บทย่อ
ผมไม่ใช่รองประธานบริษัท แต่ผมเป็นรองประธานนักเรียน และ ‘คนสวยของผม’ ก็คือรุ่นพี่ ม.6 ที่ผมตกหลุมรักมาตั้งแต่อนุบาล
บทนำ
“นายท่านครับนายท่าน”
ไม่ต้องบอกก็รู้เลยครับว่าเป็นเสียงของใครที่ตะโกนนำมาก่อนที่มันจะโผล่หัวออกมา ผมจิ๊ปากอย่างรำคาญ ก่อนจะจำใจละสายตาจาก ‘หยิน’เพื่อที่จะมองหามัน
“ไอ้ห่าเมิง!”
แต่แล้วผมก็เห็นมันพุ่งตัวออกมาจากมุมส้วมหลังโรงอาหาร แล้วมันก็ตรงดิ่งจะพุ่งชนร่างบอบบางของหยิน
ผมรีบโยน iPhone 14 Pro Max 1TB ที่กำลังแอบถ่าย ‘คนสวยของผม’ ทิ้ง แล้วกระโดดข้ามชามก๋วยเตี๋ยวของไอ้ตี๋ ผมกะว่าจะพุ่งตัวแบบเท่ ๆ คว้าตัวหยินแล้วล้มกลิ้งไปบนพื้นหญ้าหน้าส้วมไปด้วยกัน
แต่!
คนที่ผมคว้ามาได้กลับเป็นไอ้เมิง เพราะหยินหมุนตัวหลบได้อย่างรวดเร็ว แล้วไปยืนมองผมกับไอ้เมิงที่ล้มกลิ้งหลุน ๆ ตกลงมาในบ่อบำบัดน้ำเสียอย่างงง ๆ
“เชี่ยเมิง!” ผมสบถคำหยาบพร้อมกับปล่อยพลังฝ่ามือพิฆาตลงบนหัวของมันทันที
“นายท่านกระโดดลงมาทำไมครับ?”
“มึงนั่นแหละ แหกปากทำไม คนสวยของกูตกใจหมด”
ผมมองตามหยินที่ตอนนี้เดินสวนกับนักเรียนคนอื่น ๆ ที่เข้ามามุงดูผมกับไอ้เมิงออกไปอย่างเป็นห่วง
“นั่นท่าตกใจเหรอครับ?”
ไอ้เมิงมองตามแล้วถามกลับ
“เออ เขาเป็นคนเรียบร้อย ชอบเก็บอาการ ไม่กล้าแสดงออก แต่กูดูออกโว้ย ว่าแต่มึงเหอะ แหกปากทำเชี่ยอะไร?” ผมยังคาใจจึงถามย้ำมันอีกที ระหว่างที่พยายามจะพาตัวเองขึ้นมาจากบ่อบำบัดน้ำเสียอย่างทุลักทุเล “มองห่าอะไรกันวะ ไม่มีเรียนไง้?” ผมโวยวายใส่ไอ้พวกที่มามุงดูแก้เขิน
พอไอ้เมิงขึ้นมาจากบ่อได้ มันก็รีบลากผมกลับเข้ามาในห้องน้ำที่มันเพิ่งวิ่งออกมาเมื่อครู่ แล้วมันก็ชี้ให้ดูใบปลิวที่แปะเอาไว้หน้าส้วมทุกห้อง
“เลือกตั้งประธานนักเรียน? มีอะไรน่าตื่นเต้นวะ?”
“อ้าว! ก็นายท่านอยากให้พี่หยินสนใจไม่ใช่เหรอครับ ถ้าเราอยากให้คนสนใจ เราก็ต้องโดดเด่นด้านใดด้านหนึ่ง” ไอ้เมิงถอยเท้าไปสองก้าว แล้วมันก็กวาดตามองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า “นายท่านเรียนก็ไม่เก่ง กีฬาก็ไม่เด่น หน้าตาก็เบ ๆ”
“เดี๋ยวกูถีบ” ผมนี่เตรียมง้างตีนเลยครับ
“แต่รวย” มันเสริมข้อดีข้อเดียวของผม แล้วพูดต่อ “นี่เป็นโอกาสที่แสงจะสาดมาที่นายท่าน” มันเริ่มเดินวนรอบตัวผม แล้วมองมาด้วยแววตาและท่าทางเหมือนกำลังเล่นละครเวที “ถ้านายท่านได้เป็นประธานนักเรียน คราวนี้แหละ พี่หยินจะต้องเห็นนายท่านอยู่ในสายตา”
“จริงเหรอวะ?” ผมมองตัวเองในกระจก พร้อมกับขยับปกเสื้อนักเรียนชั้นมอห้าของผมให้เข้าที่ เสยผมที่มันเปียกลู่ลวก ๆ ให้ดูเซอร์ ๆ “กูว่ากูก็หล่อนะ” หลักฐานคาตาตรงหน้าจนผมไม่กล้าปฏิเสธ “ยังต้องเป็นประธานนักเรียนอีกเหรอวะ หยินถึงจะสนใจ”
ไอ้เมิงกระโดดขึ้นไปนั่งห้อยขาบนแท่นอ่างล้างหน้า แล้วกอดอกมองมาที่ผมอีกรอบ “ถ้าเขาสนใจ เขาจะเดินจากไปเฉย ๆ เหมือนเมื่อกี้หรือไงเล่า ชื่อนายท่านพี่หยินเขายังจำไม่ได้เลย บ้านอยู่ใกล้กันแท้ ๆ”
ก็จริงของมันแฮะ…
ผมกับหยินมีบ้านอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน เป็นบ้านหรูราคาห้าสิบล้าน ทั้งโรงเรียนนี่น่าจะมีแค่เราสองคนที่เป็นลูกคนรวยระดับนั้น แฮ่… หยอก ๆ ๆ ผมล้อเล่นครับ
จริง ๆ แล้วบ้านของผมอยู่หลังตลาด แต่อย่าเพิ่งจินตนาการว่ามันแย่มากนะครับ เพราะแม่ของผมเป็นเจ้าของตลาดที่ใหญ่ที่สุดในย่านนี้ มีที่ดินเป็นร้อยไร่ แม่แบ่งส่วนหนึ่งมาทำเป็นตลาดแบบครบวงจร มีทั้งของสดของแห้ง ร้านอาหารไปจนถึงธนาคารแทบจะทุกสี มีที่จอดรถกว้างขวาง ห้องน้ำสะอาดสะอ้านสะดวกสบาย บ้านของเราหลังใหญ่มากสร้างอยู่หลังตลาด มีคนรับใช้คนสวนคนขับรถและผู้ช่วยของแม่เดินกันให้พล่านอยู่ในบ้าน และผมก็โตมาที่นั่น
ส่วนหยิน เป็นลูกชายคนโตของท่านทูตคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านหรูที่อยู่ติดกับตลาดของผม บ้านของเราอยู่ห่างกันแค่กำแพงของหมู่บ้านจัดสรรกั้น เราควรจะเห็นกันมาตั้งแต่เกิดด้วยซ้ำ
ผมกับหยินเกิดวันเดียวกัน โรงพยาบาลเดียวกัน หมอทำคลอดคนเดียวกัน เราเรียนชั้นอนุบาลด้วยกัน พอขึ้นชั้นประถม หยินก็ย้ายไปเรียนโรงเรียนนานาชาติ แล้วเราก็กลับมาเจอกันอีกครั้งตอนเรียนมัธยมปลายนี่แหละครับ แต่เพราะผมเรียนซ้ำชั้นตอนปอสามก็เลยกลายเป็นรุ่นน้องของหยิน
ผมถ้ำมอง เอ๊ย! ไม่ใช่ ผมแอบมองเขาทุกวันจากหน้าต่างห้องนอนของผม พยายามออกมาเดินนอกบ้าน เพื่อให้เขาเห็นผมบ้าง เราจะได้ทักทายกัน แต่ไม่เลยครับ พอเขากลับจากโรงเรียนเขาก็ขลุกอยู่แต่ในบ้าน ผมเคยแอบถามคนรับใช้บ้านเขาก็บอกว่าคุณหยินอ่านหนังสือ อ่านหนังสือ อ่านหนังสือ คือวัน ๆ ไม่ทำอะไรอะครับ นอกจากอ่านหนังสือ ผมก็เลยได้แต่ทำความรู้จักกับ ‘หยาง’ น้องชายของเขา เราสองคนเข้ากันได้ แต่ไอ้ห่านั่นก็หวงพี่ชายฉิบหาย ผมก็เลยไม่ได้เข้าใกล้หยินสักที
ตอนอยู่ที่โรงเรียนผมก็พยายามเข้าหาเขา แต่ดูเหมือนว่าเขาจะกลัวผมมากจนไม่อยากให้ผมเข้าใกล้ เจอกันทีไรก็เดินหนีทุกทีเลย
“ทำไมคนสวยต้องกลัวกูด้วยวะ?”
ผมเคยถามเพื่อน แล้วก็ได้คำตอบกลับมาว่า
“เขาไม่ได้กลัว เขาแค่รำคาญ!”
ผมก็ไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย ก็แค่…
ร้องเพลงจีบ ซื้อขนมมาให้ เวลาที่หยินเข้าแถวซื้อข้าวในโรงอาหาร ผมก็แค่เข้าไปไล่ไอ้พวกที่ต่อแถวอยู่ก่อนหน้า เวลาเขาแข่งตอบคำถามหรือส่งโครงงานเข้าประกวด ผมก็แค่ไปถือป้ายไฟหรือไม่ก็ยัดเงินใต้โต๊ะให้กรรมการก็แค่นั้นเอง
ระหว่างที่ผมกับไอ้เมิงกำลังล้างตัวและคุยเรื่องการลงสมัครเลือกตั้งประธานนักเรียนกันอยู่ ไอ้ตี๋ก็เข้ามาตาม
“พวกมึงมัวทำอะไรกันอยู่วะ ไปเข้าเรียนอาจารย์เอกได้แล้ว”
ผมเงยหน้าขึ้นมองหน้ามันผ่านกระจกเงา แล้วก็คิดอะไรขึ้นมาได้
“มึงไปลงสมัครประธานนักเรียน” ผมสั่งไอ้ตี๋ ก่อนจะหันไปทางไอ้เมิง “ส่วนมึงเป็นเหรัญญิก”
“เอ้า! แล้วนายท่านล่ะครับ” ไอ้เมิงรีบถาม เพราะมันเพิ่งบอกให้ผมเป็นประธานนักเรียน
ผมยืดตัวขึ้นมาจากอ่างหลังล้างหน้าจนสะอาด ปัดผมให้เข้าทรง ยกปกเสื้อให้เข้าที่ แล้วก็ยักคิ้วให้มันหนึ่งที “กูจะเป็นรองประธานนักเรียน”
ธิปติพัศ ตังคสมบัติ
(นายท่าน)
ผมรีบเดินเร็ว ๆ ออกมาจากบ่อบำบัดน้ำเสียหน้าห้องน้ำหลังโรงอาหาร เพราะไม่อยากตกเป็นเป้าสายตาของเพื่อน ๆ และรุ่นน้องทั้งโรงเรียน
รุ่นน้องคนนั้นชอบทำอะไรแผลง ๆ ให้ผมได้อายอยู่เรื่อยเลยครับ วันนี้ก็เอาอีกแล้ว เป็นบ้าหรือเปล่าถึงพุ่งตัวเข้ามาได้ ป่านนี้สำลักน้ำเสียตายไปแล้วมั้งเนี่ย
ผมล้วงโทรศัพท์มือถือ samsung รุ่นกลาง ๆ ที่ใช้มาสามปีออกมาจากกระเป๋ากางเกงนักเรียนเพื่อที่จะดูเวลา เมื่อเห็นว่าเหลืออีกแค่สองนาทีผมจึงรีบจ้ำอ้าว เพราะถ้าเข้าเรียนสายอาจารย์จะดุเอา
ผมมีเรียนที่ชั้นสองอาคารหนึ่ง พอขึ้นบันไดมาจะเป็นห้องที่สาม แต่พอผมเดินผ่านห้องแรกตรงหัวมุมบันได เท้าของผมก็ต้องหยุดชะงัก หัวใจเต้นตึกตัก เมื่อสายตาที่เผลอมองเข้าไปด้านใน เห็น ‘เฌอ’ เพื่อนร่วมชั้นแต่อยู่คนละห้อง เขากำลังหยอกล้อกับเพื่อนของเขา รอยยิ้มนั้นโคตรกระชากใจ และคล้าย ๆ ว่าเขาจะยิ้มให้ผมตอนที่มองเลยมา
ผมเดินขาขวิดผ่านมาอย่างยากลำบาก ใจสั่นเหงื่อตกอย่างยากที่จะควบคุม เป็นแบบนี้ทุกครั้งเลยครับที่เห็นหน้าเขา
ใจเรามันไม่เป็นของเรา…
ยศัสวิน โภคินันท์
(หยิน)