรายงานพฤติกรรมไปยังสถานีข่าวให้พักงานเธอชั่วคราว และก็เหมือนเช่นทุกครั้งที่สาวน้ำแข็งพยักหน้ารับคำแกนๆ ไม่จริงจัง ทำชายหนุ่มปวดหัวจี๊ด หากว่าเขาไม่สนใจในตัวไอวี่ คงได้รายงานพฤติกรรมบ้าระห่ำ และยุติเส้นทางนักข่าวสายอาชญากรรมของเธอแต่เพียงเท่านี้ไปแล้ว
ครั้งนี้นักข่าวสาวสวยจึงรอดตัวไปเหมือนเดิม แถมยังได้ภาพเหตุการณ์สุดใกล้ชิดแบบที่สำนักข่าวไหนก็เทียบไม่ได้ติดมือไปอีกด้วย