ตอนที่ 1 รักผลิบาน
เลิกรากับเธอ และพยายามหาลู่ทางเติบโตเทียบเท่าเธอ ไม่ว่าจะฐานะ ชื่อเสียง บารมี
"พี่จะให้พิมพ์จ่ายได้ยังไง พี่เป็นผู้ชายนะ" กีรติรักศักดิ์ศรี ทุกครั้งเมื่อพิมพิกาขอเป็นคนออกตังค์ค่าใช้จ่ายเวลาเที่ยวด้วยกัน เขาละอายแก่ใจ จนบางครั้งยอมไปทำงานพาร์ทไทม์ เป็นเด็กชงเหล้าเพื่อหาเงินไว้พาแฟนสาวไปเดท และต้องเป็นเงินที่มาจากน้ำพักน้ำแรงตนเองเท่านั้น
"สำหรับพิมพ์ใครจ่ายมันไม่สำคัญหรอกค่ะ มันอยู่ที่ว่าเต็มใจจะจ่ายหรือเปล่า ซึ่งพิมพ์ยินดีจ่ายมาก ๆ เลยค่ะ ให้พิมพ์ได้ไถ่โทษพี่ติเถอะค่ะ พี่ติขา นะคะ ๆ " แฟนสาวเขย่าแขนวิงวอน ถ้อยคำหวานปานน้ำผึ้งเดือนหน้าถูกงัดออกมาใช้เธอรู้ดีว่าแฟนหนุ่มแพ้ลูกอ้อนทุกที
"ก็ได้ แต่คราวหน้าถ้าพิมพ์อยากกินอะไร อยากไปไหนให้บอกพี่ไว้ก่อนนะ พี่จะได้หาเงินเตรียมเอาไว้มากกว่านี้ ช่วงนี้พี่มีติวสอบเหมือนกันเลยไม่ได้ไปทำงานที่ร้านเหล้า"
กีรติทอดถอนลมหายใจท่าทางน่ารักเล่นเขาจนจนมุมเข้าแล้ว นาน ๆ ทีเจอกัน เขาไม่อยากขัดใจเธอ หรือมีปัญหาทะเลาะกัน เวลาไม่กี่ชั่วโมงเขาจะสร้างเพียงความสุขความทรงจำดี ๆ ต่อเธอ
"เย่ พี่ติน่ารักที่สุดเลย!" พิมพิกากระโดดโลดเต้นดีใจแล้วเขย่งเท้าหอมแก้มคนสูงกว่าเฉกเช่นทุกครั้งที่ชอบทำ การกระทำของแฟนสาวทำเอาหัวใจกีรติอ่อนหยวบ เขายอมเธอตลอด และเป็นอย่างนี้ด้วยความเสมอต้นเสมอปลาย
"เราไปกันเถอะค่ะ"
"คุณหนูครับ จะไปไหนครับ" เมื่อคุณหนูของตระกูลหิรัญรัตน์ออกปากชักชวนชายหนุ่มที่ 'ทรงเดช' รู้จักดีว่าเป็นอะไรกับเธอ ทั้งคู่มีความสัมพันธ์ในรูปแบบไหน ส่วนนั้นคนขับรถไม่อาจยุ่งเรื่องส่วนตัวของคนอื่น แต่บิดาของเธอสั่งทรงเดชเฝ้าจับตามองบุตรสาวท่านว่าจะนอกลู่นอกทางเมื่อปล่อยให้ออกไปข้างนอกได้หนึ่งวันหรือไม่ หากตนไม่ทำ คนที่เดือดร้อนคงไม่ได้มีแค่เธอ แต่รวมถึงทรงเดชด้วย
"ลุงเดชไปอยู่ที่ร้านกาแฟ หรือที่ไหนรอพิมพ์ก็ได้ค่ะ พิมพ์จะไปเที่ยวกับพี่ติ เที่ยวเสร็จพิมพ์จะโทร.เรียกให้มารับเอง" เจ้าหล่อนจัดแจงเหมือนอย่างเคยเวลานัดเจอกีรติ
"แต่คุณท่าน..." ลุงทรงเดชทำท่าลำบากใจ แต่ก็รู้สึกเวทนาหนุ่มสาวสองคนที่ถูกกีดกันเพียงเพราะฐานะทางบ้านต่างกัน
"ถ้าเกิดอะไรขึ้นพิมพ์จะรับผิดชอบเองค่ะ จะไม่ทำให้ลุงยศต้องเดือดร้อน" เธอรับปาก ทราบดีว่าทรงเดชคงโดนคำบัญชาจากบิดาให้ทำในสิ่งที่ไม่อยากทำเช่นกัน
"อย่าดึกมากนะครับ ลุงจะรอแถว ๆ นี้ ยังไงคุณหนูเที่ยวเสร็จให้โทร.เรียกลุงนะครับ"
"โอเคค่ะ พิมพ์ไปก่อนนะคะ" ต่อจากนั้นพิมพ์พิกาควงแขนแฟนหนุ่มจากไป พอดีกับรถเมล์สายหนึ่งหนึ่งสองที่เราจะใช้เดินทางไปถึงห้างสรรพสินค้าก็มาถึง หนุ่มสาวขึ้นไปนั่งข้างในที่นั่ง เพื่อตรงไปยังจุดหมายปลายทาง
พิมพิกาไม่ใช่ผู้หญิงเรื่องมาก ไม่ได้เจ้าสำอางค่อนข้างทำตัวติดดินเลยก็ว่าได้ ยอมลำบากนั่งรถตากแดดตากลมไปกับคนรักไม่บ่นสักคำ เธอไม่เคยอายที่คบกีรติ เขาสุภาพบุรุษ และเป็นคนเดียวที่คอยปลอบใจเวลาหญิงสาวมีเรื่องทุกข์อก เขาจึงเป็นผู้โชคดีที่ได้ครองใจเธอ
ส่วนจุดเริ่มต้นการคบหามันไม่ได้มีอะไรซับซ้อนนัก พิมพิกากับกีรติเจอกันตอนหกโมงเย็นหลังเลิกเรียนโดยบังเอิญที่หน้าป้ายรถเมล์ในสถานการณ์ที่เธอกำลังรู้สึกย่ำแย่
เขากำลังยืนรอรถเพื่อเดินทางกลับบ้าน ส่วนหญิงสาวทะเลาะกับบิดาอย่างหนัก เธอไม่ยอมกลับบ้านด้วยรถของที่บ้านที่ใช้มารับเป็นประจำ แถมคิดต่อต้านจะหนีไปให้ไกล
คุณหนูพิมพิกาเลือกใช้รถยนต์สาธารณะด้วยความไม่เคยขึ้นรถเมล์มาก่อนเธอเลยไม่รู้ว่ารถแต่ละคน แต่สายจะไปส่งถึงปลายทางที่ไหนบ้าง
เป็นเหตุให้พิมพิกาเดินเข้ามาถามทางกับกีรติที่ยืนคอยรถเหมือนกัน เธอเดินทางคนเดียวไปต่อไม่ถูกแม้พยายามบอกเส้นทางแก่เธออย่างละเอียด แถมระหว่างทางเอาแต่ร้องห่มร้องไห้ เขาต้องปลอบประโลมเธอไปตลอดทาง
กีรติยอมสละเวลาไปส่งเธอยังที่หมายให้ปลอดภัยก่อนจะแยกตัวกลับบ้านตน เขามีความสุภาพบุรุษ เป็นที่พึ่งพาในช่วงเวลาที่พิมพิการู้สึกเคว้งเสียจนเธอประทับใจเรื่องราววันนั้นมาก
หญิงสาวเป็นฝ่ายรุกจู่โจมก่อน ขอแลกเบอร์กับไลน์ไว้ติดต่อกันอีก กีรติหมางเมินเฉยชามากทุกครั้งที่คุณหนูแห่งหิรัญรัตน์ติดต่อมา เขาไม่ได้มักใหญ่ใฝ่สูง เจียมตัวเองเสมอว่าไม่คู่ควรกับดอกฟ้า
ทว่าทัศนคติค่อนข้างใกล้เคียงพอไปกันได้ นิสัยใจคอแสนน่ารักของพิมพิกากลับพังทลายกำแพงหัวใจที่เย็นชา เขาไม่สามารถปฏิเสธความรู้สึกตัวเองที่มีต่อเธอได้
จนความสนิทสนมจีบกันไปมาตั้งแต่เธอเรียนปีสอง เขาเรียนอยู่ปีสาม นำมาสู่การคบหาดูใจจนเป็นเวลาหนึ่งปีเศษ