บทที่ 10
เจเคขยับสะโพกสอบส่งแก่นกายลำใหญ่เข้าสู่ช่องทางรักอย่างทะนุถนอมกว่าทุกครั้ง พลางใช้ริมฝีปากขบเม้มกลีบปากบางของคนใต้ร่างอย่างอ่อนโยนและเอาอกใจ จนเธอแอบใจเต้นตุ้มๆต่อมๆไปกับสัมผัสของเขา
มือหน้านวดเคล้นสองเต้าอวบอัดล้นมือด้วยน้ำหนักที่พอดี พร้อมกับใช้นิ้วหัวแม่มือสะกิดยอดปทุมถันเพื่อหยอกเย้าให้คนใต้ร่างให้ส่งเสียงครวญครางออกมา
"อื้อ...อ"
ลิ้นร้อนสอดแทรกเข้าไปไล่ชิมความหวานจากโพรงปากอ่อนนุ่ม ก่อนจะเปลี่ยนมาเกี่ยวกระหวัดกับลิ้นเล็กที่ยังไม่ค่อยประสีประสาด้วยสัมผัสที่เนิบนาบ ทว่ามันก็สร้างอารมณ์วาบวามได้เหมือนกัน
ชายหนุ่มผละลิ้มฝีปากออกมาอย่างอ่อยอิ่ง แล้วไล่พรมจูบไปทั่วใบหน้าหวานและลำคอขาวระหงอย่างช้าๆ คล้ายกับว่าต้องการสำรวจเรือนร่างอรชรให้ครบถ้วนทุกตารางนิ้ว
เขาเคลื่อนกายถอยห่างออกไปเล็กน้อย เพื่อดูดกลืนยอดอกสีหวานเอาไว้ในโพรงปากอุ่น จนเธอเสียวสะท้านไปทั้งร่าง
"อ่า...า"
มือหนาเคลื่อนลงไปจับกุมต้นขาขาว พลางบีบคลึงมันเพื่อให้ผู้เป็นเจ้าของผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น
"ครางชื่อผมพลอยฝน" เขาออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่นน่าฟัง จนเธอเคลิบเคลิ้มและยอมทำตามอย่างไม่อิดออด
"อ่า...า เจเค อื้อ...อ"
พลอยฝนที่ถูกเขาล่อลวงสติสัมปชัญญะด้วยความวาบวามที่อ่อนหวานร้องครางเป็นชื่อเขา พร้อมกับยกวงแขนเล็กขึ้นมาโอบกอดลำคอแกร่งตามสัญชาตญาณ โดยไม่มีท่าทีดื้อดึงขัดขืนเขาเหมือนทุกที
"ดีมากพลอยฝน อ่า...า เวลาไม่ดื้อก็น่ารักเหมือนกันนะ" ร่างสูงเอ่ยชม พร้อมกับจ้องมองใบหน้าหวานของคนใต้ร่างด้วยความหลงใหล
ความจริงเข้าถูกใจรูปลักษณ์ภายนอกของเธอตั้งแต่ตอนที่คุณนายอานิต้าผู้เป็นย่านำรูปถ่ายของเธอมาให้เขาดูในฐานะว่าที่เจ้าสาวแล้ว ทว่าในตอนนั้นความคิดของเขาค่อนข้างจะติดลบกับผู้หญิงหิวเงินอยู่มากโข
และนั่นอาจจะเป็นเพราะประสบการณ์ที่เขาเคยเจอ รวมไปถึงเรื่องเล่าจากเพื่อนฝูงรอบๆตัวด้วย
ใครๆก็บอกเสมอว่าผู้ชายที่หล่อและรวยมากเช่นเขาควรจะระวังผู้หญิงประเภทนี้ไว้ให้ดี ซึ่งนั่นก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่เขาแอบตั้งแง่ใส่เธอมาตั้งแต่ต้น
แม่ของเธอเป็นเพื่อนเก่าเพื่อนแก่ของพ่อเขาที่ห่างหายกันไปนานตั้งแต่จบมหาวิทยาลัย จนกระทั่งต่างฝ่ายต่างไปมีครอบครัว
พิศนภาทำธุรกิจล้มเหลวและประสบปัญหาใหญ่จนเกือบล้มละลาย ทำให้ต้องติดต่อมาหาพ่อของเขาเพื่อขอยืมเงินจำนวนห้าสิบล้านในครั้งแรก ก่อนจะขอยืมไปหมุนอีกสามสิบล้าน และยี่สิบล้านในตอนหลัง ทำให้ครอบครัวนั้นติดหนี้เขาอยู่หนึ่งร้อยล้านบาท
หากแต่จู่ๆผู้เป็นย่าก็ดันอยากได้เหลนไว้สืบสกุล ท่านจึงขอร้องให้เขาแต่งงานกับใครสักคนที่ถูก แต่มันไม่ง่ายเลย...
ในสายตาของเจเค เบอนาร์ด อัลมารีน มองว่าผู้หญิงทุกคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเขาเป็นเพียงคู่นอน ส่วนใหญ่ก็แค่ครั้งสองครั้งแล้วแยกย้ายกันไป ถ้าคนไหนที่เขาติดใจก็อาจจะยอมควงสักเดือนสองเดือน แล้วค่อยเอาเงินฟาดหัว
แต่...เหนือฟ้าย่อมมีฟ้า และเหนือเจเคก็คือย่าของเขา อานิต้ารู้ดีว่าหลานชายคนเดียวไม่มีทางยอมลงเอยกับใครง่ายๆ จึงได้เฟ้นหาผู้หญิงที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกับเขามาเป็นหลานสะใภ้ซะเอง
แน่นอนว่าผู้หญิงคนนั้นคือ 'พลอยฝน'!
หญิงสาวชาวไทยที่มีใบหน้าสวยหวานสะดุดตา แถมยังมีโปรไฟล์ทางการศึกษาสุดเริ่ดที่บริษัทเอกชนหลายแห่งพากันกรูมาจับจองตั้งแต่เธอยังเรียนไม่จบด้วยซ้ำ
ทว่าความดีพร้อมทุกอย่างก็ถูกกลบด้วยเหตุผลสั้นๆง่ายๆที่ว่าเธอเป็น 'ลูกหนี้' และเหตุผลข้อนี้ก็ทำให้เขาครหาว่าเธอเป็นผู้หญิงหิวเงินที่ต้องยอมเอาตัวเข้าแลกตั้งแต่ยังไม่ทันได้เห็นหน้า
และเมื่อได้เจอตัวจริง เขาก็ค้นพบว่าเธอเป็นคนในแบบที่เขาคิดเอาไว้ไม่มีผิด เพราะหญิงสาวจะยอมทำตามคำสั่งของเขาทุกอย่าง โดยมีเงื่อนไขสำคัญคือการลดหนี้ให้กับแม่ของเธอ
"อ่า...า เจเค อื้ออ! ฉะ ฉัน... ไม่ไหว"
เสียงหวานของคนใต้ร่างเรียกสติคนที่กำลังฟุ้งซ่านให้กลับมาอีกครั้ง ก่อนที่เขาจะเร่งจังหวะในการตอกอัดท่อนเอ็นลำใหญ่เข้าใส่ช่องทางรักของเธอแรงๆ จนหญิงสาวต้องเบ้หน้าด้วยความเจ็บปวด
"อ่ะ! โอ๊ยๆ อื้อ...อ" พลอยฝนหวีดร้อง พร้อมกับจิกเล็บลงไปบนแผ่นหลังกว้างเพื่อระบายความเสียวซ่านปนเจ็บแสบจากกิจกรรมเข้าจังหวะที่กำลังลุกโชนอยู่
"อ่า...า พร้อมกันนะ"
ชายหนุ่มพูดเสียงแหบพร่า พลางสาวท่อนเอ็นความเป็นชายเข้ามาในร่องรักของเธอทั้งถี่ทั้งรัว จนกระทั่งสองร่างกระตุกเกร็ง แล้วลอยละลิ่วขึ้นไปแตะขอบสวรรค์ในเวลาต่อมา
"เฮ้อ..." คนตัวเล็กถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยอ่อน ก่อนที่จะปิดเปลือกตาลง
"เดี๋ยว! อย่าพึ่งหลับ" เจเครีบห้าม แล้วถอดความเป็นชายออกจากร่องกุหลาบที่บอบช้ำจากศึกรักที่หนักหน่วงมาตลอดทั้งวัน
"ฉันเหนื่อยแล้ว" เธอตอบเสียงแผ่ว ในขณะที่หลับตาอยู่
คนตัวโตไม่พูดอะไรอีกนอกจากดึงร่างเล็กข้างตัวเข้ามาไว้ในอ้อมแขนแข็งแกร่ง แล้วขยับตัวไปดึงผ้าห่มพื้นหนาขึ้นมาคลุมตัวเธอกับเขาไว้
"ผมแค่จะบอกว่าพรุ่งนี้ผมมีงานที่ฝรั่งเศส คงไม่ได้กลับบ้านหนึ่งอาทิตย์"
"อือ" คนฟังตอบรับเบาๆ เขาจึงพูดต่อ
"ระหว่างนี้คุณก็จัดการเรื่องเรียนให้เรียบร้อยก็แล้วกัน พ่อบ้านจะเป็นคนแนะนำคุณเอง" เจเคพูดขึ้น แล้วเอื้อมมือไปปิดโคมไฟข้างหัวเตียง "ส่วนเรื่องเงิน ผมจะยกบัตรเครดิตของผมให้คุณใบหนึ่ง ใช้ได้ตามสบาย แต่ถ้าเห็นว่าคุณจงใจใช้จ่ายฟุ้มเฟือยเพื่อแกล้งผมล่ะก็... ยอดเงินทั้งหมดจะถูกเอาไปทบกับหนี้ที่เหลืออยู่ทันที"
พลอยฝนลืมตาขึ้นมามองคนที่ตั้งใจใช้ประโยคสุดท้ายขู่เธอตาเขียว พลางส่งเสียงในลำคอไปด้วย
"จิ๊! ฉันไม่ใช่คนใช้เงินฟุ้มเฟือย และก็คงไม่ทำอะไรโง่ๆแบบนั้นด้วย สบายใจได้"
"ผมเชื่อคุณได้กี่เปอร์เซ็น ?"
"เกินร้อยย่ะ เผลอๆเงินไม่ได้กระเด็นออกจากบัตรของคุณเลยด้วยซ้ำ" พลอยฝนพูดอย่างมั่นใจ ก่อนที่เธอจะปิดหูปิดตาไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้น เพราะตอนนี้ร่างกายมันล้าเต็มทน และเธอก็หมดแรงจะลับฝีปากกับเขาแล้ว...